เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 193: แย่งชิง
เฉินเยี่ยนพูดไม่ออก เธอจะซื้อจักรยาน ไม่ได้บอกว่าจะอาศัยหน้าตาขอของฟรี ผู้หญิงคนนี้โรคจิตจริง
แต่เฉินเยี่ยนไม่ได้คิดจะทะเลาะกับเธอ ไร้สาระ
เฉินเยี่ยนไม่สนใจหวางฮุ่ย พูดกับพนักงานว่าเธอต้องการรถจักรยานผู้หญิงยี่ห้อหงส์คันนี้
“ฉันชอบรถคันนี้ ฉันต้องการ มีบางคนนี่ไม่ดูว่าตัวเองฐานะอะไรเลย เดิมทีก็ไม่มีปัญญาอยู่แล้ว ซื้อไหวเหรอ? เธอมีตั๋วรถจักรยานไหม?
หวางฮุ่ยเชิดหน้าเล็กน้อย คำพูดคำจามีแต่ดูถูกเฉินเยี่ยน
ที่จริงหวางฮุ่ยและเฉินเยี่ยนไม่ได้เป็นศัตรูกัน ที่เธอเป็นแบบนี้ หนึ่งเพราะครั้งแรกที่เธอเห็นเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนสวยกว่าเธอ สวมชุดดีกว่าเธอ ถึงแม้เฉินเยี่ยนจะไม่ได้ใส่รองเท้าหนัง แต่รูปร่างเธอสูง พอเทียบกับแล้ว ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
สองเป็นเพราะหลิวอี้ หลิวอี้เป็นคู่หมั้นของเธอ หลิวอี้ทำดีได้กับเธอคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้มีเฉินเยี่ยนโผล่มาอีกคน หลิวอี้ยังมองเธออย่างนั้นอีก ถึงแม้หลิวอี้จะบอกว่าเขาไม่ได้ชอบ แต่ นั่นก็ทำให้เธอไม่สบายใจอยู่ดี เธอรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนก็แค่หน้าตาดี อยากจะมาแต่งงานกับคนเมือง ถือดียังไง?
ตัวเธอเองเป็นหญิงสาวชาวเมือง คู่หมั้นเธอกลับเคยรู้จักมักคุ้นกับหญิงบ้านนอกมาก่อน แค่คิดเธอก็รับไม่ได้แล้ว ดังนั้นเธอมองเฉินเยี่ยนแล้วขัดลูกหูลูกตาอย่างมาก
เฉินเยี่ยนมองหวางฮุ่ย แล้วมองหลิวอี้ หลิวอี้หน้าเคร่งขรึม ไม่พูดอะไรสักคำ
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะใจแคบขนาดนี้ โชคดีที่ตอนนั้นเธอปฏิเสธไปอย่างไม่ลังเลเลย ไม่อย่างนั้นแต่งงานกับผู้ชายอย่างนี้ ชีวิตนี้อย่าคิดจะมีความสุขเลย
เฉินเยี่ยนหยิบตั๋วจักรยานออกมาให้พนักงานขายดู
พนักงานขายไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร ฐานะอะไร ถ้ามีตั๋วจักรยาน มีเงิน ก็จะขายให้
“รถคันนี้เป็นของฉัน ขายให้เธอไม่ได้”
หวางฮุ่ยคิดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนจะมีตั๋ว แต่เธอไม่พอใจ รีบหยิบตั๋วออกมาเหมือนกัน
พนักงานขายคิดไม่ถึงว่าลูกค้าจะแย่งกันขึ้นมา เธอรู้ว่าคนที่ซื้อจักรยานได้มีน้อยคนที่แวะเข้ามา เลยพูดออกไป “พวกคุณอย่าเพิ่งแย่งกันค่ะ ตอนนี้ร้านของเรามีจักรยานแบบนี้สองคัน พอดีเลยพวกคุณซื้อคนละคัน”
เฉินเยี่ยนไม่มีปัญหา วันนี้เธอมาซื้อจักรยาน ไม่ใช่มาโกรธ อีกอย่างเป็นคนที่ไม่รู้จักด้วย เธอขี้เกียจจะทะเลาะ มีเวลาเธอก็รีบมาซื้อจักรยานให้จวนเอ๋อร์ ซื้อเสร็จแล้วจะได้ไปซื้อเสื้อผ้า
“ไม่ได้ ฉันต้องการทั้งสองคัน เธอเป็นผู้หญิงในหมู่บ้าน เธอถือดียังไงมีขี่จักรยานที่เหมือนฉัน ฉันอายคนอื่น หลิวอี้ จ่ายเงิน”
หวางฮุ่ยกลับไม่ยอม เธอรู้สึกว่าเฉินเยี่ยนซื้อรถเหมือนเธอนั้นเป็นการเหยียดหยามเธอ เฉินเยี่ยนจะมาเทียบกับเธอได้ยังไง
“หลิวอี้ คุณจะไม่พูดอะไรเลยหรือ?”
เฉินเยี่ยนถามหลิวอี้ ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว ตัวเองไม่ถือสาแล้ว เธอกลับมาหาเรื่องตัวเองอยู่นั่น แล้วหลิวอี้นี่ก็เอาแต่มอง
“พูดอะไร? เสี่ยวฮุ่ยไม่ใช่คนที่ใครบางคนจะมาเทียบได้ คนบางคนอาศัยหน้าตาตัวเองสวยก็อ่อยผู้ชายไปทั่ว ไม่ดูเลยว่าตัวเองเป็นใครกัน”
หลิวอี้ยังคงโกรธเฉินเยี่ยนอยู่ไม่หาย เฉินเยี่ยนถามเขา เขาเลยว่าเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนยิ้มอย่างเยือกเย็น เวลานี้สามารถมองเห็นนิสัยคนที่แท้จริง นิสัยหลิวอี้คนนี้ไม่ได้เรื่องเลย
“ได้ยินแล้วใช่ไหม? หลิวอี้เป็นคู่หมั้นของฉัน ยังจะมาถามเขาอีก หน้าไม่อาย หลิวอี้ จ่ายเงิน”
หวางฮุ่ยเชิดหน้า หน้าตาสวยแล้วยังไง เธอเทียบกับตัวเองได้หรือ?
เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร เธอไม่ใช่ตุ๊กตาดินเผา เธอไม่ใช่ไม่มีความโกรธ เธอต้องการจะดูว่าหลิวอี้จะซื้อจักรยานสองคันให้หวางฮุ่ยยังไง เพราะเธอมองออก หลิวอี้แค่พูดขู่ น่าจะไม่ออกเงินซื้อจักรยานทั้งสองคัน
เฉินเยี่ยนยืนไม่ขยับ หลิวอี้ก็ไม่ได้เอาเงินออกมา หวางฮุ่ยคิดว่าตัวเองกำลังจะหน้าแตกแล้ว เลยทำหน้าเข้มพูดขึ้นมา “ทำอะไรอยู่ รีบเอาเงินออกมาสิ”
หลิวอี้โดนหวางจวนพูดใส่ก็อึดอัด พูดเสียงเบา “เสี่ยวฮุ่ย พวกเราไม่มีตั๋วจักรยานสองใบ”
หวางฮุ่ยอึ้งไป ตั๋วจักรยานเธอเป็นคนขอจากพ่อ มีใบเดียว ที่หลิวอี้ไม่มีตั๋ว เธอซื้อจักรยานสองคันไม่ได้จริงๆ เธอไม่อยากเสียหน้า เมื่อกี้เธอออกอารมณ์ไป ตอนนี้คิดดูแล้ว ซื้อจักรยานสองคันไปทำไม? เธอขี่คนเดียว
“จริงๆ เลย แม้แต่ตั๋วจักรยานคุณก็ไม่มี”
หวางฮุ่ยบ่น คิดว่าหลิวอี้ไม่มีปัญญา ทำเธอขายหน้า
“ไม่มี? ฉันมีนะ สหาย จักรยานสองคันนี้ฉันซื้อหมด”
เฉินเยี่ยนยิ้มอ่อน แล้วหยิบตั๋วจักรยานอีกใบโบกใส่หลิวอี้และหวางฮุ่ย เดิมทีเฉินเยี่ยนไม่ใช่คนที่ชอบทำตัวเป็นข่าวอยู่แล้ว แต่เธอเป็นคนที่ถ้าไม่ทำอะไรเธอ เธอก็ไม่ทำอะไร เธอมารังแกฉัน ฉันก็ไม่ยอมยื่นหน้ามาให้เธอตบหรอก
เธออยากจะบ้าเห่อต่อหน้าฉัน ได้สิ แต่เธอจะบ้าอย่างนั้นต้องมีเงิน ตอนนี้ซื้อไม่ได้ ฉันซื้อเอง นี่เป็นการตอกกลับที่ดีที่สุด ดีกว่าด่าหยาบคายอีก ยิ่งทำให้คนอื่นรับไม่ได้
อีกอย่างเฉินเยี่ยนก็ไม่ได้ใช้อารมณ์ เธอต้องการสองคันจริงๆ เพราะจะเอาให้หวางจวนเป็นของขวัญแต่งงาน
“คุณ คุณ… หลิวอี้ คุณดูมันแกล้งฉัน หรือว่าคุณยังตัดใจไม่ได้ แม่ฉันดีกับคุณขนาดนี้ ทำไมคุณไม่คิดบ้าง! ฉันไม่สน ถ้าวันนี้คุณไม่ซื้อจักรยานสองคันให้ฉัน ให้ฉันหนึ่งคัน ให้แม่หนึ่งคัน ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณแล้ว คุณอย่าคิดให้พ่อแม่ฉันเอาเงินมาซื้อบ้านให้พวกเราเลย”
หวางฮุ่ยรู้สึกว่าโดนหยามหน้า เธอโดนผู้หญิงในหมู่บ้านตบหน้าได้ยังไง แต่เธอไม่มีตั๋วจักรยานสองใบ ทำได้แค่ระบายลงกับหลิวอี้
เฉินเยี่ยนมองหลิวอี้ด้วยสายตาเหยียดหยาม ที่แท้ฝ่ายหญิงจะออกเงินสร้างบ้าน ตอนนั้นเขายังทำเป็นแกล้งอวดร่ำอวดรวยต่อหน้าพ่อแม่
“เสี่ยวฮุ่ย หยุดโวยวายได้แล้ว คนอื่นเขาจะหัวเราะเยาะเอา รอผมไปหาตั๋วจักรยานอีกใบได้ก่อน จะให้คุณแน่ ให้คุณป้าแน่นอนดีไหม?”
หลิวอี้กดเสียงต่ำ แต่สีหน้าเขาไม่ดีเลย เขาเป็นผู้ชาย ในใจต้องคิดว่าเป็นเรื่องอยู่แล้ว แต่โดนคนว่าอีก นั่นก็เป็นอีกเรื่อง
“ต้องซื้อตอนนี้ คุณไม่เห็นว่าเธอมาแกล้งฉันหรือไง?”
หวางฮุ่ยไม่ยอม เธอจะต้องกู้หน้าคืนมาต่อหน้าเฉินเยี่ยนให้ได้
หลิวอี้ทำอะไรหวางฮุ่ยไม่ได้ เลยมองด้วยความโกรธไปที่เฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนขี้เกียจมองเขา แล้วยื่นตั๋วและเงินให้พนักงานขาย เธอเชื่อว่าการกระทำมีพลังมากกว่าคำพูด
พนักงานขายไม่สนว่าพวกคุณจะเป็นใคร เธอมีหน้าที่รับผิดชอบขายรถเท่านั้น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ เธอทำแบบนี้ไม่ได้ รถคันนี้ฉันชอบก่อน เธอจะซื้อทั้งหมดไม่ได้ ฉันต้องการหนึ่งคัน หลิวอี้ เอาเงินมา”
หวางฮุ่ยใช้มือดึงแขนเฉินเยี่ยนไว้ เธอไม่ยอมให้ไม่เหลือแม้แต่คันเดียว
เฉินเยี่ยนมองแขนตัวเองแล้วพูดด้วยความเย็นชา “เธอชอบก่อน? เธอชอบก่อนก็เป็นของเธอ? อย่าขำไปหน่อยเลย อีกอย่าง รถคันนี้ฉันชอบก่อน กรุณาอย่าโวยวายไร้เหตุผลตรงนี้ อยากจะซื้อ ก็ไปหาผู้ชายของเธอ ดึงฉันไว้ทำไม ฉันไม่ใช่ผู้ชายของเธอ ฉันไม่มีสิทธิ์มาดูแลเธอ เธอมาดึงๆ ฉันแบบนี้ฉันก็ซื้อให้เธอไม่ได้อยู่ดี ปล่อยมือ เธอไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะ แต่ฉันขายหน้าคนอื่นนะ”
เฉินเยี่ยนทนไม่ไหวแล้ว ผู้หญิงคนนี้โรคจิตเกินไปแล้ว
“เธอสิขายหน้า! หลิวอี้ เอาเงินมาสิ”
ฝั่งหวางฮุ่ยไม่ปล่อยมือ แล้วยังตะโกนเรียกหลิวอี้ วันนี้ไม่ว่ายังไงเธอต้องซื้อให้ได้หนึ่งคัน ไม่อย่างนั้นถือว่าเธอแพ้