เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 194: ฉันยินดี
“ช่างเถอะ เสี่ยวฮุ่ย แค่สองคันเอง เขาซื้อไปแล้ว เดี๋ยวอีกไม่กี่วันพวกเรามาซื้อใหม่ก็ได้”
หลิวอี้อิดออด เขาอยากจะเอาเงินฟาดหน้าใส่เฉินเยี่ยนแรงๆ แต่เขาไม่กล้าพอ
วันนี้เขาเอาเงินมาพอซื้อจักรยาน แต่ก่อนออกจากบ้านแม่เขาขอเงินไปจำนวนหนึ่ง เงินเลยไม่พอแล้ว แม่เขาบอกว่าไม่พอก็ให้เสี่ยวฮุ่ยช่วยออกบ้าง ยังไงก็ซื้อให้เธออยู่แล้ว ให้เขาโอ๋เสี่ยวฮุ่ยหน่อยก็พอ
เขาคิดว่าสมเหตุสมผล ถ้าไม่มีเฉินเยี่ยน เขาจะบอกให้หวางฮุ่ยเอาเงินตัวเองออกมา แต่ตอนนี้เขากลับพูดไม่ได้
เฉินเยี่ยนมองก็รู้แล้ว เดิมทีคิดอยากจะพูดประชดสักสองคำ แค่คิดดูแล้วก็ไม่มีประโยชน์ เลยไม่ได้พูด ฝั่งหวางฮุ่ยก็ไม่รู้ ร้องขึ้นมา “หลิวอี้ คุณหมายความว่ายังไง? ทำไมต้องให้ฉันยอมเธอ ณบอกมา รถคันนี้คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อ? ไม่ซื้อพวกเราก็เลิกกัน”
หวางฮุ่ยคิดว่าหลิวอี้ไม่ให้หน้าเธอเลย
หลิวอี้ก็รู้สึกเสียหน้าแล้ว เขาโทษทั้งหมดเป็นเพราะเฉินเยี่ยน ถ้าไม่เจอเฉินเยี่ยน ก็ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น หวางฮุ่ยจะไม่โมโห เขาก็ไม่ต้องขายหน้า เป็นผู้หญิงบ้านนอก ทำไมไม่อยู่บ้านดีๆ ออกมาเดินเล่นทำไม!
“เธอหมายความว่ายังไง? เธอเห็นผมดีขนาดนี้ ตอนแรกคุณอยากจะเกาะผม คิดจะเอาทั้งบ้านมาเกาะผม ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนดีอะไร เลยไม่ตกลง ตอนนี้คุณมาทำลายความสัมพันธ์ของผมกับเสี่ยวฮุ่ยอีก คุณมันหน้าไม่อาย!”
หลิวอี้เอาความโมโหไปลงที่เฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนโกรธจัดแต่ก็ยิ้มออกมา “หลิวอี้ ตัวเองเป็นคนไว้หน้าตัวเอง อย่าเอาทองมาโลกบนหน้าตัวเอง ฉันไม่อยากจะรู้จักคุณ รีบลากผู้หญิงบ้าของคุณออกไป ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้าคุณ”
เฉินเยี่ยนไม่คิดว่าผู้ชายคนหนึ่งจะเป็นได้ถึงขนาดนี้
“เธอสิผู้หญิงบ้า กล้ามาว่าฉัน”
หวางฮุ่ยไม่สนแล้ว ผู้หญิงที่เธอดูถูกกล้าว่าเธอ เธอลงมือจะตบเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนคว้ามือเธอยกขึ้นมา แล้วดึงไปด้านหลัง หวางฮุ่ยส่งเสียงกรีดร้อง
หลิวอี้เห็นหวางฮุ่ยเสียเปรียบ เลยรีบเข้ามา เฉินเยี่ยนยิ้มเย็นชาแล้วพูด “ถ้าคุณกล้าเข้ามาใกล้อีกก้าว ฉันจะหักแขนเธอ”
หลิวอี้อยากจะเข้าไปแต่ก็กลัวหวางฮุ่ยโดนทำร้าย เลยไม่กล้าขยับ
“คุณรีบปล่อยเธอ เฉินเยี่ยน คุณรู้ไหมว่าเธอเป็นใคร ถ้าคุณทำร้ายเธอ คุณมีกี่ชีวิตก็ไม่พอชดใช้”
หลิวอี้ขู่เฉินเยี่ยน
“ฉันไม่สนว่าเธอเป็นใคร! คุณกลัวเธอ ฉันไม่กลัว”
เฉินเยี่ยนไม่สนใจ
“คุณ คุณ… เฉินเยี่ยน คุณพูดบอกความจริงมา ตั๋วจักรยานนี้คุณเอามาจากไหน? ครอบครัวคุณไม่มีทางหาตั๋วจักรยานมาได้ คุณขโมยมาใช่ไหม? ใช่แล้ว คุณต้องขโมยมาแน่นอน! ถ้าคุณปล่อยเสี่ยวฮุ่ย เรื่องนี้ผมจะทำเป็นไม่รู้ ไม่อย่างนั้นผมจะไปแจ้งตำรวจมาจับคุณ”
หลิวอี้ไม่กล้าเข้าไป เห็นหวางฮุ่ยร้องเจ็บไม่หยุด เขาทำอะไรไม่ได้ เลยขู่เฉินเยี่ยน เพราะเขารู้จักบ้านเฉิน บ้านเฉินไม่มีทางมีตั๋วรถจักรยานแน่
“หึหึ”
เฉินเยี่ยนหัวเราะหึหึใส่หลิวอี้ หลิวอี้นี่โง่หรือเปล่า
“ตั๋วจักรยานของฉันน่ะหรือ คุณอยากรู้? ฉันไม่กลัวที่จะบอกคุณหรอก หลิวอี้ คุณบอกว่าไม่ชอบฉันไม่ใช่หรือ? แน่นอนย่อมมีผู้ชายที่ชอบฉัน ตั๋วจักรยานนี้เขาเป็นคนให้ ให้ทีสองใบเลยนะ แฟนคุณนี่เป็นสาวในเมืองใช่ไหม? จุ๊จุ๊ ดูคุณสงสารเธอขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ให้ตั๋วจักรยานเธอไปล่ะ? ตอนแรกที่คุณมาสู่ขอที่บ้านฉัน คุณบอกว่าไม่ให้ฉันไปเจอผู้ชายคนอื่น แต่ตแนนี้ฉันดูแล้ว ผู้ชายคนอื่นดีกว่าคุณเยอะเลย โชคดีที่ตอนนั้นฉันไม่ตาบอดตกลงกับคุณ ไม่อย่างนั้น…”
เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดต่อ แต่ความหมายเธอก็ชัดเจนมากอยู่แล้ว เดิมทีเธอไม่อยากจะคิดเล็กคิดน้อย แต่สองคนนี้กัดไม่ปล่อยเลย งั้นก็อย่ามาโทษเธอ
“เธอพูออะไร! เขาไปสู่ขอเธอที่บ้าน เป็นไปไม่ได้ เห็นอยู่ว่าเธออยากจะเข้าหาหลิวอี้ เขาไม่ชอบเธอ เธออย่ามาพูดมั่วๆ”
หวางฮุ่ยร้องเสียงดัง แล้วส่ายหน้าด้วย เฉินเยี่ยนพูดแบบนี้ทำลายความมั่นใจของเธอ
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เธอ ไม่เกี่ยวกับฉัน แล้วหลิวอี้ คุณอยากจะแจ้งความก็ตามใจ จักรยานซื้อแล้ว ฉันยังต้องไปสถานีตำรวจทำเรื่องตราประทับอีก ถ้าฉันขโมยมา ฉันจะกล้าไปไหม? ไม่มีสมองเลย เอาล่ะ ฉันจี้เกียจจะเสียเวลากับพวกคุณแล้ว ฉันยังต้องไปซื้อเสื้อผ้าอีก พวกคุณอย่ามาทำฉันอารมณ์เสีย”
เฉินเยี่ยนพูดจบก็ปล่อยแขนหวางฮุ่ย หวางฮุ่ยพุ่งไปข้างหน้า หลิวอี้รีบเข้าไปรับเธอ
หวางฮุ่ยตบหน้าหลิวอี้ไปหนึ่งฉาด
“คุณบ้าไปแล้ว! มาตบผมทำไม”
หลิวอี้โมโห เขาเป็นผู้ชาย โดนผู้หญิงตบหน้าต่อหน้าผู้คน เขาขายหน้ามาก
“ฉันบ้าไปแล้ว ใครให้คุณโกหกฉัน”
หวางฮุ่ยรู้สึกว่าเหยียบย่ำอย่างไม่เคยโดนมาก่อน
“หยุดโวยวานได้แล้ว เธอจงใจ เธอเป็นคนบ้านนอก ผมจะไปชอบเธอหรือ? เธอเทียบกับคุณได้หรือ? เธอตั้งใจยุยงความสัมพันธ์ของพวกเรา”
หลิวอี้อธิบายอย่างอดทน เขาเสียหวางฮุ่ยไปไม่ได้ เขาลงทุนลงแรงไปกับหวางฮุ่ยไม่น้อย จะเสียไปฟรีๆ ไม่ได้
เฉินเยี่ยนเลิกคิ้ว หลิวอี้นี่ไม่ได้เรื่อง เธอพูดกับพนักงานขาย จะไปซื้อเสื้อผ้าก่อน ตอนจะกลับค่อยมารับรถ
“ซื้อจักรยานสองคัน ทำไมไม่เผาไปให้เธอเลยล่ะ เธอขี่ได้หรือไง!”
หวางฮุ่ยพูดอย่างไม่พอใจ
“ฉันยินดี ฉันมีตั๋วเยอะ ฉันขี่หนึ่งคันทิ้งอีกหนึ่งคัน”
เฉินเยี่ยนยั่วโมโหหวางฮุ่ย
หวางฮุ่ยกัดฟัน ตอนนี้เธอเริ่มเชื่อครึ่งเชื่อครึ่งกับคำพูดหลิวอี้แล้ว แต่หลิวอี้เป็นแฟนเธอ เธอทะเลาะกับหลิวอี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเฉินเยี่ยนจะชนะ แต่ไปแบบนี้ หวางฮุ่ยก็ไม่พอใจ เธอคิดแล้ว เลยเดินตามหลังเฉินเยี่ยนไป
เฉินเยี่ยนมองดูอย่างช้าๆ เธอเลือกเสื้อผ้าให้หวางจวน ได้ยินหลิวอี้ปลอบหวางฮุ่ยเสียงเบา บ่นไม่หยุด เธอไม่สนใจปลาสองตัวที่อยู่ข้างหลัง คิดเสียว่าแก้เหงาดี
หวางจวนจะเป็นเจ้าสาวแล้ว เธอต้องเลือกชุดเป็นมลคง ชุดสวย พวกชุดสีเข้มเธอไม่เลือก ถึงแม้ว่าจะทนสกปรก แต่ดูไม่ดี
“สหาย คุณเอาเสื้อตัวนั้นมาให้ฉันดูหน่อยค่ะ”
เฉินเยี่ยนถูกใจเสื้อสีขาวมีปกเนื้อผ้าดีอยู่ตัวหนึ่ง พื้นผ้าสีขาว ด้านบนมีวงกลมสีแดงและสีดำอยู่ ดูสวยงามน่ารัก เสื้อผ้าแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในยุคนี้
อันที่จริงเฉินเยี่ยนอยากจะซื้อกระโปรงสีสดให้หวางจวนหลายตัว แต่กระโปรงสีแดงสีเหลืองพวกนั้นต้องรอยุค 80 ถึงค่อยเป็นที่นิยม ตอนนี้ยังไม่มี ดังนั้นเธอเลยล้มเลิกความคิด
แต่เฉินเยี่ยนเจอเสื้อไหมพรมสีสดใสแบบถัก เธอเลยจะซื้อสองตัว ถึงเวลาให้เธอกับหวางจวนคนละตัว ตัวเองจะได้ไม่ต้องถัก
อีกอย่าง เฉินเยี่ยนยังคิดจะซื้อกางเกงขากระดิ่งและรองเท้าหนังสีดำด้วย
ในความทรงจำเธอกางเกงขากระดิ่งน่าจะฮิตสักพักหนึ่งเลย ใส่กางเกงขากระดิ่งก็ต้องใส่รองเท้าหนังถึงจะดูดี ดันั้นเธอเลยตัดสินใจซื้อ
“ฉันต้องการเสื้อผ้าดีตัวนั้น”
ตอนนี้หวางฮุ่ยเดินมาข้างหน้า แล้วแย่งชุดที่เฉินเยี่ยนชอบ
“เธอเหมาหมด?”
เฉินเยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชาแล้วถามเธอกลับ
“หมายความว่ายังไง?”
หวางฮุ่ยไม่เข้าใจ
“ก็หมายความว่าเธอจะซื้อหมดเลยใช่ไหม? ถ้าฉันชอบอะไรเธอก็จะซื้อ งั้นฉันไม่พูดอะไรแล้ว ถ้าเธอไม่อยากได้จริงๆ รบกวนหลีกทางด้วย อย่ามาขี้อวดเลย เธอไม่อาย แต่ฉันไม่สนใจหรอกนะ”
เฉินเยี่ยนคิดว่าหวางฮุ่ยคนนี้เป็นโรคจริงๆ
“เธอ เธอ เธอคอยดูว่าฉันจะมีปัญญาซื้อไหม”
หวางฮุ่ยโกรธจัด เธอกลับโดนคนบ้านนอกดูถูก
“ซื้อ”
หวางฮุ่ยตะคอกใส่หลิวอี้ หลิวอี้เอาเงินกับตั๋วออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เฉินเยี่ยนยักไหล่ ไม่สนใจเลย ยังไงก็ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว เธอก็ซื้อเหมือนกัน