เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 230: ลารับขบวนเจ้าสาว
ถึงแม้จะไม่มีเครื่องสำอาง แต่เฉินเยี่ยนอายุน้อย เครื่องหน้าก็ดี ไม่ทาแก้มก็ยังดูชมพูระเรื่อ ดวงตาสองข้างชุ่มฉ่ำ มองแล้วมีเสน่ห์
“เยี่ยนจื่อหน้าตาครบเครื่อง มิน่าถึงได้สามีดีขนาดนี้”
ผู้หญิงคนที่เคยว่าเฉินเยี่ยนก่อนหน้านี้มีแววตาแห่งความอิจฉา เธออิจฉาจริงๆ ตอนที่ตัวเธออายุน้อยก็ยังเทียบเฉินเยี่ยนไม่ได้”
“เยี่ยนจื่อ บ้านฉันมีน้องสาว เธอช่วยไปดูหน่อยว่าบ้านสามีเธอมีพี่น้องหรือเปล่า ถ้ามีคนที่เหมาะสม ก็มาบอกน้องสาว น้องสาวฉันสวยกว่าฉันอีก”
“ผู้หญิงคนนั้นพูดกับเฉินเยี่ยนอีก”
“ได้สิ”
เฉินเยี่ยนยิ้ม เธอจะไม่ปฏิเสธให้คนอื่นเสียหน้า ส่วนมีที่เหมาะสมหรือไม่นั้น เธอเป็นคนตัดสินใจอยู่ดี
“พี่ พี่ก็ต้องคิดถึงฉันด้วยนะ”
ฝั่งหวางชุนฮวาดึงแขนเฉินเยี่ยน ตอนแรกที่เธอไม่ได้เข้าโรงงาน เธอโกรธมาก แต่โกรธเฉินเยี่ยน ไม่มีประโยชน์กับเธอเลย ดังนั้นเฉินเยี่ยนจะแต่งงาน เธอก็เลยมา ตอนนี้ได้ยินเฉินเยี่ยนตอบรับคนอื่น เธอเลยรีบยิ้ม ถ้าฝั่งพี่เยี่ยนจื่อมีคนที่ดี ก็ต้องแนะนำตัวเองสิ ทาบทามให้คนอื่นทำไม
“ได้”
เฉินเยี่ยนพยักหน้าเช่นกัน วันนี้เธอไม่อยากเถียงกับใคร
ผู้หญิงคนที่พูดก่อนหน้านี้แอบเบะปาก คนอย่างหวางชุนฮวายังคิดจะมาแย่งคนของน้องสาวเธออีก น้องสาวเธอสวยกว่าหวางชุนฮวาเยอะ
“พี่ อีกหน่อยฉันไปบ้านพี่ได้หรือเปล่า? พี่ดูสิพี่ไม่มีน้องสาวแล้ว ให้ฉันไปมาหาสู่พี่ รออีกหน่อยฉันแต่งงานแล้ว พวกเราก็ดองเป็นญาติกันดีไหม?”
หวางชุนฮวาเรียกร้องเข้าไปอีก
เฉินเยี่ยนเข้าใจความหมายเธอ มองเธอ แล้วก็ยิ้ม
นอกจากหวางชุนฮวาแล้ว ในห้องยังมีคนอื่นอีกไม่น้อย ส่วนมากเป็นผู้หญิงในหมู่บ้าน ถึงแม้ยามปกติไม่สนิทกับเฉินเยี่ยน แต่ก็รู้จักกันหมด วันนี้เป็นวันมงคลของเฉินเยี่ยน พวกเธอย่อมต้องมาอยู่แล้ว
มีคนก็ต้องมีบทสนทนา ทุกคนต่างแย่งกันพูด เลยปัดคำพูดของหวางชุนฮวาตกไป
ไม่นานก็มีเด็กน้อยวิ่งเข้ามาบอกสถานการณ์ด้านนอก เฉินเยี่ยนรับรู้ นี่เป็นคนที่เฉินหู่เรียกให้มา เฉินหู่เป็นคนเตรียมไว้ กลัวว่าเฉินเยี่ยนจะเร่งรีบ
“พี่เยี่ยนจื่อ พี่หู่จื่อให้ผมมาบอกพี่ว่า พี่เขยสามีของพี่มาถึงฝั่งตะวันตกของหมู่บ้านแล้ว เดี๋ยวก็น่าจะมาถึงแล้ว ให้พี่เตรียมตัว”
มีเด็กผู้ชายอายุแปดเก้าขวบวิ่งเข้ามาบอกเฉินเยี่ยน
สีหน้าเฉินเยี่ยนแดงขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ซินห้าวมาถึงฝั่งตะวันตกแล้วหรือ? งั้นเขาก็ใกล้มาถึงแล้ว พอคิดถึงซินห้าว เฉินเยี่ยนก็รู้สึกใจเต้นอย่างรุนแรง
“รีบดูเร็ว มีตรงไหนที่ยังไม่พร้อมอีกไหม?”
ในห้องมีคนไม่น้อยต่างเข้ามาช่วยดู
เสื้อผ้าเฉินเยี่ยนใส่เรียบร้อยแล้ว ยุคนี้ไม่มีชุดแต่งงาน ด้านบนเธอสวมสีแดง ด้านล่างใส่กางเกงสีดำ สวมร้องเท้าหนังสีดำ
อันที่จริงเฉินเยี่ยนไม่อยากจะแต่งตัวแบบนี้ เธออยากจะใส่เสื้อแขนสั้น แต่ที่บ้านไม่เห็นด้วย บอกว่าสีขาวไม่มงคล คนแต่งงานต้องใส่สีแดง ถือเป็นการเฉลิมฉลอง
สุดท้ายเฉินเยี่ยนไม่ได้ฝืน ถือว่าทำให้คนที่บ้านสบายใจ
“มาแล้ว มาแล้ว ว่าที่สามีเฉินเยี่ยนมาแล้ว”
เฉินเยี่ยนได้ยินคนด้านนอกตะโกน เธออดไม่ได้มองออกไปข้างนอก แต่มองไม่เห็น เธอเลยลุกขึ้นมา เห็นแค่สาวน้อยสาวใหญ่ในห้องเธอต่างออกันอยู่หน้าประตูมุงดู”
ข้างนอกยังคงคึกคักกันอยู่สักพัก เห็นคนนั้นแล้ว ในสายตาเฉินเยี่ยนก็ไม่มีคนอื่นอีก
วันนี้ซินห้าวดูต่างจากปกติ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใส่ชุดสูท แต่เขาใส่ชุดสมัยถัง ชุดสีแดง เดิมทีเฉินเยี่ยนคิดว่าชุดสมัยถังดูเชย แต่พอมาอยู่บนตัวซินห้าว ไม่รู้ว่าทำไมถึงดูดีขนาดนี้
ดวงตาสองข้างเขาเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดเธอ ทำให้เธอไม่อาจละสายตาได้
ซินห้าวและเฉินเยี่ยนเคารพอำลาเฉินจงและหวางนิว
หวางนิวน้ำตาไม่หยุดไหล หลายคนที่อยู่ข้างๆ ต่างปลอบเธอ บอกว่าลูกสาวแต่งงานกับสามีที่ดี ควรจะดีใจ เธอพยักหน้า แต่กลับเช็ดน้ำตาไม่หยุด
เฉินจงที่เป็นชายใหญ่ขนาดนี้ นัยน์ตาก็แดงเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
เวลานี้เฉินเยี่ยนรู้สึกเสียใจ คัดจมูก น้ำตาเกือบจะไหลลงมา
“เธอร้องไห้ไม่ได้นะ”
มีคนข้างๆ เตือนเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนกะพริบตา
เฉินกุ้ยเดินมาหน้าเฉินเยี่ยน เขาคุกเข่าลง
“พี่ชาย ให้ผมแบกพี่สาวเถอะ”
เฉินหู่รีบเข้ามาอยากจะลอง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่พี่ชายน้องชายของบ้านเจ้าสาวจะแบกพี่สาวหรือน้องสาวออกจากประตูบ้าน เขาอยากจะแบกพี่สาว ไม่อย่างนั้นอีกหน่อยจะไม่มีโอกาสแล้ว ส่วนเฉินเวย เขาไม่แบกหรอก
“ตอนนี้เจ้ายังแบกไม่ไหว”
เฉินกุ้ยตบเฉินหู่เบาๆ
เฉินหู่อยากจะทำปากมุ่ย แต่เขาก็รีบเบะกลับมา วันนี้เป็นวันดีของพี่สาว เขาจะไม่ดีใจไม่ได้ ดังนั้นเขาเลยส่งยิ้มให้เฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนรู้สึกปวดใจ เธอพิงลงไปบนหลังเฉินกุ้ย
เฉินกุ้ยแบกเธอ เฉินเยี่ยนอยากจะหันหลังกลับไปมองก็ไม่ได้ เพระเจ้าสาวที่แต่งงานหันหน้ากลับไปไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะเป็นลางว่าต้องหย่า กลับมาบ้านพ่อแม่ ถือว่าเดินย้อนกลับมา
ออกจากสนามบ้านแล้ว มาถึงหน้าประตู เฉินเยี่ยนที่มองหาจักรยานกลับโดนดึงดูดด้วยลาตัวหนึ่ง
เห็นบนหัวลาประดับด้วยผ้าสีแดง เจ้าลาเชิดหน้าขึ้นร้องด้วยความองอาจ มุมปากเฉินเยี่ยนนิ่งไป เธอคิดว่าเธอกับซินห้าวแต่งงานกัน ซินห้าวต้องขี่จักรยานมารับเธอไปแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่เห็นจักรยาน กลับเห็นรถลา
เฉินกุ้ยวางเฉินเยี่ยนลงบนรถลา ลาขยับขาหลังเหมือนไม่ค่อยพอใจ
ไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าตัวเองต้องนั่งบนรถลาไปบ้านซิน นี่เป็นเรื่องที่ให้เฉินเยี่ยนคิดเป็นพันเป็นหมื่นรอบยังไงก็คิดไม่ถึง แต่ก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติต่อเธออย่างดีแล้ว
จัดแจงกันสักพัก คนที่มาจากฝั่งบ้านซินก็เริ่มลาคนฝั่งนี้กลับไป
เฉินหู่นั่งอยู่บนรถลาอีกคัน เขาเป็นเด็กบังคับรถ
“เดิมทีผมอยากจะขี่จักรยานมา แต่คุณปู่บอกว่าในเมื่อพวกเราแต่งงานกันที่นี่ก็ต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมที่นี่ ดังนั้นเลยเอารถลามา”
ระหว่างทางกลับซินห้าวกระซิบอธิบายให้เฉินเยี่ยนฟัง
“ดีมากค่ะ”
เฉินเยี่ยนยิ้มให้เขา จากนั้นละสายตาไป เมื่อก่อนเธอมองซินห้าวจะไม่อายเหมือนตอนนี้ ไม่รู้ตอนนี้เป็นอะไร หัวใจเต้นรัวเร็ว
ซินห้าวมองเฉินเยี่ยน อดละสายตาไปไม่ได้ วันนี้เขาก็รู้สึกไม่เหมือนเมื่อก่อน เขารู้สึกว่าใจเขาจะกระโจนออกมาแล้ว แต่เขาอยากจะมองเฉินเยี่ยน “น้องชาย มองไม่พอหรือ แต่งภรรยาคนนี้กลับไป ตอนกลางคืนก็สามารถดูได้ตามสบายเลย ดูไปได้ตลอดชีวิต”
เวลานี้มีผู้ชายอายุสามสิบกว่ามาแซวซินห้าว
ซินห้าวหน้าแดง แต่เขาไม่ได้พูดอะไร
เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้พูดอะไร เธอเข้าใจว่าคนนี้ไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่บางครั้งก็อยากจะแซวเล่นเท่านั้น
“พี่ เอารองเท้ามาให้ผม”
ตอนนี้เฉินหู่กระโดดลงจากรถคันนั้น แล้ววิ่งมาข้างรถเฉินเยี่ยน
“จะเอารองเท้าพี่ไปทำอะไร?”
เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจ
“พี่เอาให้ผม ผมจะเอาไปซ่อน จนถึงบ้านซิน พวกเขาจะเรียกพี่ลงจากรถ ต้องให้เงินพี่ลงจากรถ ถ้าให้รอบแรก พี่ยังลงไม่ได้ ต้องเรียกสามรอบสี่รอบ ถ้าให้เงินน้อย พี่ก็ลงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะว่าพี่ราคาต่ำ ยังไงก็แล้วแต่ถ้าพวกเขาเรียกผมลงจากรถ ผมต้องรอหลายรอบค่อยลง ครั้งที่แล้วเป็นเด็กบังคับรถ ผมไม่ยอมลง ปรากฏว่าโดนเด็กสองคนอุ้มลงมา จริงๆ เลย”
เฉินหู่พูดมาถึงตรงนี้สายตามีประกายแห่งความเสียใจ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจเรื่องครั้งนั้น