เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 231: เรียกรถ
เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่เธอคิดว่าน่าสนใจดี ถ้าเฉินหู่ไม่บอกเธอ พอมีคนเรียกเธอ เธอต้องลงจากรถแน่นอน
“หู่จื่อพูดถูก เยื่อนจื่อจำไว้ ถ้าเธอลงจากรถง่ายๆ คนบ้านนั้นก็จะดูถูกเธอ ต่อมาคนในหมู่บ้านก็จะว่าเธอ ให้เรียกเธอสามสี่ครั้งค่อยลงจากรถ”
แม่สื่อที่อยู่บนรถก็บอกเฉินเยี่ยน
“ได้ ฉันจะจำไว้”
เฉินเยี่ยนพยักหน้า เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เธอทำตามประเพณีก็พอ
แบบนี้แล้วเฉินหู่เลยเอารองเท้าเฉินเยี่ยนไปซ่อน มองดูที่นาสองข้างทาง มีทั้งความดีใจ ความกังวลที่จะได้เข้าไปอยู่บ้านซิน
หน้าหมู่บ้านบ้านซินมีคนยืนอยู่มากมาย มามุงดูกันอย่างครึกครื้น มาดูหน้าเจ้าสาว
ครอบครัวซินถือว่าเป็นคนดังในหมู่บ้านซิน ซินชานมีหน้ามีตา เป็นข้าราชการ แต่งงานกับภรรยาคนในเมือง มีลูกชายสองคน แถมหน้าตาดีอีก แล้วก็เก่งด้วย มีหลายคนอยากจะให้ลูกสาวแต่งเข้าบ้านซิน พอได้ยินว่าวันนี้บ้านซินจะแต่งลูกสะใภ้ เลยอยากจะมาดูว่าหน้าตาเจ้าสาวเป็นยังไง
พอเห็นเฉินเยี่ยน หลายคนก็เริ่มวิพากษ์วิจารณ์
“โห เจ้าสาวคนใหม่นี่ไม่มีที่ติเสียจริง”
“ใช่แล้ว ฉันว่าไม่ต่างจากเจ็ดนางฟ้าบนสวรรค์เลย มิน่าลูกชายบ้านซินถึงได้ชอบ”
“จริงด้วย สวยกว่าลูกสาวบ้านอวี้หมินเยอะเลย ก่อนหน้านี้ภรรยาบ้านอวี้หมินยังนินทาอยู่เลย ตอนนี้คงไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”
“ใช่ เจ้าสาวคนใหม่หน้าตาสวย แต่ไม่รู้ว่านิสัยดีหรือเปล่า?”
“เขามาส่งเจ้าสาวที่นี่ ถึงเวลาจะกลับไปอยู่ในเมือง นิสัยดีหรือเปล่าใครจะรู้”
……
เสียงวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา เฉินเยี่ยนไม่ได้ยิน เพราะรถลาผ่านไปแล้ว
มาถึงหน้าประตูบ้านซิน รถลาหยุดลง
เฉินเยี่ยนอยากจะดูหน้าประตู แต่มองไม่เห็นเลย ข้างนอกข้างในคลาคล่ำไปด้วยผู้คน
เฉินเยี่ยนอยากจะมองซินห้าว ก็มองไม่เห็น ไม่รู้ว่าโดนใครดึงไป
เฉินเยี่ยนเดาะลิ้นไม่หยุด หมู่บ้านซินนี้ใหญ่กว่าหมู่บ้านพวกเขาตั้งเยอะ คนที่มามุงดูก็เยอะกว่าหมู่บ้านพวกเขา คนพวกนี้ ไม่กลัวหายใจไม่ออกกันหรือ?
“ขอทางหน่อย ขอทางหน่อย ขอทางเข้าไปหน่อย”
มีคนตะโกนเบียดมาจากข้างใน
จนมาถึงข้างหน้า มีคนพลั่วมาวาดเป็นวงกลมอยู่ตรงหน้ารถลาของเฉินเยี่ยน ปากก็พูดพึมพำพึมพำ เขาพูดอะไร เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจ
“บ้านซินห้าว ลงมาจากรถเถอะ”
ตอนนี้มีอาผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาตรงหน้ารถลาเรียกให้เฉินเยี่ยนลงจากรถ
อาผู้หญิงแต่งตัวจัดเต็มเพื่องานเลี้ยงฉลอง ใบหน้ายิ้มแย้ม ดูแล้วรู้สึกปีติยินดี
เฉินเยี่ยนหน้าแดง เธอจะกลายเป็นคนบ้านซินห้าวแล้ว เธออยากจะขยับ แต่คิดถึงคำพูดของเฉินหู่และแม่สื่อ เลยนั่งไม่ขยับ
อาผู้หญิงเห็นก็เข้าใจ ยิ้มแล้วยื่นอั่งเปาให้เฉินเยี่ยน ข้างในมีเงิน ส่วนเท่าไรนั้นเฉินเยี่ยนรับแล้ว แต่ไม่ได้เปิดดู
อาผู้หญิงเรียกให้เฉินเยี่ยนลงจากรถอีกครั้ง เฉินเยี่ยนยังไม่ขยับ
อาผู้หญิงเรียกแบบนี้สามครั้ง และให้อั่งเปาสามซอง
พอแล้วมั้ง?
เฉินเยี่ยนอยากจะลงจากรถมาก แต่เธอไม่มีรองเท้า รองเท้าโดนเฉินหู่เอาไป ยังไงก็ลงไปเท้าเปล่าไม่ได้
อาผู้หญิงก็นึกว่าเฉินเยี่ยนยังไม่อยากลงจากรถ เลยให้อั่งเปาและเรียกอีกครั้ง
ตอนนี้เฉินหู่โดนคนเรียกลงจากรถแล้ว เขาอยากจะเบียดเข้าไปข้างใน แต่คนพวกนั้นดึงเขาไม่ให้ไป จะดึงเขาเข้าไปในสนามบ้าน อย่าดูถูกว่าเขาเด็ก เขาเป็นถึงแขกคนสำคัญเลย ต้องต้อนรับดูแลเป็นอย่างดี
หน้าเฉินหู่เต็มไปด้วยเหงื่อ
“พวกคุณไม่ให้ผมไป รองเท้าพี่สาวผมอยู่ที่ผมนะ เธอลงจากรถไม่ได้”
เฉินหู่รีบร้อน การลงจากรถนี้มีธรรมเนียมอยู่ เรียกคุณครั้งแรกแล้วลงจากรถ คนอื่นจะดูถูก แต่เรียกคุณหกเจ็ดครั้งไม่ยอมลง คนเขาก็จะว่าคุณได้ ประมาณสี่ครั้งนั้นกำลังพอดี ตอนนี้พี่สาวโดนเรียกไปสี่ครั้งแล้ว
“รองเท้า? เร็ว เร็ว ให้เขาเข้าไป”
พอคนพวกนั้นได้ยินก็ใจร้อน เปิดทาง นำเฉินหู่เบียดเข้าไป
รอยยิ้มอาผู้หญิงที่เรียกเฉินเยี่ยนนั้นเริ่มสีหน้าไม่สู้ดีแล้ว เธออยากจะเรียกอีก ตอนนี้เฉินหู่เบียดเข้ามาแล้ว เขารีบเอารองเท้าส่งให้เฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนก้มหน้าลง สายตาทุกคนต่างมองไปที่รองเท้า เธอบ่นในใจ รู้สึกขายหน้า แต่เรื่องเป็นแบบนี้แล้ว เธอทั้งอึดอัดทั้งทำอะไรไม่ได้ เลยต้องทำเป็นหน้าไม่อายแล้ว
อาผู้หญิงคนนั้นถึงค่อยเข้าใจว่าทำไมเฉินเยี่ยนถึงไม่ลงจากรถ
“เอาล่ะ เอาล่ะ เจ้าสาวลงจากรถแล้ว ขอทางหน่อย อย่ามาเบียดเจ้าสาว”
อาผู้หญิงประคองเฉินเยี่ยน ตะโกนให้หลีกทาง ประคองเฉินเยี่ยนเข้าไปข้างใน
ในสนามบ้าน ซินห้าวและเฉินเยี่ยนยืนอยู่ มีคนทำพิธีให้พวกเขาไหว้ฟ้าดิน ไหว้พ่อแม่ ไหว้กันและกัน
ตอนที่ไหว้พ่อแม่เฉินเยี่ยนเห็น ปู่ ย่า และพ่อซินห้าว มีเพียงคนเดียวที่ไม่เห็นคือซุนหม่านเซียง
เธอไม่มาจริงด้วย
เป็นแม่ของซินห้าว แม่สามีตัวเอง ในวันสำคัญแบบนี้ เธอกลับไม่ปรากฏตัว
เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าควรจะว่าซุนหม่านเซียงยังไง ต่อให้เธอไม่พอใจตัวเองและซินห้าว ไม่อยากกลับมาหมู่บ้ายเกษตรกร แต่งานแต่งกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เธอไม่มาแบบนี้ ไม่ทำให้คนอื่นเขานินทาหรือ?
ไม่ว่าเธอจะไม่พอใจยังไง วันนี้เธอก็ต้องเสแสร้งหนึ่งวัน แต่เธอไม่มา
เฉินเยี่ยนอยากจะทอดถอนใจ ซุนหม่านเซียงนี่อยากจะตัดขาดจากบ้านซินหรือ!
ไหว้เสร็จแล้ว เฉินเยี่ยนถูกส่งตัวเองห้องหอ
ห้องใหญ่มาก นอกจากเตียงหลังใหญ่แล้ว ยังมีตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวาง อ่างล้างหน้าสีแดง แต่มากกว่านี้ไม่มีแล้ว ยังไงยุคนี้ก็ยังไม่ได้มีของใช้เทียบเท่า
เห็นอักษรมงคลสีแดง เฉินเยี่ยนยิ้มออกจากข้างใน
มีอาผู้หญิงคนหนึ่งมาหวีผมให้เฉินเยี่ยน พูดอยู่พักหนึ่ง ยังไงก็เป็นประเพณีของหมู่บ้านเกษตรกร เฉินเยี่ยนเลยปล่อยให้เธอจัดการ
แล้วมีเด็กไม่กี่ขวบคนหนึ่งยกอ่างล้างหน้าเข้ามา เฉินเยี่ยนใช้มือจุ่มลงไปในน้ำ จากนั้นให้อั่งเปากับเด็กคนที่ยกอ่างมา
“ลูกหง[1] ดูเร็ว ดูสิว่าอาเขาให้ค่ายกอ่างเท่าไร ได้ถึงสิบสตางค์หรือเปล่า?”
คนที่ไม่มีอะไรทำก็เรียกให้เด็กนับเงิน
เด็กชื่อหงนี่เอง เฉินเยี่ยนคิดว่าชื่อนี่มีความหมายมาก แต่พวกเขาเรียกตัวเองว่าอา ตัวเองไม่รู้จักเขา แต่คิดว่าคงไม่ห่างกันมาก การยกอ่างแบบนี้ ปกติแล้วจะหาญาติที่ห่างกันไม่เกินห้ารุ่น
เด็กชื่อหงเปิดซองอั่งเปา
“โห ได้ตั้งหนึ่งเหรียญ พระเจ้า เพิ่งเห็นเด็กยกอ่างได้เยอะขนาดนี้เป็นครั้งแรก ครั้งที่แล้วลูกฉันยกอ่าง ภรรยาเขาให้แค่สองสตางค์เอง”
ผู้หญิงคนนั้นตกใจ
“หนึ่งเหรียญจริงด้วย ทำไมใจกว้างขนาดนี้? รู้อย่างนี้ให้ลูกฉันไปยกอ่างแล้ว เงินตั้งหนึ่งเหรียญเลยนะ ฉันคิดว่าได้สิบสตางค์ก็มากโขแล้ว”
มีคนเสียดาย
สีหน้าเด็กชื่อหงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถือเงินไปหาพ่อแม่เขา
เพราะเรื่องยกอ่าง คนในห้องต่างวิจารณ์เฉินเยี่ยนมากขึ้น มีไม่น้อยที่มาคุยกับเฉินเยี่ยน ต้อนรับอย่างอบอุ่น
สักพักมีคนยกเกี๊ยวมาให้เฉินเยี่ยนกิน
เฉินเยี่ยนกัดไปหนึ่งคำ เกี๊ยวดิบอยู่ เธอเข้าใจ นี่ต้องการให้เธอพูดว่าดิบ[2]
ตอนแรกเธอเขินที่จะพูด แต่คนที่ป้อนเกี๊ยวเธอเอาแต่ถาม เฉินเยี่ยนเลยหน้าแดงแล้วพูด: ดิบ
เสียงหัวเราะดังไปทั้งห้อง ถึงแม้จะหวังดี แต่เฉินเยี่ยนก็ยังหน้าแดง
จนมีคนเรียกไปนั่งที่โต๊ะกินเลี้ยง ในห้องค่อยสงบลง เฉินเยี่ยนถอนหายใจยาวออกมา
[1] ภาษาจีนแปลว่าสีแดง เป็นสีมงคล
[2] ภาษาจีนออกเสียงว่าเชิง มีอีกความหมายว่า คลอดลูก