เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 236: กลับบ้าน
ไป๋ซิ่วเหมยไม่ได้พูดอะไร เธอไม่ให้ลูกสาวตักตวงผลประโยชน์จากคนอื่น แต่เฉินเยี่ยนใจดี เธอก็ไม่ปฏิเสธ ไม่อย่างนั้นจะดูเสแสร้งไป เฉินเยี่ยนยอมให้ซินหลานไป นั่นก็เป็นน้ำใจของเฉินเยี่ยน ถึงแวลาให้ซินหลานไปทำงานให้ดีก็พอแล้ว
“พรุ่งนี้พวกเธอจะเข้าเมืองหรือเปล่า?”
ไป๋ซิ่วเหมยถามขึ้นมา ในใจเธอยังคงเคืองพี่สะใภ้อยู่ ลูกชายแต่งงานเรื่องใหญ่ขนาดนี้ดันไม่มา
ซินเหลยก็ไม่มา ซินเหลยเด็กคนนี้โดนแม่เลี้ยงจนเสียนิสัย เมื่อวานไม่มา ยังไงวันนี้ก็ควรมาหรือเปล่า? วันนี้ก็ไม่มา คนในหมู่บ้านต่างพูดกันไปต่างๆ นานา ทำไมเธอไม่คิดถึงพี่ชายกับซินห้าวบ้างเลย? พวกเขาไม่มีหน้าแล้ว เธอยังมีความสุขได้อยู่หรืออย่างไร
“ซินห้าวบอกว่าอีกหลายวันค่อยว่ากัน ฉันตามเขาค่ะ”
เฉินเยี่ยนไม่อยากจะเข้าเมืองไปเห็นหน้าซุนหม่านเซียง และไม่อยากจะไปโดนด่าด้วย ดังนั้นซินห้าวบอกอีกหลายวัน งั้นก็อีกหลายวัน เธอดีใจ
“ก็ได้ เธอไม่ต้องไปกลัวแม่สามีเธอ ถ้าด่าเธอ เธอกลับมาเลย ไม่ต้องไปมองหน้า”
ประโยคนี้ของย่าซินห้าวแสดงให้เห็นว่าเธอเต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อก่อนฐานะเธอถือเป็นว่าคนสำคัญ เทียบกับซุนหม่านเซียงแล้วไม่รู้ว่าสูงส่งมาจากไหน แต่ยุคนั้นลำบากไม่น้อย ดังนั้นเธอเลยลืมฐานะของตัวเองไป สินสอดส่วนมากโดนทำลายหมดแล้ว เหลือเพียงแค่เล็กน้อยเท่านี้เป็นปู่ของซินห้าวที่ช่วยเธอซ่อนไว้ ไม่อย่างนั้นคงโดนคนเอาไปแน่
ตั้งแต่แต่งงานลูกสะใภ้ไม่เคยทำอาหารเลยสักมื้อ เรียกเธอว่าแม่ก็เรียกแบบฝืนใจ ในแววตามีความรังเกียจ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายรักมาก เธอจะมีสะใภ้แบบนี้ได้ยังไง?
หลายปีมานี้ เธอไม่เคยทำหน้าที่ลูกสะใภ้เลย แล้วยังหวังจะให้ภรรยาลูกชายเคารพนบนอบเธอ? เธอยังกลัวว่าหลานสะใภ้จะลำบาก ถ้าลูกสะใภ้กล้าไม่พอใจ งั้นถึงเวลาเธอจะเล่นงานลูกสะใภ้เอง ดูว่าใครจะลำบาก
“ได้ค่ะ”
เฉินเยี่ยนพยักหน้า เธอชอบคำพูดนี้มากเลย เธอชอบคุณย่าคนนี้
ตอนที่คุยกันตอนบ่าย คนบ้านซินก็มากันหลายคน ต่างมาดูเฉินเยี่ยนกัน ถึงแม้เมื่อวานจะเห็นแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้คุยอะไรกัน วันนี้ไม่มีใคร เลยมาเยี่ยมเฉินเยี่ยน พูดคุยกัน จะได้รู้ว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนยังไง
จนตอนที่กินข้าวเย็นก็ยังมีคนมาอยู่ เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าหน้าเธอยิ้มจนเกร็งไปหมดแล้ว คนพวกนี้ก็กระตือรือร้นมาก ทำเหมือนมาดูเธอที่เป็นเป็นสัตว์หายาก แล้วไม่ต้องเสียค่าตั๋วเข้ามาดูด้วย
กินข้าวเสร็จแล้ว เฉินเยี่ยนและซินห้าวกลับบ้านหลังใหม่
จนมาถึงบ้าน เฉินเยี่ยนรู้สึกได้ว่าหลังบ้านมีเงาดำ ดูหลบๆ ซ่อนๆ
เฉินเยี่ยนชี้ แต่ที่จริงแล้วซินห้าวเจอก่อนเฉินเยี่ยนอีก
“ใครน่ะ มาทำอะไร?”
ซินห้าวถามออกไป
“หึหึ ซินห้าวกลับมาแล้วหรือ ลุงกินมากไปหน่อย เลยมาเดินย่อย”
ที่จริงเสียงผู้ชายที่พูดฟังดูเคอะเขิน
แล้วก็คุยกันอีกไม่กี่ประโยค เงาดำนั้นก็จากไป ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามาซุ่มแอบฟังข้างกำแพงแน่นอน เพียงแต่บังเอิญมาเจอพวกเขา
จริงๆ เลย ผ่านไปวันหนึ่งแล้ว คนพวกนี้ทำไมยังเป็นแบบนี้อยู่อีก
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า เข้าไปในบ้านกับซินห้าว
เฉินเยี่ยนกำลังจะจุดตะเกียง แต่โดนซินห้าวกอดไว้ ไม่รอให้เธอร้องอุทาน ร่างก็ถูกอุ้มขึ้นไปวางบนเตียง
เฉินเยี่ยนนับถือซินห้าวจริงๆ มืดขนาดนี้เขายังทำได้แม่นยำมาก ไม่โดนโต๊ะเก้าอี้เลย
คืนนี้ช่างสวยงามราวกับฤดูใบไม้ผลิ ซินห้าวพอใจมากกว่าเมื่อวานอีก เขาเหมือนเด็กที่อยากจะกินแล้วกินอีก พัวพันกับเฉินเยี่ยนไม่หยุดเลย
ที่แท้ทั้งสองคนรักกันมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ที่แท้แค่คุณรักเขา ความรู้สึกที่อยู่ด้วยกันมันดีแบบนี้
เฉินเยี่ยนลูบไล้ผมซินห้าว ร่างกายทั้งสองคนเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ทั้งสองคนยังกอดกันแน่น ไม่รังเกียจกันเลยสักนิด
เฉินเยี่ยนจำได้ว่าชาติที่แล้วทุกครั้งเธอต้องไปล้างให้สะอาด ถ้าตัวอวี๋เหวยหมินมีเหงื่อ มาใกล้เธอ เธอจะรู้สึกไม่สบายตัว จะหลบหลีก แต่ตอนนี้ไม่ใช่ อย่าว่าแต่เหงื่อเลย ซินห้าวกอดเธอ เธอยังรู้สึกมีความสุข
เด็กอายุน้อยนั้นบ้าระห่ำ คืนนี้เฉินยี่ยนร้องอุทานไม่หยุด โชคดีที่เธอถือว่ามีประสบการณ์มาก่อน ไม่อย่างนั้นเจอซินห้าวแบบนี้ เธอรับมือไม่ไหวแน่
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ วันรุ่งขึ้นตอนเฉินเยี่ยนตื่นขึ้นมาเอวยังปวดเลย
ซินห้าวช่วยเฉินเยี่ยนกดจุดลมปราณ หลังความเจ็บปวดคือความสบาย
แต่มือซินห้าวนวดไปนวดมาก็เริ่มไม่อยู่นิ่ง ก่อนที่มือเขาจะซุกซนเฉินเยี่ยนห้ามเขาไว้ วันนี้ต้องกลับบ้านแม่แล้ว
ซินห้าวก็รู้ แต่เขาก็ยังลูบคลำตรงนั้นอยู่ แล้วหัวเราะลุกขึ้นยืน
เฉินเยี่ยนฉีกมุมปากขึ้น ซินห้าวมองอย่างนั้นดูเย็นชา แต่เวลาสองคนอยู่ด้วยกันเธอไม่รู้จักเขาเลย ทุกครั้งเวลาเขาทำเรื่องไม่ดี จะหัวเราะเหมือนเด็กที่แอบกินขนม
กินข้าวเช้าที่บ้านเก่าฝั่งนั้นเสร็จ หยิบของที่บ้านซินเตรียมไว้ให้แล้ว ซินห้าวพาเฉินเยี่ยนกลับบ้าน
เพิ่งจะถึงประตูบ้าน เฉินเยี่ยนก็เห็นหวางจวนและหลัวเหมยที่ท้องใหญ่มากยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ทั้งสองคนพูดคุยกัน แล้วก็มองหา ปรากฏว่ากำลังรอเธออยู่
เห็นซินห้าวและเฉินเยี่ยนมาแล้ว ทั้งสองคนต่างต้อนรับ พวกเขาจะรับของ เฉินเยี่ยนไม่ให้ ทั้งสองคนท้องอยู่ ต้องระวังไว้หน่อย
“รีบเข้าไปเร็ว แม่บ่นตั้งแต่เช้าแล้ว หู่จื่อยังบอกว่าไม่ไปโรงเรียนจะรอพวกเธออีก โดนแม่ว่าเป็นชุด ถึงค่อยยอมไป”
หลัวเหมยบ่น
เฉินเยี่ยนประคองพวกเธอสองคนเดินเข้าไป
มาถึงห้องครัว หวางนิวยืนอยู่หน้าห้องครัวแล้ว เห็นเฉินเยี่ยน นัยน์ตาเธอแดงขึ้นมา รีบหันหลังกลับไป
เฉินเยี่ยนไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองห่างบ้านไปแค่สองวัน พอแม่เจอตัวเองอีกก็ร้องไห้เสียแล้ว
เธอคิดมาตลอดว่าหวางนิวปฏิบัติกับเธอไม่เท่าเฉินเวย
ดูเหมือนเธอคิดผิด
หวางนิวแค่ไม่แสดงออก อีกทั้งเฉินเวยอ่อนแอมาตลอด หวางนิวเลยยิ่งต้องดูแลเฉินเวย
“แม่ รอจนร้อนใจเลยหรือ?”
เฉินเยี่ยนเป็นฝ่ายเข้าไปดึงมือหวางนิว
“เปล่า เปล่า ก็แค่กลัวพวกลูกมาสายกัน รีบเข้าไปนั่งในบ้าน เทชาให้ซินห้าว ควันในนี้กลิ่นติดตัว อย่ามารมควันเลย”
หวางนิวจูงเฉินเยี่ยนไป แล้วทุกคนก็เข้ามาในบ้าน
ในบ้านมีเจ้าอ้วนอยู่ด้วย พอเขาเห็นซินห้าวก็อ้าปากกว้าง หัวเราะได้น่ากลัวมาก
ซินห้าวนั่งลง เจ้าอ้วนยังไม่นั่ง ยืนอยู่ข้างหลังซินห้าว เหมือนเด็กผู้ชาย
“เจ้าอ้วนนั่งสิ ยืนทำอะไร”
หวางนิวเรียกเขา
“ข้าไม่นั่ง ข้ายืนตรงนี้ก็ได้แล้ว”
เจ้าอ้วนเหมือนเทพที่คุ้มครองซินห้าว
“เจ้าอ้วน นั่งลงเถอะ”
หวางจวนส่งสายตาให้เจ้าอ้วน
พอภรรยาเอ่ยปาก เจ้าอ้วนก็รีบนั่งลง ซินห้าวกับเฉินเยี่ยนเห็นแล้วขำ
ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
เฉินเยี่ยนช่วยหวางนิวทำมื้อเที่ยง
เดิมทีหวางนิวไม่อยากให้เฉินเยี่ยนทำอะไร แต่ทั้งสองคนนั้นท้องโตอยู่ เธอก็กลัวว่าจะไปกระแทกอะไร อีกอย่างเฉินเยี่ยนดึงดัน เธอเลยยอม
ผู้หญิงสี่คน สองคนนั่งอยู่ อีกสองคนทำกับข้าว พูดคุยกัน
หลักๆ พวกเธอเป็นกังวลว่าที่บ้านซินจะปฏิบัติไม่ดีกับเฉินเยี่ยน
พอได้ยินเฉินเยี่ยนบอกว่าคนที่นั่นดี คุณย่าซินยังให้กำไลเธอด้วย หวางนิวก็สบายใจ
“ลูกต้องกตัญญูต่อคุณปู่คุณย่านะ แม่ได้ยินมาว่าตอนนั้นย่าลูกเขาก็ลำบากไม่น้อยเลย พวกเราทำเรื่องอกตัญญูไม่ได้นะ”
หวางนิวกำชับเฉินเยี่ยน
“รู้แล้วค่ะ สบายใจได้ แม่ หนูทำเหมือนแม่แน่นอน เป็นภรรยาที่ดี ใครให้หนูเป็นลูกสาวแม่ล่ะ”
เฉินเยี่ยนพยักหน้า เรื่องพวกนี้ไม่ต้องให้หวางนิวสอนเธอก็เข้าใจ