เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 238: สามัคคี
ถึงแม้จะมีลูกชิ้นเต้าหู้ แต่รสชาติของแผ่นเต้าหู้นั้นไม่เหมือนกัน
เธอสับเอาเนื้อติดมัน แล้วหั่นแครอทเป็นชิ้นลูกเต๋ากับต้นหอม
เธอเอาเต้าหู้ แครอท กุ้งเล็ก หัวหอมใส่ลงไปในชามใหญ่ แล้วตอกไข่ลงไป
เหยาะเกลือ ใส่แป้งมันและแป้ง ใช้มือนวดเป็นชิ้นหนา จากนั้นเธอวางไว้ข้างๆ
ช่วยไม่ได้ ครัวบ้านซินมีแค่สองเตา สองหม้อ ในหม้อนั้น เธอต้มโจ๊กธัญพืชน้ำแดงแล้ว เธอเลยไม่มีหม้อใช้แล้ว ทำได้แค่รอนึ่งลูกชิ้นเต้าหู้เสร็จถึงใช้ได้
ฝั่งเฉินเยี่ยนก็เตรียมวัตถุดิบที่จะผัดปลาเส้น
เธอสับปลาจนละเอียด จากนั้นทำเป็นลูกชิ้นปลาสองลูก
ไป๋ซิ่วเหมยประหลาดใจ เฉินเยี่ยนนี่มีความแค้นกับปลาตั้งแต่ชาติที่แล้วหรือเปล่าเนี่ย?
ไม่สิ ปลาทั้งตัวโดนเธอสับหมดเลย เหลือแต่กระดูก ถ้าไม่มีความแค้น จะทำถึงขนาดนี้เหรอ!
เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าเธอบ่นในใจ ถ้ารู้เธอต้องกรอกตาใส่เธอแน่นอน
เธอเอาลูกชิ้นปลามาคลุกในแป้งผสมมันเทศ ทุกบ้านในหมู่บ้านเกษตรกรปลูกมันเทศ ลูกบัวกันหมด เอามาทำก๋วยเตี๋ยว เพราะฉะนั้นแป้งไม่มีขาด
นวดแป้งจนแป้งเกาะตัวกันแล้ว เธอเอาลูกชิ้นปลาแบออกเป็นแผ่นปลา ทำมาถึงตรงนี้ต้องหยุด เพราะไม่มีหม้อแล้ว
อีกอย่างเฉินเยี่ยนยังเตรียมกับข้าวอีกหลายอย่าง เช่น ผัดเส้นมันฝรั่ง ผัดผักกาดขาว อีกทั้งเธอยังเตรียมทำมะเขือยาวชุบแป้งทอด
เตรียมเรียบร้อยแล้ว ดูเวลา ครึ่งชั่วโมงพอดี เอาลูกชิ้นเต้าหู้ออกจากเข่งได้แล้ว
พอเปิดเข่งออกมา กลิ่นหอมก็โชยมาเตะจมูก
กลิ่นหอมแบบนี้ไม่น่าจะไม่อร่อย
ไป๋ซิ่วเหมยคิดในใจ
“คุณป้า ลองชิมดูค่ะ”
เฉินเยี่ยนให้ไป๋ซิ่วเหมยชิม ไป๋ซิ่วเหมยไม่เกรงใจ ถ้าอร่อยก็จะเอาไปเสิร์ฟที่โต๊ะ ถ้าไม่อร่อย ก็เก็บไว้ในครัว แล้วเดี๋ยวเธอค่อยมากิน จะได้ไม่เสียของ
“หืม อร่อยนะ”
เพราะว่าร้อน ไป๋ซิ่วเหมยเลยเป่าปากไปพูดไป เธอคิดว่าเธอไม่เคยกินของอร่อยแบบนี้มาก่อน คิดไม่ถึงเลยว่าทำมาจากเต้าหู้
“งั้นปิดฝาไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเย็นหมด”
เฉินเยี่ยนรู้ว่ารสชาติไม่แย่ก็ดีแล้ว เพราะไม่ได้ทำเมนูนี้มานาน อีกทั้งของก็มีไม่ครบ โชคดีที่ของยุคนี้เป็นของธรรมชาติหมด ดังนั้นเลยไม่เหมือนยุคหลังที่กินเนื้อแล้วยังไม่อร่อย
ล้างหม้อเสร็จ รอจนหม้อร้อน เฉินเยี่ยนก็เทน้ำลงไปในหม้อ เอาปลาแผ่นใส่ลงไปในหม้อต้มที่น้ำเต็มและปรุงรสชาติ แล้วใช้น้ำเย็นล้างแป้งออกจนสะอาด
แผ่นปลาที่ล้างแป้งออกหมดแล้ว ถูกเฉินเยี่ยนสับเป็นเส้นๆ
หม้อฝั่งนี้น้ำมันร้อนพอดี
ดูน้ำมันในหม้อ ไป๋ซิ่วเหมยบ่นในใจ
นี่จะดื่มน้ำมันหรือไง?
เฉินเยี่ยนเอาแผ่นเต้าหู้ลงไปทอด ทอดจนเป็นสีเหลองทองแล้วเอาขึ้นมา
หลังทอดเสร็จ เธอก็ทอดมะเขือยาวต่อ
“เยี่ยนจื่อ เวลาปกติอยู่ที่บ้านเธอกินยังไง? ทำไมใช้น้ำมันเยอะขนาดนี้?”
ไป๋ซิ่วเหมยถาม เพราะเธอคิดว่าฝีมือเฉินยี่ยนดูเชี่ยวชาญมาก แต่ที่บ้านสามารถใช้น้ำมันได้ขนาดนี้เลยหรือ ? นี่ช่างล้างผลาญที่บ้านเหลือเกิน
“บางครั้งค่ะ ตอนที่หนูว่างไม่มีงานก็ชอบทอดของกินเล่น ตอนยุ่งทำไม่ได้”
เฉินเยี่ยนพูดกับไป๋ซิ่วเหมยไปพลาง ทำอาหารไปพลาง ไม่ปล่อยเวลาให้เสียไป
โชคดีที่มีเวลายุ่งด้วย ไม่อย่างนี้แม่เฉินเยี่ยนจะไม่ร้องไห้ทุกวันเลยหรือ เห็นลูกสาวใช้น้ำมันขนาดนี้ เสียดายตาย
นี่คือความคิดในใจของไป๋ซิ่วเหมย
รอจนตักขึ้นมา เฉินเยี่ยนสะเด็ดน้ำมันออก ในหม้อยังเหลืออยู่อีกหน่อย นี่เอาไว้ใช้ตอนผัดกับข้าว
เธอผัดเส้นมันฝรั่งและผักกาดขาว สุดท้ายเธอเทเนื้อที่หั่นเป็นเส้นฝอยเอาลงไปผัด แล้วใส่พริกเส้นฝอยตาม ผัดสักพัก เติมเกลือ ซีอิ้ว ผงชูรส แล้วเทเนื้อปลาเส้นลงไป แล้วผัดอีกสองสามที แบบนี้ถือว่าเสร็จแล้ว ตักใส่จานก็เรียบร้อย
“อาหารพร้อมทานแล้วค่ะ”
เฉินเยี่ยนเดินไปเปิดเข่งยกลูกชิ้นเต้าหู้และหมั่นโถวที่อุ่นร้อนออกมา
ฝั่งไป๋ซิ่วเหมยพอลูกสาวสองคนมายกกับข้าวเข้าไปในโถงบ้าน
“นี่อาหารอะไรเนี่ย ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อน ดมแล้วยังมีกลิ่นหอมแปลกๆ อีกด้วย”
ซินต้าฉุยแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เคยกินมาก่อน
สายตาคุณย่าซินเป็นประกาย ถึงแม้เธอจะไม่เคยกินมาก่อน แต่ตอนเธอเด็กเธออยู่อย่างไม่ลำบากมาก่อน เธอรู้ว่าอาหารพวกนี้ไม่ธรรมดาเลย คิดไม่ถึงว่าหลานสะใภ้คนนี้จะมีฝีมือขนาดนี้
“โอว โจ๊กธัญพืชต้มเสร็จแล้ว อาหารพวกนี้ข้าพอกัดได้ อร่อย”
ซินต้าชุนชิมโจ๊กธัญพืชไปหนึ่งคำ กินลูกชิ้นแล้วปลาเส้น เขาไม่ได้กินเส้นมันฝรั่ง ฟันเขาไม่ดี
ทุกคนให้คะแนนอาหารเที่ยงที่เฉินเยี่ยนทำสูงมาก ไป๋ซิ่วเหมยยังมีความคิดว่า ตัวเองและลูกสาวอีกสองคนอยากจะมาเรียนรู้จากเฉินเยี่ยนบ้าง
ถ้าลูกสาวทั้งสองคนทำเป็นแล้ว อีกหน่อยแต่งงานไป ที่บ้านสามีจะได้ไม่ดูถูก
อาหารที่ทำได้รับคำชื่นชม เฉินเยี่ยนก็ดีใจ แต่สิ่งเดียวที่เธอรู้สึกเสียดายคือซินห้าวไม่อยู่บ้าน
ช่างเถอะ คราวหน้ายังมีโอกาสอีก ตัวเองสามารถทำอาหารให้ซินห้าวกินบ่อยๆ ได้
เฉินเยี่ยนรู้สึกดีใจขึ้นมา
ตอนบ่ายไม่มีอะไรทำ เฉินเยี่ยนกลับห้องไปงีบ เวลาที่นอนตอนกลางคืนนั้นน้อยเหลือเกิน
ตอนเย็นเฉินเยี่ยนผัดกับข้าวอีกสองอย่าง ตอนที่เธอทำกับข้าว ไป๋ซิ่วเหมยกับซินฮุ่ย ซินหลานมาดูอยู่ข้างๆ เฉินเยี่ยนก็ไม่หวงความรู้ ผักต้องหั่นยังไง เวลาไหนใส่อะไร คุมไฟยังไง เฉินเยี่ยนบอกพวกเธอหมดเลย
ทั้งสามคนก็จริงใจมาก ไม่เข้าใจตรงไหนก็ถาม ทำกันสนุกสนาน
จนตอนเย็นซินห้าวกลับมา ถึงแม้เขาจะแสดงท่าทีปกติ แต่เฉินเยี่ยนรู้สึกได้ว่าเขามีเรื่องในใจ
แต่เฉินเยี่ยนไม่ได้ถาม ไม่อยากให้คนที่นี่กังวลตามไปด้วย
จนสองคนเสร็จสิ้นกิจกรรมรัก เฉินเยี่ยนค่อยทำเหมือนเกียจคร้าน ถามซินห้าวว่ามีเรื่องอะไร
“แม่ให้พวกเรากลับไปพรุ่งนี้”
พอพูดถึงซุนหม่านเซียง เสียงซินห้าวก็ทุ้มต่ำลง มือเขาลูบไหล่เฉินเยี่ยนเป็นพักๆ แสดงให้เห็นว่าอารมณ์เขาไม่ค่อยดีเท่าไร
“งั้นก็กลับไปสิ”
เฉินเยี่ยนรู้อยู่แล้วว่าไม่ช้าก็เร็วต้องเผชิญหน้ากัน เธอไม่มีอะไรต้องกลัว
“พรุ่งนี้ที่โรงงานยุ่งมาก ผมพาคุณไปต้องไปที่โรงงาน ผมไม่อยากให้คุณไป”
ซินห้าวพูดแล้วซุกศีรษะไปที่หน้าอกเฉินเยี่ยน ที่จริงนอกจากที่โรงงานยุ่งแล้ว ซุนหม่ายเซียงยังฝากบอกอีกว่า ให้เฉินเยี่ยนมาคนเดียวก็พอ บอกว่าเฉินเยี่ยนเป็นสะใภ้ที่บ้าน เธอไม่กินเฉินเยี่ยนหรอก ให้เธอวางใจได้
แต่ซินห้าวไม่ไว้ใจ เขารู้ว่าแม่เขาไม่ชอบเฉินเยี่ยน ถึงแม้เฉินเยี่ยนจะไม่ใช่คนที่ยอมคน แต่เขาไม่อยากให้ทั้งสองคนขัดแย้งกัน
“โง่จัง แม่คุณไม่กินฉันหรอก วางใจได้ ภรรยาคุณไม่ใช่คนประเภทที่ให้ใครมารังแกได้ ขอแค่คุณไม่กังวลว่าฉันจะโกรธแม่คุณก็พอ”
เฉินเยี่ยนรู้ว่าซินห้าวเป็นห่วงตัวเอง กลัวว่าซุนหม่านเซียงจะทำให้ตัวเองโมโห
“ไม่หรอก คุณรู้อะไรถูกผิด ผมรู้”
ซินห้าวส่ายหน้า เขาไว้ใจเฉินเยี่ยน หลายวันนี้เฉินเยี่ยนเข้ากันได้ดีกับที่บ้านมาก คุณปู่คุณย่า คุณลุงคุณป้า แล้วยังมีน้องสาวเขาทั้งสองคนชอบเธอมาก มีแค่แม่ตัวเอง เมื่อไรแม่ตัวเองจะเข้ากับบ้านนี้ได้นะ?
“เอาล่ะ ไม่ต้องคิดแล้ว วางใจเถอะค่ะ รอคุณเสร็จงานค่อยไปรับฉันก็ได้”
เฉินเยี่ยนลูบผมซินห้าว พอได้เจอแม่เขา ที่จริงแล้วซินห้าวรู้สึกไม่ปลอดภัยเลย
ซินห้าวพยักหน้า แล้วแตะต้องจุดซ่อนเร้นของเฉินเยี่ยน เขาไม่พูดอะไรต่อใช้ปากกลืนกินเข้าไป
เฉินเยี่ยนเม้มริมฝีปาก แต่ก็ไม่อยากปฏิเสธซินห้าว ปล่อยให้ซินห้าวทำตามอำเภอใจ
ในชั่วขณะก็กลายเป็นความสวยงามที่ไม่อาจบรรยายได้อีกครั้ง