เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 240: แย่ง
คำพูดของเฉินเยี่ยนทำให้คนในห้องต่างพุ่งความสนใจมาที่เธอ
“ของอะไร?”
ซุนหม่านเซียงไม่รู้จริงๆ ว่าคุณย่ามีของให้เฉินเยี่ยน
“บ้านซินนั่นจะมีของดีอะไร อย่างมากก็แค่กำไลทองแดงพังๆ!”
คุณยายเบะปาก
“กำไลทองแดง? ไม่มีนะคะ แต่มีกำไลทอง กำไลเงิน แล้วยังมีทองคำแท่งด้วย แต่ให้ฉันมาแท่งหนึ่ง”
เฉินเยี่ยนไม่ได้ปิดบัง นี่เป็นสิ่งที่คุณย่าให้เธอพูดจริงๆ
“เป็นไปไม่ได้! บ้านซินไม่มีทางมีของแบบนี้”
ซุนหม่านเซียงไม่เชื่อ
“จริงด้วย มาโกหกใคร ตอนแรกถ้าครอบครัวซินมีของแบบนี้ ตอนที่มาขอน้องสาวฉันทำไมไม่เอาออกมา?”
คุณน้าคนโตก็ไม่เชื่อ
“คุณย่าบอกว่า หลังแม่แต่งงานกับพ่อ ย่าเคยเรียกแม่ไปที่ห้องย่า ตอนแรกคิดจะให้แม่ เพราะนี่เป็นสินสอด เก็บไว้ให้สะใภ้คนโต แต่แม่ไม่ไป ย่าเลยคิดว่าแม่ไม่อยากได้ คิดว่าแม่เป็นคนในเมืองเลยไม่เสียดาย คุณย่าเลยไม่ได้ให้ ฉันเป็นคนในหมู่บ้าน ไม่เคยเห็นอะไรมาก่อน ฉันเห็นค่า คุณย่าเลยให้ฉันมา”
เฉินเยี่ยนอธิบาย
สีหน้าทุกคนเปลี่ยนไป
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? แม่สามีเธอมีทองจริงหรือ?”
คุณยายถามซุนหม่านเซียง แต่ดูจากท่าทางเธอแล้ว เธอเชื่อ
ซุนหม่านเซียงก็งงงวย เธอพยายามนึกย้อนกลับไป
“มีวันหนึ่งเธอเรียกฉันเข้าไปในห้อง แต่วันนั้นฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันคิดว่าเธอจะเรียกให้ฉันไปปรนนิบัติ เลยไม่ได้ไป ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอจะให้ของฉัน ถ้ารู้ฉันจะไม่ไปหรือ? จริงๆ เลย เธอก็ไม่ได้บอกชัดเจน ยังต้องปิดบังอีก”
ซุนหม่านเซียงนึกขึ้นมาได้แล้วจริงๆ
“เธอนี่นะ เรียกให้เธอไปก็ไปสิ ตอนนี้เป็นไง ดูถูกคนอื่น”
คุณยายจ้องซุนหม่านเซียงตาเขม็ง คิดว่าลูกสาวไม่ได้เรื่อง ไม่ได้อะไรกลับมาเลย
คนที่เหลือต่างมองกันไปมา กำลังตรึกตรองอยู่
“ของล่ะ? เอาออกมาให้ฉัน ฉันเป็นสะใภ้คนโตของบ้านซิน ของนี้ให้เธอไม่ได้ ใครจะรู้ว่าเธอไม่ได้แอบขโมยไปให้ที่บ้านเธอ พวกคนจน ไม่เคยเห็นของมีค่า คนบ้านซินเอาของให้เธอ ของก็ไม่ได้เป็นของบ้านซินแล้ว”
ซุนหม่านเซียงยื่นมือไปทางเฉินเยี่ยนจะเอาของ
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ของนี่ต้องเอาให้แม่สามี”
น้าคนโตก็ร่วมด้วย
เฉินเยี่ยนยิ้มเยาะ ให้ของซุนหม่านเซียงไปต่างหากจะไม่ใช่ของแซ่ซิน
“ขอโทษด้วยค่ะ ตอนที่คุณย่าให้ฉันมาบอกว่า นอกจากให้ลูกฉันแล้ว ไม่ให้ฉันเอาให้ใคร ถ้าแม่อยากได้ แม่ต้องไปหาคุณย่าเองค่ะ”
เฉินเยี่ยนปฏิเสธ เธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพื่อจะให้ซุนหม่านเซียงและครอบครัวเธอเสียดาย ไม่ได้คิดจะให้ซุนหม่านเซียง
“ที่ย่าเธอยังมีอีกหรือเปล่า”
คุณยายถามเฉินเยี่ยน ในแววตายังมีประกายความหวัง ถ้าของนี้เป็นของบ้านซุนก็ดี
“มีค่ะ แต่คุณย่าบอกว่าที่เหลือจะเก็บไว้ให้ซินเหวย”
เฉินเยี่ยนกะพริบตา เธอชอบสีหน้าของคนบ้านซุนตอนนี้เหลือเกิน นี่คือจุดประสงค์ที่คุณย่าให้เธอมาพูด
“ทำไมต้องให้ซินเหวย? ทำไมไม่ให้ซินเหลย?”
ซุนหม่านเซียงร้อนรน เสียงสูงขึ้นมาแปดหลอด
“เพราะคุณป้ารองคอยปรนนิบัติคุณย่ามาตลอด ดังนั้นคุณย่าเลยแบ่งไว้ให้ซินเหวย”
เฉินเยี่ยนบอกเหตุผล แต่นอกจากความโกรธและไม่พอใจแล้ว ซุนหม่านเซียงเธอไม่ได้ละอายเลย
เฉินเยี่ยนแอบส่ายหน้า
“เอาส่วนของเธอมาแบ่งให้ซินเหลย ทองคำ กำไลทองเอาให้ซินเหลยให้หมด อีกหน่อยซินเหลยแต่งงานต้องใช้ กำไลเงินเธอเก็บไว้คู่เดียวพอ”
สุดท้ายซุนหม่านเซียงสั่งเฉินเยี่ยน
นี่ฉันโง่หรือเธอโง่กันแน่ เอาของให้เธอ? สมองฉันไม่ได้มีไว้รองน้ำนะ เฉินเยี่ยนมองซุนหม่านเซียงอย่างเวทนา ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยนะ
“คุณอา เอากำไลให้ฉันคู่หนึ่งได้ไหม?”
ซุนซิ่วลี่พูดด้วยความเขิน เดือนสิบปีนี้เธอต้องแต่งงานแล้ว ถ้าเธอมีกำไลทองสักคู่ คนบ้านสามีจะไม่ดูถูกเธอแน่นอน
“ฉันก็อยากได้”
ซุนซิ่วจวนเห็นพี่เอ่ยปาก เธอก็พูดบ้าง ถึงแม้เธอจะเด็กกว่าซุนซิ่วลี่หนึ่งปี แต่เธอก็มีคู่หมั้นแล้ว อีกอย่าง ของดีทำไมต้องให้แต่พี่ซิ่วลี่?
“น้องสาว เห็นไหมว่าอีกเดือนกว่าซิ่วลี่เขาจะแต่งงานแล้ว ถ้ามีกำไลทองสักคู่หนึ่ง พวกเราบ้านซุนก็คงจะไม่ขายหน้า”
น้าคนโตทำมาตีสนิท เพื่อผลประโยชน์ของลูกสาวตัวเอง
“พี่ ปกติซิ่วจวนชอบอามาก กำไลนี่ไม่ให้ซิ่วจวนไม่ได้หรอก?”
น้าคนที่สามก็พูดเพื่อลูกสาวตัวเอง
มีเพียงน้าคนที่สอง ไม่พูดอะไรสักคำ ซิ่วหลานลูกพี่ลูกน้องก็ไม่พูดอะไร
“พอได้แล้ว ไม่ต้องแย่งกัน พวกเธอพอแต่งออกจากบ้านไปก็ไม่ใช่คนบ้านซุนแล้ว ให้พวกเธอไป จะได้อะไร! กำไลทองนี่ต้องให้หลานชายคนโตของฉันเท่านั้น หม่านเซียง เธอเอาของมาให้ฉัน ที่บ้านสามีเธอยังมีอยู่อีกไม่ใช่หรือ? เอามาให้ซินเหลย อย่าให้ตกไปเป็นของบ้านป้ารองนั่น พวกเธอไม่ใช่คนดีอะไร มาคอยห้อมล้อมแม่สามีเธอก็หวังผลประโยชน์ทั้งนั้นแหละ”
สุดท้ายคุณยายพูดขึ้นมา ของพวกนี้ต้องเอาให้หลานชายคนโต
เฉินเยี่ยนอึ้งพูดอะไรไม่ออก ถ้าเธอจำไม่ผิด เธอยังไม่ได้ตกลงเลยนะ? ทำไมแต่ละคนถึงมาขอแบ่งนะ
ของนี้ยังอยู่กับเธอไม่ผิดใช่ไหม?
“ได้ งั้นก็ทำตามที่แม่บอก”
ซุนหม่านเซียงพยักหน้า เธอถือว่ามีความกตัญญูกับแม่เธออยู่ ไม่อย่างนั้นตอนนั้นคงไม่รับแม่เธอมาดูแลอยู่ที่บ้าน
เห็นลูกสาวตอบตกลง คุณยายก็พยักหน้าพอใจ
สีหน้าของน้าสาม ซินซิ่วลี่ ซินซิ่วจวนต่างดูไม่ดีเลย
แต่น้าคนโตกลับพอใจ เพราะเธอเป็นคนคลอดหลานคนโต ของนี้ย่อมตกมาอยู่ในมือเธอ
“นี่ยังไม่รีบไปเอาของออกมาอีก รีรออะไรอยู่”
ฝั่งซุนหม่านเซียงก็ตะคอกใส่เฉินเยี่ยนอย่างหงุดหงิด
“ฉันไม่ได้บ้า ก็บอกแล้วไม่ใช่หรือคะ? ฉันจะไม่เอาออกมา พวกคุณก็ไม่ต้องแย่งกันด้วย ของเป็นของฉัน”
เฉินเยี่ยนหัวเราะเย็นชา แต่ละคนเห็นเธอเป็นอะไร
“ถ้าเธอไม่เอาออกมา เธอก็ไม่ต้องคิดจะเข้ามาบ้านหลังนี้เลย!”
น้าคนโตขู่เฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนมองเธออย่างสงสาร ตอนนี้ตัวเองไม่ได้กำลังอยู่ในบ้านหลังนี้หรือไง
“จะเอาออกมาไหม? ถ้าไม่เอาออกมาก็อย่าหาว่าฉันลงมือนะ”
น้าคนโตใจร้อน ของนี่เป็นของเธอ ของเธอ!
“โง่จัง ฉันจะพกของออกมานอกบ้านทำไม? ของนี้เอาไปซ่อนนานแล้ว”
เฉินเยี่ยนคิดว่าคนบ้านซุนนี่ไม่เต็มสักคน
เฉินเยี่ยนพูดแบบนี้ พวกเขาก็เห็นด้วย ใครก็คงไม่พกของแบบนี้ออกจากบ้านมาด้วยหรอก แต่พวกเขาไม่พอใจ นั่นทองคำแท่งเชียวนะ
“ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เธอกลับไป แล้วไปเอาของคุณย่ามา ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบที่นั่น แต่กำไลทอง ทองคำแท่งนั่น เดิมทีมันควรจะเป็นของบ้านเรา ถ้าเธอไม่เอา ก็จะตกอยู่ในมือของป้ารอง”
คุณยายพูดกับซุนหม่ายเซียง
“ได้ค่ะ พรุ่งนี้หนูจะกลับไป”
ซุนหม่านเซียงตกลง จากนั้นเธอจ้องเฉินเยี่ยนตาถมึงแล้วพูด “ทางที่ดีเธอเอาของมาให้ฉันให้หมด ไม่อย่างนั้นเธออย่าหวังจะมีความสุขเลย อย่าคิดว่าซินห้าวเขาปกป้องเธอนะ บอกเธอให้ เขาเป็นลูกชายฉัน ฉันเป็นแม่สามีเธอ ถ้าเธอเป็นศัตรูกับฉัน เธอไม่มีทางมีชีวิตที่ดีแน่!”
เฉินเยี่ยนมองความรังเกียจในสายตาของซุนหม่านเซียง ไม่รู้ว่าเธอเกลียดตัวเองหรือเกลียดที่จะต้องกลับไปบ้านนอก แต่คำพูดขู่แบบนี้เธอฟังมามากแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่ใจจริงไหม?
“ได้สิ”
เฉินเยี่ยนยิ้มพยักหน้า คนฝั่งบ้านซินนิสัยไม่แย่เลย มีแค่โจวเยว่จี้นั่นคนเดียว เธอก็ไม่ได้มาบ้านซินบ่อย ตอนนี้มีแค่แม่สามี แล้วยังมีของมีค่าขนาดนั้นอีกเป็นกอง เธอไม่กังวลว่าชีวิตจะน่าเบื่อแล้ว