เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 243: ขอกอด
“พอเถอะ เยี่ยนจื่อ เราไปกัน”
ซินห้าวคว้าเฉินเยี่ยนไว้ สีหน้าเขาไม่เปลี่ยน แต่ในแววตาเขากลับมีความเสียใจที่พูดไม่ออกอยู่ แต่เขาไม่อยากจะทะเลาะต่อไปแล้ว
“ได้ ไปค่ะ ไม่ต้องกลับมาอีกแล้ว”
เฉินเยี่ยนพยักหน้า มองซินห้าว นัยน์ตาเธอแดง ซินห้าวโดนตบ เธอเสียใจยิ่งกว่าตัวเองโดนตบเสียอีก เธออยากจะตบกลับแทนซินห้าวเหลือเกิน แต่เธอทำไม่ได้ เพราะซุนหม่านเซียงมีฐานะเป็นแม่
ซินห้าวจูงเฉินเยี่ยนเดินไป ตอนที่เดินไปเขาไม่หันหลับมามองอีกเลย
ซุนหม่านเซียงมองเบื้องหลังของพวกเขา แล้วมองมือเธอ เมื่อกี้เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ตบลงไป เธอรู้สึกเสียใจอยู่หน่อย
ถ้าลูกชายไม่กลับมาอีกจริง เธอจะทำยังไง?
“ช่างเป็นเด็กจิตใจไม่ดีเลย แต่งภรรยาแล้วก็ไม่ต้องการแม่ ไม่กตัญญูเลย”
น้าคนโตกำลังด่าอยู่
ถูกต้อง!
ซินห้าวจิตใจไม่ดี เขาไม่กตัญญู เขาปกป้องผู้หญิงคนนั้น อย่าโทษเธอ เธอไม่ผิด! ซุนหม่านเซียงหาข้ออ้างให้ตัวเอง
ระหว่างทางกลับ เฉินเยี่ยนโอบเอวซินห้าวไว้แน่น
“ไม่เป็นไร แม่ไม่มีใจให้ แต่ผมยังมีแม่ยายอยู่”
ซินห้าวขี่จักรยานไปปลอบใจเฉินเยี่ยนไป
“อืมอืม แม่ฉันตามใจลูกมากเลย แม่ต้องดีกับคุณแน่ค่ะ”
เฉินเยี่ยนรีบพยักหน้า ซินห้าวยิ้มพูดแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าอารมณ์เขายังไม่แย่ขนาดนั้น บางทีโดนทำร้ายมามาก นานวันเข้า เขาเลยชินแล้ว
“ได้ ให้แม่ฉันรับคุณเป็นลูกชาย”
ซินห้าวหัวเราะ แต่รอยยิ้มนั้นได้ออกมาจากแววตา ในใจบอกว่าไม่เสียใจนั้นโกหก ความเสียใจ ความโกรธนั้นแทบจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ แต่เขาทำได้แค่อดทน
กลับมาที่บ้านซิน กำลังกินข้าวกันพอดี
เพราะว่าท้องฟ้ามืดเร็ว แล้วซินห้าวก็ตั้งใจจะปิดบัง ดังนั้นคนบ้านซินไม่มีใครรู้ว่าซินห้าวโดนตบมา
กินข้าวเสร็จ เฉินเยี่ยนเอาของออกมาแบ่ง ทุกคนดีใจกันมาก คิดว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนมีน้ำใจ
ตอนที่รอซินห้าวคุยกับคุณปู่อยู่ข้างนอก เฉินเยี่ยนพาคุณย่าเข้าไปในห้อง
ช่วงนี้ซุนหม่านเซียงอาจจะกลับมาที่หมู่บ้าน เธอควรให้คุณย่าเตรียมการป้องกันไว้
“วางใจเถอะ ฉันรู้ดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้เธอไปบอกพวกเขาหรอก”
คุณย่าตบเฉินเยี่ยนเบาๆ เธอรู้ว่าหลานสะใภ้เป็นห่วง
“อืม งั้นพรุ่งนี้หนูไม่ไปโรงงานนะคะ หนูจะรออยู่ที่บ้าน”
เฉินเยี่ยนจะดูว่าซุนหม่านเซียงจะมาไหม
“ได้”
คุณย่าไม่ปฏิเสธ
สุดท้ายเฉินเยี่ยนก็ไม่ได้บอกเรื่องที่ซินห้าวโดนตบให้คุณย่าฟัง เธอกลัวว่าย่าจะโกรธ อีกอย่างนี่เป็นความเจ็บปวดของซินห้าว เธอไม่อยากพูด
กลับมาที่บ้านใหม่ เฉินเยี่ยนดูหน้าซินห้าว ส่องไฟด้านหน้า ดูอย่างละเอียด บนใบหน้ายังมองเห็นรอบฝ่ามืออยู่ เห็นได้ชัดว่าซุนหม่านเซียงออกแรงมากขนาดไหน
เฉินเยี่ยนสงสารเป่าให้ซินห้าว
ซินห้าวมองเฉินเยี่ยน เขาคิดว่าตลกดี ที่จริงเขาไม่เจ็บตั้งนานแล้ว ตอนฝึกวรยุทธ์มามีกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องปกติ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รอยฟกช้ำดำเขียวบนตัวเขาไม่หายไปเลย
แต่ความสงสารของเฉินเยี่ยนทำให้เขาสบายใจมาก
“ภรรยา ผมเจ็บ”
ซินห้าวซบลงไปบนตัวเฉินเยี่ยน หน้าตาขอกอด ขอการปลอบ
เฉินเยี่ยนไม่สงสัย ถึงแม้จะรู้ความคิดซินห้าว เธอก็ยอม เธอยอมเอ็นดู
“เอาล่ะ พี่สาวจะกอดนะ พี่สาวสงสารนะ”
เฉินเยี่ยนตบซินห้าวเบาๆ ทำท่าเหมือนพี่สาวกำลังโอ๋อยู่
“งั้นพี่สาวจะจูบไหม จูบน่ะ?”
ซินห้าวยื่นปากเข้ามาใกล้
“จูบ จูบก็จูบ จูบ”
เฉินเยี่ยนกับซินห้าวหยอกล้อกัน จากนั้นก็จูบลงไป
ฉากต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นย่อมคิดได้กันอยู่แล้ว เพราะว่าสงสารซินห้าว เฉินเยี่ยนเลยดูแลความรู้สึกซินห้าวเป็นพิเศษ ปล่อยตามใจให้เขาเกเร
จนซินห้าวกอดเฉินเยี่ยนจนพอใจแล้ว เวลานี้เขาลืมไปหมดทุกสิ่งแล้ว เพียงแค่เฉินเยี่ยนอยู่ในอ้อมกอดเขา เขาก็ได้ครอบครองทั้งโลก
วันถัดมาซินห้าวไปโรงงาน เดิมทีเฉินเยี่ยนคิดจะไป แต่เธออยากจะอยู่บ้านรอซุนหม่านเซียง
แต่เธอรอมาทั้งเช้า ก็ยังไม่เห็นใคร กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้ว เฉินเยี่ยนขี่จักรยานไปโรงงานม้วนบุหรี่
ไม่ได้มาหลายวัน เฉินเยี่ยนรู้สึกคิดถึง
มองดูรอยยิ้มบนใบหน้าแต่ละคน ต่างแสดงความยินดีกับตัวเอง เฉินเยี่ยนรู้สึกผูกพัน มาทำงานเธอรู้สึกสบายใจ
เฉินเยี่ยนตรวจตรารอบๆ พบกว่าการทำงานราบรื่นดี เธอเลยสบายใจ
ทำยาเส้นเสร็จ เธอไปดูออเดอร์ เฉินเยี่ยนพยักหน้าอย่างพอใจ
“ครั้งที่แล้วหัวหน้าบอกพ่อว่าอยากจะเพิ่มคนอีกหน่อย เขาคิดจะส่งคนงานในอำเภอมาเพิ่มอีกสิบคน”
เฉินจงบอกความตั้งใจของหัวหน้าให้เฉินเยี่ยนฟัง
“เยอะขนาดนี้? ที่อำเภอส่งมาสิบคน พวกเราหาอีกสิบคน โรงงานนี้ก็จะมีคนงานห้าสิบกว่าคนแล้ว เยอะเกินไปนะคะ? ถ้าจะเพิ่มคน หนูว่าเพิ่มไม่กี่คนก็พอแล้ว โรงงานนี้ พูดขึ้นมาก็คือโรงงานหนึ่ง แต่ใหญ่ขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้คนมากขนาดนั้น”
เฉินเยี่ยนคำนวณ ถ้าต้องเพิ่มอีกยี่สิบคน เยอะเกินไป ใช้ไม่หมด นอกจากจะขยายโรงงาน แต่ครั้งที่แล้วเธอถามหัวหน้า หัวหน้าไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอสร้างอีกตึก
“ความหมายของหัวหน้าคือเอาแต่คนงานในอำเภอมา พวกเราไม่ต้องหาแล้ว”
ที่เฉินจงไม่เห็นด้วยมาตลอด ก็เพราะเรื่องนี้ ตอนแรกคุยกันแล้วว่า คนงานแต่ละฝั่งหามาคนละครึ่ง ถ้าเอามาแต่คนในอำเภอ พวกเขาก็รับคนไม่ได้ ความตั้งใจแรกพวกเขาอยากจะรับคนในหมู่บ้านมา
คนในหมู่บ้านขยัน เก่ง และสนิทกับพวกเขาด้วย
เฉินเยี่ยนขมวดคิ้ว หัวหน้านี่คิดจะมาไม้ไหนอีก เขารอแบ่งเงินอยู่ดีๆ ไม่ได้หรือไง? ทำไมเรื่องมากแบบนี้!
“พรุ่งนี้หนูจะไปในอำเภอดู ตอนแรกก็ตกลงกันแล้ว ถ้าอาศัยพวกเขา อีกหน่อยพวกเราก็อย่าคิดจะหาคนเองเลย เป็นคนของพวกเขาทั้งหมด จะปั่นป่วนเอาได้ง่าย”
เฉินเยี่ยนคิดว่าไม่ปล่อยให้เป็นตัวอย่างก่อน
“กลัวว่าจะพูดไม่สำเร็จ พ่อคุยกับเขาตั้งนาน”
เฉินจงส่ายหน้า เขาพูดสิ่งที่เขาควรพูดไปหมดแล้ว แต่หัวหน้าบังคับเขา บอกว่าอำเภอเป็นคนตัดสินใจ
“หนูไปถามก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เฉินเยี่ยนไม่อยากยอมแพ้ นี่เป็นสิทธิและผลประโยชน์ เธอต้องแย่งมา
จนตอนเย็น เฉินเยี่ยนบอกเรื่องนี้กับซินห้าว
ซินห้าวสนับสนุนความคิดของเฉินเยี่ยน แต่เขาก็เข้าใจ เรื่องแบบนี้ที่ไหนก็มี
เขาถามว่าต้องการให้เขาไปเป็นเพื่อนไหม เฉินเยี่ยนส่ายหน้า อันที่จริงเธอไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจเหตุผลนี้ เพียงแต่เธออยากจะให้โรงงานม้วนบุหรี่นี้อยู่ต่อยาวอีกนิดหนึ่ง ไม่อยากโดนคอมมูนทำจนพัง
“ฉันไปเองดีกว่าค่ะ”
เฉินเยี่ยนไม่อยากให้ซินห้าวไป เรื่องอะไรก็ให้ซินห้าวคอยช่วยแก้ปัญหา งั้นตัวเธอก็ไร้ประโยชน์เกินไปแล้ว
วันรุ่งขึ้นหลังซินห้าวไปแล้ว เฉินเยี่ยนขี่รถไปคอมมูน
พอหัวหน้าเห็นเฉินเยี่ยนก็ปวดหัว
พูดตามตรง เฉินเยี่ยนช่วยคอมมูนหาเงินได้ เขาชอบเฉินเยี่ยน แต่เฉินเยี่ยนคนนี้ จะพูดยังไงดี ไม่คิดถึงคนอื่นเลย เรื่องอะไรก็ต้องมาหาตัวเอง ไม่เข้าใจความยากลำบากของตัวเองเลย
แต่สำหรับเฉินเยี่ยน เขาทำอะไรไม่ได้ หนึ่งคือสูตรอยู่ในมือเฉินเยี่ยน สอง เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับซินชาน
อีกสองปีเขาจะเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว ถึงตอนนั้นคนที่มารับตำแหน่งต่อจากเขาต้องเป็นซินชานแน่นอน
เขาไม่แน่ใจว่าตัวเองจะได้เลื่อนขั้นหรืออะไร ดังนั้นฝั่งซินชานเขาก็ไม่อยากสร้างความลำบากใจ ยังไงครอบครัวเขาก็อยู่ในอำเภอ