เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 251: เรื่องที่มีความสุขที่สุด
คิดเรื่องเฉินเวยจบ เฉินเยี่ยนก็คิดถึงอวี๋เหวยหมิน
พูดถึงอวี๋เหวยหมิน อวี๋เหวยหมินแต่งงานแล้ว
เป็นคนที่หลัวเหมยเล่าให้เธอฟังครั้งนั้น
ภรรยาอวี๋เหวยหมินชื่อซุ่ยชิวเหมย เฉินเยี่ยนเคยเห็นครั้งหนึ่ง หน้าตาไม่แย่เลย ผิวขาวมาก ตาเฉี่ยว ปากเล็ก เทียบกับผู้หญิงที่ผิวคล้ำแล้วน่ามองกว่ามาก มิน่าอวี๋เหวยหมินถึงชอบ
แต่ซุ่ยชิวเหมยมีท่าทางโอหัง มักจะใช้หางตามองคนอื่น ไม่เคารพเฉินซุ่ยด้วย
เดิมทีเฉินซุ่ยหวังจะให้สะใภ้คนนี้มาคอยปรนนิบัติเธอ ปรากฏว่าสะใภ้คนใหม่แต่งเข้ามาทำอะไรไม่เป็นเลย ทุกวันนอนกกกับอวี๋เหวยหมินจนเก้าโมงเช้าค่อยตื่น เธอกลายเป็นคนปรนนิบัติสะใภ้เสียเอง
เธอด่าไปหลายประโยค ซุ่ยชิวเหมยบอกว่าตอนกลางคืนโดนสามีทรมานจนปวดเอวเจ็บหลังไปหมด แล้วยังให้เฉินซุ่ยทำของดีบำรุงให้เธอกินอีก ไม่อย่างนั้นก็ให้ลูกชายเธออยู่ห่างจากเธอ
ทำเอาเฉินซุ่ยโมโหจนทนไม่ไหว
เธอด่าซุ่ยชิวเหมยว่าหน้าด้าน คำพูดแบบนี้ยังพูดออกมาได้
แต่อวี๋เหวยหมินกลับคิดว่าแม่ตัวเองเรื่องมาก เขาเพิ่งแต่งงานเอง กำลังเป็นช่วงข้าวใหม่ปลามันอยู่ อีกทั้งภรรยาคนนี้ก็เปิดกว้างมาก ทำให้ตอนกลางคืนเขามีความรู้สึกอีกแบบ ถ้าไม่ให้เขาเข้าใกล้ภรรยา เขาจะทนได้ยังไง
พอเห็นลูกชายกับลูกสะใภ้เป็นพวกเดียวกัน เฉินซุ่ยเลยรู้สึกเสียใจ
เดิมทีเฉินซุ่ยคิดว่าสินเดิมของสะใภ้คนนี้มีมาก แต่คิดไม่ถึงว่าแต่งเข้ามามีอยู่ไม่กี่อย่าง บอกว่ากลัวบ้านอวี๋โลภอยากได้สินเดิมของเธอ บอกว่าแค่มีกินมีใช้ก็พอแล้ว
ทุกวันเฉินซุ่ยยังคงยุ่งทั้งงานบ้านงานในไร่ ตอนนี้ยังเพิ่มมาอีกคนให้ปรนนิบัติ เธอย่อมไม่พอใจแน่นอน
ดังนั้นเฉินซุ่ยจึงด่ากระทบทุกวัน แต่งานที่ทำก็ยังต้องทำอยู่
ส่วนซุ่ยชิวเหมยเหรอ? อยากว่าก็ว่าไป ฉันจะทำของฉัน ฉันดีใจก็อยู่ที่นี่ ไม่ดีใจก็กลับไปอยู่บ้าน
ส่วนอวี๋เหวยหมิน ก็ไม่ว่าซุ่ยชิวเหมยเลย บางครั้งยังไปอยู่บ้านซุ่ยชิวเหมยตั้งสองวัน แล้วยังคิดว่าที่บ้านซุ่ยชิวเหมยไม่แย่เลย ว่าแม่เขาเรื่องมาก
เห็นเขาติดหนึบกับภรรยาใหม่ขนาดนี้ กลัวว่าเดี๋ยวก็ลืมแล้วว่าเฉินเวยเป็นใคร
ผู้ชายคนนี้นะ คำพูดหวานของเขา เชื่อถือไม่ได้ที่สุด
แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเฉินเยี่ยน เธอแค่สนใจความสัมพันธ์ของเธอและซินห้าวสองคน คนที่บ้านมีชีวิตที่ดีก็พอ
ส่วนเฉินเยี่ยนและซินห้าวนอกจากตอนกลางวันที่ต่างคนต่างยุ่งจนไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นแล้ว แต่ตอนกลางคืนก็ยังคงไม่ต่างจากตอนที่เพิ่งแต่งงานใหม่
แต่พอคิดดูเธอแต่งงานมาได้หลายเดือนแล้ว แต่ท้องเธอยังไม่มีความเคลื่อนไหวเลย แต่เฉินเยี่ยนก็ไม่รีบ ซินห้าวยิ่งพูดว่าทางที่ดีอีกหลายปีค่อยมีลูกก็ได้ พวกเขาก็จะได้ใช้ชีวิตอยู่กันในโลกของสองคน
ฝั่งเฉินเยี่ยนและซินห้าวนี่ดีมาก แต่ช่วงนี้เฉินเยี่ยนยังไม่กล้ากลับบ้าน โดยเฉพาะหลังจากรู้คำตัดสินของเฉินเวย เธอกลัวที่จะเผชิญหน้ากับน้ำตาของหวางนิว
สำหรับเธอแล้ว เฉินเวยเป็นแค่ผู้หญิงแรดคนหนึ่ง เป็นศัตรูเธอ แต่สำหรับหวางนิวแล้ว เฉินเวยเป็นลูกสาวของหวางนิว ลูกสาวติดคุก คนเป็นแม่จะไม่เสียใจได้ยังไง?
ดังนั้นเฉินเยี่ยนเลยไม่กลับไป ไม่เห็นตัวเอง หวางนิวจะได้ไม่ต้องคิดมาก หลัวเหมยใกล้คลอดแล้ว น่าจะภายในเดือนหนึ่ง มีหลัวเหมยที่ท้องโตขนาดนั้นให้ดูแล คิดว่าไม่กี่วันหวางนิวจะค่อยๆ ดีขึ้น ถึงตอนนั้นเธอค่อยกลับไป คิดว่าหวางนิวน่าจะสงบขึ้นมาก
เฉินเยี่ยนเดาไม่ผิดจริงด้วย ตอนแรกหลังจากรู้ข่าว หวางนิวร้องไห้มาตลอดหลายวัน ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับ อารมณ์ฉุนเฉียวง่าย ใครมาพูดอะไรกับเธอ เธอก็โมโหใส่คนนั้น จากนั้นก็นั่งอยู่ตรงนั้นร้องไห้โฮอยู่นาน
แต่ผ่านไปหลายวัน หวางนิวก็ค่อยๆ ยอมรับแล้ว ยังไงเรื่องก็ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว เธอทำได้แค่หวังให้ลูกสาวเธออยู่ดี หลังออกมาแล้วเข้าใจเรื่องราว ถึงตอนนั้นเธอค่อยให้เฉินกุ้ย เฉินเยี่ยนและเฉินหู่ช่วยเหลือ ที่บ้านมีที่อยู่ของเฉินเวย มีเงินให้เธอ แล้วค่อยช่วยเธอหาสามที่ภรรยาเสียชีวิตแล้ว คิดว่าครึ่งชีวิตที่เหลือเฉินเวยคงพออยู่ได้
หลังหวางนิวคิดได้ ตอนที่เฉินเยี่ยนและซินห้าวไปมองของขวัญปีใหม่ หวางนิวก็ไม่ได้บ่นแล้ว และดีกับซินห้าวมากด้วย
เห็นหวางนิวกลับมาเป็นปกติ เฉินเยี่ยนก็สบายใจแล้ว
มอบของขวัญปีใหม่ ให้ค่าจ้างคนงาน แจกของ ก็ได้หยุดแล้ว
ฝั่งซินห้าวก็หยุดเหมือนกัน เขาและเฉินเยี่ยนอยู่ที่บ้านทั้งวัน เก็บกวาด ล้างถู ทอดของทอด นึ่งแป้ง พริบตาเดียวก็เข้าวันที่สามสิบแล้ว
นี่เป็นปีแรกที่เธอจะได้ฉลองปีใหม่ที่บ้านซิน และก็เป็นปีสุดท้ายของยุดเจ็ดศูนย์ด้วย ปีหน้าก็จะเข้าปีแปดศูนย์แล้ว เป็นยุคใหม่ เป็นการเริ่มต้นใหม่
วันที่สามสิบ อาหารเต็มโต๊ะ คนนั่งเต็มโต๊ะ กินดื่มกันอย่างครื้นเครง คุณปู่ซินต้าฉุย ลุงสองซินฉุ่ยและซินห้าวเล่นทายนับนิ้วกัน สิ่งที่ทำให้เฉินเยี่ยนนึกไม่ถึงคือซินห้าวเล่นทายนับนิ้วเก่งมาก ดูชายหนุ่มรูปหล่อที่เย็นชาขนาดนี้เล่นทายนับนิ้ว เฉินเยี่ยนรู้สึกตลก
รอยยิ้มของคุณย่ามีความเมตตา ใบหน้าของป้ารองก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน พวกเธอกำลังมองดูสามีของตัวเอง ตัวเธอเองก็เช่นกัน
วินาทีนี้เฉินเยี่ยนรู้สึกได้ถึงความสุขจริงๆ ความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันกับคนที่ตัวเองชอบ คนที่ตัวรัก ถึงแม้ว่าชีวิตจะเรียบง่าย แต่เธอก็รู้สึกได้
ความสมบูรณ์เพียงอย่างเดียวที่ขาดหายไปคือซินชาน ซุนหม่านเซียงและซินเหลยไม่ได้กลับมา
เดิมทีซินชานบอกว่าเขาจะพาซินเหลยและซุนหม่านเซียงกลับมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ตอนนี้เหมือนซุนหม่านเซียงจะเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนบ้างแล้ว อารมณ์ไม่เหวี่ยงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
แต่ตั้งแต่วันที่สิบห้าเดือนสิบสอง คุณยายซินห้าวก็ไม่สบาย บอกว่าอยากให้หลานมาคอยอยู่เคียงข้าง กลัวว่าจะอยู่ไม่พ้นปีใหม่ กลัวว่าตอนเธอตายจะไม่มีใครอยู่ข้างเธอ ดังนั้นซุนหม่านเซียงเลยขอร้องไม่ให้ซินชานกลับหมู่บ้านเกษตร ให้ฉลองปีใหม่ในเมือง กลัวว่าแม่เธอจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ตอนแรกที่ซินชานกลับมาบอก ทุกคนคิดว่าร้ายแรงมาก คุณปู่คุณย่ายังให้ซินห้าวพาเฉินเยี่ยนเตรียมของโดยเฉพาะเข้าเมืองไปเยี่ยมคุณยาย
เวลาปกติทะเลาะก็คือทะเลาะกัน ไม่ว่าจะยังไง นั่นเป็นคุณยายของซินห้าว ยังไงตอนที่จะจากก็ไม่สามารถไม่ไปเจอหน้าได้
แต่วันที่ยี่สิบหกเดือนสิบสองเฉินเยี่ยนไปเยี่ยมคุณยาย
กำลังวังชาขนาดนั้น เฉินเยี่ยนไม่รู้สึกเหมือนคนที่ใกล้จะไปแล้วเลย ยังมีชีวิตชีวาอยู่เลย แต่เธอร้องตลอดเวลาว่าไม่สบาย บอกว่าใกล้จะตายแล้ว อยากให้มีคนอยู่ข้างๆ จะปีใหม่แล้ว ไม่อยากให้ไม่มงคล เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้เปิดโปงเธอ
เพียงแต่ตอนที่กลับมาบอกที่บ้าน บอกว่าก่อนปีใหม่ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนก็สบายใจ
ฝั่งซินชาน เพราะซุนหม่านเซียงขอร้อง เลยไม่ได้กลับมาฉลองปีใหม่ ถึงแม้ซินชานจะไม่สบายใจ แต่หลายปีมานี้ก็เป็นแบบนี้มาตลอด อีกทั้งมีซินห้าวและเฉินเยี่ยนกลับไปอยู่เป็นเพื่อนซินต้าฉุย เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา
พวกเขาไม่อยู่ คนน้อยลง แต่ก็น้อยเรื่องด้วยเช่นกัน
วันนี้ซินห้าวดื่มเหล้าไปไม่น้อย ตอนกลางคืนเพราะเมาเลยไม่ได้รบกวนเฉินเยี่ยน เห็นท่าทางซินห้าวที่เหมือนเด็กแล้ว มองดูสายตาคู่นั้นที่ดูขมุกขมัวและเยิ้มเล็กน้อยเพราะว่าดื่มเหล้าเข้าไป รู้สึกได้ถึงแรงที่เขากอดแขนตัวเอง ฟังคำบอกรักของเขาเพียงผู้เดียว เฉินเยี่ยนรู้สึกใจละลาย
เธอรักผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไง เธอจะรักษาเขาไว้ เธอและเขาจะใช้ชีวิตด้วยกัน เธอจะมีลูกให้เขาหลายคน ตอนที่พวกเขาแก่ ทั้งสองคนจะนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก มองดูหลานชายและหลานสาววิ่งเล่นกัน นั่นเป็นเรื่องที่เธอคิดแล้วมีความสุขที่สุด