เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 253: ละครที่มีสีสัน
เฉินเยี่ยนเกือบจะลืมคนชื่อหลิวอี้ไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าเขายังไปโรงงานสืบเรื่องตัวเองอยู่
“ใครจะไปรู้ เขาไปสืบเรื่องลูกจากพี่หวางที่เฝ้าประตู สืบเรื่องครอบครัวเรา สืบเรื่องในโรงงาน ต่อมาบังเอิญเจอพ่อลูก พ่อลูกถามเขามีเรื่องอะไร เขาบอกไม่มีอะไร ผ่านมาเฉยๆ แม่คิดดูนะ ที่ตอนนั้นเขาพูดแบบนั้น กลัวว่าพวกเราจะไปเกาะเขา ตอนนี้รู้ว่าชีวิตครอบครัวเราดีขึ้นแล้ว เขาเลยเสียใจ ไม่แน่ยังคิดจะขอลูกไปเป็นภรรยาด้วยซ้ำ แต่ลูกมีซินห้าวแล้ว พ่อลูกเห็นเขาแบบนี้ ดูปกปิดอาการไม่มิด เลยไม่ได้สนใจเขาอีก”
ตอนนี้หวางนิวไม่ค่อยชอบหลิวอี้แล้ว เธอคิดว่าตอนนั้นเธอโชคดีที่ไม่ได้บังคับให้ลูกสาวแต่งงานกับหลิวอี้ ไม่อย่างนั้นจะมีลูกเขยที่ดีขนาดนี้แบบซินห้าวได้ยังไง
เฉินเยี่ยนก็ไม่ได้คิดมาก สำหรับหลิวอี้แล้ว เธอคิดว่าเขาเป็นแค่คนที่ผ่านเข้ามาเท่านั้น เธอกับหลิวอี้ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน
“พี่ พี่เห็นภรรยาของอวี๋เหวยหมินหรือยัง?”
หวางจวนพูดเรื่องอวี๋เหวยหมินกับเฉินเยี่ยนอีก ผู้หญิงน่ะ ย่อมชอบนินทาเป็นเรื่องธรรมดา
“เขาแต่งงานกับภรรยาคนนี้แล้ว ลูกไม่รู้ ทุกวันนี้เฉินซุ่ยกับลูกสะใภ้ด่ากันตามถนน บ้านพวกเขาจะเล่นงิ้วกันอยู่แล้ว คนในหมู่บ้านบอกว่าบ้านพวกเขาดูสนุกยิ่งกว่างิ้วโรงใหญ่อีก”
พูดขึ้นมาตอนนี้หวางนิวก็ดูมีชีวิตชีวา อวี๋เหวยหมิน บ้านอวี๋ไม่มีความสุข เธอรู้สึกสบายใจ
“เห็นแล้ว วันนี้เพิ่งเจอเอง”
เฉินเยี่ยนเล่าเรื่องที่อวี๋เหวยหมินและซุ่ยชิวเหมยทะเลาะกันอยู่หน้าหมู่บ้านให้ฟัง
“สมน้ำหน้าจริงๆ เขาสมควรแล้ว พวกเขาตีกันทุกวันยิ่งดี”
หวางนิวปรบมือ หน้าตาเต็มไปด้วยความเบิกบาน
“แล้วนั่นสุนัขบ้านใคร? ครั้งหน้าถ้าเจอจะป้อนอาหารให้อย่างดีเลย”
หวางนิวถามอีก
หวางจวนกลับไม่หยุดหัวเราะ อวี๋เหวยหมินและซุ่ยชิวเหมยทะเลาะกัน สุดท้ายเนื้อกลับโดนสุนัขคาบไป เนื้อนั่นจะเอาไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษของบ้านซุ่ย เหมือนที่เธอและเฉินเยี่ยนเอาเนื้อมา หวางนิวจะเลือกชื้นที่ดีที่สุด วางบนกระดาษที่เผา แล้วเอาไปเผาที่หลุมฝังศพบรรพบุรุษบ้านเฉิน เพื่อทำความเคารพ แต่เนื้อของอวี๋เหวยหมินและซุ่ยชิวเหมยโดนสุนัขคาบไปแล้ว คิดว่าบ้านซุ่ยคงต้องโมโหมาก คิดว่าอวี๋เหวยหมินและซุ่ยชิวเหมยคงทะเลาะกันหัวแตกแล้ว
“หนูก็ไม่รู้ว่าสุนัขบ้านใครค่ะ เป็นสุนัขสีดำ ตัวใหญ่มากด้วย”
เฉินเยี่ยนไม่รู้จริงๆ ชาติที่แล้วเธอก็ไม่ได้เลี้ยงสุนัข ในสายตาเธอสุนัขนั้นเหมือนๆ กันหมด โดยเฉพาะสุนัขในหมู่บ้านเกษตร ตัวใหญ่หมด ปกติเธอเห็นก็จะเดินหนี เลยไม่เคยสังเกตมาก่อน
“สุนัขนี่ไม่สีดำก็สีเหลือง ในหมู่บ้านมีตั้งสิบตัวแหน่ะ ลูกพูดแค่สีดำ ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นของบ้านไหน แต่พรุ่งนี้แม่ไปถามในหมู่บ้านดูก็รู้แล้ว”
หวางนิวคิดว่าพรุ่งนี้เธอจะได้ไปถามคนในหมู่บ้านได้ฟังเรื่องตลกแล้ว
“เดี๋ยวผมไปสืบให้”
เฉินหู่กลับรู้สึกสนุกมาก
หลายคนคุยกันแบบนี้คึกคักกันมาก
เฉินหู่กินข้าวเสร็จก็วิ่งออกไปไม่เห็นเงาแล้ว
หลังรอเขากลับมา เขาเล่าข่าวที่ไปสืบมาอย่างชัดเจน
อันดับแรกสุนัขตัวนั้นเป็นของบ้านอวี๋เฉิง ภรรยาของอวี๋เฉิงก็เป็นคนร้ายกาจคนหนึ่ง สุนัขบ้านเธอไม่ได้ผูกไว้ เลยวิ่งเล่นอยู่ในหมู่บ้านทั้งวัน
อวี๋เหวยหมินกับซุ่นชิวเหมยและเฉินซุ่ยคิดจะไปหาเรื่องก็ไม่ได้ เพราะภรรยาอวี๋เฉิงเป็นคนร้ายกาจ ไม่เพียงแต่ไม่ชดใช้เนื้อให้พวกเขา ซ้ำยังกลับว่าพวกเขา หัวเราะเยาะพวกเขาด้วย
อวี๋เหวยหมินกับซุ่ยชิวเหมยทะเลาะกันเสร็จ ซุ่ยชิวเหมยโกรธจนไม่กลับบ้านเธอแล้ว บอกว่าไม่มีหน้ากลับไป จะต้องให้อวี๋เหวยหมินไปหาเนื้อมาให้เธอให้ได้
อวี๋เหวยหมินไม่ยอม หันหลังกลับบ้าน เฉินซุ่ยได้ยินก็โมโห ด่าซุ่ยชิวเหมยเป็นชุด ซุ่ยชิวเหมยกับเฉินซุ่ยด่ากัน แล้วทั้งสองคนก็ไปบ้านอวี๋เฉิง
ปรากฏว่าอยู่ที่หน้าประตูบ้านอวี๋เฉิงด่ากับภรรยาเขาหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ
ด่าจนเสียงแหบแห้ง ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป ยังไงภรรยาอวี๋เฉิงก็ไม่ยอมชดใช้ให้
เฉินซุ่ยบอกว่าจะฆ่าสุนัขบ้านเธอเอาเนื้อมากิน ภรรยาอวี๋เฉิงก็บอกว่าถ้าเห็นพวกเขาเมื่อไรก็จะให้สุนัขเธอกัดพวกเขาเมื่อนั้น สุดท้าย เฉินซุ่ยกับซุ่ยชิวเหมยเลยกลับไป
กลับไปเฉินซุ่ยด่าซุ่ยชิวเหมยอีก ซุ่ยชิวเหมยกับเฉินซุ่ยด่ากันเสร็จก็ไปหาเรื่องอวี๋เหวยหมิน เธอข่วนอวี๋เหวยหมิน
หน้าอวี๋เหวยหมินโดนซุ่ยชิวเหมยข่วนหลายรอย เขาโกรธมากจนตบซุ่ยชิวเหมยเป็นชุด ซุ่ยชิวเหมยร้องไห้บอกจะไม่อยู่แล้ว จากนั้นวิ่งกลับบ้านเธอไป
ตอนที่เฉินหู่กลับมาเล่าเรื่องราวออกรสออกชาติให้ทุกคนฟัง
ทุกคนฟังกันอย่างเมามัน หวางนิวตบต้นขา บอกว่าสะใจเสียจริง
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า อวี๋เหวยหมินทำชีวิตตัวเองเป็นแบบนี้ เธอไม่สงสารเลยแม้แต่น้อย
ช่วงเวลาบ่ายผ่านไปเร็วมาก เจ้าอ้วนกับหวางจวนกลับก่อน พวกเขาอยู่ไกล ถ้ารอกินข้าวค่อยกลับ กลัวว่าฟ้าจะมืด มองไม่เห็นทาง อันตราย
พวกเขาเพิ่งไป เฉินกุ้ยก็จูงหลัวเหมยกลับมา พวกเขาก็กลัวว่าฟ้ามืดกลับมาแล้วจะไม่ปลอดภัย
เฉินเยี่ยนพูดคุยกับหลัวเหมยอยู่หลายคำ รู้ว่าเธอสบายดี ก็ฝากฝังหลัวเหมย ถ้าท้องมีอาการอะไรให้ไปเรียกเธอ ถ้าคลอดยากก็ไปโรงพยาบาล อย่ากลัวเสียเงิน คลอดลูกนั้นอันตรายมาก เธอไม่อยากให้หลัวเหมยคลอดยาก เกิดเรื่องอะไรจะไม่ดี
หลัวเหมยพยักหน้า เฉินกุ้ยก็รับปาก
กินข้าวเสร็จ ซินห้าวพาเฉินเยี่ยนกลับไป
ตอนแรกคิดว่าที่บ้านซินห้าว ซินหงและซินฮุ่ยพวกเขากลับไปแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า ซินฮุ่ยและสามีเธอไปแล้ว แต่บ้านซินหงยังไม่กลับ
“พี่สะใภ้”
เฉินเยี่ยนเพิ่งเข้าบ้านมายังไม่ทันได้พูดอะไรเลย โจวเยว่จี้ก็ทำหน้าตึงทักเฉินเยี่ยน
“พี่สะใภ้ทำไมกลับมามืดขนาดนี้ ตั้งใจหลบหน้าฉันหรือเปล่า”
โจวเยว่จี้ไม่รอให้เฉินเยี่ยนตอบ ก็ถามขึ้นมาอีก
“หลบเธอทำไม?”
เฉินเยี่ยนไม่เข้าใจ สาวน้อยคนนี้จะมาไม้ไหนอีก?
“พี่สะใภ้แกล้งทำเป็นเลอะเลือน ฉันบอกพี่สะใภ้ไปแล้วไม่ใช่หรือ ผ่านปีใหม่แล้วฉันจะไปทำงานที่โรงงานพี่สะใภ้ ให้พี่สะใภ้รีบกลับมาคุยเรื่องนี้วันที่สอง แต่ตอนนี้พี่สะใภ้กลับมาเอาป่านนี้ ไม่ได้หลบฉันแล้วอะไร”
โจวเยว่จี้ไม่พอใจมาก
เฉินเยี่ยนพูดไม่ออก หลังจากรู้ว่าซินหลานไปทำงานที่โรงงาน โจวเยว่จี้ก็มาหาเธอหลายครั้ง แต่เธอไม่ตอบตกลงเธอ เธอจะรู้ได้ยังไงว่าโจวเยว่จี้จะมารอเธอที่บ้านซิน ถ้าเธอรู้ เธอจะยิ่งกลับดึกกว่าเดิมอีก จะได้ไม่ต้องเจอหน้ากัน
“เยว่จี้ พี่บอกเธอแล้วไม่ใช่หรือ ตอนนี้ที่โรงงานยังไม่ขาดคน เธอไปถามซินหลาน ตอนนี้คนกำลังพอดี ทำกันได้อยู่”
เฉินเยี่ยนไม่อยากพูดจาไม่ดีเกินไปต่อหน้าทุกคน
“งั้นทำไมพี่สะใภ้รับซินหลานไปทำ? พี่สะใภ้ดูถูกแม่ฉันใช่ไหม? แม่ฉันเป็นป้าของพี่เลยนะ พี่ช่วยแต่บ้านซินแล้วไม่ช่วยบ้านฉันไม่ได้”
โจวเยว่จี้คิดว่าเฉินเยี่ยนลำเอียง
“พี่สะใภ้ พี่ดูพี่แต่งงานมากี่เดือนแล้ว ยังไม่มีลูกเลย ไม่งั้นพี่อยู่ที่บ้านเถอะ พี่คอยดูและพี่ชายมีลูกไป ฉันไปทำงานเอง ถ้าพี่ไม่มีลูกอีก คุณยายจะว่าเอาได้ ว่าพี่มีลูกไม่ได้นะ”
โจวเยว่จี้พูดแล้วก็มองท้องเฉินเยี่ยน สีหน้าสงสัยและดูถูก
คนในห้องต่างรู้สึกอึดอัด
จะบ้าตาย!
เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าเธอโดนหญิงสาวคนนี้สงสัย เธออยากจะบอกว่าฉันจะมีลูกได้ คลอดหรือไม่คลอด มันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย
“เยว่จี้ พูดจาอะไรน่ะ ใครสอนให้เธอพูดจาแบบนี้ พี่สะใภ้เธอจะมีหรือไม่มี พวกเราไม่ได้เร่งเร้า เธอเป็นผู้หญิงพูดจาแบบนี้ทำไม”
คุณย่าซินหน้าเครียด หลานสาวคนนี้ยิ่งพูดจาเหลวไหลขึ้นไปทุกที
“คุณยาย หนูพูดไม่ผิดเสียหน่อย พี่เขาเอาแต่ออกไปข้างนอกทุกวัน ไม่อยู่บ้าน เธอจะมีลูกกับพี่ชายได้ยังไง ถ้าเธอไม่คลอด คุณยายกับคุณตาก็จะไม่ได้อุ้มเหลนนะ ถ้าคุณยายกับคุณตาคนหนึ่งไปก่อน นั่นก็ไม่มีหวังแล้วหรือเปล่า”
โจวเยว่จี้โต้ตอบกลับโดยไม่ลังเลเลย