เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 254: คลอดแล้ว
ครั้งนี้ทุกคนในบ้านต่างจ้องไปที่โจวเยว่จี้
เฉินเยี่ยนอยากจะพูดจริงๆ น้องสาว เธอโง่จริงหรือแกล้งโง่เนี่ย
มาบอกว่าคุณยายหรือคุณตาคนหนึ่งไปก่อนในวันปีใหม่ นี่มันแช่งคนไม่ใช่หรือ
คนแบบนี้ ใครจะชอบลง!
มองดูหน้าอวบป่องของโจวเยว่จี้แล้ว จิตใจของผู้หญิงคนนี้คงโดนกลืนกินเข้าไปในท้องแล้วมั้ง
“เยว่จี้ หุบปากเดี๋ยวนี้นะ ดูแกพูดจาอะไร แกจะทำให้ฉันโมโหจนตายเลยหรือไง! ถ้าแกยังเป็นแบบนี้อยู่อีก ต่อไปนี้ไม่ต้องมาแล้ว”
ซินหงก็โกรธจนทนไม่ไหว ลูกสาวตัวเองพูดโง่ๆ แบบนี้ออกไปได้ยังไงนะ วันปีใหม่กลับมาแช่งให้พ่อแม่เธอตาย นี่ทำให้คนบ้านซินเกลียด แม้แต่ตัวเธอเอง ยังรู้สึกไม่สบายใจเลย
“หนูพูดอะไรผิด?”
โจวเยว่จี้ยังคงไม่เข้าใจ จ้องมองแม่เธอ
ซินหงโกรธจนอยากจะยื่นมือไปตบโจวเยว่จี้ แต่ในใจกลับทำไม่ได้
สีหน้าโจวเอ้อร์หว๋าก็ดูอึดอัด เขาก็คิดไม่ถึงว่าลูกสาวจะพูดคำพูดแบบนี้ออกมา
“เอาล่ะ กลับกันเถอะ มืดแล้ว”
ซินต้าฉุยโบกมือ ในใจอ่อนแรง หลานสาวคนนี้พูดจาไม่ดูกาลเทศะเลย
“คุณตา คุณยาย ช่วยพูดกับพี่สะใภ้หน่อยค่ะ ให้พี่อยู่บ้านปรนนิบัติตายาย หนูจะไปโรงงาน คุณตาคุณยายรักหนูที่สุดไม่ใช่หรือคะ? คุณตาคุณยายไม่อยากจะอุ้มหลานหรือ? หนูไม่สน ถ้าไม่พูด ถ้าพี่สะใภ้ไม่ตอบตกลง หนูก็จะไม่กลับ”
โจวเยว่จี้ไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าตัวเองพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป แล้วยังงี่เง่าอีก
“งั้นพวกเรากลับกันก่อนนะครับ วันนี้ดื่มเหล้าเข้าไป รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย”
ซินห้าวลุกขึ้นยืนจูงเฉินเยี่ยนไป เขาไม่อยากให้เฉินเยี่ยนอยู่ที่นี่ต่อ เผชิญหน้ากับลูกพี่ลูกน้องที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีสมอง เขาก็รำคาญ
“ได้ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
ซินต้าฉุยพยักหน้า คุณย่าก็พยักหน้าให้เฉินเยี่ยน
“ไม่ได้ พี่สะใภ้ยังไม่ได้ตอบตกลงฉันเลย เธอยังไปไม่ได้”
ฝั่งโจวเยว่จี้ไม่ยอมเลิกรา เดินไปข้างหน้าจะดึงเฉินเยี่ยน เธอรอมานานขนาดนี้ ไม่ใช่ว่ารอให้เฉินเยี่ยนกลับมาหรือ
“เยว่จี้ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ยังไม่ฟังใช่ไหม ถ้ายังเป็นอย่างนี้อยู่ ฉันจะตีแกแล้วนะ”
ซินหงหน้าบึ้งถึงขีดสุด วิธีของลูกสาวช่างหน้าขายหน้าเหลือเกิน
“แม่ หนูเป็นลูกสาวแม่นะ แม่ตะคอกใส่หนูทำไม หนูพูดอะไรผิด หนูให้แม่พูดแทนหนู แม่ก็ไม่พูด แล้วแม่ยังไม่ให้หนูพูดอีก แม่ดูเธอสิ ถ้าพี่ชายกับเธอเห็นแม่เป็นป้าคนโต เธอจะทำแบบนี้หรือ? เธอให้ซินหลานไป เธอคิดจะประจบป้ารอง ถ้าแม่ไม่เก่งขึ้นมา อีกหน่อยกลัวว่าจะไม่ได้มาที่นี่แล้ว คุณตาคุณยายตอนนี้ไม่อยู่ข้างเราแล้ว หนูไม่สน หนูจะไป”
โจวเยว่จี้กลับยิ่งรู้สึกไม่เป็นธรรม
เฉินเยี่ยนรู้สึกอึดอัด โจวเยว่จี้นี่เป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงจนเสียนิสัย แต่ถ้าจะว่าเธอ ซินหงกับโจวเอ้อร์หว๋าก็นิสัยไม่แย่ นิสัยไม่ได้เหมือนลูกสาวพวกเขาเลย กลับต่อว่าลูกสาวด้วยซ้ำ อีกทั้งคุณย่าก็มีซินหงเป็นลูกสาวคนเดียว ไม่สามารถทะเลาะกันได้
เฉินเยี่ยนเหลือบมองซินห้าว ซินห้าวพยักหน้าให้เธอ
“งั้นพวกเราไปกันก่อน คุณปู่คุณย่า ลุงสอง คุณป้า คุณป้าใหญ่ คุณลุง อยู่กันต่อเลยนะคะ”
เฉินเยี่ยนทักทาย แล้วจูงมือซินห้าวเดินไปด้านนอก
โจวเยว่จี้ตะโกนเรียกเธออยู่ข้างหลัง เฉินเยี่ยนทำเป็นไม่ได้ยิน เดินออกไปกับซินห้าวโดยไม่หันหลังกลับมา
ออกจากบ้านมา เฉินเยี่ยนรู้สึกได้ว่าซินห้าวอารมณ์ไม่ดี
เฉินเยี่ยนหยิกฝ่ามือซินห้าวเบาๆ แล้วใช้นิ้วเขี่ยอุ้งมือซินห้าว
ซินห้าวรู้สึกจั๊กจี้อุ้งมือ เหมือนมีแมลงตัวเล็กกำลังไต่อยู่ มุมปากเขายิ้มขึ้นมา
“ไม่ต้องคิดแล้ว ไม่ว่าบ้านไหนก็ต้องมีแบบนี้คนสองคน”
เฉินเยี่ยนปลอบซินห้าว ญาติเยอะขนาดนี้ คนก็เยอะ ไม่มี
ซินห้าวพยักหน้า แต่เขาไม่ได้พูดอะไร การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ของเฉินเยี่ยน เขารับรู้ได้ เขาชอบ
เฉินเยี่ยนคุยกับซินห้าวประโยคหนึ่งแล้วเขี่ยอุ้งมือซินห้าวเบาๆ ไปอย่างนี้จนถึงบ้านพวกเขา มือซินห้าวไม่รู้ว่าโดนเฉินเยี่ยนเขี่ยไปกี่ครั้งแล้ว
เพิ่งเปิดประตูบ้านมา ยังไม่ทันที่เฉินเยี่ยนจะปิดประตูเลย ซินห้าวก็เข้ามากอดเฉินเยี่ยน ประทับจูบลงไป
“ประตู ประตู”
เฉินเยี่ยนคิดไม่ถึงว่าซินห้าวจะรุกเร้าเพียงนี้
ซินห้าวกอดเฉินเยี่ยนพลิกตัวกลับมา เขาใช้หลังปิดประตู ยื่นมือหนึ่งออกไปล็อคกลอนประตู ตลอดเวลานี้ริมฝีปากเขาไม่ได้แยกออกจากปากของเฉินเยี่ยนเลย จูบเฉินเยี่ยนจนหายใจไม่ออก
ทั้งสองคนกอดกันอย่างนี้ค่อยๆ เดินเข้าไปในบ้าน
ซินห้าวไม่ยอมให้เฉินเยี่ยนจุดไฟ เฉินเยี่ยนก็ไม่มีเวลาไปจุด รอจนเฉินเยี่ยนซินห้าวแยกออกจากกัน ก็เป็นเวลาชั่วโมงกว่าหลังจากนี้แล้ว เห็นอยู่ว่าเป็นฤดูหนาว ในห้องก็ไม่มีไฟ แต่ร่างกายเฉินเยี่ยนกลับเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ
“ห่มไว้ ผมไปเตรียมน้ำให้ คุณจะได้ไม่หนาว”
ซินห้าวช่วยเฉินเยี่ยนห่มผ้าห่ม ตอนนี้พวกเขาเหงื่อท่วมตัว แต่นี่เป็นหน้าหนาว ถ้าปล่อยให้เหงื่อแห้งแบบนี้ จะเป็นหวัดได้
เฉินเยี่ยนพยักหน้า ซินห้าวยกน้ำมาให้ ทำความสะอาดร่างกายจนสะอาด เหงื่อบนตัวเฉินเยี่ยนหายหมดแล้ว เธอรู้สึกเย็นขึ้นมา
จนเธอมุดเข้าไปในผ้าห่ม มีร่างกายอบอุ่นต้อนรับเธออยู่ กอดร่างเธอแน่น ทั้งสองคนนอนหลับไป
เพราะว่าเป็นปีใหม่ เลยไม่ต้องไปทำงาน และไม่มีเรื่องอะไร เฉินเยี่ยนและซินห้าวไม่ต้องตื่นเช้า ดังนั้นทั้งสองคนทำการบ้านกันตอนกลางคืนไม่น้อยเลย ทุกวันหลับจนถึงแปดเก้าโมงค่อยตื่น เลยเวลาแล้วไป๋ซิ่วเหมยเก็บอาหารไว้ให้พวกเขา เอามาอุ่นร้อนก็ใช้ได้แล้ว
เฉินเยี่ยนหน้าแดง ทุกครั้งจะคอยเตือนตัวเอง วันรุ่งขึ้นจะต้องตื่นเช้า แต่พอตกดึกโดนซินห้าวกวน เธออดไม่ได้ที่จะปฏิเสธ ตัวเธอเองก็ชอบ ก็เลยตามใจซินห้าว ถึงยังไงก็ไม่ได้มีวันพักผ่อนบ่อยๆ เลยตามใจเขา ผ่านวันที่สิบห้าไป ก็ต้องไปทำงานที่โรงงานแล้ว อยากจะกุ๊กกิ๊กกันก็ไม่สามารถทำได้ตามใจชอบแบบนี้แล้ว
ผ่านวันที่สิบห้าไป เฉินเยี่ยนกับซินห้าวสองคนกอดกันคุยเรื่องที่โรงงาน
เฉินเยี่ยนรู้สถานการณ์ที่โรงงานซินห้าว เสนอข้อคิดเห็นให้ซินห้าวไม่น้อย ตอนนี้โรงงานซินห้าวนับวันยิ่งดีขึ้น ก่อนปีใหม่เขายังได้รับคำชื่นชมจากผู้ว่าเมืองอยู่เลย
ส่วนโรงงานเฉินเยี่ยนถึงแม้ว่าจะเล็ก แต่คนงานก็ไม่น้อยเลย กำลังการผลิตถือว่าพอใช้ได้ วันที่สิบแปดค่อยเริ่มงาน เฉินเยี่ยนคิดว่าสามารถแก้ไขปรับปรุงได้อีก ซินห้าวก็ช่วยให้คำแนะนำเฉินเยี่ยน
“พี่ชาย พี่สะใภ้ พี่ชาย พี่สะใภ้ รีบมาเปิดประตูเร็ว มีคนบ้านพี่สะใภ้มาหา”
เฉินเยี่ยนได้ยินซินเหวยตะโกนเรียกอยู่หน้าประตู
ทั้งสองคนรีบลุกออกจากผ้าห่ม โทษพวกเขาไม่ได้ที่กลางวันแล้วยังคงอยู่บนเตียง ฤดูหนาวที่นี่ถึงแม้ว่าจะไม่หนาวเท่าฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ที่นี่หนาวชื้น ในบ้านก็หนาวมาก แล้วยังไม่มีฮีทเตอร์อีก ไม่มีเตาผิงไฟ ก็เลยอยากจะซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม
คนที่บ้านมา หรือว่าเป็นเรื่องหลัวเหมยคลอดลูก?
เฉินเยี่ยนคิดแล้วออกไปเปิดประตูกับซินห้าว
“พี่สะใภ้ คนที่บ้านพี่มา บอกว่าพี่สะใภ้พี่คลอดแล้ว คลอดลูกสาว”
ซินเหวยเห็นเฉินเยี่ยนก็ร้องบอก
“คลอดแล้วหรือ แล้วพี่สะใภ้ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? สบายดีอยู่ใช่ไหม?”
เฉินเยี่ยนไม่ได้สนใจปัญหาสามีภรรยาเท่าไร สนใจแค่แม่ลูกปลอดภัยก็พอ
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เขามาแจ้งข่าวก็กลับไปแล้ว คุณปู่คุณย่าเลยให้ผมมาบอกพี่สะใภ้”
ซินเหวยมาแค่ส่งข่าว
“ได้ ฉันรู้แล้ว เธอกลับไปบอกปู่กับย่าหน่อย ฉันกับพี่ชายเธอจะกลับบ้าน ตอนเที่ยงไม่ไปกินข้าวนะ ไม่ต้องรอพวกเรา”
เฉินเยี่ยนนั่งไม่ติดแล้ว เธออยากจะรู้ข่าวคราว อยากจะกลับไปดู
“ได้”
ซินเหวยพยักหน้าแล้ววิ่งไป