เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 263: สองปี
เฉินเยี่ยนพูดจบ เฉินจงยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย หวางนิวที่อุ้มเฉินฉือหลิวอยู่ตะโกนขึ้นมา “อวี๋เหวยหมินเขาคิดอยากเข้าโรงงานหรือ? ทำไมเขาหน้าด้านขนาดนี้! เขาทำร้ายเสี่ยวเวยจนเป็นแบบนี้ ยังคิดจะมาทำลายครอบครัวเราอีก ถ้าเขากล้าเข้ามาในโรงงาน ดูสิว่าฉันจะไม่ใช้ไม้กวาดตีเขาจนตาย”
ในใจหวางนิว เฉินเวยเป็นคนโดนอวี๋เหวยหมินทำร้าย เธอจะคิดว่าอวี๋เหวยหมินดีได้ยังไง
อาจจะเป็นเพราะเสียงหวางนิวดังเกินไป อารมณ์พลุ่งพล่านมากไป เกือบจะโยนฉือหลิวน้อยในอ้อมกอดทิ้งแล้ว ฉือหลิวที่หลับสนิทอยู่ตกใจตื่น ปากเล็กเบะ ร้องไห้ออกมา
“โอ๋ โอ๋ ไม่ร้องนะ ย่าอยู่นี่ ฉือหลิวเป็นเด็กดีนะ”
หวางนิวรีบตบและปลอบ ดูเหมือนว่าจะโอ๋ไม่อยู่ เลยอุ้มไปให้หลัวเหมย ให้เธอป้อนนม
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า เฉินฉือหลิวนี่เพิ่งครบเดือนได้ไม่กี่วัน เวลาปกติก็นอนหลับตลอด วางเธอไว้บนเตียงก็ได้แล้ว แต่ถ้าหวางนิวมีเวลาก็จะไปอุ้มเธอมา
อาจจะเป็นเพราะว่าคนแก่ อยากจะมีหลาน รู้อยู่ว่าเธอก็นอนอยู่บนเตียงเหมือนกัน แต่กลับต้องเอามาอุ้ม ไม่รู้ว่าอีกหน่อยตัวเองจะเป็นยังไง
“ลูกวางใจได้ ไม่ว่าใครจะเข้ามาโรงงาน ยังไงก็ไม่มีทางให้อวี๋เหวยหมิยเข้ามาแน่”
เฉินจงรู้ว่าที่อวี๋เหวยหมินมาหาเฉินเยี่ยน เพราะเขาคิดว่าเฉินเยี่ยนจะใจอ่อน ถ้าเขากล้ามาหาตัวเอง ตัวเองไม่มีทางปล่อยเขากลับไปดีๆ แน่ ดังนั้นอวี๋เหวยหมินเลยไม่กล้ามาหาตัวเอง
อยู่บ้านเฉินสักพัก เฉินเยี่ยนก็กลับไปหาพี่สะใภ้เหลียนจือ
“ฉันไม่รู้จักตัวหนังสือเลย แต่ฉันเขียนตัวเลขได้ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง จดบัญชีฉันยังไม่เคยพลาดจริง แต่ฉันไม่รู้ว่าจะจดให้เธอได้หรือเปล่า”
พี่สะใภ้เหลียนจือได้ฟังคำพูดเฉินเยี่ยนก็ทั้งดีใจและเป็นกังวล
ให้เธอไปเป็นคนงาน เธอย่อมยินดีอยู่แล้ว หาเงินได้ นั่นถือเป็นความสามารถเลย ที่บ้านจะได้มองเธอดีขึ้นมาบ้าง แต่เป็นนักบัญชี เธอไม่เคยทำมาก่อน แต่เวลาปกติเธอก็แค่จดบัญชีเล็กๆ น้อยๆ แล้วเธอก็เป็นผู้หญิงด้วย จะไปเทียบกับนักบัญชีในอำเภอได้ยังไง? เธอไม่มั่นใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มีใครทำเป็นมาตั้งแต่เกิด ถ้าพี่สะใภ้อยากทำ ฉันสามารถสอนได้ว่าจดบัญชียังไง ขอเพียงแค่พี่สะใภ้มีใจก็พอ”
ตอนนี้เฉินเยี่ยนไม่มีคนที่เหมาะสมจริงๆ จึงต้องถูไถไปก่อน
“งั้นก็ได้ เธอมาสอนฉันก่อน ดูว่าฉันทำได้ไหม? ถ้าได้ เธอค่อยให้ฉันไป ไม่ได้ก็บอกมา จะได้ไม่ทำเธอเสียเรื่อง”
พี่สะใภ้เหลียนจือพยักหน้า พูดอย่างตรงไปตรงมา
แบบนี้ตอนกลางวันนอกจากเฉินเยี่ยนไปโรงงานแล้ว ยังต้องหาเวลาไปสอนพี่สะใภ้เหลียนจือว่าจดบัญชี ทำบัญชียังไง
อย่าให้พูดเลย เรื่องนี้พี่สะใภ้เหลียนจือมีพรสวรรค์มากจริงๆ พอเฉินเยี่ยนพูดเธอก็เข้าใจเลย นอกเหนือจากที่เธอไม่ได้รู้จักตัวอักษรมากเท่าเฉินเยี่ยนแล้ว เธอคิดบัญชีได้เร็วกว่าเฉินเยี่ยนอีก อีกทั้งเธอจดไม่บัญชีไม่เลอะเทอะ ไม่ซ้ำซ้อน ด้านนี้สมองเธอถือว่าใช้ได้เลย
“ได้ งั้นก็พี่สะใภ้นี่แหละ”
หลังเฉินเยี่ยนเห็นแล้วก็พยักหน้า พี่สะใภ้เหลียนจือคนนี้ไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อน ไม่อย่างนั้นจะต้องเป็นนักบัญชีที่มีความสามารถแน่นอน
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว ต่อไปนี้ทุกเดือนฉันจะคิดบัญชีให้โรงงาน เงินที่ได้มา จำเป็นต้องให้หัวหน้า ลุงเฉินจงและเธออยู่ด้วยถึงจะแบ่งกันได้ หัวหน้าไม่สามารถเอาของตัวเองไป ฉันต้องดูนักบัญชีของอำเภอด้วย ไม่ให้เขาเอาเงินไป และไม่ยอมไม่ให้เขาคิดบัญชี ถ้ามีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงิน ต้องให้ฉันและเขาอนุมัติด้วยกันถึงจะได้ ตัวเขาพูดเองเออเองไม่ได้ มีอะไรฉันจะรีบมาบอกเธอกับลุงเฉินจง”
พี่สะใภ้เหลียนจือเข้าใจความหมายของเฉินเยี่ยน
“ใช่แล้ว งั้นพี่สะใภ้รอตอนสิ้นเดือนค่อยไป ลองทำสามเดือนก่อน ถ้าทำได้ดี หลังเดือนสามจะให้ค่าแรง คนอื่นได้ พี่สะใภ้ก็ได้เหมือนกัน พี่สะใภ้อย่าว่าอะไรเลยนะ ไม่ว่าใครเข้ามาก็ต้องทดลองงานสามเดือนก่อน”
เฉินเยี่ยนเห็นอีกฝ่ายเข้าใจตัวเอง เธอพยักหน้า ตอนนี้เธอไม่สามารถหานักบัญชีโดยเฉพาะได้ แต่ถ้าสอนพี่สะใภ้เหลียนจือได้ ก็ไม่แย่
“ได้ จะพูดอะไรได้ล่ะ เธอให้งานที่ดีขนาดนี้กับฉัน ฉันต้องทำให้เธอดีแน่นอน ถ้าฉันทำไม่ดี ไม่ต้องให้เธอพูด ฉันจะไปเอง”
แม้แต่พี่สะใภ้เหลียนจือก็เป็นคนซื่อๆ เธอตบหน้าอกรับปาก
ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ก็ถือว่าได้คนแล้ว ส่วนพี่สะใภ้เหลียนจือจะทำแล้วเป็นยังไง นั่นเป็นเรื่องที่ต้องดูในอนาคต
แต่ได้คนแล้ว ถือว่าเฉินเยี่ยนได้วางเรื่องในใจลงไปได้หนึ่งเรื่อง ตอนกลางคืนเวลาที่อยู่กับซินห้าวเธอรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ ทำให้ซินห้าวสบายใจ เฉินเยี่ยนอยากจะมีความสุขแบบนี้ทุกวัน ได้อยู่เป็นเพื่อนกับเขา
พี่สะใภ้เหลียนจือไปเป็นนักบัญชีที่โรงงาน หลังเธอไป เธอทำงานจริงจังมาก ตั้งใจทำงาน และก็เก่งมากด้วย ไม่มีคำสั่งจากเฉินเยี่ยนและเฉินจง นักบัญชีของอำเภออย่าคิดจะได้ผลประโยชน์ตอนที่มีเธออยู่ ตอนที่ยังไม่เกิดเรื่องหัวหน้าแอบเอาเงินไปใช้ส่วนตัว ก็มีจดบัญชีผิดหรือไม่ก็คำนวณผิด ทำให้เฉินเยี่ยนถอนหายใจ ถือว่าเธอเลือกคนถูก ทำให้เฉินเยี่ยนคลายความกังวลไปได้
ผ่านไปพริบตาก็สองปีแล้ว
ในสองปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย
เรื่องแรกคือโรงงานม้วนบุหรี่ ใหญ่โตขึ้นกว่าเดิมมาก สร้างขึ้นมาอีกหลายตึกด้านหลังโรงงาน แน่นอนนี่อยู่ภายใต้ชื่อของอำเภอ
ธุรกิจโรงงานม้วนบุหรี่ดำเนินไปได้ดีเหมือนเมื่อก่อน แม้แต่เมืองอื่นยังมาสั่งเลย ไม่เคยต้องกังวลใจเรื่องยอดขาย
คนงานก็เพิ่มขึ้นทีละชุดทีละชุด ตอนนี้ในโรงงานมีคนงานหนึ่งร้อยสิบคนแล้ว โด่งดังไปถึงบริเวณรอบข้าง
ส่วนคนที่สนิทกับเฉินเยี่ยน หวางจวนและเจ้าอ้วนมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อหู่โถว โตแล้วอวบอ้วนน่ารักมาก
ครอบครัวเฉิน หลัวเหมยท้องอีกแล้ว ห้าเดือนแล้ว ปกติแล้วหวางนิวเป็นคนเลี้ยงฉือหลิว หลัวเหมยเลยสบายหน่อย
หู่จื่อสูงขึ้นไม่น้อยเลย เพิ่งอายุสิบสามแต่สูงเกือบ 168 ซม.แล้ว รูปร่างสูงเกินเฉินเยี่ยนไปแล้ว อีกหน่อยหู่จื่อต้องเป็นพี่ใหญ่แน่นอน
ผลการเรียนหู่จื่อก็ไม่แย่ สอบเข้าโรงเรียนมัธยมในอำเภอได้ เฉินเยี่ยนให้จักรยานเขาเป็นของขวัญ วันจันทร์ถึงเสาร์เขาจะอยู่ที่โรงเรียน วันอาทิตย์จะขี่จักรยานกลับบ้าน เฉินเยี่ยนพบว่าเขาเปลี่ยนไปทุกครั้งที่เจอ ทำให้เธอเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของวัยรุ่น
เฉินจงนับวันยิ่งดูน่าเกรงขาม ตอนนี้เรื่องมากมายไม่ต้องให้เฉินเยี่ยนออกหน้าแล้ว เฉินจงสามารถตัดสินใจได้
หวางนิวยังบุคลิกเหมือนเดิม ชอบพูด แต่จิตใจเธอดี
เฉินกุ้ยก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร แต่เฉินเยี่ยนรู้สึกได้ว่าเขามีความสุข
พูดถึงเฉินกุ้ย เฉินเยี่ยนคิดถึงตอนที่เธอได้ยินข่าวหนึ่ง คือช่างเหลียน ว่ากันว่าช่างเหลียนอยู่ที่บ้านสามีไม่มีความสุข ทะเลาะกับสามีทุกวัน บ้านแม่สามีกับแม่ตัวเองก็หาเรื่องกันทุกวัน สุดท้ายช่างเหลียนทนชีวิตแบบนี้ต่อไปไม่ไหว เลยมาหาเฉินกุ้ย
แต่เฉินกุ้ยบอกช่างเหลียน เขาไม่รู้สึกอะไรกับช่างเหลียนมานานแล้ว เขาคิดอยากจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับหลัวเหมยแค่นั้น
เห็นชีวิตของครอบครัวเฉินตอนนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าช่างเหลียนไม่เสียใจ แต่เสียใจก็สายไปแล้ว สุดท้าย ก่อนปีใหม่ช่างเหลียนเลยหนีตามผู้ชายอีกคนหนึ่งไป
เธอไม่ได้จดทะเบียนกับสามีคนที่แต่งงานทีหลัง มีเพียงงานเลี้ยงฉลอง แต่เธอก็ยังหนีตามไปกับผู้ชายที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกับสามีเธอ ไปอยู่กันที่เมืองอื่น กลายเป็นหัวข้อสนทนาของทุกคนยามว่างหลังอาหาร
เพราะเรื่องนี้บ้านสามีช่างเหลียนทะเลาะกับบ้านเธอตั้งหลายครั้ง แต่ตัวช่างเหลียนไม่อยู่ ผู้ชายคนนั้นก็เป็นคนโสด ที่บ้านไม่มีใคร สุดท้ายเลยต้องปล่อยไปทั้งอย่างนั้น
เฉินเยี่ยนรู้ ช่างเหลียนไปครั้งนี้ ตั้งแต่นี้เธอจะไม่มีเรื่องเกี่ยวข้องกันกับบ้านเฉินอีกแล้ว เธอเป็นแค่คนในอดีตของบ้านเฉินเท่านั้น เป็นอดีตของเฉินกุ้ย ค่อยๆ จมหายไปตามวันเวลา