เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 274: ป่วยหนัก
เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าในใจซินห้าวคิดอะไร ถ้ารู้เธอก็คงจะขำด้วย
อันที่จริงถ้าเป็นไปได้เฉินเยี่ยนก็ไม่อยากให้คนสูบบุหรี่หรอก แต่คนจำนวนมากรู้ทั้งรู้ว่าบุหรี่ทำลายสุขภาพ แต่ก็ยังจะสูบ บนกล่องบุหรี่มีเขียนอยู่ชัดเจนว่าสูบบุหรี่ทำลายสุขภาพ คนที่สูบกลับเพิกเฉยไม่สนใจ ดังนั้นเฉินเยี่ยนเลยห้ามไม่ได้ คนอื่นชอบ เธอก็ไปเรียกร้องอะไรไม่ได้
ซินห้าวรู้สึกว่าท่าทางตอนนี้ของเฉินเยี่ยนน่าสนใจ
“คุณจูบผมก่อน แล้วผมรับประกันว่าผมจะไปสูบบุหรี่อีกเลย”
ซินห้าวพูดท่าทางจริงจัง แต่สายตามีแววขำ เขากำลังล้อเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนทำปากขมุบขมิบจูบลงไปบนใบหน้าซินห้าว เธอและซินห้าวเป็นสามีภรรยากันหลายปีแล้ว และไม่มีคนอื่นด้วย เธอเลยไม่อาย
“ไม่ได้ ต้องจูบตรงนี้”
ซินห้าวนั่งอยู่บนเก้าอี้กลมชี้ไปที่ริมฝีปากตัวเอง
“คนดี พวกเราทำกันตรงนี้ดีไหม?”
ซินห้าวกระซิบข้างหูเฉินเยี่ยนที่เริ่มมีอารมณ์แล้ว เสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดนั้นทำให้คนหลงใหล
“ไม่ ไม่เอา”
เฉินเยี่ยนยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ นี่มันเก้าอี้กลม ทำตรงนี้ได้ที่ไหน
“เด็กดี ลองดู นะเยี่ยนจื่อ”
ปากซินห้าวพูดไป แล้วงับหูเฉินเยี่ยน เสื้อผ้าเฉินเยี่ยนก็โดนซินห้าวถอดออกทีละชิ้นทีละชิ้น
หลังจากเสร็จกิจกรรมเฉินเยี่ยนเหนื่อยเสียจนไม่อยากขยับแม้แต่นิ้ว เห็นสายตาเลือนลางของเฉินเยี่ยนที่อยู่ตรงเก้าอี้กลมนั้น ในใจซินห้าวรู้สึกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง เขาอุ้มเฉินเยี่ยนไปที่เตียง…
วันรุ่งขึ้นตอนที่เฉินเยี่ยนเอาบุหรี่ไปส่งให้ซินชาน เขาไม่ได้สนใจเท่าไร จนได้ลองสูบเขาก็ตกใจ คิดไม่ถึงว่าบุหรี่แตกต่างกันถึงเพียงนี้
จนรู้ว่ายาเส้นนี้ใช้เวลาหมักถึงสามปี เขาก็อดทอดถอนใจไม่ได้ บุหรี่แบบนี้ขายไม่ได้จริงๆ และไม่สามารถเปิดเผยได้ ไม่อย่างนั้น ถ้ามีคนต้องการ คุณจะให้หรือไม่ให้?
ซินชานให้กำลังใจเฉินเยี่ยน แล้วถามถึงสภาพของซินต้าฉุย พอรู้ว่าสบายดี เขาก็วางใจ
เฉินเยี่ยนเห็นเขายุ่ง เลยไม่ได้อยู่ต่อ
จนถึงกลางเดือนหก จู่ๆ คุณย่าป่วย ตอนแรกทุกคนไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าอากาศร้อนไป คนก็เลยร้อนตาม
เพราะเป็นฤดูร้อนคนเลยไม่กระปรี้กระเปร่าเท่าไร ดังนั้นเห็นคุณย่าสีหน้าคุณย่าอ่อนเพลีย ทุกคนเลยคิดว่าปกติ
ตอนกลางวันซินห้าวและเฉินเยี่ยนอยู่โรงงาน จนตอนที่คุณย่านอนอยู่บนเตียงลุกขึ้นมาไม่ไหว ทุกคนถึงได้ตกใจกันใหญ่
“ลูกเล่ามาสิครึ่งเดือนก่อนยังดีอยู่เลย ทำไมอยู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ไปได้”
หวางนิวถอนหายใจ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอหิ้วของมาเยี่ยมคุณย่าซิน เธอรู้สึกว่ารอบนี้คุณย่าเกรงว่าจะไปต่อไม่ไหวแล้ว สีหน้าเหลืองเหมือนเทียนไข ไม่ต่างจากห้าวันก่อนที่เธอมาเยี่ยมเลย และผอมลงไปไม่น้อย กลัวว่าอีกสิบวันหรือครึ่งเดือนเธอก็จากไป
“ใครจะรู้ว่าปรนนิบัติกันยังไง! บอกว่ากตัญญู ปรนนิบัติกันจนเป็นแบบนี้ ฉันว่าตั้งใจมากกว่า”
ซุนหม่านเซียงเบะปาก ประโยคนี้ของเธอคือว่าทุกคนที่อยู่ในบ้าน วันนี้เธอเพิ่งมา ตอนแรกให้ตายยังไงเธอก็ไม่ยอมกลับมา ต่อมาซินชานโมโหมาก บอกว่าถ้าเธอไม่กลับไปดูแล ถ้าแม่เขาไม่อยู่แล้ว ก็อย่าหวังว่าเขาจะใช้ชีวิตกับซุนหม่านเซียงด้วยดีอีกเลย
เวลาปกติเขาไม่พูด ตอนนี้แม่ตัวเองป่วยอยู่ ภรรยาไม่ยอมกลับไป ไม่ยอมไปดูแล ถ้าอย่างนั้นมีกับไม่มีภรรยาคนนี้จะต่างกันยังไง
ตอนแรกซุนหม่านเซียงไม่สนใจ แต่เขาเห็นซินชานไม่กลับบ้านติดต่อกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว เธอเลยร้อนรน เธอรู้ว่าสามีไม่ได้ล้อเล่น เธอไม่สามารถไม่มีสามีได้ สามีเธอเป็นคนให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นวันนี้ซุนหม่านเซียงเลยกลับมาอย่างไม่เต็มใจ
“คำพูดนี้ของเธอทำร้ายจิตใจไปนะ ป้าสองเธอเป็นคนยังไง? ถึงแม้ว่าฉันจะมาเยี่ยมไม่บ่อย แต่ก็รู้ดี เวลาปกติก็ยุ่งไปหมด ไม่ต้องพูดเรื่องคนเยอะเลย คุณย่าป่วย ก็ต้องอาศัยเธอคอยปรนนิบัติดูแล ทั้งอึทั้งปัสสาวะ เธอผอมไปหมดแล้ว ไม่เห็นเธออยู่ไหนเลย ทำไมถึงกล้ามาว่าคนอื่นได้อีก”
หวางนิวเป็นคนพูดตรงๆ ถึงแม้ว่าซุนหม่านเซียงจะเป็นแม่สามีของเฉินเยี่ยน แต่เธอทนดูผู้หญิงคนนี้ไม่ไหว ลูกสาวกับลูกเขยแต่งงานกันจะสี่ปีแล้ว เธอเป็นครั้งแรกที่เห็นเธอมาเยี่ยมแม่สามี สายตาที่อีกฝ่ายมองเธอ มีแววดูถูกมาก เธอดูถูกตัวเอง ตัวเองขี้เกียจจะไปสนใจเธอ
ไป๋ซิ่วเหมยยิ้มให้หวางนิวอย่างขอบคุณ แต่รอยยิ้มนั้นแลดูขมขื่น
หลังแม่สามีป่วย เธอปรนนิบัติอย่างสุดความสามารถสุดกำลัง ตอนกลางคืนนอนอยู่ที่เท้าแม่สามี กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด
เธอคิดว่านี่เป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่งมาบ้านซินแล้ว แม่สามีดีกับเธอมาก หลายปีมานี้ ทั้งสองคนไม่เคยโกรธกันมาก่อน มีแม่สามีแบบนี้ถือเป็นโชคดีของเธอ ถ้าเป็นไปได้ เธออยากจะให้แม่สามีแข็งแรง อยู่เป็นสุข อายุยืนเป็นร้อยปี
แต่ไม่ว่าเธอจะตั้งใจปรนนิบัติยังไง สุขภาพของแม่สามีในแต่ละวันก็ไม่ดีขึ้นเลย เธอทรมานใจมาก พี่สะใภ้กลับมาก็มาว่าแบบนี้อีก เธอรู้สึกว่าในใจเธอเหมือนโดนก้อนหินก้อนหนึ่งกดทับอยู่ข้างใน
“ฉันทำร้ายจิตใจ? ฉันต่างหากที่ไม่ทำร้ายจิตใจ! ถ้าบอกว่าทำร้ายจิตใจ ก็ว่าลูกสาวเธอดีกว่า แต่งงานมาบ้านซินจะสี่ปีแล้วใช่ไหม? ดูสิว่าท้องเธอนั่นยังนูนขึ้นมาได้อีกหรือเปล่า! แม้แต่ไข่ยังไม่ตกเลย เธอคิดอยากจะให้ตระกูลซินของเราสูญสิ้นทายาท พ่อแม่สามีฉันหวังจะได้เห็นเหลน เธอไม่คลอด แม่สามีฉันก็ตายตาไม่หลับ ต้องโทษเธอ! มีลูกสาวแบบนี้ เธอยังกล้าว่าคนอื่นอีก ถ้าเป็นฉัน แม้แต่ประตูฉันยังไม่กล้าออกมาเลย”
ซุนหม่านเซียงเห็นหวางนิวว่าเธอ เธอรีบพุ่งไปที่เฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนโดนเธอจี้จุดอ่อนแล้ว นั่นคือเฉินเยี่ยนไม่มีลูก
เฉินเยี่ยนขี้เกียจจะมองเธอแล้ว ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าคุณย่าป่วยหนักเธอก็ไม่ได้ไปโรงงานอีกเลย คอยอยู่เฝ้าปรนนิบัติคุณย่ากับป้ารอง เธอเชิญคุณหมอจากสถานพยาบาลมาเหมือนกัน เขาก็บอกไม่ได้ว่าป่วยโรคอะไร บอกว่าถึงอายุขัยแล้ว ให้ต้มยากินไป
ฟังเขาพูดแบบนี้ก็หมดทางช่วยเหลือแล้ว พวกเขาพาคุณย่าเข้าไปในอำเภอครั้งหนึ่ง ฟังดูแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน
เดินทางไปครั้งนี้ คุณย่ากลับมาก็อาเจียน ป่วยหนักกว่าเดิมอีก เฉินเยี่ยนคิดจะให้พาไปในเมือง คุณปู่ซินต้าฉุยไม่ยอม คุณย่าก็บอกว่า ถ้าตายก็ขอตายในบ้าน ไม่อยากทรมาน
ลุงสอง ป้าสองพวกเขาก็เชื่อฟัง ไม่ว่าเฉินเยี่ยนจะพูดยังไง พวกเขาก็ไม่ยอม เฉินเยี่ยนและซินห้าวก็ไม่สามารถขัดเจตนาของผู้ใหญ่ได้ ดังนั้นคุณย่าเลยรักษาตัวอยู่ที่บ้าน
มองดูสีหน้าและสุขภาพคุณย่าย่ำแย่ลงทุกวัน เฉินเยี่ยนทรมานใจ เธอเคยถามหลุมอวกาศ ว่าเลือดทิพย์เธอสามารถช่วยคุณย่าได้ไหม เพราะคุณย่าไม่ได้ล้มจากการโดนยาพิษ ดังนั้นเลือดทิพย์ของเธอจึงไม่สามารถเอาให้คุณย่าใช้ได้ ถึงใช้ก็ไม่มีประโยชน์
อันที่จริงเฉินเยี่ยนก็คิดได้ ถ้าเลือดทิพย์เธอสามารถรักษาได้ทุกโรค ถ้าอย่างนั้นก็เป็นยาอายุวัฒนะแล้ว
เลือดทิพย์เธอช่วยคุณย่าไม่ได้ แต่คุณย่าก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาลในเมือง เฉินเยี่ยนทำอะไรไม่ได้จริงๆ