เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 278: เปลี่ยนแปลง
เฉินเยี่ยนมาถึงชั้นบน มองเลขห้องที่นางพยาบาลบอกเธอ
เธอเคาะประตู ซินห้าวเป็นคนเปิดประตู
วินาทีที่ซินห้าวเห็นเฉินเยี่ยน ตาเขาเป็นประกาย
“กลับมาแล้วหรือ”
ซินห้าวพูดประโยคหนึ่ง จากนั้นก็รับยาจากมือเฉินเยี่ยน จูงมือเฉินเยี่ยนไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่เป็นห้องคนป่วย เขากอดเฉินเยี่ยนไปแล้ว
เฉินเยี่ยนยิ้มให้ซินห้าว สายตาอ่อนโยนขึ้นมา จากนั้นมองไปทางเตียงคนไข้
สีหน้าคุณย่าดีขึ้นมากกว่าตอนที่เธอไปเยอะเลย ดูแล้วค่อยมีชีวิตชีวา ดูเหมือนพาเธอมาโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ถูกแล้ว
เฉินเยี่ยนกำลังจะเดินเข้าไป อยู่ๆ เธอก็ขมวดคิ้ว จากนั้นหันหน้าไปข้างๆ เธอเห็นคนหนึ่งที่ไม่ควรจะมาปรากฏตัวอยู่ในห้องคนไข้ ซูเหม่ยลี่
ตอนแรกที่เข้ามาในห้อง ความคิดเฉินเยี่ยนอยู่ที่ซินห้าวและคุณย่า เธอคิดว่านอกจากลุงสองแล้วไม่น่าจะมีคนอื่นอีก เลยไม่ได้มอง แต่ตอนนี้นอกจากลุงสองแล้ว ยังมีซูเหม่ยลี่และซุนหม่านเซียง
ซุนหม่านเซียงมา ถึงแม้จะแปลกแต่เธอก็พอเข้าใจได้ ยังไงที่นี่คือโรงพยาบาลในเมือง ซุนหม่านเซียงไม่มีข้ออ้างบอกว่าไม่ชอบหมู่บ้านเกษตรกร แล้วไม่มาเยี่ยมแม่สามี
แต่ทำไมซูเหม่ยลี่ถึงอยู่ที่นี่?
แล้ววันนั้นคนที่ตัวเองเห็นเป็นซูเหมายลี่จริงๆ ใช่ไหม?
เฉินเยี่ยนยิ้มให้ซูเหม่ยลี่ ยังไม่รู้เจตนาของอีกฝ่าย เธอจะไม่เข้าปะทะก่อน
ซูเหม่ยลี่ก็ฉีกยิ้มให้เฉินเยี่ยน ผ่านไปหลายปี เธอเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่เฉินเยี่ยนเจอเธอ รอยยิ้มดูเป็นทางการมากขึ้น สายตาดูล้ำลึกมากขึ้น และดูสุขุมขึ้น อีกอย่างเฉินเยี่ยนสังเกตว่าซูเหม่ยลี่ดูมีอายุมากขึ้น เธออายุพอๆ กับตัวเอง แต่เธอพบกว่าหางตาซูเหม่ยลี่มีตีนกาแล้ว เหมือนว่าซูเหม่ยลี่ผ่านเรื่องอะไรมา ทำให้ดูเหมือนเธอผ่านโลกมามากแบบที่อายุเธอไม่ควรเจอ
แต่ซูเหม่ยลี่ยังคงเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์อยู่ ไม่ได้มีผลต่อความสวยของเธอเลย แต่เทียบกับครั้งแรกแล้ว ความน่ารักสดใสบนตัวเธอแบบนั้นไม่มีแล้ว
ซูเหม่ยลี่เปลี่ยนไปไม่น้อย ในใจเฉินเยี่ยนมีเสียงระฆังเตือนภัยใหญ่มากดังขึ้นมา เธอคิดว่าซูเหม่ยลี่ต้องมีเรื่องแน่ๆ ซูเหม่ยลี่แบบนี้ ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว
“มาแล้วก็ยืนเป็นสากอยู่ตรงนั้น สายตาไม่มีเลยสักนิด มีเธอไว้ทำไมเนี่ย”
ซุนหม่านเซียงไม่พอใจมาก
“แม่ เยี่ยนจื่อเธอเพิ่งกลับมา ไปรอบนี้เธอเหนื่อยมาก แม่พูดน้อยลงหน่อยได้ไหม”
ซินห้าวขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นมา
ซุนหม่านเซียงกำลังจะพูดอีก คุณย่าโบกมือมาที่เฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนรีบไปหน้าเตียงหาคุณย่า
“ผอมไปแล้ว ใต้ตาก็คล้ำ ลำบากเธอแล้ว”
เสียงคุณย่าเต็มไปด้วยความรักความเมตตา เธอรู้ว่าเฉินเยี่ยนไปซื้อยาให้เธอ
เฉินเยี่ยนส่ายหน้า ขอแค่รักษาคุณย่าหาย ลำบากเท่าไรเธอก็ไม่กลัว
“รีบนั่งพักผ่อนเถอะ ดื่มน้ำหน่อย”
คุณย่าตีมือเฉินเยี่ยนเบาๆ
เฉินเยี่ยนเพิ่งนั่งลง ซินห้าวก็ไปยกน้ำให้เฉินเยี่ยน
“เธอรีบกลับไปเถอะ อย่ามาอยู่เก้งก้างที่นี่เลย ดูตัวเธอสิเหม็นไปหมด ไม่รู้จักอาบน้ำ”
ซุนหม่านเซียงอุดจมูกว่าเฉินเยี่ยน
“บนรถไฟมีที่ให้นั่งกลับมาก็ไม่แย่แล้วค่ะ ฉันไม่สามารถอาบน้ำได้”
เฉินเยี่ยนตอบอย่างเย็นชา เธอรีบซื้อตั๋วรถ เลยหาซื้อตั๋วแบบที่มีที่นั่งไม่ได้ แล้วเธอก็ไม่ได้เป็นคนสร้างสถานีรถไฟ และเธอก็ไม่ใช่คนสำคัญถึงมีข้อยกเว้น เธอจึงต้องซื้อตั๋วแบบไม่มีที่นั่ง
บนรถไฟเธอยืนมาแปดชั่วโมงเต็มๆ ไม่ได้หลับ แล้วยังต้องทนกับการเบียดเสียด เธอรู้สึกว่าเท้าที่เธอยืนนั้นไม่มีความรู้สึกแล้ว ความรู้สึกแบบนี้คนที่ไม่เคยเจอไม่รู้หรอก
สุดท้ายมีสามีภรรยาคู่หนึ่งจะลงจากรถ ผู้หญิงคนนั้นบอกกับทุกคนว่าขายที่นั่งเธอสองเหรียญ
ที่ทางเดินและตู้สินค้าเต็มไปด้วยคน แต่ไม่มีใครยอมจ่ายเงิน ข้างๆ ที่นั่งของพวกเขามีคนยืนอยู่ไม่น้อย รอพวกเขาลงจากรถก็ค่อยนั่งที่พวกเขาแทน
จนสุดท้ายเธอเจอเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนไม่พูดอะไรเลย ตามเธอไป จ่ายไปสองเหรียญเพื่อซื้อที่นั่ง ส่วนอีกที่นั่งหนึ่งขายไม่ออก มีหลายคนแย่งกันแต่ไม่เกี่ยวกับเธอ แบบนี้ถือว่าจบปัญหาโชคชะตาที่เธอต้องยืนกลับมา
ไปรอบนี้เหนื่อยมากจริงๆ กลับมาเจอซุนหม่านเซียงพูดแบบนี้อีก เธอไม่โกรธสิถึงแปลก
“คุณป้า เยี่ยนจื่อต้องเหนื่อยมากแน่เลย หนูนั่งรถไฟมาก่อนหนูรู้ค่ะ ยากเกินจะรับไหวจริงๆ น้องเยี่ยนจื่อ เธอรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ วันนี้ฉันไม่มีอะไร ฉันกับคุณป้าแล้วยังมีลุงสองจะอยู่เฝ้าที่นี่ให้ พรุ่งนี้เธอค่อยมาเปลี่ยนกะ พักผ่อนสักวัน ไม่อย่างนั้นร่างกายจะทนไม่ไหว”
ซูเหม่ยลี่พูดก่อนที่ซุนหม่านเซียงจะพูด น้ำเสียงนุ่มนวล ดูท่าทางเป็นห่วงเฉินเยี่ยน แต่ไม่รู้ว่าทำไมเฉินเยี่ยนฟังคำพูดเธอแล้ว ในใจกลับเยือกเย็น มักจะรู้สึกว่าน้ำเสียงเธอฟังดูแปลก ไม่เหมือนคนทั่วไป แต่ตรงไหนที่ไม่เหมือน เฉินเยี่ยนก็บอกไม่ได้
“ใช่แล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”
คุณย่าและลุงสองก็พูดโน้มน้าวเฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยนพูดฝากฝังอีกหลายประโยค แล้วเอายาไปให้หัวหน้าฉวี่กับซินห้าว
หัวหน้าฉวี่พยักหน้าติดต่อกัน บอกว่าเฉินเยี่ยนซื้อมาได้ดี
แล้วถามอาการของคุณย่า เก็บยาไว้ เฉินเยี่ยนและซินห้าวเลยกลับไป
เดิมทีความหมายของซุนหม่านเซียงคือให้เฉินเยี่ยนกลับไปเอง แต่ซินห้าวจะยอมให้ภรรยาตัวเองขี่รถกลับไปคนเดียวได้ที่ไหน ภรรยาเหนื่อยขนาดนี้ เขาสงสาร
ระหว่างทางกลับซินห้าวบอกเฉินเยี่ยน ซูเหม่ยลี่บังเอิญเจอซินห้าวโดยไม่ตั้งใจ เธอถามว่าซินห้าวมาโรงพยาบาลทำไม ซินห้าวไม่สนใจเธอ เธอไปบ้านซิน รู้เรื่องที่คุณย่าอยู่โรงพยาบาล จากนั้นเธอเลยหาคนมาช่วยเปลี่ยนห้องคนไข้
คุณย่า ซินห้าวและลุงสองบอกว่าห้องคนไข้แบบไหนก็เหมือนกัน แต่ซุนหม่านเซียงตามมาด้วย บอกว่าอยู่โรงพยาบาลใช้เงินเยอะขนาดนั้นไม่ปรึกษาเธอเลย ไม่เห็นหัวเธอ ยังดีที่มีเหม่ยลี่ใจดีช่วยเหลือ พวกเขายังไม่รับน้ำใจอีก บอกว่าห้องคนไข้ธรรมดาคนเยอะขนาดนั้น ตอนกลางคืนมีคนเฝ้าเต็มไปหมด ไม่มีที่จะให้ยืนแล้ว บอกว่าห้องเดี่ยวดีกว่าเยอะ ไม่มีคนนอก ตอนกลางคืนซินห้าวกับลุงสองปูผ้านอนที่พื้นก็สะดวก
สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ เลยต้องยอมรับที่ซูเหม่ยลี่จัดการให้ เปลี่ยนมาอยู่ห้องคนไข้เดี่ยว ก็สะดวกกว่ามากจริงๆ
ส่วนซูเหม่ยลี่ก็มีข้ออ้าง มาเยี่ยมคุณย่าทุกวัน เอาของบำรุงมาให้ ดุเป็นห่วงมาก
แต่เธอไม่ได้ทำให้คนรำคาญ และไม่ได้กระตือรือร้นกับซินห้าวผิดปกติ พูดจาก็แค่ถามถึงอาการป่วยคุณย่า เธอเว้นระยะห่างไว้ได้ดีมาก ดังนั้นถึงแม้ซินห้าวไม่ชอบเธอ ก็หาเรื่องเธอไม่ได้
ที่แท้วันนั้นที่ตัวเองเห็นคือซูเหม่ยลี่จริงด้วย เพียงแต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้นะ?
ซุนหม่านเซียงบอกเธอ?
เป็นไปไม่ได้ ยุคนี้เทคโนโลยียังไม่พัฒนา ไม่เหมือนยุคหลัง มีวีแชท มีโทรศัพท์ สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา
คนที่โน้มน้าวทุกคนให้พาคุณยายมาโรงพยาบาลก็คือเธอและซินห้าว วันนั้นซุนหม่านเซียงก็อยู่บ้านซิน ตอนกลางคืนก็อยู่ ในหมู่บ้านเกษตรกรไม่มีโทรศัพท์ เธอไม่มีทางบอกซูเหม่ยลี่ได้ ดังนั้นซูเหม่ยลี่ไม่มีทางรู้เรื่องที่พวกเขาพาคุณย่ามาโรงพยาบาล
หรือเธอป่วย?
“คุณบอกว่าคุณเจอเธอที่โรงพยาบาล เธอป่วยหรือคะ?”
เฉินเยี่ยนนั่งซ้อนท้ายจักรยาน พิงศีรษะไปที่หลังซินห้าว พยายามทำให้ตัวเองสบาย
“ผมไม่ได้ถาม แต่ผมดูเธอแล้วเหมือนไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่…”
ซินห้าวพูดมาถึงตรงนี้ก็หยุด แล้วพูดขึ้นมาอีก “ผู้หญิงคนนี้ผมดูไม่ค่อยออก เยี่ยนจื่อ ผมรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนแต่ก่อนเลย พวกเรายุ่งกับเธอน้อยหน่อยดีกว่า”