เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 307 เกิดเรื่อง! (1)
เฉินเยี่ยนไม่มั่นใจ แต่ครั้งนี้พอถึงวันที่ประจำเดือนต้องมา แต่เลยมาสามวันแล้ว หมายความว่ายังมีหวังอยู่ ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะไม่ใช่ เธอก็ยังสามารถท้องได้
“จริงหรือ? แน่ใจว่าห้าปี?”
ซินห้าวยังไม่ค่อยอยากเชื่อ ละครเรื่องนี้กลับตาลปัตรไปหมด ก่อนหน้านี้เขาเตรียมใจไม่เป็นพ่อคนทั้งชีวิตแล้ว คิดไม่ถึงว่าในพริบตาเฉินเยี่ยนบอกเขาว่าเธอมีลูกได้ อีกทั้งยังอาจจะท้องแล้วด้วย เขาจะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง
“จริงค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่มั่นใจ รอดูอีกสักพัก”
ใบหน้าเฉินเยี่ยนก็มีรอยยิ้ม จิตใจที่เป็นกังวลมาตลอดในที่สุดก็สงบลง ซินห้าวไม่ได้ตำหนิเธอ เธอค่อยเบาใจ ช่างดีเหลือเกิน
“ได้ ได้ พวกเรารอดูกัน ถึงแม้จะไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ยังไงอีกหน่อยก็มีได้”
ซินห้าวพยักหน้าติดต่อกัน
เฉินเยี่ยนพิงไหล่ซินห้าว ความสุขที่ไม่มีอะไรมาเทียบได้ในช่วงเวลานี้ อีกหน่อยเธอไม่ต้องกังวลว่าจะอธิบายกับซินห้าวยังไงแล้ว และไม่ต้องกังวลว่าเฉินเวยจะพูดอะไรอีก
ใช่แล้ว เฉินเวย คิดถึงเฉินเวย เฉินเยี่ยนนั่งตัวตรงขึ้นมา
“คำพูดพวกนั้นที่เฉินเวยเล่าให้คุณฟัง ก็แค่อยากจะทำลายความสัมพันธ์ของพวกเรา เธอยังบอกซินเหลยว่าเธอกับคุณมีความสัมพันธ์กัน ฉันคิดว่าเธออยากจะยุแยงคุณกับซินเหลย พวกเราปล่อยเธอแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ต้องคิดหาวิธีให้เธอทำผิด แล้วส่งเธอกลับไปที่นั่น”
เดิมทีเฉินเยี่ยนไม่กลัวเฉินเวย แต่ตอนนี้เธอมีความเป็นไปได้ว่าจะท้อง เธอต้องระมัดระวังทุกเรื่อง ถ้าให้เฉินเวยรู้ว่าเธอท้อง เฉินเวยที่บ้าคลั่งนั่นอาจจะทำเรื่องอะไรขึ้นมาก็ได้ เธอไม่อยากปล่อยปัญหาไว้แบบนี้ อีกหน่อยจะเสียใจ
“ได้ พวกเราไปหาพ่อแม่ฝั่งนั้นก่อน ผมคุยธุระกับพ่อหน่อย ตอนเย็นพวกเราค่อยปรึกษากัน คุณปล่อยให้ผมจัดการได้เลย
สายตาซินห้าวเยือกเย็น เป็นแบบนี้จริงๆ ถ้าวันนี้ตัวเองคิดไม่ได้ นั่นจะปล่อยให้แผนเฉินเวยสำเร็จ ไม่สามารถปล่อยให้เฉินเวยอยู่ข้างนอกให้เธอคอยก่อกวนทำร้ายคนอื่นต่อไปอีกไม่ได้แล้ว
ซินห้าวคิดว่าถ้าต้องต่อกรกับเฉินเวย ต้องลงมือจากฝั่งซินเหลย แน่นอน เขาไม่สามารถไปบอกซินเหลยตรงๆ ได้ ซินเหลยต้องไม่ยอมแน่ เขาจำเป็นต้องหลอกใช้ซินเหลย
เฉินเยี่ยนพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดซินห้าว
จนเฉินเยี่ยนและซินห้าวไปบ้านซิน ซินชานยังไม่กลับมา มีแต่ซุนหม่านเซียงอยู่บ้านคนเดียว กำลังนั่งอยู่บนโซฟาดูทีวี
“พวกเธอมากันทำไม?”
แววตาซุนหม่านเซียงแสดงอาการดีใจก่อน ตามด้วยเบะปาก ทำเหมือนไม่พอใจพวกเขามาก
มองดูซุนหม่านเซียง ไม่รู้ว่าทำไมในใจเฉินเยี่ยนถึงรู้สึกอ้างว้าง ที่จริงแล้วซุนหม่านเซียงอยู่บ้านคนเดียวคงจะเหงามากสินะ?
“ซินเหลยยังไม่กลับมาหรือ?”
ซินห้าวดึงเฉินเยี่ยนให้นั่งลง
“ตั้งแต่ไปอยู่กับนางปีศาจนั่น เขาก็ไม่เคยกลับมาเลย จริงๆ เลย ไม่รู้ว่าครอบครัวพวกเราดวงซวยอะไร โดนคนบ้านเฉินทำร้ายจนตายกันหมด เฉินเวยนั้นก็ไม่รู้เป็นตัวอะไรมาเกิด ครั้งที่แล้วซินเหลยยังทะเลาะกับแม่เพราะเธออีก น่าโมโหจริงๆ เลย! เขาไม่คิดเลยว่าใครอยู่ข้างเขา โชคดีที่พ่อแกไม่อยู่ ไม่อย่างนั้นจะว่าแม่อีก”
พอพูดขึ้นมาซุนหม่านเซียงก็เต็มไปด้วยความโกรธ ระบายกับซินห้าว
ไม่ใช่ว่าคุณเลี้ยงจนเสียนิสัยหรอกหรือ ถ้าคุณไม่ตามใจซินเหลยจนกำเริบเสิบสาน เขาจะเป็นแบบนี้หรือ?
ปากก็บ่น แล้วความจริงล่ะ? กลัวว่าซินเหลยจะอยู่ข้างนอกลำบาก ยังส่งเงินไปให้ ถ้าคุณไม่ให้เงินเขาใช้ ดูสิว่าเขาจะเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกได้ไหม
แต่คำพูดพวกนี้เฉินเยี่ยนจะไม่พูด เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์
ยังไม่ทันที่ซินห้าวจะพูดอะไร ซินชานก็กลับมาแล้ว
เห็นเฉินเยี่ยนและซินห้าว ซินชานดีใจมาก ถามถึงที่บ้าน เฉินเยี่ยนให้ซินห้าวพูดคุยกับซินชาน เธอไปทำอาหาร เพราะเธอดูแล้วซินห้าวกับซินชานน่าจะมีเรื่องพูดกันเยอะ
“คุณระวังด้วยนะ”
ซินห้าวไม่ค่อยวางใจ
“เธอเปราะบางขนาดนั้นเลยหรือ? ก็แค่ทำอาหาร ไม่ใช่ว่าเธอทำไม่เป็น ยังกับถึงกับต้องเอาชีวิตเธอ”
ซุนหม่านเซียงไม่พอใจ
เฉินเยี่ยนขำ เธอรู้ว่าซินห้าวเป็นห่วงเธอ กลัวเธอท้องขึ้นมาจริงๆ เพราะถ้าขยับตัวรุนแรงไป ก็จะมีผลกระทบ อันที่จริงไม่เป็นไร เธอคุ้นเคยกับการทำอาหารเป็นอย่างดี
กินข้าวเย็นเสร็จ ซินชาน ซุนหม่านเซียง และซินห้าวนั่งลง เฉินเยี่ยนเพิ่งชงชาเสร็จ กำลังยกมาให้ซินชาน เสียงโทรศัพท์ในห้องรับแขกดังขึ้น
“ถ้าเป็นซินเหลยบอกเขาไป ให้เขาไม่ต้องกลับมาแล้ว เมื่อไรที่ไม่ออกไปมั่วข้างนอก ยอมทำงานดีๆ ค่อยให้เขากลับมา”
สีหน้าซินชานเคร่งขรึม เขาผิดหวังในตัวลูกชายคนเล็กมาก
“คุณพูดน้อยหน่อยเถอะ ลูกชายโดนคุณว่าถึงไม่ยอมกลับบ้านแล้วเนี่ย”
ซุนหม่านเซียงบ่น จากนั้นรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล อ้อ ใช่ นี่บ้านซินค่ะ ใช่ ใช่ ซินเหลยเป็นลูกชายฉันเอง อ้อ อะไรนะ คุณพูดอีกรอบสิ! อยู่ อยู่ อยู่ ที่ไหน? ฉัน ฉันจะไป ไปเดี๋ยวนี้”
ไม่รู้ว่าซุนหม่านเซียงได้ยินอะไร สีหน้าซีดขึ้นมา พูดเสียงสั่น
เห็นเธอโยนโทรศัพท์ ริมฝีปากยังสั่นอยู่ ลางสังหรณ์เฉินเยี่ยนคิดว่าเกิดเรื่อง ซินชานและซินห้าวก็มองไปทางซุนหม่านเซียง
“ซิน ซินเหลย เขา เขาเข้าโรงพยาบาล”
กว่าซุนหม่านเซียงจะพูดออกมาได้
“เข้าโรงพยาบาล? ป่วยหรือ?”
ซินชานลุกขึ้นยืน ซินห้าวก็ยืนขึ้นตาม ไม่ว่ายังซินเหลยก็ถือว่าเป็นคนในครอบครัว พวกเขาไม่เป็นห่วงไม่ได้
“ใช่ คนจากสถานีตำรวจโทรมา บอกว่า บอกว่าซินเหลยมีเรื่องตีกับคนอื่น จากนั้นเข้าโรงพยาบาลแล้ว ให้รีบไปหา พระเจ้า ซินเหลยต้องไม่เป็นอะไร ใช่ ใช่แล้ว ต้องไม่เป็นอะไร”
ความคิดซุนหม่านเซียงไม่ค่อยชัดเจนเท่าไร
“ถามชัดเจนหรือเปล่าว่าอยู่โรงพยาบาลไหน?”
ยังถือว่าซินชานใจเย็นอยู่
“โรงพยาบาลในเมือง”
ซุนหม่านเซียงยังจำได้
“รีบไปเถอะ”
ซินชานไม่พูดอะไรต่อ ต่อให้ซินเหลยเป็นยังไง นั่นก็คือลูกชายเขา
“ไป ไป”
ปากซุนหม่านเซียงบอกว่าไป แต่ขาเธอกลับไม่ขยับ เหมือนว่าเธอตกใจจนอึ้งไป
เฉินเยี่ยนเหลือบมองซินห้าว ทั้งสองคนเดินเข้าไปประคองซุนหม่านเซียง
เฉินเยี่ยนทอดถอนใจ ตอนที่ซินห้าวบาดเจ็บ ถึงแม้ซุนหม่านเซียงเสียใจ แต่ก็ไม่ได้เสียใจแบบนี้ แต่ซุนหม่านเซียงมีใจให้ซินเหลยจริงๆ
ลงจากตึกมา ทุกคนไม่อยากขี่จักรยาน บ่นว่าช้าเกินไป เลยหารถเช่า นั่งไปที่โรงพยาบาลในเมือง
มาถึงที่ เห็นตำรวจสองนาย แล้วยังมีเฉินเวยด้วย
บนตัวเฉินเวยก็มีรอยเลือดอยู่ไม่น้อย สายตาเฉินเยี่ยนเย็นชา เฉินเวยอยู่ที่นี่ นั่นก็หมายความว่าที่ซินเหลยได้รับบาดเจ็บมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉินเวยด้วย?
คนที่เหลือก็เห็นเฉินเวย แต่ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจเธอ ซุนหม่านเซียงวิ่งเข้าไปถาม “ซินเหลยล่ะ? เขาได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือเปล่า?”
“พวกคุณคือพ่อแม่ของซินเหลยใช่ไหม? พวกเราเป็นตำรวจอยู่ที่ถนน 81 ผมแซ่เว่ย ตอนนี้ซินเหลยยังอยู่ในห้องผ่าตัด คุณหมอกำลังช่วยชีวิตอยู่”
มีตำรวจคนที่ดูอายุมากกว่าแซ่เว่ยเดินเข้ามาบอก
“สวัสดีครับสหายเว่ย ขอถามหน่อยว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ซินชานพยายามทำให้ตัวเองสงบนิ่ง แล้วเริ่มถาม
“คืออย่างนี้ พวกเราได้รับแจ้งว่าที่ถนน 81 มีห้องดูหนังหนึ่งเกิดเรื่องทะเลาะกัน จนตอนที่พวกเราไปถึง สหายคนนี้ที่ชื่อเฉินเวยกำลังกอดสหายซินเหลยร้องไห้อยู่ อีกอย่างฝ่ายที่ทะเลาะกับพวกเขามีอยู่สองคน คนหนึ่งหนีไป อีกคน…”
พูดมาถึงตรงนี้ตำรวจแซ่เว่ยก็เงียบไป แล้วค่อยพูดขึ้นมา “ตอนที่ส่งมาถึงโรงพยาบาล คนนั้นไม่มีลมหายใจแล้ว พวกเรามีทีมสองคนอยู่ที่นั่นจัดการเรื่องกับครอบครัวพวกเขา”
ฟังมาถึงตรงนี้เฉินเยี่ยนตกใจ ซินห้าวรีบประคองเธอไว้
ถึงกับมีคนตาย!