เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 311 พ้นขีดอันตราย
ตำรวจสองนายนั้นเชื่อคำพูดเฉินเวย เพราะเฉินเวยเป็นผู้หญิงที่บอบบางจริงๆ ในระหว่างที่มีเรื่องกันแบบนี้ เธอทำอะไรไม่ได้
เฉินเยี่ยนกลับรู้สึกสงสัยในคำพูดเฉินเวย ถึงแม้เฉินเวยจะบอกว่าสองคนนั้นหยิบมีดออกมาก่อน ซินเหลยแทงกลับเพราะป้องกันตัวเอง แต่ถ้าเฉินเวยไม่จับผู้ชายคนนั้นไว้ แล้วเรียกให้ซินเหลยลงมือ ซินเหลยก็จะไม่แทงผู้ชายคนนั้น ผู้ชายคนนั้นก็จะไม่ตาย ส่วนซินเหลยก็จะไม่โดนแทงอีกแผล บาดเจ็บสาหัสจนต้องเข้าโรงพยาบาล
เฉินเวยเป็นต้นตอของเรื่องนี้ทั้งหมด เฉินเยี่ยนสงสัยแม้กระทั่งทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้ใจกล้าไปลูบขาอ่อนเฉินเวยด้วยซ้ำ? แล้วยังด่าเฉินเวยว่าอ่อยเขาอีก หรือว่าเฉินเวยอ่อยเขาก่อน? แต่กลับเล่นละครว่าโดนกลั่นแกล้ง ทำให้สองฝ่ายทะเลาะกัน จนเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้
ไม่ว่าจะพูดยังไง เฉินเวยจะเป็นฝ่ายโดนกระทำเสมอ เพราะเธอ ตอนนี้เลยมีหนึ่งคนตาย อีกคนนอนอยู่ในนั้นยังช่วยชีวิตไม่ได้…
“ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรไป ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปแน่ เธอมันตัวก่อเรื่อง เธอมันตัวซวย เธอต้องชดใช้ลูกชายฉันด้วยชีวิต!”
สายตาที่ซุนหม่านเซียงมองเฉินเวยเหมือนจะกินคนเลย ถ้าเป็นไปได้ เธออดไม่ได้อยากจะบีบเฉินเวยให้ตาย
นายตำรวยเว่ยกำลังจะพูดอะไร เวลานี้ประตูใหญ่ห้องผ่าตัดถูกเปิดออก ทุกคนรีบวิ่งเข้าไป
“คนไข้ช่วยชีวิตไว้ได้แล้ว พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องคอยดูอาการภายใน 24 ชั่วโมง”
คุณหมอถอนหายใจยาว สามารถช่วยชีวิตคนได้ อย่างน้อยเทียบกับการบอกครอบครัวว่าช่วยชีวิตไม่ได้ทำให้พวกเขาสบายใจกว่า เผชิญหน้าได้ง่ายกว่า
“ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณคุณหมอค่ะ ลูกชายฉันไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้ว”
ซุนหม่านเซียงร้องไห้นั่งลงไปกับพื้น ซินชานก็ถอนหายใจออก เขาห่อหลังนิดหน่อย นั่นคือการแสดงออกว่าผ่อนคลายแล้ว
ซินห้าวหลับตา ช่วยชีวิตได้ก็ดีแล้ว น้องชายเขามีชีวิตต่อแล้ว
เฉินเยี่ยนคลายหมัด เธอขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตซินเหลย ไม่อย่างนั้นถึงแม้เธอจะตัดสินใจเด็ดเดี่ยว แต่ในใจกลับเสียใจมาก ยังไงซินเหลยก็เป็นถึงชีวิตหนึ่งเลย
“เอาล่ะ ครอบครัวจัดการกันก่อน จากนั้นตอนนี้ตามพวกผมไปที่สถานีตำรวจ ยังต้องจดบันทึกอีก”
ตำรวจสองคนก็ถอนหายใจยาว ตายไปแล้วคนหนึ่ง พวกเขาไม่อยากให้คนนี้ตายเหมือนกัน
“พ่อไปเอง”
ซินชานรู้ว่ายังไงก็ต้องไป เพราะที่นั่นมีคนเสียชีวิตแล้ว
“ผมไปกับพ่อ”
ซินห้าวประคองพ่อตัวเอง ฝั่งนั้นก็ต้องมีคนไปเหมือนกัน คนฝั่งนั้นตายแล้ว ไม่ว่าจะเพราะอะไร แต่อารมณ์ต้องรุนแรงแน่นอน ถ้าพวกเขาลงมือ พ่ออยู่คนเดียวคงจะลำบาก เขาไม่ไว้ใจ
ซินห้าวพูดจบก็เหลือบมองเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนพยักหน้า เธอเข้าใจความหมายซินห้าว ให้เธอดูแลซุนหม่านเซียงและซินเหลยที่อยู่ในห้องคนไข้
ซินชาน ซินห้าวและเฉินเวยตามตำรวจไป ส่วนเฉินเยี่ยนประคองซุนหม่านเซียงไปห้องคนไข้
ซินเหลยโดนย้ายไปอยู่ห้องคนไข้แล้ว แต่ยังไม่ฟื้น
มองดูซินเหลยที่ปกติเอาแต่ใจไม่รู้เรื่องตอนนี้นอนหน้าซีดขาวอยู่ที่นี่ ในใจเฉินเยี่ยนพูดไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง
“อาเหลย ซินเหลย ลูกรีบดูสิ นี่แม่ไง”
ซุนหม่านเซียงโผเข้าไปที่หน้าเตียงซินเหลย คว้าแขนซินเหลยแล้วเริ่มเรียก
“แม่ อย่าเขย่าเขา เขาเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ขยับไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่ตื่น”
เฉินเยี่ยนเห็นใบหน้าซุนหม่านเซียงเต็มไปด้วยน้ำตาท่าทางร้อนใจ เลยอดเตือนเธอไม่ได้
“อ้อ อ้อ ฉันไม่เขย่าเขา ฉันไม่เขย่าเขา เยี่ยนจื่อ เธอว่า ซินเหลยต้องไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ซุนหม่าเซียงมองเฉินเยี่ยน สายตาขอร้องและคาดหวัง
เฉินเยี่ยนถอนหายใจ เวลานี้ซุนหม่านเซียงเป็นเพียงแม่ที่ห่วงใยลูก
“คุณหมอบอกแล้ว เขาพ้นขีดอันตรายแล้ว ที่เหลือก็แค่ดูแลเขาให้ดี จะต้องหายแน่นอน”
เฉินเยี่ยนพยักหน้า
“ใช่ ใช่ ฉันจะต้องดูแลเขาให้ดี”
ได้คำตอบที่แน่นอนจากเฉินเยี่ยน ซุนหม่านเซียงเหมือนมีที่พึ่งทางใจ
“งั้นแม่อยู่เฝ้าที่นี่ก่อน ฉันจะไปซื้ออ่าง ผ้าขนหนู ขวดใส่น้ำร้อนของพวกนี้จำเป็นต้องใช้”
เฉินเยี่ยนรู้สึกหงุดหงิดใจ
“ได้ เธอรีบไปเถอะ”
ซุนหม่านเซียงไม่ได้หันหน้ามา เธอนั่งอยู่หน้าเตียงคนไข้ มองซินเหลยตาไม่กะพริบ
เดินออกมาจากโรงพยาบาล เฉินเยี่ยนหันกลับไปมอง ปีนี้ช่างไม่ราบรื่นเลย ตอนแรกเป็นคุณย่ามาอยู่โรงพยาบาล จากนั้นซินชานเกิดเรื่อง ซินห้าวได้รับบาดเจ็บมานอนโรงพยาบาล นี่เพิ่งผ่านไปไม่นานเอง ซินเหลยก็มานอนที่โรงพยาบาลอีกแล้ว
แต่ มันจะดีขึ้น ทุกอย่างจะผ่านไป รอจนเคราะห์ร้ายผ่านไป ก็จะเป็นวันพรุ่งนี้ที่สวยงาม
เฉินเยี่ยนถอนหายใจ จากนั้นไปร้านค้าซื้อของใช้จำเป็นสำหรับอยู่โรงพยาบาล
รอจนเฉินเยี่ยนหิ้วของพวกนี้กลับไป ซินเหลยยังไม่ฟื้น ซินชานและซินห้าวก็ยังไม่กลับ
เฉินเยี่ยนเทน้ำแก้วหนึ่งให้ซุนหม่านเซียง
“พ่อเธอกับซินห้าวคงไม่มีเรื่องอะไรนะ?”
ซุนหม่านเซียงรู้สึกกังวลใจ เผชิญหน้ากับเฉินเยี่ยน เธอไม่ได้เป็นเหมือนแต่ก่อนที่ไม่พอใจและท่าทางเย่อหยิ่ง เธอไม่มีความมั่นใจเลย เธอต้องการเฉินเยี่ยนเป็นที่พึ่งให้เธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพ่อและซินห้าว แต่ฝั่งนั้นมีคนตาย ต้องโวยวายแน่นอน คิดว่าน่าจะกำลังเจรจาเพื่อจบเรื่องอยู่ค่ะ”
เฉินเยี่ยนก็เดา
“พวกเขายังจะโวยวาย! คนพวกนั้นเป็นพวกนักเลงไม่ใช่คนดีเกือบจะทำลูกชายฉันตายแล้ว พวกเขายังกล้าโวยวาย! ถ้าฉันอยู่ ดูสิว่าฉันจะไม่ขู่จนพวกนั้นตาย”
ซุนหม่านเซียงถลึงตา สีหน้าโมโห ทำร้ายลูกชายเขาแล้วยังกล้าโวยวายอีก ถ้าลูกชายเธอเป็นอะไรไป เธอไม่มีวันจบกับคนพวกนั้นแน่
“แม่ อย่าพูดเพราะอารมณ์เลย ถึงแม้ตอนแรกฝ่ายนั้นจะไม่ถูก เป็นเขาที่ใช้มีดก่อน แต่ยังไงคนฝั่งนั้นก็ตายแล้ว ถึงแม้ซินเหลยจะป้องกันตัวเอง แต่ก็ถือว่าเป็นการฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจ”
เฉินเยี่ยนพูดมาถึงตรงนี้ก็ไม่ได้พูดต่อ ก่อนหน้านี้แค่เป็นห่วงว่าจะช่วยชีวิตซินเหลยได้หรือไม่ แต่ตอนนี้มาคิดดูแล้วฆ่าคนโดยไม่เจตนาก็คือการฆ่าเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นซินเหลยอาจจะติดคุก
“แล้วซินเหลยฆ่าคนแล้ว เขาจะติดคุกไหม? ตัวเขาบาดเจ็บหนักขนาดนี้ อีกอย่างเรื่องนี้ก็โทษเขาไม่ได้ มีดนั้นก็ไม่ใช่ของเขา ไม่ได้ ฉันต้องไปคุยกับตำรวจพวกนั้น”
ซุนหม่านเซียงร้อนรน
“แม่ อย่าเพิ่งใจร้อนไป เรื่องนี้แม่ไปพูดก็ไม่มีประโยชน์ ถึงเวลาฉันจะให้ซินห้าวหาคนมาถาม ซินเหลยเขาทะเลาะกับคนอื่น แต่มีดนั้นไม่ใช่ของเขา อีกอย่างเขาก็ไม่คิดจะฆ่าผู้ชายคนนั้น เพียงแต่พลั้งมือแทงโดนจุดสำคัญพอดี คนนั้นก็แทงซินเหลยไปสองแผล เพียงแต่ซินเหลยโชคดี ช่วยชีวิตไว้ได้ ดูว่าจะลงโทษสถานเบาได้หรือเปล่า อีกอย่างถ้าได้รับการให้อภัยจากครอบครัวผู้เสียหาย โทษอาจจะเบา ดังนั้นพวกเราไม่สามารถไปเล่นงานครอบครัวอีกฝ่ายได้ พวกเราไม่รู้ข้อกฎหมาย ถึงเวลาค่อยถามคนที่รู้เรื่อง พวกพ่อยังไม่กลับมา พวกเราเฝ้าซินเหลยสำคัญที่สุด”
เฉินเยี่ยนรีบดึงซุนหม่านเซียงไว้ เฉินเยี่ยนตัวเธอเองก็รู้เรื่องไม่เยอะ แล้วเธอก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ซินเหลยจะได้รับการตัดสินยังไง แต่ยังไงก็ไม่สามารถให้แม่สามีไปก่อเรื่องได้
“ได้ ฉันเชื่อเธอ ขอแค่ไม่ให้ซินเหลยติดคุก จะยังไงก็ได้ ฉันสงสารลูกชาย”
ซุนหม่านเซียงฟังคำพูดเฉินเยี่ยนเลยนั่งลง มองดูซินเหลยที่นอนไม่ขยับอยู่ตรงนั้น เธอร้องไห้อีกครั้ง