เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 312 ไม่มีเหตุผล
กว่าซินชานและซินห้าวจะกลับมาก็เที่ยงคืนแล้ว ซินห้าวยังดี เขาอายุน้อยยังแข็งแรง แต่ซินชานกลับมีสีหน้าเหนื่อยล้า เดินอย่างหมดแรง เรื่องวันนี้สำหรับเขาแล้วถือว่าไม่ใช่เรื่องเล็กเลย เกือบจะเสียลูกชายไปแล้ว ไม่ว่าใครแข็งแรงแค่ไหนก็รับไม่ได้หรอก
“เป็นยังไงบ้าง? คนที่สถานีตำรวจว่ายังไง? ซินเหลยจะไม่มีเรื่องใช่ไหม?”
ซุนหม่านเซียงร้อนรน ไม่ทันรอให้ซินชานนั่งลงก็มองซินเหลย แล้วคว้าแขนซินชานไปถาม
ซินชานและซินห้าวนั่งลง เฉินเยี่ยนรินน้ำให้พวกเขา ให้พวกเขาปรับตัวก่อน
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน ถึงแม้คำพูดของเฉินเวยจะเป็นประโยชน์ต่อซินเหลย แต่ฝั่งนั้นมีคนตาย อีกคนก็ยังไม่เจอตัว รอหาตัวเขาเจอก่อน บันทึกคำให้การเขา พวกเขาจะตรวจสอบอีกรอบ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ถือว่าซินเหลยฆ่าคนตาย พรุ่งนี้ผมจะไปถามคนอื่นดู”
เสียงซินชานฟังดูแหบแห้ง ถึงแม้ลูกชายจะหายดีแล้ว แต่ก็มีโอกาสติดคุกได้ เขาจะไม่กลุ้มใจได้ยังไงกัน
มองดูลูกชาย เขาอยากจะสั่งสอนมาตลอด แต่ลูกไม่เชื่อฟังเขา ถึงกับไม่ยอมกลับบ้านเพื่อจะหนีหน้าเขา ตอนนี้ในที่สุดก็เกิดเรื่องแล้ว แต่ตอนนี้มาพูดเรื่องพวกนี้จะมีประโยชน์อะไร เรื่องเกิดขึ้นแล้ว
“ครอบครัวฝั่งนั้นโวยวายไหม? พูดว่ายังไงบ้าง?”
เฉินเยี่ยนถามซินห้าว
“โวยวายหนักมาก ยกพวกมาถึงหน้าสถานีตำรวจ บอกว่าจะให้พวกเราชดใช้ด้วยชีวิต พวกเขายังจะพุ่งเข้ามาจะตี พวกเราพูดจาดีแล้ว อารมณ์พวกเขารุนแรงมาก ทะเลาะกันอยู่นานมาก ผมบอกว่าจะชดใช้เงินให้พวกเขา พวกเขาต้องการห้าหมื่น เรื่องนี้จบไม่ง่ายเลย”
ซินห้าวเล่าคร่าวๆ เขาเข้าใจถึงอารมณ์ของคนในครอบครัวฝั่งนั้น ถึงคนในครอบครัวจะไม่ดียังไง แต่ตายไปแล้ว นั่นก็เป็นญาติของพวกเขา
ซินเหลยก็บาดเจ็บสาหัส เขาเสนอชดใช้ให้ หวังว่าอีกฝ่ายสบายใจขึ้นไม่มากก็น้อย และสามารถให้อภัยซินเหลยได้
พ่อแม่อีกฝ่ายยังดี เสียใจที่สูญเสียลูกชายไป แต่ก็ยังถือว่ามีเหตุผล บอกว่าทั้งสองฝ่ายมีส่วนรับผิดชอบ พวกเขาก็รู้ว่าซินเหลยเกือบตายแล้วเหมือนกัน เลยยอมเจรจา แต่อีกฝ่ายมีพี่ชาย ไม่รับฟังเหตุผลเลย ไม่เพียงแต่กร่นด่าจะทำร้ายคน ยังเรียกให้พวกเขาชดใช้ค่าเสียหายห้าหมื่น บอกว่าถ้าไม่จ่าย ก็อย่าหวังเรื่องจะจบ ให้ซินเหลยรอเข้าคุกได้เลย
“พวกเขาโวยวายมากเกินไปแล้ว ซินเหลยบาดเจ็บแบบนี้ ฉันยังไม่ไปหาเรื่องพวกนั้นเลย ยังกล้าเรียกร้องห้าหมื่นอีก ทำไมพวกเขาไม่ไปปล้นเลยล่ะ!”
ซุนหม่านเซียงตะคอกอย่างโมโห
และเพราะเสียงตะคอกของเธอ ทำให้ซินเหลยตื่น เฉินเยี่ยนเห็นเขาลืมตา แต่สายตายังดูเลือนรางอยู่
“เอาล่ะ คุณไม่ต้องร้องแล้ว ไม่ว่ายังไงฝั่งนั้นเขามีคนตาย พ่อแม่เขาต้องเสียใจอยู่แล้ว พวกเราชดใช้ให้เขาก็สมควรแล้ว เงินเท่าไรก็ไม่มากไป แต่ห้าหมื่นนี่พวกเราไม่มีจริงๆ ผมจะเจรจากับพวกเขาอีกครั้ง ถ้าพวกเขาให้อภัย ก็จะเป็นประโยชน์กับซินเหลย”
ซินชานไม่มีแรงจะเถียงกับซุนหม่านเซียงแล้ว
“ที่คุณพูดฉันรู้ แต่นั่นก็ไม่ควรเรียกร้องเอาถึงห้าหมื่นหรือเปล่า ใครก็ไม่มีปัญญาให้หรอก”
ซุนหม่านเซียงไม่พอใจ
ซินห้าวไม่ได้พูดอะไร ห้าหมื่นนี่เยอะมากจริงๆ ตอนนี้เขาก็ไม่มี คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถให้ได้จริงๆ คนที่สถานีตำรวจก็ว่าฝั่งนั้น ให้พวกเขาบอกตัวเลขที่สมเหตุสมผลหน่อย เจรจากันดีๆ
“เขา แค่กๆ พวกเขากล้า… แค่กๆ”
ซินเหลยได้ยิน อยากจะพูด แต่เขาเพิ่งผ่าตัดเสร็จ อ่อนแอมาก พออารมณ์ขึ้นก็ไอออกมา
“เหลย ตื่นแล้วเหรอ นี่แม่นะ ลูกเป็นยังไงบ้าง? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
พอซุนหม่านเซียงได้ยินลูกชายพูด ก็รีบโผเข้าไปหา ถามไถ่ด้วยสีหน้าดีใจ
ซินชาน ซินห้าวต่างก็เข้าไปล้อม
สักพักซินเหลยค่อยรู้สึกตัว นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นได้
ซุนหม่านเซียงเล่าเรื่องเมื่อกี้ให้เขาฟังอีกรอบ
“พวกนั้นต้องการห้าหมื่น? หนึ่งสตางค์ก็ไม่ให้ พวกนั้นลงมือก่อน มีดก็เป็นของพวกมัน ทำผมเจ็บขนาดนี้ ต้องให้พวกนั้นชดใช้!”
ซินเหลยร้องอย่างไม่พอใจ แน่นอน เขากำลังอ่อนแออยู่ ร้องไปก็ไม่มีแรง
“ได้ได้ ลูกอย่าเพิ่งขยับ เป็นเด็กดีนะ ลูกให้น้ำเกลืออยู่ นอนดีๆ เป็นพวกนั้นที่ผิด พวกนั้นไม่มีเหตุผล ให้พวกเขาชดใช้”
ซุนหม่านเซียงรีบโอ๋ลูกชาย
“เฉินเวยล่ะ? ทำไมเธอไม่อยู่ ให้เธอมาอยู่เป็นเพื่อนผม ผมบาดเจ็บ ทำผมจนเจ็บขนาดนี้ ปล่อยพวกมันไว้ไม่ได้”
ซินเหลยยังพูดจาโหดร้ายอยู่
“ที่สถานีตำรวจฝั่งนั้นเรียกเฉินเวยไว้ เธอยังมีธุระ ตอนนี้เลยมาไม่ได้ รอสอบปากคำเสร็จแล้วเธอก็มาเอง”
ถึงแม้ซุนหม่านเซียงจะไม่พอใจเฉินเวย แต่ตอนนี้เธอกลับไม่อยากให้ลูกชายทรมาน เลยโอ๋ไม่หยุด
“ให้พ่อไปหาคนมา พ่อรู้จักคนไม่ใช่หรือ ไปบอกตำรวจ ไล่ครอบครัวพวกนั้นไป ให้พี่ชายจัดการพวกนั้น ตีจนพวกนั้นกลัว พวกมันก็ไม่กล้าโวยวายแล้ว ยังเรียกให้ชดใช้ห้าหมื่น ไม่ให้หรอกห้าหมื่น ทำผมเจ็บขนาดนี้ ให้พวกนั้นชดใช้ผมห้าหมื่นสิค่อยยังชั่ว ถ้าพวกนั้นยังกล้าโวยวายอีก ก็ตัดขาพวกมันเลย ยังไงครอบครัวพวกมันก็ไม่ได้มีเงินมากเท่าพวกเรา พ่อก็มีเส้นสายรู้จักคน ไม่กลัวพวกมันหรอก!”
ซินเหลยตะโกนสุดเสียง เขาโกรธมากจริง โดนแทงถึงสองแผล เกือบจะตายแล้ว ไม่แก้แค้น จะคลายความโกรธในใจเขาได้ยังไง
“ได้ ได้ ลูกสบายใจได้ ต้องจัดการพวกนั้นแทนลูกแน่นอน ให้พวกนั้นมีจุดจบไม่ดี”
ซุนหม่านเซียงก็ตามใจลูกชายสุดๆ เหมือนกัน คิดว่าในใจเธอก็คิดแบบนี้เช่นกัน
ซินชานอยากจะพูด แต่ไร้เรี่ยวแรง แต่เขารู้ดีว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้
ซินห้าวขี้เกียจจะสนใจซินเหลยแล้ว ทำไมถึงไม่รู้จักจำเป็นบทเรียนนะ
“เอาล่ะ ไม่ต้องโวยวายแล้ว เธอรู้ไหมว่าเธอทำเรื่องใหญ่ขนาดไหน? เธอยังจะโวยวายอะไร?”
เฉินเยี่ยนทนดูไม่ไหวแล้ว ซินเหลยไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด แล้วยังพูดจาร้ายกาจอีก
“เธอว่าอะไร? ไม่เห็นเหรอว่าเขากลายเป็นแบบนี้แล้ว?”
ซุนหม่านเซียงจ้องเฉินเยี่ยนอย่างไม่พอใจ
“ใช่แล้ว เธอจะมาพูดทำไม เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ”
มีซุนหม่านเซียงหนุนหลังอยู่ ซินเหลยไม่กลัวเฉินเยี่ยน
“ฉันว่าอะไร ฉันว่าเพราะคุณเลี้ยงเขาจนเสียนิสัยแบบนี้ ตอนนี้คุณยังเออออตามเขาอีก จะต้องให้มีเรื่องใหญ่กว่านี้ก่อน คุณถึงค่อยรู้ว่าคุณโอ๋เขาเกินไป จนทำร้ายเขาใช่ไหม?”
เดิมทีเฉินเยี่ยนไม่โมโห แต่เธอเห็นตอนนี้ซุนหม่านเซียงเออออตามซินเหลยไปหมด แล้วยังบอกว่าให้ซินชานไปหาคน ไปเพิ่มความกดดันคนที่สถานีตำรวจและครอบครัวฝั่งนั้น ให้ซินห้าวช่วยจัดการคน ส่วนซินเหลยไม่รู้สึกผิดอะไรสักนิดเลย แล้วยังไม่รู้สึกว่าเรื่องร้ายแรงแค่ไหนอีก
“เธอพูดบ้าอะไรน่ะ หมายความว่าไงฉันทำร้ายเขา? ฉันเป็นแม่เขา มีฉันคนเดียวที่คิดดีต่อเขาจริงๆ”
ซุนหม่านเซียงใจร้อน ลุกขึ้นมาชี้หน้าเฉินเยี่ยน คำพูดเฉินเยี่ยนแทงใจดำเธอ
เฉินเยี่ยนพูดแล้วมองไปทางซินเหลย “ตอนแรกเธอเพิ่งฟื้น ฉันเลยไม่อยากพูด แต่ไม่พูดก็ไม่ได้ เธอดูสภาพตัวเองตอนนี้ นี่เที่ยงคืนแล้ว แต่เพราะเธอ พ่อแม่เลยยังไม่ได้พักผ่อนเลย ฉันกับพี่ชายเธอก็ต้องอยู่เฝ้าเธอที่โรงพยาบาล”
“ใช่ เธอพูดได้ พวกเราไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา เธอก็ไม่ได้ขอร้องพวกเราด้วย เป็นพวกเราเองที่ต้องมาให้ได้ พวกเรารู้สึกผิด แต่เธอเป็นคนในครอบครัว ถึงแม้พวกเราจะไม่ชอบเธอ ยังไงก็ต้องมาดูเธอ เพราะพวกเราไม่อยากให้เธอตาย”
เฉินเยี่ยนพูดมาถึงตรงนี้ เห็นซินเหลยอ้าปากจะเถียงกลับ เธอเลยทำมือห้ามไว้