เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 336 ปล่อยวาง (2)
ตอนที่อวี๋เหวยหมินเล่าเรื่องนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เห็นได้ชัดว่าชีวิตแบบนี้ทำให้เขาทุกข์ทรมาน อัดอั้นตันใจมาก
นี่มาหาตัวเองเพื่อเล่าเรื่องนี้? ตัวเองเป็นพี่สาวที่รู้ใจหรือไง?
เฉินเยี่ยนอยากจะบ่น แต่ไม่ได้พูดอะไร
“เยี่ยนจื่อ ผมเสียใจจริงๆ ผมรู้ว่าเมื่อก่อนผมไม่ใช่คนดี ไม่แปลกที่แม่ผมยังไม่ชอบผมเลย ไม่อยากให้คุณแต่งงานกับผม คุณแต่งงานกับผมแล้ว ผมไม่รู้จักรักษาไว้ ไม่รู้ความดีของคุณ ต่อมายังทำเรื่องแบบนั้นอีก เป็นผมที่ทำผิดต่อคุณ มาถึงที่นี่ ผมก็ทำเรื่องมากมายที่ไม่ใช่คนเขาทำกัน ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ผมมันสารเลวจริงๆ คุณไม่อยู่กับผมก็ถูกต้องแล้ว”
อวี๋เหวยหมินพูดจบก็เหลือบมองเฉินเยี่ยน พบว่าเฉินเยี่ยนก็กำลังมองเขาอยู่ เขายิ้มให้เฉินเยี่ยน เพียงแต่รอยยิ้มนั้นดูขมขื่นมาก
นี่กลับตัวแล้ว? ทำไมอยู่ๆ อวี๋เหวยหมินถึงพูดคำพูดพวกนี้ออกมา?
เฉินเยี่ยนมองอวี๋เหวยหมินลึกๆ แต่กลับมองไม่เห็นว่าเขาเล่นละครอยู่ หรือว่าอวี๋เหวยหมินเปลี่ยนไปแล้วจริง?
“ผมอยากจะหย่า เธอไม่ยอม บอกว่ายังไงก็ต้องตายที่บ้านอวี๋ แต่ชีวิตแบบนี้ผมทนอยู่ไม่ไหวแล้วจริงๆ”
อวี๋เหวยหมินพูดมาถึงตรงนี้ก็จับผมตัวเองอย่างลำบากใจ ไม่รอให้เฉินเยี่ยนพูดตอบ เขาก็ไม่ต้องการให้เฉินเยี่ยนพูดตอบเขา ตอนนี้เขาแค่อยากจะระบาย “พวกเราสามคนมาที่นี่ คุณขยันพึ่งพาตัวเองทำมาหากิน แล้วยังเจอซินห้าว ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ส่วนผมทำให้ชีวิตกลายเป็นแบบนี้ ส่วนเฉินเวย… ไม่พูดแล้ว เป็นพวกเราทำตัวเอง โทษคนอื่นไม่ได้”
“เยี่ยนจื่อ ผมคิดจะไปจากที่นี่”
ตอนที่อวี๋เหวยหมินพูดประโยคนี้ แววตาแสดงความเด็ดเดี่ยวออกมา และมีความอาลัยอาวรณ์ด้วย
“ไปจากที่นี่?”
เฉินเยี่ยนมองอวี๋เหวยหมิน เธอคิดไม่ถึงว่าอวี๋เหวยหมินวางแผนจะไป
“ชีวิตแบบนี้อยู่ไม่ไหว ผมอยากจะไป แต่ก็หาเหตุผลให้ตัวเองตลอด บอกว่าไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่ผมทำอะไรขึ้นมาได้ ที่จริงแล้วเหลวไหลทั้งเพ ผมหลอกตัวเอง ตอนนี้เข้าใจแล้ว ไม่ไปไม่ได้ ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีกำลังปฏิรูปเศรษฐกิจพอดี ผมคิดจะลงใต้ ไม่พูดว่าจะอาศัยความรู้สร้างอะไรเป็นจองตัวเอง อย่างน้อยตอนนี้ที่นั่นก็มีโอกาสเยอะหน่อย ถึงแม้จะทำงานให้คนอื่น ผมก็จะหาเงินได้บ้าง”
ตอนที่อวี๋เหวยหมินพูดแบบนี้ออกมา นัยน์ตามีประกายแห่งความหวัง
“ส่วนที่บ้าน…”
อวี๋เหวยหมินหยุด แล้วพูดต่อ “ผมก็รู้ว่าออกไปตอนนี้อาจจะมีคนคิดว่าผมอ่อนแอ หลบหนี ทิ้งคนแก่และเด็กไว้ที่บ้านไม่ดูแล แต่ผมไม่ไปไม่ได้ ถ้าไม่ไปชีวิตก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป บีบบังคับคนเป็นบ้า จึงต้องให้แม่ลำบากหน่อย รอผมหาเงินกลับมา ผมก็จะจ่ายหนี้ทั้งหมด ให้แม่ผมกับลูกมีชีวิตที่สงบสุข ส่วนเธอ ถ้าเธอยอมรอผมที่บ้านอวี๋จริง ถึงแม้พวกเราจะไม่มีความรัก แต่ผมก็จะเลี้ยงดูเธอ”
เฉินเยี่ยนคิดไม่ถึงว่าอวี๋เหวยหมินจะพูดคำพูดพวกนี้ออกมา
เธอเงยหน้ามองท้องฟ้า ท้องฟ้ากระจ่างใส เป็นวันที่อากาศดี อากาศดีแบบนี้มาฟังคำพูดแบบนี้ ไม่รู้ว่าในใจเฉินเยี่ยนรู้สึกยังไง เธอคิด ที่แท้คนเราเปลี่ยนกันได้จริงๆ
“เยี่ยนจื่อ คุณให้อภัยผมได้ไหม?”
อวี๋เหวยหมินมองเฉินเยี่ยน ด้านข้างเฉินเยี่ยนงามขนาดนี้ จนเขาอดใจไม่ไหวอยากจะยื่นมือออกไปลูก แต่เขาทนไว้ เพราะเธอไม่ใช่ของตัวเอง
“คุณต้องการให้ฉันให้อภัยงั้นหรือ?”
เฉินเยี่ยนหันหน้าไปมองอวี๋เหวยหมิน
อวี๋เหวยหมินพยักหน้า เขาหวังว่าเฉินเยี่ยนจะให้อภัยเขา
“อวี๋เหวยหมิน คุณรู้ไหม? ตอนแรกที่มาที่นี่ฉันเกลียดแค้นคุณและเฉินเวยมาก นอกจากแค้นที่พวกคุณหักหลังฉันแล้ว ฉันแค้นที่พวกคุณทำร้ายเฉินเยี่ยนเจ้าของร่างเดิม เธอเป็นผู้บริสุทธิ์ที่แท้จริง ฉันไม่รู้ว่าทำไมพวกคุณถึงได้จิตใจโหดเ**้ยมทำร้ายเธอได้ลงคอ”
“ตอนนั้นฉันสาบานว่าฉันจะต้องให้พวกคุณจ่ายค่าตอบแทน ฉันจะทำให้ให้พวกคุณชดใช้ แต่คุณก็น่าจะรู้ดี นอกจากที่พวกคุณทำแล้ว ที่จริงแล้วฉันไม่เคยทำอะไรพวกคุณเลย”
“บางครั้งพวกเราอ่านนิยาย นางเอกเป็นคนที่มีบุญคุณต้องทดแทน มีความแค้นต้องชำระ ล้างแค้นได้สะใจ บางครั้งฉันก็คิด ฉันอยากจะทรมานพวกคุณให้ตายทั้งเป็นเหมือนอย่างนางเอก ให้พวกคุณไม่เหลืออะไรเลย เหยียบย่ำจมดิน แบบนั้นจะดีขนาดไหน! แต่นิสัยฉันเป็นคนตัดสินฉัน ฉันอ่อนแอ คนทั่วไปไม่ทำฉัน ฉันก็ไม่ทำคนอื่น”
“เฉินเวย ถึงแม้ฉันจะหาเงินได้ แต่ก็ไม่ได้ให้เธอใช้ แต่ฉันไม่ได้จงใจจะแก้แค้น เพราะฉันกลัวว่าพ่อแม่จะเสียใจ ในใจของพวกเขา เฉินเวยเป็นลูกสาวของเขา ส่วนตอนหลังที่เฉินเวยติดคุก เป็นเพราะเธอทำในสิ่งที่ฟ้าก็ไม่อาจให้อภัยได้ กฎหมายคุมสังคม ฉันไม่สามารถฆ่าเธอได้ ฉันทำได้เพียงส่งเธอเข้าคุก ให้เธอสำนึกผิดเรื่องที่ทำอยู่ในคุก”
“ส่วนคุณ นอกจากตอนแรกแล้ว ฉันไม่เคยจงใจต่อกรกับคุณมาก่อนเลย เป็นคุณที่หาเรื่องมาตลอด ถึงแม้ฉันและซินห้าวเคยพูดว่าจะไม่ให้คุณทำธุรกิจสำเร็จ คุณก็ไม่ราบรื่นมาตลอด เป็นพวกเราทำ แต่นี่คือผลตอบแทนของคุณ อวี๋เหวยหมิน คุณยอมรับไหม?”
เฉินเยี่ยนมองอวี๋เหวยหมิน ในเมื่อวันนี้อวี๋เหวยหมินเปิดใจกับเธอ เธอก็ไม่คิดมากพูดกับอวี๋เหวยหมิน และอย่างที่อวี๋เหวยหมินบอก นี่เป็นครั้งสุดท้าย
“ผมยอมรับ เป็นผลตอบแทนของผมจริงๆ ที่จริงผมคิดได้ตั้งนานแล้ว ไม่ว่าผมทำอะไร ตอนแรกมักจะไปได้ดี ปรากฏว่าทำไม่สำเร็จ ครั้งสองครั้งคือเรื่องบังเอิญ แต่ทุกครั้งเป็นแบบนี้ ผมรู้ว่ามีคนคอยลงมือแทรกแซง ไม่อยากให้ผมได้เงิน ผมก็เดาถึงพวกคุณ”
“เยี่ยนจื่อ ผมรู้นิสัยคุณ เหมือนที่คุณบอก ที่จริงแล้วคุณเป็นคนใจอ่อนมาก คุณจิตใจดีมาก ทุกครั้งที่เห็นคนอ่อนแอคุณมักจะรู้สึกสงสาร ช่วยได้คุณจะยื่นมือเข้าไปช่วย ตอนนั้นผมยังคิดว่าคุณเสแสร้ง คนอื่นลำบากเกี่ยวอะไรกับพวกเรา? คนตั้งเยอะแยะ คุณสงสารหมดหรือ? แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว คุณจริงใจ คุณไม่ได้แกล้งทำ”
“คุณไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ถึงแม้คนอื่นจะทำร้ายคุณ คุณอยากจะแก้แค้น แต่คุณก็จะกลัวว่าครอบครัวคนนั้นจะเสียใจ นี่คือจุดอ่อนของคุณ และก็เป็นข้อดีของคุณ คุณไม่มีจิตใจทะเยอะทะยาน พูดตามจริง เมื่อก่อนผมคิดว่าคุณฐานะดีขนาดนี้ ทำไมไม่เป็นยอดหญิงไปเลย? แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว บางทีนี่อาจจะเป็นชีวิตที่คุณต้องการ มีครอบครัวอยู่ข้างๆ สามีรักคุณ มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ส่วนเรื่องการเงินและตำแหน่ง นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ น่าเสียดายผมเข้าใจช้าไป”
อวี๋เหวยหมินพูดจบก็มองเฉินเยี่ยนอย่างลึกซึ้ง เหมือนอยากจะประทับเฉินเยี่ยนลงในใจ
“ใช่ ที่จริงนี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ อวี๋เหวยหมินฉันเคยเกลียดคุณ แต่ตอนนี้ไม่เกลียดแล้ว มีแรงแบบนั้นสู้ฉันเอาไปรักคนที่ฉันรักดีกว่า เพราะตอนนี้ฉันมีความสุข ดังนั้นฉันเลยไม่คิดเกลียดแค้นอีก ถ้าคุณถามฉันว่าให้อภัยคุณได้ไหม ฉันให้อภัยได้ แต่คำว่าให้อภัยนี้ไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมพูด คุณกับเฉินเวยทำร้ายเธอ ฉันไม่รู้ว่าเธอจะยอมให้อภัยไหม คุณเข้าใจใช่ไหม?”
เฉินเยี่ยนพูดอย่างชัดเจน มาถึงวันนี้ ผ่านมาหลายปีแล้ว เธอปล่อยวางความโกรธเกลียดลงหมดแล้ว แต่เธอไม่สามารถพูดให้อภัยแทนเจ้าของร่างเดิมได้
“ขอบคุณ เยี่ยนจื่อ ขอบคุณนะ ใช่ ผมกับเฉินเวยทำผิดต่อเจ้าของร่างเดิม เกรงว่ากลางวันจนกลางคืนผมคงไม่สงบสุข เป็นผมกับเฉินเวยที่ทำร้ายเจ้าของร่างเดิม พวกเราติดค้างเธอ เยี่ยนจื่อ ผมก็จะไม่พูดเสแสร้งเหมือนกัน คุณรักษาตัวด้วย หวังว่าคุณกับซินห้าวจะรักใคร่กันตลอดไป หวังว่าคุณจะมีความสุข”
อวี๋เหวยหมินคิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่เขาพูดคำนี้ออกไป คิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่เขาอวยพรเฉินเยี่ยน อาจจะเป็นเพราะต้องจากกัน อาจจะเป็นเพราะเดินออกมาแล้ว เขาถึงพบว่า ที่แท้เมื่อก่อนเขาอยู่แต่ข้างใจ ที่แท้โลกใบนี้กว้างใหญ่ ที่แม้จิตใจเขาคับแคบขนาดนั้น
“ขอบคุณ”
เฉินเยี่ยนเห็นอวี๋เหวยหมินพูดด้วยความจริงใจ เธอพูดขอบคุณ แต่เธอไม่ได้อวยพรอวี๋เหวยหมิน เธอทำไม่ได้
มองดูเฉินเยี่ยนลุกขึ้นเดินจากไป อวี๋เหวยหมินมองเบื้องหลังของเฉินเยี่ยนอย่างเงียบๆ จากกันวันนี้ เกรงว่าคงยากกว่าจะได้พบกันอีก หวังว่าเธอจะเป็นสุข
เวลานี้เฉินเยี่ยนก็ไม่คิดว่าคำพูดวันนี้จะมีผลกระทบต่ออวี๋เหวยหมินมาก กว่าเธอและอวี๋เหวยหมินจะได้พบกันอีก ก็เป็นเวลาสิบห้าปีให้หลังแล้ว ส่วนอวี๋เหวยหมินนั้นก็ไม่ใช่อวี๋เหวยหมินที่เธอเคยรู้จักอีกต่อไป