เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 362 เชิญออกไป
เฉินเยี่ยนอยู่ในร้านหนึ่งชั่วโมง ต่างมองดูท่าทีของพนักงานขายทุกคนที่ปฏิบัติต่อลูกค้า
เวลาใกล้เที่ยง มีผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าดูธรรมดามากเดินเข้ามาในร้าน
เฉินเยี่ยนเห็นผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในร้าน ฝากพนักงานขายมีคนหนึ่งกำลังทักทายลูกค้าอยู่ อีกสองคนกลับไม่ขยับ ปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเดินหาของในร้านเอง ไม่มีใครเข้าไปต้อนรับเธอ
เฉินเยี่ยนรู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนั้นดูเคอะเขิน เป็นความอึดอัดในลักษณะที่โดนคนเพิกเฉย
เฉินเยี่ยนเดินเข้าไปเอง ยิ้มทักทายหญิงวัยกลางคน จากนั้นถามเธอว่าต้องการอะไร
ผู้หญิงคนนั้นอึ้งไป จากนั้นบอกเฉินเยี่ยนว่าเธออยากดูว่าในร้านมีเสื้อผ้าแบบไหนบ้าง
เฉินเยี่ยนเลยพาผู้หญิงคนนั้นไปดูเสื้อผ้าในร้าน ผู้หญิงคนนั้นเดินอยู่รอบหนึ่ง ถามไม่น้อยเลย บางครั้งก็ถามอย่างละเอียดมาก แต่สุดท้ายเธอไม่ได้ซื้อ แล้วเดินออกไป
ตอนที่เธอออกไปเธอหันมามองเฉินเยี่ยนแวบหนึ่ง ใบหน้าเฉินเยี่ยนยังคงมีรอยยิ้มอยู่ บอกว่ายินดีต้อนรับให้เธอมาครั้งหน้าอีก ไม่ได้พูดประชด และไม่แสดงอาการไม่พอใจ
ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกประหลาดใจ ทำไมตัวเองไม่ได้แสดงทีท่าว่าต้องการจะซื้อ ไม่ได้เอาเงินมาให้ร้าน พนักงานขายผู้หญิงคนนี้ที่หน้าตาสวย และดูมีรสนิยมในการแต่งตัวแตกต่างจากพนักงานขายผู้หญิงคนอื่นกลับต้อนรับเธอแบบนี้? ทำไมเธอไม่ดูถูกตัวเอง ละเลยตัวเองเหมือนพนักงานขายคนอื่นนะ? ผู้หญิงคนนั้นคิดไม่ออก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ตอนกลางวันพนักงานกินข้าวเฉินเยี่ยนถามพวกเธอว่าทำไมถึงไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นและลูกค้าบางคน
พนักงานคนหนึ่งในนั้นชื่อเสี่ยวหลี่ตอบ “พี่สะใภ้ แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเธอไม่มีปัญญาซื้อ ไปสนใจเธอก็เสียเวลาเปล่า พี่ก็เห็นแล้วนี่ สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ซื้ออะไร พวกเราทำงานมานานแล้ว แค่มองแวบเดียวก็มองออกว่าคนไหนคิดจะมาซื้อ พวกคนที่ไม่คิดจะซื้อก็ไม่ต้องไปสนใจ”
แววตาของเสี่ยวหลี่ยังแสดงออกถึงความดูถูก เหมือนว่าไปสนใจแล้วจะเสียเวลาเธอ
“พวกเธอก็คิดอย่างนี้หรือ?”
เฉินเยี่ยนถามอีกสองคน
อีกสองคนพยักหน้า
เฉินเยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่จริงสถานการณ์แบบนี้ในยุคปัจจุบันเธอก็เคยเจอมาก่อน
ผู้หญิงทุกคนชอบเสื้อผ้าสวยงาม โดยไม่แบ่งแยกอายุ ตอนนั้นเป็นเพราะฐานะที่บ้านไม่ได้ดีมาก เธอคิดว่าอวี๋เหวยหมินหาเงินมาไม่ง่ายเลย เธอเลยไปเดินช้อปปิ้งน้อย บางครั้งไปแล้ว พนักงานขายพวกนั้นอาจจะเห็นเธอดูลังเลไม่มีความมั่นใจ ท่าทีเลยเมินเฉย แต่กับคนที่แต่งตัวดีนั้นกลับต้อนรับเป็นพิเศษ
การโดนเลือกปฏิบัติแบบนี้ เธอเสียใจแน่นอน ตอนแรกเธอคิดจะซื้อ แต่พอโดนพนักงานขายทำแบบนี้ เลยหมดอารมณ์แล้ว
คิดกลับกัน คนอื่นเข้ามาในร้านเรา คิดว่าก็คงเหมือนกัน
แต่เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไร เพราะตั้งแต่เปิดร้านมาเธอมาที่ร้านน้อยมาก เธออยากจะเข้าใจก่อนค่อยพูด
เฉินเยี่ยนมาที่ร้านติดต่อกันหนึ่งอาทิตย์ เห็นถึงข้อเสียของที่ร้านชัดเจนแล้ว
พนักงานขายไม่กระตือรือร้น ข้อหนึ่งคือปฏิบัติต่อลูกค้าไม่เท่ากัน
ข้อสองพวกเธอจัดเรียงเสื้อผ้าไม่เป็น ทุกครั้งที่มีของใหม่มา บางครั้งก็เอาไปกองตรงนั้น หรือไม่ก็วางไว้ตรงที่ที่ไม่สะดุดตา หรือไม่ก็เอาไปวางรวมกับสินค้าเก่า ให้คนไปหาเอาเอง แบบนี้เสียโอกาสในการขายสินค้าใหม่มาก
ลูกค้ามา พวกเธอก็ไม่แนะนำเสื้อผ้า ขายทื่อๆ มาก
เฉินเยี่ยนถอนหายใจตลอดผ เพราะเป็นยุคนี้ และเพราะในเมืองไม่มีร้านอื่นมาแข่งกับพวกเขา ไม่อย่างนั้นถ้ายังขายได้นี่สิแปลก
ส่วนซินห้าว เขาเป็นผู้ชาย มีหลายครั้งที่ไม่เข้าใจเรื่องของผู้หญิง
อีกทั้งเขาไม่สามารถมาอยู่ที่ร้านทั้งวันได้ นอกจากร้านเสื้อผ้าแล้ว ยังทำธุรกิจอื่นอีก นอกจากนั้นเขายังดูๆ สินค้าอื่นอีกด้วย
เรื่องร้านเสื้อผ้าเขาไม่ได้เฝ้าดู ดังนั้นสถานการณ์ในร้านเสื้อผ้านั้นเขาไม่รู้แน่ชัด
เพราะได้กำไรอยู่ ซินห้าวเลยคิดว่าที่ร้านเสื้อผ้าไม่มีปัญหาอะไร
จนตอนเย็นเฉินเยี่ยนปรึกษาซินห้าว เล่าความคิดของเธอให้ซินห้าวฟัง
ซินห้าวให้เฉินเยี่ยนทำอย่างที่คิด ร้านเสื้อผ้าเป็นของเธอ ไม่ว่าเธอทำอะไร เขาสนับสนุนเต็มที่
เฉินเยี่ยนเลยรับสมัครพนักงานมาอีกสองคน เริ่มสลับกันสอนงาน
บอกพวกเธอว่าจัดวางเสื้อผ้ายังไง ทำยังไงถึงดึงดูดลูกค้า บอกพวกเธอว่าแนะนำเสื้อผ้าให้ลูกค้ายังไง
อีกอย่างเฉินเยี่ยนยังบอกพวกเธอให้ยิ้มต้อนรับ บริการลูกค้าทุกคนอย่างจริงจัง ห้ามแบ่งแยก ให้บริการเหมือนลูกค้าทุกคนที่มาที่ร้านนั้นซื้อ แบบนี้คนอื่นจะได้มาที่ร้านอีก พอพูดถึงร้านพวกเธอ ในใจก็รู้สึกสบาย
ตอนแรกพวกเสี่ยวหลี่ไม่ยอมทำ รู้สึกว่าเฉินเยี่ยนนั้นไม่มีอะไรก็หาเรื่อง เห็นอยู่ว่าขายดีมาก พวกเธอยุ่งกันหมด แล้วยังต้องมาสอนงานอะไรอีก นี่ไม่ใช่ว่าเพิ่มงานหรือ? แล้วยังให้พวกเธอยิ้มกับคนอื่นตลอดเวลา ทำไมต้องทำด้วย!
เสี่ยวหลี่ออกตัวว่าไม่เข้าร่วมการเรียนรู้งาน บอกว่าเธอขายของได้ ไม่จำเป็นต้องเรียน
เฉินเยี่ยนพูดตรงๆ ไม่เรียนรู้งานก็ได้ ถ้าทำได้ไม่ถึงอย่างที่ต้องการ ก็จะเชิญพวกเธอออก
เสี่ยวหลี่โกรธ คิดว่าเธอทำงานดีมาตลอด พอเฉินเยี่ยนมาก็มากเรื่อง เธอยังแอบไปฟ้องซินห้าวเรื่องเฉินเยี่ยนด้วย
ซินห้าวบอกเสี่ยวหลี่ ทุกอย่างที่ร้านเป็นสิทธิ์ของเฉินเยี่ยน ให้เธอเชื่อฟังเฉินเยี่ยน
เสี่ยวหลี่ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องยอมเรียนรู้งาน แต่ทุกครั้งเธอจะรำคาญ ไม่ตั้งใจ เฉินเยี่ยนพูดอะไรเธอก็ไม่ฟัง และไม่ทำตาม แล้วยังแอบพูดลับหลังว่าเฉินเยี่ยนเรื่องมาก บอกว่านี่คือร้านของซินห้าว เฉินเยี่ยนมีสิทธิ์อะไรพอมาถึงก็สั่งตามอำเภอใจ
จนมีลูกค้ามา เธอไม่เพียงแต่ไม่ยิ้ม อีกทั้งตอนที่ลูกค้าบอกว่าแพงเกินไป เธอก็เบะปากพูกออกมา “บ่นว่าแพงก็อย่าซื้อสิ ซื้อไม่ไหวยังมาดูอะไรอีก คุณไม่ต้องการยังมีคนจะซื้ออีกเยอะ ร้านพวกเราไม่เสียดายลูกค้าอย่างคุณหรอก”
เธอระบายความโมโหในใจลงไปที่ลูกค้า ทำเอาลูกค้าโกรธจัด ชี้หน้าเสี่ยวหลี่จะทะเลาะกัน เสี่ยวหลี่ก็ไม่อ่อนข้อให้ ด่าลูกค้ากลับ
หลังเฉินเยี่ยนได้ยินก็รีบเข้ามา ขอโทษ จากนั้นให้ส่วนลดลูกค้าอีก บอกว่าในอนาคตลูกค้ามา จะได้รับส่วนลด 20% ตลอด เห็นท่าทีเจ้าของดูนอบน้อมด้วยความจริงใจ ลูกค้าถึงยอมไป
จนลูกค้าไปแล้ง เฉินเยี่ยนมองเสี่ยวหลี่ เลี่ยวหลี่บอกว่าเธอไม่ผิด บอกว่าเธอเป็นพนักงานที่ร้าน เฉินเยี่ยนไม่เพียงไม่เข้าข้างเธอ ยังหาเรื่องเธอพร้อมกับลูกค้าอีก บอกว่าเฉินเยี่ยนเป็นแบบนี้ไม่ใช่เจ้าของร้านที่ดี เทียบกับซินห้าวแล้วยังห่างไกล
เฉินเยี่ยนยิ้มเย็นชา เธอรู้ความคิดของเสี่ยวหลี่ดี ไม่ผิด เสี่ยวหลี่ไม่ใช่คนเลว แล้วยังทำดีกับที่ร้านมากด้วย ทุกวันมาที่ร้านแต่เช้า ตอนที่ตัวเองยังไม่มา เธอดูแลลูกค้ามากมาย ถือว่าเธอมีใจทำงานที่ร้าน แต่เธอดันมีความรู้สึกที่ไม่ควรมีกับซินห้าว
ตอนแรกเฉินเยี่ยนไม่สนใจ เพราะเธอเชื่อใจซินห้าว รู้ว่าเป็นแค่เสี่ยวหลี่มีคิดอะไรในใจคนเดียว ก็ไม่มีอะไร แต่เพราะตัวเองมา ตาชั่งในใจของเสี่ยวหลี่ก็เริ่มโอนเอียง เอาความเป็นศัตรูกับตัวเองใส่เข้ามาในงาน ไม่เพียงแต่ไม่เชื่อฟัง ยังเพิกเฉยลูกค้าด้วย เรื่องทะเลาะด่าว่าลูกค้าที่เกิดขึ้นวันนี้ ที่จริงแล้วเป็นเพียงการระบายความไม่ยุติธรรมในใจเธอเท่านั้น
บางทีเธออาจจะไม่ได้คิดจะทำอะไรกับซินห้าว แต่เธอไม่อยากให้ตัวเองมาที่ร้าน ในใจเสี่ยวหลี่ ร้านนี้เป็นของซินห้าว เสี่ยวหลี่ช่วยซินห้าวดูแล ทำอะไรเธอก็รู้สึกว่าดีไปหมด ส่วนตัวเองมาที่ร้าน ร้านนี้ไม่ใช่ของซินห้าว แต่เป็นของตัวเอง เสี่ยวหลี่เลยคิดว่าไม่ยุติธรรม ในใจรู้สึกได้รับความไม่ยุติธรรม คิดว่าตัวเองมาที่ร้านแล้ว อีกหน่อยซินห้าวก็จะไม่มาแล้ว เธอคิดว่าตัวเองแย่งซินห้าวไป ดังนั้นเลยทำแบบนี้