เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 80
คำพูดของหวางนิวทำเอาเฉินเยี่ยนพูดไม่ค่อยออก แต่ในความพูดไม่ออกเฉินเยี่ยนก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา ทำไมหวางนิวถึงวางท่าทีต้อยต่ำขนาดนี้ เป็นเพราะเธอ หวังอยากจะให้เธอได้แต่งงานกับครอบครัวสามีที่ดี อยากจะให้บ้านสามีดีกับเธอหน่อย เพราะเรื่องนี้พวกเขาถึงทุ่มแรงกายแรงใจให้หมด
หลิวอี้ถือว่าพอใจกับคำพูดและท่าทีของหวางนิว บ้านเฉินกับบ้านเขาต่างกันขนาดนี้ เฉินเยี่ยนแต่งกับเขาถือว่าแต่งกับบ้านที่สถานะสูงกว่า จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน
“คุณป้าเข้าใจก็ดีแล้วครับ นอกจากเรื่องพวกนี้ยังหวังว่าคุณลุงและคุณป้าจะออกแรงพูดโน้มน้าวเยี่ยนจื่อ ไม่ให้เยี่ยนจื่อออกจากบ้าน คนไม่ดีข้างนอกมีเยอะ ถ้าโดนคนเห็นเข้า พูดไม่ดีออกไป บางครั้งคำพูดคนอื่นก็มีอิทธิพลมาก พวกคุณอยู่ชนบทอาจจะไม่ใส่ใจ แต่ที่ผมทำงาน แล้วยังครอบครัวผมต่างมีหน้ามีตา ถ้าให้ทุกคนรู้ว่าเยี่ยนจื่อไปมาหาสู่กับผู้ชายอื่น ถึงตอนนั้นคงมีคำพูดติฉินนินทา ไม่เพียงแต่เยี่ยนจื่อจะเสียหน้า คุณลุงคุณป้าก็ไม่มีหน้าเหมือนกัน นอกจากคนอื่นจะบอกว่าภรรยาผมไม่มีคุณธรรมแล้ว ยังว่าคุณลุงคุณป้าไม่สั่งสอนอีก สอนลูกสาวที่ทำผิดประเพณี ถึงตอนนั้นทุกคนก็เสียหน้ากันหมดแล้ว คุณลุงคุณป้าว่าไหม?”
หลิวอี้พูดถึงจุดประสงค์หลักที่เขามาแล้ว ให้เฉินเยี่ยนอยู่บ้าน ไม่ต้องออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก ตอนที่พูดคำพูดพวกนี้ สายตาหลิวอี้ยังมีแววดูถูกอีกด้วย มีแววเหยียดหยาม
“ส่วนธุรกิจที่ขายผักนั่นก็ไม่ต้องทำแล้ว ออกไปไม่รู้ว่าจะเจอคนแบบไหน เกิดเรื่องขึ้นมาจะทำยังไง อีกอย่างให้ภรรยาไปปรากฏตัวในที่สาธารณะ คนอื่นจะว่าผมไม่มีปัญญา ผักพวกนั้นถ้าเยี่ยนจื่อชอบทำ ตอนนั้นเธอทำแล้วเอาไปให้เพื่อนบ้านก็ได้ ทำดีกับเพื่อนบ้าน ทุกคนจะได้นินทาน้อยลง ถ้าทำเยอะไป ให้แม่ผมเอาไปขายก็ได้ คุณลุงคุณป้าเอาผักมาให้พวกเราอย่าคิดว่าลำบากเลย ยังไงที่บ้านมีเยี่ยนจื่อเพิ่มมาอีกคนต้องมีเรื่องเพิ่มขึ้นเยอะเลย ถ้าคุณลุงคุณป้าไม่เอามาให้ ผมกลัวว่าฝั่งแม่ผมจะคิดมาก ผมก็ทำเพื่อเยี่ยนจื่อ ถ้าอีกหน่อยพวกผมร่ำรวยแล้ว ผมก็จะให้เยี่ยนจื่อมาช่วยที่บ้าน คุณลุงคุณป้าว่าไงครับ?”
หลิวอี้พูดเรื่องผักอีกแล้ว ในเมื่อวันนี้เขามาแล้ว ก็จะพูดกับบ้านเฉินและเฉินเยี่ยนให้ชัดเจน ให้บ้านเฉินรู้ว่าเขาเสียสละอะไรบ้าง ให้บ้านเฉินคิดว่าเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์อะไรในปัจจุบัน ถ้าเรื่องพวกนี้บ้านเฉินและเฉินเยี่ยนทำไม่ได้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องคุยกันแล้ว แต่เขาเชื่อว่าบ้านเฉินและเฉินเยี่ยนจะทำตามคำพูดเขา เพื่อที่จะยกระดับตัวเอง บ้านเฉินต้องตอบตกลงทั้งหมดแน่ ส่วนเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนก็ต้องตอบตกลง ครั้งที่แล้วผู้ชายคนนั้นนอกจากหล่อกว่า เด็กกว่าเขาหน่อยแล้ว เรื่องอื่นเทียบเขาได้ไหม? ขอแค่เฉินเยี่ยนไม่โง่ เธอจะต้องเลือกเขา เธอแต่งงานกับเขา จะต้องกลายเป็นคู่ครองที่น่าอิจฉาของทุกคน เฉินเยี่ยนต้องจับโอกาสนี้ไว้ไม่ให้หลุดมือ
หลิวอี้พูดจบสีหน้าเฉินจงดูไม่ค่อยดี ใช่ เขาอยากแต่งงานกับลูกสาว หลังเกิดเรื่องอวี๋เหวยหมินเรื่องการแต่งงานของเฉินเยี่ยนก็กลายเป็นความเจ็บปวดในใจของเฉินจง เขาอยากจะให้ลูกสาวได้คู่ครองที่ดี ให้ลูกสาวมีที่พักพิงที่ดี แต่คนบ้านใกล้เรือนเคียงไม่ได้หาง่ายๆ เลย ที่อยู่ไกลเขาก็ไม่คุ้นเคย เขากลัดกลุ้มใจอยู่เหมือนกัน หลิวอี้ปรากฏตัวมา ครั้งที่แล้วหวางนิวพูดขึ้นมา ในใจเขามีแสงสว่างขึ้นมา ขอแค่ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนดี ทำดีกับลูกสาว เขาก็วางใจให้ลูกสาวแต่งงานได้ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกสาวแต่งไปอยู่ในเมืองเขาจะมีหน้ามีตาอะไร ขอแค่ลูกสาวมีชีวิตที่ดีก็พอแล้ว แต่ตอนนี้คำพูดของหลิวอี้ทำให้เขาเสียความมั่นใจขึ้นมา อีกทั้งจากที่สังเกต เขารู้สึกว่าหลิวอี้ไม่ใช่คู่ครองที่ดี ลูกสาวแต่งงานไปกับเขา กลัวว่าจะไม่มีความสุข ตรงกันข้ามกลับเป็นทุกข์อีก
อยู่ในเมืองไม่เมือง เขาไม่เสียดาย พูดเรื่องมีหน้ามีตาออกไปมีประโยชน์อะไร ชีวิตลูกสาวไม่เป็นสุข เขาเป็นพ่อก็เจ็บปวดใจ ดังนั้นเฉินจงปฏิเสธงานแต่งนี้ในใจแล้ว
หวางนิวก็รู้สึกอึดอัด นี่หมายความว่าลูกสาวและพวกเขาไม่ดี เธอเป็นแม่ ลูกดีเสมอในใจแม่ ถ้าคนอื่นพูดเธอจะต้องทะเลาะกับคนอื่นแน่นอน ไม่ได้ เธอต้องพูดบ้าง ให้หลิวอี้รู้ว่าลูกสาวเธอดี
ฝั่งหวางนิวยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เฉินเยี่ยนก็พูดออกมา “พูดเงื่อนไขคุณจบแล้วใช่ไหม?”
ตอนแรกเฉินเยี่ยนไม่ได้แสดงท่าทีอะไร และไม่ได้ขัดคำพูดของหลิวอี้เลย เธออยากจะรู้ว่าหลิวอี้มีความคิดอะไร และให้พ่อแม่ฟังเหมือนกัน ให้พ่อแม่รู้ความคิดและความประพฤติของหลิวอี้ พ่อแม่เข้าใจแล้ว เธอปฏิเสธไป พ่อแม่ก็ไม่คัดค้านแล้ว ไม่อย่างนั้นเธอปฏิเสธตั้งแต่แรก พ่อแม่ต้องคิดว่าเธอไม่รู้อะไรถูกอะไรควร
“ตอนนี้ก็แค่นี้แหละ คุณทำได้ผมก็ไม่พูดอะไรแล้ว เดี๋ยวผมไปจัดการฝั่งแม่ผม ถ้ามีอะไรอีก พวกเราค่อยปรึกษากันก็ได้”
หลิวอี้เห็นเฉินเยี่ยนถามนิ่งๆ เขาคิดว่าเฉินเยี่ยนน่าจะตอบตกลงเขา
“ปรึกษากันคงไม่จำเป็นแล้ว ถ้าคุณพูดเงื่อนไขคุณจบแล้ว งั้นก็เชิญค่ะ อีกหน่อยไม่ต้องมาแล้ว ไกลขนาดนี้ ไปมาแต่ละรอบเหนื่อยเปล่า พวกเราก็ไม่สะดวก คุณไม่มา ทั้งสองฝ่ายจะได้สบายใจ”
เฉินเยี่ยนไม่รู้จะพูดว่าหลิวอี้ดีตรงไหนจริงๆ คนนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนนะ ยังไม่ได้บอกว่าจะแต่งเลย กลับพูดเงื่อนไขมากมายขนาดนี้ แล้วยังมายุ่งเรื่องเธอ บอกว่าเธอไม่มีที่บ้านสั่งสอน เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน
“คุณหมายความว่ายังไง?”
สีหน้าหลิวอี้ดูไม่ดีแล้ว
“ฉันหมายความว่าให้คุณกลับไปหาคนงานกับครูเถอะ คนบ้านนอกอย่างพวกเราต่ำต้อยไม่คู่ควรกับคุณ และจะไม่ไต่เต้าด้วย”
เฉินเยี่ยนพูดชัดเจนแล้ว หลิวอี้คนนี้เป็นพวกหลงตัวเองมาก คิดว่าใครจะเสียดายเขาเหรอ เป็นคนชนบทแล้วยังไง คนชนบทก็ไม่ด้อยไปกว่าคนอื่น ทำไมจะต้องไปเป็นวัวเป็นม้าให้หลิวอี้ แล้วยังไม่ได้อยู่ดีด้วย สมองเธอก็ไม่ได้มีปัญหา เป็นโสดไปตลอดชีวิต และเธอก็ไม่ยอมเสียหน้าไปแต่งงานกับหลิวอี้
“เฉินเยี่ยน ตัวคุณเป็นยังไงคุณรู้ดี ผมยอมมานี่ เพราะเห็นว่าคุณไม่แย่ ผมไม่รังเกียจที่ชื่อเสียงคุณไม่ดี อยากจะให้โอกาสคุณ ผมคิดแทนคุณ กลัวคุณแต่งไม่ออก ไม่ใช่ว่าผมหาภรรยาไม่ได้ เฉินเยี่ยน ไม่ได้ว่าอะไรนะ แต่คุณแบบนี้ คุณหาสามีที่ดีได้หรือ แต่งกับผู้ชายบ้านนอก ต้องหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินไปชั่วชีวิต ผ่านไปหลายปีคุณจะมีหน้ามีตาอะไร อยู่กับผมอย่างน้อยคุณก็ไม่ต้องลงไปที่นา ได้เป็นคนในเมือง มีความสุขมาคุณไม่ต้องการ คุณคิดอะไรอยู่?”
หลิวอี้คิดว่าเฉินเยี่ยนสมองเสียไปแล้ว ทำไมเธอไม่เข้าใจว่านอกจากเขาแล้วเธอไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว
“เยี่ยนจื่อ มีอะไรค่อยพูดค่อยจา”
หวางนิวยื่นมือไปดึงลูกสาว เธอไม่อยากให้เรื่องเสีย
“ฉันขอบคุณคุณค่ะ แต่ฉันยอมมีชีวิตหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ฉันหาเงินเองใช้เอง ฉันแต่งไม่ออกฉันยินดี ไม่ต้องให้ใครมาสนใจ ส่วนเป็นคนในเมืองแล้วจะมีความสุข ถ้าเป็นแบบที่คุณว่า ฉันแบกรับไม่ไหว”
เฉินเยี่ยนคิดว่าสมองหลิวอี้พังไปแล้ว ตอนนี้เธอแค่คิดว่าหลิวอี้มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น อย่ามารังควานคนอื่น
“เฉินเยี่ยน คุณคิดดูให้ดีนะ ถ้าวันนี้ผมออกจากบ้านนี้ไปแล้ว อีกหน่อยคุณมาร้องไห้อ้อนวอนผม ผมก็จะไม่เหลียวหลัง คุณคิดดูดีๆ อย่ามาเสียใจทีหลัง”
หลิวอี้คิดไม่ถึงว่าเขามาด้วยเจตนาดี ไม่รังเกียจเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนกลัวปฏิเสธเขา เฉินเยี่ยนรู้หรือเปล่าว่าเธอสูญเสียอะไรไป
————–