เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 88
เฉินเยี่ยนรับรองคุณภาพของบุหรี่ หัวหน้าเจิ้งรับบุหรี่ที่เฉินเยี่ยนเอามาทั้งหมด หัวหน้าเจิ้งไม่กลัวว่าเฉินเยี่ยนจะหลอกเขา เขาเข้าใจดี พ่อลูกบ้านเฉินคู่นี้ถ้าอยากจะทำธุรกิจ ต้องมองระยะยาว คงไม่หลอกลวงเรื่องคุณภาพ ไม่อย่างนั้นขายครั้งนี้ไป บุหรี่มีปัญหา ครั้งต่อไปก็ไม่มีใครมาซื้อของพวกเขาแล้ว ชื่อเสียงพวกเขาก็หมดแล้ว พวกเขาไม่ตัดทางทำมาหากินตัวเองหรอก
เฉินจงเห็นบุหรี่และผักที่ขายหมดแล้วก็ดีใจมาก ขอบคุณหัวหน้าเจิ้งติดต่อกัน เฉินเยี่ยนกลับรู้สึกว่าปกติ ทำไมหัวหน้าเจิ้งถึงซื้อบุหรี่เธอหมด? แน่นอนเพราะคิดว่าจะได้กำไร แต่เฉินเยี่ยนไม่ได้รู้สึกไม่ดี คนเรา ใครไม่อยากจะให้ตัวเองได้กำไร ขอแค่ตัวเองมีผลประโยชน์ก็จะกระตือรือร้นขึ้นมา หัวหน้าเจิ้งได้ผลประโยชน์ เขาก็จะยิ่งขายบุหรี่ เป็นแบบนี้ ที่นี่ก็สามารถรับซื้อบุหรี่เธอในระยะยาวได้แล้ว สำหรับเธอ หัวหน้าเจิ้งได้กำไร ได้ทั้งสองฝ่ายถึงจะอยู่กันยาว
ระหว่างทางกลับ เฉินเยี่ยนรู้สึกว่าฝีเท้าเฉินจงดูว่องไวขึ้นเยอะ ที่จริงเธอเองก็เหมือนกัน ขายหมดกับขายไม่หมด ได้เงินกับไม่ได้เงิน อารมณ์ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
“ขายหมดเลย? ให้เงินมาแล้ว? ไม่ได้ให้เครดิตใช่ไหม?”
หลังกลับมาหวางนิวมาต้อนรัย ในใจเธอยังรู้สึกกังวลอยู่
“ขายหมดแล้ว ยังให้เงินอย่างอารมณ์ดีด้วย แล้วยังบอกว่าอีกไม่กี่วันให้พวกเราไปส่งบุหรี่อีก แค่พวกเรามีบุหรี่ เขาก็ต้องการในระยะยาว ตอนนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้แล้ว”
สีหน้าเฉินจงดีอกดีใจมาก เงินที่หามาได้ช่วงนี้มากกว่าเงินที่ปกติพวกเขาหามากว่าครึ่งปีอีก ลูกสาวคนโตนี่ไม่เสียแรงเปล่าเลย หาเงินได้ แล้วยังมีตั๋วอีก ไม่ต้องพูดเลยว่าในใจเขาดีใจมากแค่ไหน
“ขอบคุณสวรรค์ ดีแล้ว หลังพวกคุณไปแล้วในใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวเลย กลัวว่าเขาจะไม่ซื้อบุหรี่กับผักของเรา ขายออกได้ก็ดีแล้ว”
สองมือของหวางนิวประสานกันไหว้ฟ้า หวางนิวก็ดีใจตามไปด้วย
เฉินจงและบ้านเฉินเลยยุ่งทำผัก พันบุหรี่ ใส่ลงกล่อง ไปตลาด แล้วค่อยไปส่งให้หัวหน้าเจิ้ง
ยาเว้นที่แกะออกมาจากไปป์บุหรี่ที่เก็บมาเหลือน้อยแล้ว วันนี้ใช้ พรุ่งนี้ก็หมดแล้ว ตัวเองจะไปหาซินห้าวไหม? ครั้งที่แล้วตอนกลับก็ลืมถามเขา ถ้าไปป์บุหรี่หมดแล้วตัวเองจะยังไปหาเขาได้ไหม? คนที่นั่นรู้จักเขา คนอื่นเข้าไม่ได้ หรือตัวเองไปคุยกับคนที่อยู่ที่สถานีเก็บขยะดู ซื้อไปป์บุหรี่ของพวกเขา? ถึงแม้ว่าแบบนี้จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น แต่เธอก็ไม่สามารถไปรบกวนซินห้าวได้ทุกครั้ง
เฉินเยี่ยนกำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเสียงหวางนิวในสนามตะโกนเรียกเธอ “เยี่ยนจื่อ ออกมาหน่อย มีคนมาหาลูก”
หาตัวเอง? ใครนะ? ต้องไม่ใช่คนในหมู่บ้านแน่นอน ถ้าเป็นคนในหมู่บ้านแม่ต้องเรียกให้เข้าบ้านแล้ว ตอนเรียกก็จะบอกว่าใครมาหาตัวเอง ดูแล้วคนนี้แม่ไม่รู้จักแน่
หรือว่าจะเป็นซินห้าว?
เฉินเยี่ยนตาเป็นประกาย มีความดีใจแวบขึ้นมา หรือว่าซินห้าวคำนวณว่าไปป์บุหรี่ตัวเองน่าจะใช้หมดแล้ว เลยมาหาตัวเองจะพาตัวเองเข้าเมืองใช่ไหม?
เฉินเยี่ยนรีบเดินออกไป เห็นคนที่มาหาเธอ เธออึ้งไปเลย
คนนี้ไม่ใช่ซินห้าว แต่เธอรู้จัก เคยเจอกันครั้งหนึ่ง เป็นเจ้าอ้วนที่ครั้งที่แล้วมีเรื่องทะเลาะกับซินห้าวที่สหกรณ์
เฉินเยี่ยนนิ่งไป ทำไมเขาถึงมาหาที่บ้านได้? เพราะเจ้าอ้วนกับพวกนักเลงพวกนั้นเป็นพวกเดียวกัน หรือว่าพวกเขาสืบมาแล้วว่าตัวเองเป็นพวกเดียวกับซินห้าว เลยมาหาเรื่องที่บ้านหรือ?
ไม่น่านะ คนที่สหกรณ์ไม่น่าจะมีใครรู้จักเธอเลย อีกอย่างมาหาเรื่องที่บ้าน คงไม่ใช่แค่เจ้าอ้วนมาคนเดียวหรอก สมองเจ้าอ้วนคนนี้ไม่ฉลาด ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะใช้ได้
“คนนี้บอกว่าจะต้องเจอลูกให้ได้ ถามว่าเขาเป็นใคร มาทำอะไร ก็ไม่ยอมบอก”
หวางนิวมองลูกสาว คนที่มาหาลูกสาวคนนี้ดูสูงใหญ่ร่างกายกำยำ เธอดูยังไงก็ไม่มีออร่า และไม่รู้ว่าลูกสาวไปรู้จักกันที่ไหน
“เธอคือเฉินเยี่ยนใช่ไหม?”
เจ้าอ้วนถามเฉินเยี่ยนจริงจัง เขาเห็นเฉินเยี่ยนก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวย แต่เขาไม่ได้มีใจคิดเป็นอย่างอื่น
“ฉันคือเฉินเยี่ยน คุณคือ?”
เฉินเยี่ยนไม่ได้เรียกชื่อเจ้าอ้วย เพราะครั้งที่แล้วเจ้าอ้วนกับซินห้าวมีเรื่องกัน เฉินเยี่ยนไม่ได้ออกหน้า
“พี่เยี่ยนจื่อ ข้าชื่อเจ้าอ้วน เรียกข้าว่าเจ้าอ้วนก็ได้”
พอเจ้าอ้วนเจอคน ก็รีบยิ้มกว้างให้เฉินเยี่ยน
เฉินเยี่ยน…..
หวางนิว……
อยู่ๆ ดีก็มาเรียกตัวเองว่าพี่ เขาน่าจะแก่กว่าตัวเองตั้งหลายปีนะ? ยังไงตัวเองก็ไม่น่าถูกเรียกว่าพี่ สมองคนนี้นี่ช่าง…..
“พี่เยี่ยนจื่อ…….”
ฝั่งเจ้าอ้วนเรียกขึ้นมาอีกรอบ เฉินเยี่ยนรู้สึกไม่คุ้นชิน ตัวเองใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือ?
“มาหาฉันมีเรื่องอะไร?”
เยี่ยนจื่อหยุดให้เจ้าอ้วนเรียกเธอว่าพี่ต่อไป ใครได้ยินมีคนโตกว่าตัวเองหลายปีมาเรียกเธอว่าพี่ในใจคงจะรู้สึกประหลาด
“มีเรื่อง มีเรื่อง ลูกพี่ใหญ่ข้าให้ข้ามาหาพี่”
เจ้าอ้วนไม่รู้เลยว่าตัวเองเรียกพี่นั้นไม่ถูกต้อง
“พี่ใหญ่?”
เฉินเยี่ยนขมวดคิ้วพี่ใหญ่ของเจ้าอ้วนคือใคร เธอไม่รู้จัก
หวางนิวแค่มองดูอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร ฟังดูแล้วเหมือนลูกสาวก็ไม่รู้จักคนนี้ แล้วเขารู้จักลูกสาวได้ยังไง แล้วยังมีพี่ใหญ่? ทำไมดูไม่เหมือนคนดีเลย? หวางนิวเริ่มครุ่นคิด เธอค่อยๆ เดินไปที่ข้างกำแพง มือกวาดไปหยิบไม้กวาดบนพื้น ถ้าเจ้าคนนี้ทำอะไรไม่ดีขึ้นมา เธอจะใช้ไม้กวาดตีเขา
เฉินเยี่ยนไม่รู้ว่าแม่ตัวเองหยิบไม้กวาดมาเตรียมจะตีคนแล้ว เธอกำลังคิดว่าใครคือพี่ใหญ่ของเจ้าอ้วน
“ก็พี่ใหญ่ข้าไง ทำไม? พี่ไม่รู้จักเหรอ? เป็นไปไม่ได้ เขาให้ข้ามามาพี่เยี่ยนจื่อ ถ้าพี่ไม่รู้จัก พี่ใหญ่ข้าจะเรียกให้ข้ามาหาพี่ได้ยังไง? หรือพี่เป็นใครไม่ใช่พี่เยี่ยนจื่อที่ข้าตามหาหรือ?”
เหมือนเจ้าอ้วนเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้ว
“หยุด พี่ใหญ่ของเจ้าชื่ออะไรรู้ไหม?”
เฉินเยี่ยนรีบห้ามเจ้าอ้วน ถ้าให้เขาพูดต่อ คิดว่าอีกหนึ่งชั่วโมงเขาก็ยังไม่พูดเข้าประเด็น
“พี่ใหญ่ข้าชื่อซินห้าว เขาหน้าตาหล่อมาก วรยุทธ์ก็แกร่ง ข้าเอาชนะเขาไม่ได้ เขาเก่งกาจมาก”
เจ้าอ้วนพูดไป ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเลื่อมใส
เฉินเยี่ยน……..
ซินห้าว พี่ใหญ่พี่เจ้าอ้วนพูดถือคือซินห้าว เป็นไปได้ยังไง?!
อยู่ๆ เฉินเยี่ยนก็คิดถึงครั้งนั้น ซินห้าวเอาชนะเจ้าอ้วนได้ เจ้าอ้วนถามว่าทำไมเขาถึงเก่งขนาดนี้ แล้วยังเรียกซินห้าวว่าพี่ใหญ่อีก ตอนนั้นเธอคิดว่าสมองเจ้าอ้วนนี่คงเพี้ยนแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้เจ้าอ้วนจะนับถือซินห้าวเป็นพี่ใหญ่แล้วจริงๆ
ทำไมซินห้าวถึงรับเจ้าอ้วน แล้วยังให้เจ้าอ้วนมาหาตัวเองอีก เขาคิดยังไง?
ฉันรู้แล้ว พี่ใหญ่เจ้า…..ซินห้าว ฉันรู้จัก เขาให้เจ้ามาหาฉันมีเรื่องอะไร?”
เฉินเยี่ยนมองเจ้าอ้วนอย่างเสียไม่ได้ รู้สึกว่าที่เขาเรียกซินห้าวว่าพี่ใหญ่ แล้วเรียกตัวเองว่าพี่ ดูยังไงก็รู้สึกแปลก
“มีเรื่อง พี่ใหญ่ข้าให้ข้าเอาของมาส่งให้พี่ อยู่ที่หน้าประตูน่ะ ข้าลากเข้ามาให้พี่ พี่มาดูสิ”
เจ้าอ้วนพยักหน้าหงึกหงัก ในใจเขา ซินห้าวเก่งมาก คนที่เก่งกว่าเขา เขาจะเรียกพี่ใหญ่ เขาคิดว่านี่เป็นเรื่องสมควร ส่วนเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนอายุน้อยกว่าเขา ตามหลักควรจะเรียกว่าน้อง แต่เฉินเยี่ยนเป็นคนที่พี่ใหญ่ให้มาหา แล้วยังให้เขาเชื่อฟังเฉินเยี่ยน แบบนี้หมายความว่าเฉินเยี่ยนก็เก่งด้วย ในเมื่อพี่ใหญ่ยอมรับเฉินเยี่ยน เขาก็ยอมรับด้วย ดังนั้นเขาเรียกเฉินเยี่ยนว่าพี่ ไม่ได้ดูที่อายุ
—————