Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ - ตอนที่ 125
บทที่ 125 กลับมาอีกครั้ง (8)
มู่ลี่ไป๋ถอนหายใจ “เดิมทีก็มีขวากหนามในใจอยู่แล้ว นายจะรีบร้อนไปทำไม?”
ลั่วจื่อหานเม้มปาก ไม่ได้ตอบ
“นายไปพักผ่อนก่อนเถอะ ไม่ได้ร้ายแรงมาก ฉันเรียกพยาบาลมาดูแลเขาก็พอแล้ว”
เขารับยามาจากมือของมู่ลี่ไป๋ “ไม่ต้องหรอก ฉันกลัวว่าเขาตื่นมาแล้วจะไม่เจอฉัน”
“เขาเจอนายแล้วจะไม่กลัวเหรอ?”
มือของลั่วจื่อหานกำแน่น เดินเข้าห้องผู้ป่วยไปโดยไม่พูดไม่จา นั่งอยู่ข้างเตียงและเฝ้ามองอี้เป่ยซีที่อยู่บนเตียงตลอดเวลา
เป่ยซี เธอจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม
ตอนนี้พระอาทิตย์โผล่พ้นเส้นขอบฟ้าแล้ว อี้เป่ยซีขยับนิ้ว
‘เจ็บๆๆ เจ็บจังเลย’ เพียงอี้เป่ยซีขยับเล็กน้อยก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดจนแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับร่างกายไม่ใช่ของเธอเอง อดไม่ได้ที่จะหายใจเฮือก
‘เมื่อวาน’ อี้เป่ยซียังไม่อยากลืมตา นึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ รู้สึกปวดหัว ‘เพราะอะไรกัน เธอบอกว่าจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรอีกแล้วไม่ใช่เหรอ เพราะอะไรถึงยังเกิดเรื่องแบบนี้ ลั่วจื่อหาน ตอนนี้ฉันสับสนมากจริงๆ สับสนมาก’
เธอลืมตาขึ้นช้าๆ ห้องคนไข้ที่เป็นระเบียบว่างเปล่าอย่างเห็นได้ชัด พยุงตัวขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก ‘ลั่วจื่อหาน เขาเป็นคนพาเธอมาสินะ ไม่ได้ ต้องออกไป ต้องรีบออกไป’
‘โทรศัพท์มือถือก็ไม่มี ออกไปก่อนเถอะ’ อี้เป่ยซีทนความเจ็บปวด เดินออกจากห้องคนไข้ทีละก้าวๆ ลำตัวตั้งตรง ฝืนทำทีว่าสบายดีเหมือนปกติ แต่สีหน้าซีดขาว
“พี่ พี่เป่ย…”
“เธอนี่สุดยอดเลยนะ”
“ไม่ใช่นะ พี่ฟังฉันก่อน มันไม่ใช่แบบนั้นจริงๆ ฉันแค่อยาก…” อี้เป่ยซีมองเห็นเงาในห้องคนไข้เลือนลาง เงาของผู้ชายคนนั้นบดบังวิสัยทัศน์ของเธอทั้งหมด เสียงของหญิงสาวที่ดิ้นรนและเสียงน้ำดังชัดเจนเป็นอย่างมาก เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว
“ใครน่ะ?”
อี้เป่ยซีไม่รู้ว่าทำไมตัวเองต้องหนี เธอกัดฟันวิ่งลงไปชั้นล่าง ไม่ระวังขาก็ล้มพับลงบนพื้นโดยตรง สายตาค่อยๆ พร่ามัว
“เป่ยซี” ลั่วจื่อหานทิ้งของทั้งหมดในมือลงพื้น วิ่งพุ่งเข้าไป ก้มตัวลง
“ลั่วจื่อหาน อย่า พี่ชาย ข้างหลัง” ทันใดนั้นลั่วจื่อหานก็เข้าใจความหมายของเธอ อุ้มเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เดินอ้อมกลับไปยังห้องคนไข้ของอี้เป่ยซี
ขณะที่เขายกมือขึ้น กำลังจะเรียกคนอยู่นั้น อี้เป่ยซีห้ามเขา “ฉันไม่เป็นไร นายออกไปเถอะ ฉันอยากพักผ่อนสักหน่อย”
“เป่ยซี เรื่องเมื่อวาน ขอโทษนะ”
“ตอนนี้ฉันไม่อยากคุย นายออกไปก่อนได้หรือเปล่า นายออกไปก่อน”
“ได้ เธอพักผ่อนเยอะๆ ถ้าหากมีตรงไหนไม่สบาย เรียกฉัน หรือเรียกหมอก็ได้”
อี้เป่ยซีหลับตา ไม่ได้พูดอะไร ลั่วจื่อหานเดินจากไปอย่างหมดกำลังใจเล็กน้อย ขณะที่กำลังเปิดประตูนั้น เสียงที่อ่อนล้าดังมาจากด้านหลังของเขา “เมื่อไรฉันถึงจะออกไปได้”
ลั่วจื่อหานกำลูกบิดประตูแน่น “ฉันไม่มีเจตนากักขังหรือว่าบังคับเธอ ถ้าหากเธออยาก…”
“ฉันรู้แล้ว” ลั่วจื่อหานยืนอยู่ที่ประตูเนิ่นนาน จึงปิดประตู
อี้เป่ยซีขอโทรศัพท์มือถือจากพยาบาล รีบโทรไปหาเซี่ยเช่อทันที ไม่ได้รอนาน เซี่ยเช่อก็มาถึงโรงพยาบาลแล้ว พาอี้เป่ยซีออกไปด้วยความโมโหเล็กน้อย ไม่มีใครรู้ว่าเซี่ยเช่อพาอี้เป่ยซีไปที่ไหน
ลั่วจื่อหานนั่งอยู่ในรถคนเดียว มองดูถนนด้วยความเลื่อนลอย ‘ต่อไปจะเผชิญหน้ากับเธออย่างไร เธอจะไม่ยอมเจอหน้าเขาอีกแล้วหรือเปล่า’
เป่ยซี เธอบอกฉันได้ไหมว่าควรทำยังไง
ฉันพูดมาตลอดว่าให้เธอเชื่อใจฉัน ถึงสุดท้ายก็ยังทำร้ายเธอแบบนี้ จะต้องทำยังไง เธอถึงจะมีความสุข เธอถึงจะปลอดภัย เธอถึงจะยอมรับความรู้สึกของฉัน และยอมรับความรู้สึกของตัวเองได้จริงๆ
อาจเพราะได้ยินเสียงสายลม จู่ๆ อี้เป่ยเฉินปรากฏตัวที่หน้ารถของลั่วจื่อหาน เขาถอนหายใจ ดับบุหรี่ในมือ เดินออกไป หมัดหนักๆ ของอี้เป่ยเฉินกระแทกไปยังหน้าของเขาอย่างไม่ออมแรง
“นายพูดว่าอะไร นายบอกว่าจะไม่ทำร้ายเขา ตอนนี้ล่ะ นี่คือการไม่ทำร้ายเขาของนายเหรอ นี่คือความเชื่อใจของนายเหรอ ลั่วจื่อหาน นายมันจะมากเกินไปแล้ว”
ลั่วจื่อหานไม่ได้โต้ตอบ ฟังอี้เป่ยเฉินด่อทออยู่เงียบๆ
อี้เป่ยเฉินราวกับเป็นสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่ง มือยิ่งออกแรง การเคลื่อนไหวก็ยิ่งรวดเร็ว จนกระทั่งตัวเองหมดแรงแล้ว บนตัวของลั่วจื่อหานก็มีบาดแผลน้อยใหญ่เต็มไปหมด เขาหายใจหอบ “ลั่วจื่อหาน ตอนนี้เป่ยซีอยู่ที่ไหน?”
ลั่วจื่อหานหัวเราะอย่างขมขื่น “ตอนนี้เขาจะอยากให้ฉันรู้ได้ยังไง ตัวเองก็กองอยู่ที่พื้น ฉันก็อยากรู้มากเหมือนกัน ว่าตอนนี้เป่ยซีอยู่ที่ไหน โอเคหรือเปล่า?”