องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1011 ปีกซ้ายรถโล่
รถโล่มีหลายแบบ ในตำราพิชัยสงครามมักบรรยายภาพว่าเป็นห้องรถม้าขนาดใหญ่ ห้องรถม้าส่วนที่ปะทะศัตรูยังมีเหล็กแหลมแทงยื่นออกไป ยังบรรยายว่ามีลายสิงโต ดูแล้วก็เหมือนกับอาวุธในพิธีกรรมอะไรสักอย่าง
รถโล่ก็คือกำแพงโล่ที่เคลื่อนที่ได้ ขนาดใหญ่เพียงพอ ความหนาเพียงพอ ป้องกันทหารราบด้านหลังได้ก็ใช้ได้ พวกเจี้ยนโจวสร้างรถโล่ง่ายมาก ไม้ก่อเป็นรูป ด้านหน้ามีแผ่นไม้ทำมุมกับพื้นทแยงขึ้น จากนั้นก็ใส่ล้อสี่ล้อ มีคนดันให้เดินหน้า
แผ่นไม้นี้ต้องเข้าใกล้จึงจะรู้ว่าทำด้วยวัสดุอะไร แผ่นประตูไม้ ราวไม้ ที่ชาวบ้านใช้กันในบ้าน ด้านบนปิดทับด้วยกระสอบทรายและแผ่นหนัง ล้อไม้ก็ทำแบบง่ายๆ รถโล่เริ่มโขยกไปมาไม่หยุด จึงได้รู้ว่าเป็นเพราะวงล้อไม่กลม ถึงกับไม่แน่ว่าล้อจะขนาดเท่ากันไหมด้วยซ้ำ
รถโล่แถวหนึ่งราว 30 คัน ความสูงและหนากำลังพอ ทหารราบกองกำลังหู่เวยมองไม่เห็นทัพเผ่าหนี่ว์เจิน เห็นแต่ธงกองกำลังเจี้ยนโจวที่รถโล่บังไม่มิด
รถโล่เป็นแถวๆ เคลื่อนประชิดมา เหมือนว่าเป็นคลื่นถาโถมมา ดูอลังการ รถโล่ทหารราบเข็นมาเช่นนี้ สองปีกย่อมเป็นจุดอ่อน แต่ทหารม้าเจี้ยนโจวไม่น้อย มาป้องกันปีกข้างไว้แล้ว ทหารม้าต่อทหารม้า การรบเช่นนี้ ได้แต่อาศัยความสามารถทหารบนหลังม้าแบบตัวต่อตัวเข้าปะทะ ทัพใหญ่ปราบตะวันออกแม้ว่ามีข้อได้เปรียบ แต่ก็ใช่ว่าเด็ดขาด ไม่อาจโจมตีปีกข้างได้ในทันที
หวังทงหันไปออกคำสั่ง ทหารติดตามสามคนเตรียมตัวแล้ว ก็ตะโกนดัง ก่อนจะขี่ม้าออกไปสามคน เห็นการเคลื่อนไหวเช่นนี้ ทหารม้าอีกฝ่ายก็เข้ามารับศึก
แต่ทหารติดตามสามคนไม่ได้เข้าใกล้นัก ห่างจากรถโล่ราวร้อยก้าวก็ลงจากหลังม้า หนึ่งในนั้นเตรียมยิงปืนไฟ อีกสองคนยังคงอยู่บนหลังม้า
‘ปัง’ ดังขึ้น สามคนไม่อยู่ต่อ รีบขึ้นม้าบุกขึ้นหน้าเข้าไปดู เห็นทหารม้าศัตรูจะเข้ามาจึงได้กระตุกม้ากลับ
พอกลับถึงปีกขวาทัพใหญ่ที่หวังทงอยู่ ทหารติดตามก็รายงานว่า
“แม่ทัพใหญ่ ปืนไฟระยะ 70 ก้าวยิงไม่ทะลุ!”
หวังทงพยักหน้า หันไปถ่ายทอดคำสั่งว่า
“พลปืนไฟแต่ละกองถอนกลับจากแนวหน้า พลทวนยาวสองปีกออกรับ ที่เหลือให้ไปตั้งทัพแนวหลัง รอคำสั่ง”
ทหารถ่ายทอดคำสั่งรับคำสั่งขี่ม้าออกไปถ่ายทอดคำสั่งยังแต่ละกอง หกหน่วยทหารราบกองกำลังหู่เวย สี่หน่วยตั้งแถวแนวนอนอยู่ด้านหน้า สองหน่วยอยู่ด้านหลัง ขบวนทัพม้า กองปืนใหญ่ล้วนเป็นอยู่ปีกขวา
ก่อนเปิดศึกหากไม่มีคำสั่งอื่น ก็จะให้พลปืนไฟเรียงหน้ากระดานอยู่หน้าพลทวนยาว ศัตรูบุกมาก็จะโดนปืนไฟยิงก่อน แต่ทว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้ไม่ได้
ทหารถ่ายทอดคำสั่งไปถึง พลปืนไฟพากันถอยกลับ พลปืนไฟหกหน่วย 600 นายลอดตัวกลับมาตามช่องแถวพลทวนยาว ตอนนี้พลทวนยาวเรียงแถวกันแน่น พลปืนไฟ 1,200 ล้วนอยู่ด้านหลัง
ทหารเจี้ยนโจวเห็นเช่นนี้ ก็มีคำสั่งดังขึ้น ขบวนรถโล่เริ่มเดินหน้าเต็มกำลัง ระยะห่างราวหลายร้อยก้าว สองฝ่ายเตรียมรับมือ ตอนนี้อีกแค่ 300 ก้าว หวังทงหันไปมอง กองปืนไฟกองกำลังหู่เวยกลับมาด้านหลังหมดแล้ว
“ถ่ายทอดคำสั่ง ยิงปืนใหญ่!”
หวังทงสั่งการ ทหารถ่ายทอดคำสั่งยกธงแดงสี่เหลี่ยมผืนหนึ่งวิ่งชูออกไป กวัดแกว่งไปมา
มู่เอินหน้ากองกำลังปืนใหญ่เห็นธงแดงโบกไปมา ก็หันไปตะโกนสั่งดังว่า
“เตรียมตัวพร้อมหมดแล้วใช่ไหม?”
“พร้อมยิงแล้ว!”
“ปืนใหญ่กระสุนสามชั่งยิงระลอกแรกก่อน จากนั้นก็ยิ่งตามสบาย ยิงได้!”
คนเบื้องหน้ารับคำเสียงดัง มู่เอินมองเห็นแถวรถโล่ศัตรู ยังเห็นพลปืนไฟวิ่งกลับแถว แม่ทัพใหญ่ส่งทหารติดตามไปนั้นเขาเองเข้าใจ ก็เพื่อทดสอบดูว่าสามารถยิงทะลุกำบังศัตรูได้หรือไม่ ในยามนี้ ในใจมู่เอินมีความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก ปืนไฟยิงไม่เข้าไม่เป็นไร รถโล่ศัตรูแม้ทำจากเหล็ก ปืนใหญ่ก็ยิงกระจุยได้เช่นกัน
พอคำสั่งออกไป ก็ปรับทิศทางปากกระบอกปืนใหญ่อีกเล็กน้อย ปืนใหญ่กระสุนสามชั่งยิงไปก่อน เพราะกองปืนใหญ่อยู่ปีกขวากองกำลังหมิง ตอนยิงก็ย่อมเอียงมุม ปีกขวายิงใส่ปีกซ้ายทหารเจี้ยนโจว ทหารม้าเผ่าหนี่ว์เจินล้วนถอยหลัง เห็นชัดว่ามองเห็นปืนใหญ่อันร้ายกาจของกองกำลังหมิง
ระยะห่างสองทัพ ปืนใหญ่กระสุนสามชั่งยิงทำมุมสูงก็ย่อมสามารถไปถึงกลางทัพข้าศึกได้ แต่หวังทงไม่ได้สั่งการเช่นนี้ หากเป็นเช่นนี้ ก็อาจทำให้ศัตรูแตกกระจัดกระจาย สถานการณ์เช่นนี้ แพ้ชนะก็ย่อมเห็นผลเร็ว ไม่เป็นประโยชน์ต่อการทำลายราบ
ปืนไฟไม่อาจยิงทะลุกระสอบทรายและแผ่นหนังที่ปิดคลุมหน้าแผ่นไม้ได้ แต่ลูกเหล็กหลายชั่งพุ่งไปด้วยความเร็วสูงนั้นไม่เหมือนกัน
เสียงปืนใหญ่ถล่มดังสนั่นหวั่นไหว กระสุนปืนใหญ่พุ่งกระแทกรถโล่ ทหารที่ผลักดันรถโล่มองลอดผ่านช่องเล็กๆ ที่มีไม่มาก เพื่อดูทิศทางการเข็น พวกเขามีมุมมองแคบมาก ไม่รู้ว่าปืนใหญ่ยิงมา เสียงตูมดังสนั่น หลายคนถึงกับเงยหน้ามองฟ้า คนเข็นรถโล่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ทหาร เป็นเพียงราษฎรที่จับตัวมาจากหมู่บ้าน พวกเขายังคิดว่าฟ้าผ่า ฤดูนี้จะมีฟ้าผ่าได้อย่างไรกัน
แต่พริบตา พวกเขาก็รู้ว่าเป็นหายนะมาถึงตรงหน้าแล้ว กระสอบทรายและแผ่นหนังที่ปิดคลุมแผ่นไม้หนาไม่อาจต้านทานแรงกระสุนปืนใหญ่ รถโล่ถูกกระสุนปืนใหญ่ถล่มเละ คนด้านหลังรถยังไม่ทันได้สติว่าเกิดอันใดขึ้นก็ถูกกระสุนปืนใหญ่ฉีกร่างไปแล้ว
ความจริงนั้นราษฎรเผ่าหนี่ว์เจินที่ถูกฉีกร่างเหล่านี้ โชคดีที่ตายในทันที อย่างไรก็ไม่ต้องเจ็บปวด กระสุนปืนใหญ่ยิงแผ่นไม้กระจุย เศษหินดินทรายในกระสอบทราย แผ่นเศษไม้กระเด็นรอบทิศ ก็ย่อมทะลุเสื้อผ้าหนังบนร่างกายคนอยู่ดี ตามตัวถูกกระแทกทะลุเป็นรูโลหิตชุ่ม หลายคนกลิ้งไปกับพื้น ไม่สู้ตาย ส่งเสียงร้องครวญครางเจ็บปวด
ปืนใหญ่กระสุนสามชั่งยิงไปไม่ได้แค่ทะลุแถวหนึ่ง แถวสองก็เช่นกัน รถโล่ที่เดิมเรียงเป็นชั้นหน้ากระดาน ถูกเปิดช่องโหว่ทันที ราษฎรเผ่าหนี่ว์เจินที่เข็นรถโล่มาเห็นเพื่อนกันมีสภาพอนาถเช่นนี้ ล้วนส่งเสียงร้องตกใจสุดขีด มีคนทิ้งรถโล่ วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
พอเปิดช่องทางได้แล้วหวังทงก็เห็นพื้นที่ด้านหลังรถโล่ นอกจากคนงานเข็นรถแล้ว ยังมีทหารเจี้ยนโจวที่เห็นคนงานเริ่มหลบหนี พวกทหารรีบเข้าไปสังหารด่าทอบีบให้กลับไป แต่ทว่าช่วงเวลานี้สั้นมาก เพราะปืนใหญ่กระสุนหกชั่งกองกำลังหู่เวยเริ่มยิงออกไป
ปืนใหญ่กระสุนสามชั่ง 12 กระบอก ปืนใหญ่กระสุนหกชั่ง 10 กระบอก ปืนใหญ่กระสุนสามชั่งเมื่อครู่ได้ถล่มแนวชั้นรถโล่แหวกออกเป็นช่องโหว่ ปืนใหญ่กระสุนหกชั่งครั้งนี้ยิงไปแทบจะทะลุ
ตอนลูกเหล็กน้ำหนักมากยิงกระหน่ำ อานุภาพยิ่งมากยิงกระแทกรถโล่อย่างน้อยสามแถว จากนั้นกระสุนกระเด้งกับพื้น ก่อนพื้นดินแข็งจะส่งแรงเสริมประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น กระแทกพังไปอีกสองแถว คนที่ถูกกระสุนปืนใหญ่กลืนชีวิตไปไม่พูดถึง เศษอิฐและเศษไม้กระเด็นด้วยแรงอัดทำให้เกิดแรงสังหารมากกว่าครั้งแรกมาก ไม่ต้องพูดถึงคนงาน แม้แต่ทหารเจี้ยนโจวเองก็ไม่อาจต้านทานอยู่
คนตรงหน้าไม่อาจต้านทานปืนใหญ่ระลอกสามได้ เผ่าหนี่ว์เจินแห่งเจี้ยนโจวแน่นอนกำลังมองปฏิบัติการกองกำลังหมิง ปืนใหญ่ทั้งหมดยิงออกไป การบรรจุกระสุนใช้เวลา จะอาศัยจังหวะนี้ลงมือบุก ความจริงในเวลาอันสั้นนี้ ระยะยิ่งใกล้กันเข้ามาอีก
รถโล่ทำอย่างหยาบๆ ผลักดันเข้ามาในพื้นที่เช่นนี้ หากพื้นที่มีสิ่งกีดขวางเพียงเล็กน้อยล้วนทำให้ไม่อาจเคลื่อนหน้าต่อได้ ซากศพและเศษซากจากรถโล่ เหล่านี้ล้วนถูกกำจัด คนงานเผ่าหนี่ว์เจินกับทหารราบเจี้ยนโจวออกมาจากด้านหลังรถโล่เพื่อเคลียร์เส้นทาง แต่รถโล่ก็ยังคงไม่อาจเดินหน้าต่อได้
จากนั้นปืนใหญ่ระลอกสามยิง อานุภาพสังหารครั้งนี้น้อยกว่าครั้งที่หนึ่ง เพราะแนวรถโล่ถูกทำลายเป็นรูแล้ว เริ่มตั้งรับได้ประปรายแล้ว แต่ทว่าปืนใหญ่ระลอกสามนี้ทำให้พวกเขาสะเทือนวงกว้างมาก พวกเขาพบว่าปืนใหญ่กองกำลังหมิงถึงกับมีประสิทธิภาพการยิงเร็วได้เช่นนี้ เช่นนั้นแผนทุกอย่างก็ล้วนไร้ความหมายสิ้น
ทหารเจี้ยนโจวนู่เอ่อร์ฮาชื่อกองหลักนี้ไม่ได้เคยเข้าปะทะกับปืนใหญ่กองกำลังหู่เวยโดยตรงมาก่อน ล้วนเคยแต่ได้ยินได้ฟังมา สิ่งที่ได้ยิน ก็มักจะฟังดูแล้วคิดไปเองว่าเกินความจริงไป แต่ครั้งนี้ได้เห็นด้วยตา จึงได้รู้ว่าสิ่งที่บรรยายนั้นเป็นเช่นนี้ ยังมีความจริงที่ยังไม่รู้
ปืนใหญ่สี่ระลอกยิงไป เหมือนกับลมพายุพัดกระหน่ำ รถโล่ที่ราวกับ ‘กำแพงไม้” ที่เรียงดาหน้าอยู่แต่ละแผ่นกำลังเป็นรูนับร้อยพัน ไม่อาจรวมตัวกันเป็นปึกแผ่นได้อีก มีแต่รถโล่โดดเดี่ยวประปรายบนสนามรบตอนนี้เท่านั้น รถโล่เช่นนี้ไม่อาจเป็นกำบังให้ทหารราบบุกได้แล้ว
ตอนนี้ปืนใหญ่ไม่ได้ยิงพร้อมกัน สถานการณ์ตอนนี้เช่นนี้ รถโล่ที่เหลือไม่อาจผลักดันขึ้นสนามรบได้อีก ไม่มีความหมายอันใดอีกแล้ว
มู่เอินปรับมุมยิงปืนใหญ่ ยิงออกไปสามกระบอกในทุกระลอกยิง ผลัดกันยิง ยิงใส่รถโล่หนาแน่น ไม่นานนัก บนสนามรบคนงานและทหารหลังรถโล่ ขอเพียงยังเคลื่อนไหวได้ก็ล้วนหลบหนีกลับ
หวังทงสังเกตเห็นปัญหาหนึ่ง หลังรถโล่ถูกทะลายราบ กำลังอีกฝ่ายมีแต่ทหารราบ ทหารราบเหล่านี้กำลังขึ้นหน้ามาทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ น่าจะคิดบุกทีเดียว แม้ว่านับทหารม้าสองปีข้างรถโล่เมื่อครู่แล้ว จำนวนเท่านี้สำหรับทหารเจี้ยนโจว นับว่าน้อยไป
“แม่ทัพใหญ่ ทหารบนหอสังเกตการณ์เมื่อครู่บอกว่า เห็นทหารม้าศัตรูสองปีกข้างมีลาและวัว…”
ทหารติดตามที่มารายงานมีสีหน้ายิ้มเยาะ หวังทงอึ้งไป ทหารม้าเจี้ยนโจวไม่น้อย อย่างไรก็ไม่จำเป็นต้องใช้ลาและวัวมาเสริมกำลัง หวังทงเงียบไปพักหนึ่งสั่งว่า
“ให้ปืนไฟที่ไม่อยู่ในแถวพลทวนยาวรวมตัว รอคำสั่ง!”
ทหารราบทหารเจี้ยนโจวตรงหน้าจะบุกเข้ามาแล้ว ไม่ใช่ว่าให้พลปืนไฟยืนเรียงแถวหน้าหรือ ทหารถ่ายทอดคำสั่งถามขึ้นในใจ แต่ก็ยังเร่งออกไปถ่ายทอดคำสั่ง
ใต้หอสังเกตการณ์ทัพใหญ่ฝั่งซ้าย ทหารม้ากำลังเร่งทะยานมา