องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1027 โจรสลัดเซิ่งซื่อ
ว่ากันว่าบรรพบุรุษสั่วเหล่าเฮยเป็นคนตาสีฟ้า แต่ตอนนี้จากหน้าตามองไม่เห็นว่าจมูกโด่งเบ้าตาลึกอันใด ตั้งแต่สมัยหมิงไท่จู่มาก็มีกฎห้ามไม่ให้แต่งงานกันเองระหว่างคนตาสีฟ้า สืบต่อมา ก็เริ่มไม่แตกต่างกับชาวฮั่นแล้ว สั่วเหล่าเฮยแน่นอนไม่ได้ชื่อว่าเหล่าเฮย แต่ทว่าอยู่บนทะเลมานาน ตรากตรำลมฝน คนอื่นถูกเผาตัวดำ เขาเองก็ถูกแดดเผาตัวดำ แต่ดำกว่าคนอื่นๆ จึงได้ชื่อฉายาว่า เหล่าเฮย แปลว่า ดำ
ยังมีคนบอกว่าบรรพบุรุษสั่วเหล่าเฮยอาจจะมีเชื้อสายพวกเงาะที่เป็นทาสมาจากทางทะเลตะวันออกเฉียงใต้ วาจานี้ไม่กล่าวต่อหน้า ไม่งั้นอาจทำให้โมโหหนัก
เกาะเสี่ยวหยางซานในหมู่เกาะโจวซานมีป้อมปราการทางน้ำ มีเรือเดินทะเลจอดเรียงน้อยใหญ่ 90 กว่าลำ คนราวพันคน หัวหน้าคนเหล่านี้ก็คือ สั่วเหล่าเฮย
เรือก็แค่หลักร้อย คนก็แค่หลักพัน จำนวนแค่นี้ยังสามารถมีชื่อเสียงได้ในอำเภอหนึ่งเมืองหนึ่ง เจ้าทะเลผู้ใดมิใช่ว่ามีเรือพันลำคนนับหมื่น เป็นคนใหญ่คนโตในพื้นที่ มีชื่อเสียงในประเทศวัวและแถบทะเลใต้ราวอ๋องราวโหว ตัวเล็กๆ เช่นเขานี้ ไม่อาจเรียกได้ว่ากระไรนัก
สั่วเหล่าเฮยกล่าวว่าตนเองเป็นทหารประจำหน่วยกวนไห่เว่ย เพราะทำผิดสังหารหัวหน้าตาย จึงได้หนีมาที่นี่ แต่ทว่าพวกนักเลงกับชาวเลต่างกล่าวว่ากล่าวว่าตนเองทำผิดสังหารหัวหน้าตาย เหมือนว่าหากไม่กล่าวเช่นนี้เหมือนว่าไม่เข้าพวก จึงไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องจริง
แต่ทว่าสั่วเหล่าเฮยสามารถมีที่ยืนเล็กๆ ที่นี่ได้ ล้วนอาศัยว่าสนิทกับทหารกองกำลังป้อมชวนซาเป่าและกองกำลังหนานฮุ่ย[1] สองกองกำลังริมทะเล ล้วนมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขา อาวุธกับดินปืนของพวกสั่วเหล่าเฮยแม้แต่เรือก็มาซื้อจากทางนี้ทั้งนั้น หากบนท้องทะเลมีการเคลื่อนไหวใด หรือมีใครผ่านทางมาขบวนใหญ่ สั่วเหล่าเฮยถึงกับนำกำลังไปหลบที่ป้อมชวนซาเป่า
แผ่นดินหมิงตอนนี้ไม่มีแม่ทัพเรือเก่ง ล้วนเป็นเจ้าทะเลรายใหญ่เหิมเกริมเต็มที่ โจรไม่กลัวทางการ โจรกลัวโจร นี่เป็นเรื่องแปลกหนึ่งของท้องทะเลแผ่นดินหมิง
หมู่เกาะเซิ่งซื่อ หมู่เกาะโจวซาน แถบนี้เป็นพื้นที่ที่คึกคักสุดที่หนึ่งของท้องทะเลแผ่นดินหมิง เขตปกครองใต้กับเมืองแถบเจ้อเจียงล้วนต้องผ่านทางนี้ สั่วเหล่าเฮยนำคนออกไปลงมือเล็กๆ น้อยๆ ก็พอเลี้ยงดูตัวเองได้
สินค้าที่ปล้นได้มา มีคนรับซื้อโดยเฉพาะ แต่ทว่าคนเหล่านี้ตัดราคารุนแรงมาก สินค้าสิบตำลึงเงินให้มาสองตำลึงก็ไม่เลวแล้ว บางครั้งตำลึงเดียวก็ยังได้ จะไม่ขายก็ไม่ได้ เพราะไม่มีทางอื่นไปขายอีก สินค้าไม่อาจเป็นเงินได้ ก็ล้วนไร้ค่า
แต่ตั้งแต่เมืองซงเจียงเปิดท่าการค้า สถานการณ์ก็ไม่เหมือนเดิม สั่วเหล่าเฮยไปๆ มาๆ ก็เชื่อมสัมพันธ์กับทางอำเภอซ่างไห่ผ่านทางป้อมชวนซาเป่า สามพี่น้องตระกูลเฉาที่ขึ้นมาใหม่ต้องการสายสัมพันธ์ทางทะเล ไม่เช่นนั้นไม่มีที่รับของโจร พี่น้องตระกูลเฉาให้ราคาของโจรสูงมาก
ทำการค้ากันหลายครั้ง พวกสั่วเหล่าเฮยก็มีเงินทองมากมาย สั่วเหล่าเฮยกับระดับหัวหน้าสองสามคนยังตั้งกิจการในอำเภอซ่างไห่ ว่าเก็บเกี่ยวพอแล้วก็จะไปตั้งหลักแหล่งอาศัย พี่น้องตระกูลเฉายังลงทุนกับป้อมของสั่วเหล่าเฮย จัดหาเรือสิบกว่าลำ คนอีกร้อยคนออกทะเล เรียกได้ว่าเป็นการพึ่งพาอาศัยกันและกัน
****************
“เจ้าทะเล มีเรือมา ทั้งหมดห้าลำ ดูแล้วน่าจะนำผ้าไหมไปขาย”
บนเสากระโดงมีคนตะโกนดังลงมา หมู่เกาะเซิ่งซื่อแถบนี้มีหินโสโครกมาก พื้นที่ซับซ้อน ขบวนเรือซ่อนตัวกันก็ย่อมยากจะค้นพบ
ที่อยู่สั่วเหล่าเฮยเป็นเรือท้องแบนขนาด 500 เคอ เรือนี้นับไม่ได้ว่าเป็นเรือใหญ่ แต่ทว่าใหญ่พอสำหรับพวกสั่วเหล่าเฮย ได้ยินเรือห้าลำขนผ้าไหมไปขาย คนบนเรือก็เริ่มฮือฮา ในแถบทะเลอ่าวเมืองหางโจวนี้ เรียกได้ว่าก้อนโตมาก
“เจ้ามองเห็นชัดไหม?”
“จริงแท้แน่นอน น่าจะเป็นเรือร้านฟู่ซุ่นเสียง เมืองหางโจว”
ฟู่ซุ่นเสียงเป็นร้านค้าผ้าไหมอันดับหนึ่งในเมืองหางโจว ประเทศวัว ทะเลใต้และพวกฟะรังคีล้วนทำการค้ากับร้านนี้ สำหรับชื่อเรียก ‘เจ้าทะเล’ นี้ ท้องทะเลทุกคนยอมรับให้ได้มีแค่เสิ่นหวั่งกับหัวหน้าอีกสองที่ฮกเกี้ยนและกวางตุ้งทะเลใต้เท่านั้น สั่วเหล่าเฮยคิดอยากได้เกียรติแบบนี้บ้าง คนอื่นขี้เกียจจะสนใจ
“มารดามันสิ ครั้งนี้จับกินได้ก็จะได้ไปเปิดโรงบ้านที่เมืองซงเจียงไว้สุขสบายยามชราแล้ว!”
สั่วเหล่าเฮยพึมพำ ก้มหน้ากำชับคนสนิทสองสามคนเบาๆ ว่า
“จับตาให้ดี อย่าให้คนอื่นจับไปกินได้ เรือนี่ สินค้านี่ ล้วนขายได้เงินก้อนโต!”
คนสนิทตื่นเต้นพยักหน้า ทางนี้ส่งสัญญาณ เริ่มชักใบเรือแล่น เรือเล็กพวกเขาในแถบหมู่เกาะนี้นับว่าแล่นได้เร็ว ไล่ล่าขบวนเรือผ้าไหมพวกนี้ไปนับว่ามั่นใจอยู่
เรือพวกนี้อ้อมออกจากหมู่เกาะมา เรือห้าลำใหญ่ก็เห็นเข้าแล้ว เห็นได้ชัดว่าคนบนเรือเริ่มแตกตื่น คนบนเรือเริ่มเร่งกำลัง มีคนชักใบเรือขึ้น มีคนชักธง
“เจ้าทะเล มีธงพันธมิตรไตรธารา!”
ตอนนี้ธงเสิ่นหวั่งยังคงใช้การได้ยามเดินทะเล อย่างไรก็ร้านประกันภัยเทียนจินก็ยังมาไม่ถึงทางใต้นี้ ธงพันธมิตรไตรธาราจึงมีประโยชน์ในการนี้
สั่วเหล่าเฮยยกมือจับราวกั้น มองไปยังเรือใหญ่ตรงหน้า หันไปถ่มน้ำลายทิ้งสบถด่าว่า
“หากยอมรับธงนั่น พวกเราคงได้กินแต่แกลบอยู่ทางนี้นานแล้ว ไม่ต้องสนใจ!”
คนเบื้องหน้าไม่สนใจแม้แต่น้อย ได้ยินคำสั่งนี้ ล้วนพากันตะโกนดัง เรือก็ยิ่งเข้าใกล้เรื่อยๆ คนบนเรือล้วนถูมือกำหมัดพร้อมลงมือ
เรือห้าลำนั้นเริ่มแตกตื่น เดิมยังเรียงเป็นแถว รักษารูปขบวนเรือไว้ได้ ตอนนี้กลับเริ่มเละเทะ ระหว่างเรือด้วยกันมาขัดกันเอง ไม่อาจขยับได้ พวกสั่วเหล่าเฮยยิ่งตื่นเต้นยินดี ล้วนพากันตะโกนเฮโลดัง สภาพเช่นนี้พอดีกับการโดดข้ามเรือได้สะดวก
“บุกเข้าไป ๆ จับตาดูแต่ละลำเอาเอง วันนี้รวยแล้ว กลับถึงค่ายทุกคนล้วนมีรางวัล ให้สาวๆ พวกเจ้าได้เสพสุขให้พอ!”
สั่วเหล่าเฮยตะโกนอยู่บนเรือ มีคนเร่งออกไปถ่ายทอดคำสั่งยังเรืออื่น อีกฝ่ายเป็นดังเนื้อมาส่งถึงปากแล้ว ล้วนพากันเร่งไล่ตามเรือไป
ลมบนท้องทะเลแรงไม่น้อย พวกสั่วเหล่าเฮยแล่นเรือบนทะเลมานานปี บังคับใบเรือได้ดี ตามมาทันขบวนเรือห้าลำอย่างรวดเร็ว เรือใหญ่น้อย เข้าขัดกันไว้ รวมตัวกันเป็นหนึ่ง
เรือเล็กเข้าใกล้เรือใหญ่ได้แล้ว คนเรือก็พากันใช้โซ่ล่ามเรือให้ติดกับเรือใหญ่ จากนั้นก็ทิ้งใบเรือเล็กตนลง ก็จะตามติดไปกับเรือใหญ่ได้แล้ว ทุกคนคาบดาบปีนขึ้นกาบเรือ มีคนสังเกตเห็นว่า เรือใหญ่ลดใบเรือเช่นกัน
คนที่สังเกตยังไม่ทันได้ตะโกน บนเรือก็มีคนโผล่ออกมา สองคนผลักปืนใหญ่เล็กโผล่ออกมา ปืนใหญ่นั่นดูแล้วเหมือนว่าท่อนแขนใหญ่ น่าจะไม่หนักมาก สองคนยกมา ค่อยๆ เอียงปากกระบอก จุดไฟทันที
เรือใหญ่ทุกลำเหมือนกันหมด บนดาดฟ้าเรือมีคนใช้ปืนใหญ่ขนาดเล็กจ่อลงมา เรือใหญ่ไม่แล่น เรือเล็กก็ย่อมไม่อาจแล่น ทุกคนล้วนถูกผูกติดกัน ปืนใหญ่เล็กนั่นบรรจุเศษเหล็ก ระยะยิงราว 20-30 ก้าว หากเรือแต่ลำสลับกันยิง พื้นที่ยิงกว้าง
เสียง ปัง ปัง ปัง ดังไปทั่วบริเวณติดๆ กัน เสียงร้องโหยหวนก็ดังไปทั้งคุ้งน้ำ คนเบื้องหน้าพากันขวัญหนีดีฝ่อ แม้ว่าจะโง่ก็ยังต้องรู้ว่า นี่เจอหลุมพรางแล้ว
บนทะเลลมแรง ควันดินปืนถูกพัดกระจายอย่างรวดเร็ว พวกสั่วเหล่าเฮยที่ขวัญกระเจิงได้เห็นที่กำบังบนดาดฟ้าเรือเปิดออกหมดแล้ว มีปืนใหญ่เข็นออกมา ยังมีปืนไฟกับธนู
“พวกเจ้าโยนอาวุธลงทะเล หมอบบนเรือ จะไว้ชีวิตพวกเจ้า มารดามันสิ บอกว่าอย่าขยับ เจ้าคว้าดาบทำไมกัน!”
เสียงตะโกนดังได้ครึ่งเดียวก็ด่าทอ เขาเพิ่งด่าออกมา ปืนไฟก็ยิงไปสองนัดทันที บนท้องทะเลคลื่นลมไม่สงบ จะให้ธนูและปืนไฟอะไรพวกนี้ยิงแม่นก็ไม่ง่าย แต่คนเบื้องหน้ารวมตัวกันแน่น ยิงไม่โดนคนคว้าดาบ แต่คนข้างๆ กลับซวยแทน ร้องลั่นกองกับพื้น เห็นเลือดเพื่อนข้างๆ สาดกระจาย ผู้ใดจะกล้าขยับอีก
“ข้าจะนับถึงสิบ หากไม่ทำตาม ก็อย่าหาว่าไม่เกรงใจนะ!”
คนบนหัวเรือตะโกนดัง มียิ้มแปลกๆ กล่าวว่า
“หันไปดูรังพวกเจ้า พวกเจ้าไม่ต้องคิดหนีแล้ว”
ทุกคนหันไปมองอย่างหวาดกลัว เห็นเป็นควันดำกำลังลอยโขมง ทางนั้นเป็นทิศทางรังโจรของสั่วเหล่าเฮย เห็นสภาพการณ์เช่นนี้ คนเหล่านี้ก็หมดแรง รังโจรถูกกวาดล้างสิ้นแล้ว ไม่มีทางหนีแล้ว ตรงหน้ายังโหดเหี้ยมเช่นนี้ นอจากยอมจำนนแล้วยังมีทางใดอีก
มีคนไม่ยอม กล่าวว่า
“ขอถามว่า ธงนี้เป็นธงพี่น้องใดบนทะเล โปรดให้ความกระจ่าง”
“บอกพวกเจ้าก็ได้ พวกเราทำงานให้ตระกูลซา”
ได้ยินวาจานี้ คนเบื้องหน้าเงียบกริบ ทุกคนล้วนแอบทอดถอนใจ ล่วงเกินผู้ใดไม่ว่า ถึงกับไปล่วงเกินเอาซาต้าเฉิงได้ สั่วเหล่าเฮยห่างจากซาต้าเฉิงหลายพันลี้ อีกฝ่ายคิดสร้างสถานการณ์ล่อเช่นนี้ ล้วนเรียกว่าให้เกียรติสั่วเหล่าเฮยแล้ว
หมู่เกาะเซิ่งซื่อกับหมู่เกาะโจวซานพื้นที่ซับซ้อน แผ่นดินหมิงไม่มีแม่ทัพเรือที่พอจะใช้การได้ รังพวกโจรสลัดอยู่ในนี้ คิดจะปราบให้ราบก็ยากมาก เจ้าหาที่ซ่อนพวกเขาไม่พบ หากจะไล่ล่าพวกเขาบนท้องทะเลกว้างใหญ่ จะไปจับผู้ใดได้
แต่ทว่าปัญหายากเหล่านี้ไม่ครณามือซาต้าเฉิง เขาเป็นเจ้ายิ่งใหญ่สุดแห่งท้องทะเลผู้หนึ่ง อ่าวทางเมืองหางโจวแถบนี้ก็คุ้นเคยมาก คนคุ้นเคยกันก็มาก เทียบจำนวนเรือ พวกสั่วเหล่าเฮยจะเป็นคู่ต่อสู้เขาได้อย่างไร สำหรับธรรมเนียมโจรสลัดนั้น พวกเขาก็ยิ่งคุ้นเคยดี
การขุมหลุมหลอกล่อบนท้องทะเล ทำให้พวกกลุ่มโจรสลัดเล็กๆ ไม่อาจป้องกันได้ ทั้งหมดล้วนถูกกวาดล้างสิ้น ไม่เพียงแต่พวกสั่วเหล่าเฮย โจรสลัดเกาะโจวซานกับเซิ่งซื่อล้วนถูกกวาดเรียบ ป้อมค่ายต่างๆ ถูกทำลาย เรือและทรัพย์สินถูกกวาดไปหมด คนก็ถูกจับเป็นเชลย เรือถูกลากไปเมืองซงเจียง
มีคนล้อเล่นว่า ท้องทะเลแม้เกิดพายุใหญ่ ก็คงไม่กวาดล้างได้เรียบเพียงนี้ พวกโจรสลัดถูกส่งตัวไปยังเมืองซงเจียง ที่อำเภอหนานฮุ่ย เมืองซงเจียงสร้างลานกว้างไว้แห่งหนึ่ง ทุกคนถูกนำตัวแบ่งแยกสถานะก่อน ดูว่ามีโรคหรือไม่ พวกหัวหน้าที่มือเปื้อนเลือดกับพวกโทษหนักล้วนถูกจับเดี่ยวไปตัดหัวประจาน
โจรสลัดที่ถูกจับเป็นเชลยให้ทหารในพื้นที่กุมตัวไปยังอำเภอซ่างไห่ ที่นั่นมีงานก่อสร้าง กำลังขาดแรงงานคน โจรสลัดเข้าแทนแรงงานที่กำลังขาดแคลนพอดี เขตปกครองใต้กับทางทะเลเจ้อเจียงที่รักษาความสงบกันได้เละเทะยิ่ง ถูกกวาดล้างสะอาด ตลาดการค้าเปิดอย่างไร้ภัย
[1] อยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำหวงผู่ในเซี่ยงไฮ้ อ่าวหังโจว ตรงข้ามปากแม่น้ำแยงซีเกียง