องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1032 ตระกูลเจิ้ง
ไม่ว่าชาวเหนือหรือชาวใต้ ราษฎรล้วนชมชอบดูเรื่องสนุก พอได้ยินเสียงตะโกน ‘พรึบ’ เดียว ฝูงชนก็หันมามองกันหมด
ผู้คุ้มกันหวังทงรีบตั้งวงล้อมกันคนผู้นั้นไว้ ซาตงหนิงตะโกนว่า
“คนมาวุ่นวาย พวกเจ้ารีบขับไล่คนไปให้หมด!”
พร้อมลงมือตามคำสั่ง ผู้คุ้มกันรีบเริ่มขับไล่คน เห็นผู้คุ้มกันหวังทงแต่ละคนล้วนเป็นดังคนรับใช้ชั้นสูง ฝีมือก็ร้ายกาจ คนที่คิดจะมุงดูก็ทนการลงมือไม่ไหว พากันหนีจ้าละหวั่น
ด้านหลังตะโกน ‘ให้ความเป็นธรรม’ ผู้นั้นถูกจับตัวมา ปากถูกอุดด้วยผ้า ไม่อาจกล่าวอันใดได้อีก หวังทงขมวดคิ้ว ก้าวเท้าเดินเข้าไปในร้านสุรา กล่าวว่า
“นำตัวเข้ามา”
ไม่ต้องให้ซาตงหนิงสั่ง เถ้าแก่ร้านสุราก็รู้งานรีบให้แขกออกไปให้หมด ไม่เก็บเงินค่าสุราอาหารทุกคน หวังทงนั่งลง คนงานก็อุ่นสุราหวงจิ่วชั้นเลิศพร้อมกับแกล้มมาอย่างว่องไว จากนั้นก็ไปหลบ
ร้านสุราที่รู้งานเช่นนี้ หวังทงแอบชื่นชมในใจ อย่างไรก็เป็นพื้นที่แดนใต้ สายตาย่อมแหลมคมกว่าทางเหนือมาก
“ขอกั๋วกงให้ความเป็นธรรม!”
เป็นคนที่มาคอยลอบมองหน้าจวนผู้นั้น ตามคาดหวังทง คนผู้นี้เข้ามาถึงก็เอาแต่โขกศีรษะขอร้องไม่หยุด ไม่นานหน้าผากก็ห้อโลหิต หวังทงสงสัยครู่หนึ่ง ก็หันไปถามซาตงหนิงว่า
“นี่เป็นที่พวกเจ้าเตรียมมาหรือ?”
ถูกหวังทงถามขึ้นเช่นนี้ ซาตงหนิงเองก็อึ้งไป ได้สติก็ตอบเบาๆ ว่า
“กั๋วกง หากเป็นข้าน้อยเตรียมมาก็ต้องรายงาน จะทำเรื่องเลอะเลือนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”
หยางซือเฉินเคยมีจดหมายมา พวกสื่อชีก็คิดเช่นนี้ ว่าหวังทงมาถึงเมืองซงเจียง ทำอะไรล้วนใช้วิธีรุนแรง ทำให้บารมีในเมืองเปล่งรัศมีน่ากลัวเพียงพอแล้ว หากต้องการได้ใจผู้คน แน่นอนเรื่องที่หวังทงทำส่วนใหญ่ล้วนเป็นผลดีต่อท้องที่ แต่ทว่าเรื่องพวกนี้ล้วนต้องใช้เวลา ยังไม่อาจเห็นผลทันตา ไม่สู้สร้างเรื่องซื้อใจผู้คนสักหน่อยดีกว่า
เรื่องพวกที่จะสามารถถึงใจคนที่สุดก็คือให้ความเป็นธรรมแก่ชาวบ้าน ท้องถนนมีคนมาโขกศีรษะร้องขอความเป็นธรรม จากนั้นหวังทงก็ออกหน้าให้ความเป็นธรรม ก็เหมือนกับในงิ้วพวกนั้น ราษฎรย่อมต้องร้องตะโกนชมเชย
เรื่องวันนี้ก็เหมือนมาก มิน่าหวังทงจึงถามเช่นนี้ขึ้นมา แต่ทว่าก็แค่ถามไปอย่างนั้น หากเป็นซาตงหนิงเตรียมมาจริง เช่นนี้ก็อาจทำให้ต้องสงสัยในความสามารถการทำงานของเขาแล้ว
“ว่ามา มีเรื่องไม่เป็นธรรมอันใดไม่ไปแจ้งทางการ แต่ต้องการมาร้องทุกข์กับข้า”
หวังทงถามขึ้นตรงไปตรงมา คนที่คุกเช่าที่พื้นพอได้ยินหวังทงกล่าวเช่นนี้ ก็รู้ว่าอีกฝ่ายมีใจคิดดูแล รีบโขกศีรษะหลายที กล่าวว่า
“กั๋วกง นายอำเภอไม่อาจจัดการได้ ข้าน้อยไปแจ้งก็ย่อมทำให้นายอำเภอมีภัย พื้นที่เมืองซงเจียง ในเขตปกครองใต้ เกรงว่าคงมีแต่กั๋วกงที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้”
คนผู้นี้แม้ไม่เคยสอบตำแหน่งขุนนาง แต่ก็ร่ำเรียนมา พูดจามีหลักการมาก หวังทงพยักหน้าเอ่ยขึ้น
“ว่ามา!”
คนผู้นั้นท่าทางอึกอัก เริ่มแรกยังอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แต่พอเห็นสีหน้าพวกหวังทงเริ่มรำราญ จึงได้กล่าวอย่างเร็ว เรื่องก็แปลกอยู่ มิน่าจึงได้อึกอัก กล่าวว่าบุตรชายเขาถูกแย่งชิงไป ชายผู้นี้รู้ว่าบุตรชายถูกผู้ใดแย่งชิงไป แต่ไม่กล้าไปเอาเรื่อง นี่เป็นเรื่องแปลกเรื่องแรก
นอกจากนี้ อีกฝ่ายแย่งบุตรชายเขาไป ไม่ได้ล่อลวง เป็นเพราะเห็นความงามบุตรชายเขา เป็นเรื่องแปลกที่สอง
ชายราชวงศ์หมิงมีความนิยมแปลกอยู่อย่างหนึ่งเช่นนี้ คนที่มาร้องทุกข์กล่าวว่าบุตรชายตนแต่เด็กร่างกายอ่อนแอ เติบโตมางามราวสตรี และยังเป็นสตรีที่เรียกได้ว่างดงาม ในอำเภอล้วนพอมีชื่อเสียงมาก ชายผู้นี้แม้ไม่เคยสอบตำแหน่งบัณฑิต แต่ทว่าก็ตระกูลใหญ่ มีอิทธิพลอำนาจในพื้นที่ไม่น้อย ยังมีเพื่อนสนิทและญาติเป็นขุนนางอยู่บ้าง ไม่มีคนกล้าทำอะไรเขา และยังดูแลบุตรชายอย่างดีไม่ให้คลาดสายตา
เมืองซงเจียงเปิดท่าการค้า พวกมีอิทธิพลใหญ่มากมายไม่ก็ตัวแทนผู้มีอำนาจใหญ่ต่างมารวมกันที่นี่ จึงไม่ใช่ว่าคนใหญ่คนโตในเมืองซงเจียงจะเป็นใหญ่ จะปกป้องไว้ได้ ผลปรากฏว่าวันหนึ่งบุตรชายเขาก็ถูกคนหลอกพาตัวไป เขาย่อมร้อนใจ ไปหาตัวที่จวนนั้นก็ถูกไล่ออกมา
คิดจะให้ญาติออกหน้า ญาติก็บอกว่าไม่สามารถไม่ว่า ยังคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเสื่อมเกียรติวงศ์ตระกูล ให้เขาอย่าเอะอะไป เลือดเนื้อเชื้อไขตนเองไหนเลยจะไม่ร้อนใจได้ แต่เรื่องนี้ก็ไม่กล้าโวยวายออกไปให้เป็นเรื่อง หากเป็นเรื่องกันขึ้นมา เสื่อมเกียรติวงศ์ตระกูล วันหน้าบุตรชายก็จะยุ่งยาก
อย่างไรก็เป็นคนมีการศึกษา อย่างไรก็คิดการได้รอบคอบมาก จึงมาหาหวังทง รู้ว่าเหลียวกั๋วกงอาจจะช่วยเหลือเขา แต่สถานะเช่นเขาขอพบนั้นคงยาก
“น่าสะอิดสะเอียน”
ได้ยินคนผู้นี้เล่ามา หวังทงไม่มีแก่ใจจะดื่มต่อ เอ่ยถามขึ้นทันทีว่า
“ผู้ใดจับตัวบุตรชายเจ้าไป เจ้ารู้ไหม? บุตรชายเจ้ายังอยู่ในอำเภอนี้ไหม?”
“เรียนกั๋วกง บุตรชายข้าน้อยยังอยู่ในอำเภอนี้ คนงานบ้านข้าน้อยไปคอยจับตาดูไว้อยู่ เป็น…”
“เป็นผู้ใด!?”
ท่าทางอึกอักของเขา ทำเอาหวังทงเริ่มโมโหอีกแล้ว อดไม่ได้ตวาดดังออกไป ชายผู้นี้สะดุ้ง กล่าวเบาๆ ว่า
“คือท่านเจิ้งทางเหนือของเมือง เจิ้งไจ้ปิน….”
กล่าวได้น้ำเสียงระมัดระวังสุดขีด กล่าวจบก็โขกศีรษะ หวังทงเริ่มงง คหบดีใหญ่ชนชั้นสูงขุนนางในเมืองซงเจียงเขาล้วนรู้จักหมด ถึงกับแม้แต่ชื่อนักเลงในพื้นที่ก็กระจ่างใจหมด แต่ท่านเจิ้งนี้เหมือนไม่เคยได้ยินมาก่อน
หวังทงหันไปมองซาตงหนิง ซาตงหนิงจึงได้สติ เขยิบไปใกล้หวังทงกระซิบว่า
“กั๋วกง เป็นน้องชายพระสนมเอกเจิ้งคนหนึ่ง น้องชายพระสนมเอกเจิ้งเคยมาดูแลเรื่องเมืองซงเจียงเปิดท่าการค้า ตอนกลับเมืองหลวงก็ให้เจิ้งไจ้ปินมาดูแลต่อ”
ตอนแรกที่เมืองซงเจียงเปิดท่าการค้า ทุกคนล้วนคิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ เจิ้งกั๋วไทจึงรีบมาตักตวงผลประโยชน์ความชอบก่อน แต่ก็ต้องคอตกผิดหวังกลับไป แต่ทว่าเขาก็ยังมีจวนและกิจการอยู่ที่นี่ไม่น้อย จึงต้องให้ญาติกันมาดูแล
ตอนนี้ตระกูลเจิ้งเป็นชนชั้นสูงอันดับหนึ่งในแผ่นดินหมิง เป็นญาติฮองเฮาเจิ้ง วันหน้ารัชทายาทก็จะต่ออำนาจวาสนา ผู้ใดล้วนคิดเอาใจ ไม่กล้าล่วงเกิน พื้นที่เมืองซงเจียงแน่นอนเหิมเกริมได้ แต่ทว่าคนที่ตระกูลเจิ้งให้อยู่ดูแลต่อย่อมไม่ก้าวก่ายเรื่องหวังทงดูแลเมืองซงเจียงเปิดท่าการค้า ผลประโยชน์ไม่ทับซ้อนกัน ดังนั้นหวังทงจึงไม่ได้สนใจ
คิดไม่ถึงมาได้ยินวันนี้ ซาตงหนิงรายงานหวังทงแล้ว ก็มีสีหน้าหนักใจหลายส่วน ชายผู้นี้จับตาดูสีหน้าหวังทง นี่เป็นคนฮองเฮาเจิ้ง หากหวังทงไล่เขากลับไป เกรงว่าเรื่องนี้คงยุ่งยากจริงแล้ว
“อ่อ เจ้าแน่ใจนะว่าบุตรชายเจ้าอยู่ในจวน?”
หวังทงเอ่ยถามเพียงแค่นี้ ชายบัณฑิตอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะรีบรับคำเสียงดังว่า
“อยู่ในจวนขอรับ ข้าน้อยใช้หัวเป็นประกัน”
“นำทางข้าไปดูหน่อย!”
หวังทงกล่าวขึ้นง่ายๆ ชายบัณฑิตอึ้งไป น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง โขกศีรษะสองสามทีก่อนจะลุกขึ้นนำทาง ในเมื่อหวังทงกล่าวเช่นนี้ พวกซาตงหนิงก็ย่อมตามไป ซาตงหนิงหันไปสั่งการลูกน้อง ให้เขากลับไปนำคนมาเพิ่ม ปลอดภัยไว้ก่อน
พอหวังทงก้าวพ้นธรณีประตู ก็คิดได้เรื่องหนึ่ง หันไปกล่าวว่า
“เถ้าแก่คนงานร้านนี้ไม่เลว ทำงานกันว่องไว การค้าก็ทำได้ดี ให้ร้านสามธารานำเงินพันตำลึงเงินมาร่วมทุน ทำกิจการให้ดี!”
เถ้าแก่คนงานร้านได้ยิน เดิมที่กำลังตามออกมา สีหน้าก็แปรเปลี่ยน จากนั้นก็ดีใจอย่างยิ่ง รีบโขกศีรษะขอบคุณ พวกเขาเริ่มแรกยังคิดว่าหวังทงจะครอบครองร้านนี้ แต่การนำเงินพันตำลึงเงินมาร่วมทุน ก็เท่ากับช่วยเหลือ ร้านเล็กๆ นี้ก็จะมีค่าขึ้นมาสามเท่า แต่ก็ขายไม่ได้ถึง 700 ตำลึงอยู่ดี
***************
เดินทางไปได้ครึ่งทาง คนร้านสามธาราในเมืองก็มารายงาน ตระกูลเจิ้งจับตัวเด็กชายไปจริง และยังอยู่ในจวน
มาเมืองซงเจียงได้สองสามเดือน ในเมืองในอำเภอหวังทงเดินไปจนทั่ว คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าตอนเหนือของเมืองจะมีจวนใหญ่เพียงนี้ กินที่ถนนสองสาย กำแพงสูงหลังคากระเบื้องดำตระหง่าน ประตูแดงชาด อลังการไม่น้อย หน้าประตูไม่มีคนเดินผ่าน มีแต่รถม้าจอดอยู่ ยังมีผู้คุ้มกันร่างใหญ่เดินตระเวนไปมา ช่างมีความเป็นตระกูลใหญ่ไม่น้อย
เห็นพวกหวังทงในชุดราษฎรปกติเดินมา ยังมามองดูรอบๆ ก็มีคนเข้ามาตำหนิทันทีว่า
“พวกเจ้ารู้ไหมที่นี่คือที่ใด!? รีบไปห่างๆ เลย!”
หวังทงส่ายหน้ายิ้ม หากฝีเท้าไม่หยุด คนเฝ้าประตูดูแล้วไม่ได้การ ส่งสัญญาณให้พวกเข้าล้อม คนหนึ่งยกมือขึ้นกันไว้กล่าวว่า
“บุกมาที่นี่ พวกเจ้าไม่คิดมีชีวิตต่อหรือ?”
มือยังไม่ทันถึงตัว ก็ถูกซาตงหนิงคว้าไว้ ผลักกลับไป พอเห็นพวกเขายังกล้าลงมือ ก็ทำให้เกิดความโกลาหลทันที มีคนชักดาบออกมา หวังทงเดินหน้าต่อไป ยิ้มกล่าวว่า
“ข้า หวังทง มีเรื่องคุยกับนายพวกเจ้าในจวน”
“นี่เป็นจวนน้องชายพระสนมเอกเจิ้ง หวังทงเจ้าจะ…”
คนที่เหมือนเป็นหัวหน้าพูดไม่ทันจบ ก็ใบ้กินทันที หวังทงเป็นผู้ใด เมืองซงเจียงที่ไหนไม่รู้กัน เห็นท่าทางเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่อ้างตัวมา
“ล้วนตาบอดหรือไง รีบโยนอาวุธทิ้ง โขกศีรษะคารวะเหลียวกั๋วกง”
คนผู้นี้ปฏิกิริยาไวอยู่ หลังหลั่งเหงื่อเย็นเยียบแล้วก็หันไปตวาดลูกน้อง ไม่ต้องให้เขาตะโกน พวกผู้คุ้มกันล้วนพากันตกใจ พวกเขาชักดาบ แต่พวกซาตงหนิงไวกว่า พวกผ่านสมรภูมิรบมาดุเดือด ไหนเลยจะต้านทานบารมีไหว
พากันโยนอาวุธทิ้งกับพื้น คุกเข่าลง ไม่รอให้พวกเขาโขกศีรษะครั้งที่สอง หวังทงก้าวเข้าประตูไปแล้ว คนเฝ้าประตูรีบคลานมา กล่าวว่า
“กั๋วกงโปรดรอสักครู่ ข้าน้อยเข้าไปรายงานก่อน”
แค่คนตระกูลเจิ้ง ไหนเลยจะให้หวังทงมารอได้ หวังทงย่อมเดินเข้าไปไม่สนใจอันใด ไปนั่งรอในโถงกลาง ไม่นาน ก็เห็นชายวัยกลางคนร่างอ้วนผิวขาวรีบวิ่งมา พอเห็นหวังทงนั่งอยู่ สีหน้าก็ไม่พอใจทันที แต่ก็ยังคารวะ
พอคารวะเสร็จ ไม่สนใจหวังทง เจิ้งไจ้ปินพาตัวเองไปนั่งเช่นกัน เท่าเทียมกับหวังทง นับเป็นการเสียมารยาทยิ่ง ต่อหน้าหวังทงเขายังกล้านั่ง แต่เจิ้งไจ้ปินไม่ได้รู้สึกว่าไม่ถูกต้องอันใด หวังทงเปิดประเด็นตรงไปตรงมาว่า
“เจ้าจับตัวเด็กชายมาไว้ที่นี่ ปล่อยตัวเขาไปซะ!”
Comments for chapter "ตอนที่ 1032 ตระกูลเจิ้ง"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
nyn9
ค้างดิงี้ ฮึ่มมมตัดหัวซะดีมั้งไอเจิ้งน้อยนี่