องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1035 คดีเลือดลูซอน
อิทธิพลอำนาจชาวผิวขาวบนทะเลจีนใต้ไม่มาก มะละกา บันเตินและชวาเป็นพื้นที่ชาวโปรตุเกส ลูซอนเป็นพื้นที่ชาวสเปน
สำหรับชาวโปรตุเกสกับชาวสเปน แผ่นดินหมิงรวมเรียกว่าชาวฟะรังคี แต่ทว่ายังมีคนเรียกสเปนว่าเป็นลูซอนใหญ่ หมายถึงว่ามีลูซอนเล็กอยู่ทะเลใต้
บาทหลวงศาสนาคริสต์เผยแผ่ศาสนาบนแผ่นดินหมิงและพ่อค้ามาทำการค้าส่วนใหญ่เป็นชาวโปรตุเกส ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมาเก๊ากวางตุ้ง คนโปรตุเกสยังมีการค้าเล็กๆ น้อยๆ อยู่ที่นั่น ขุนนางที่กวางตุ้งยังมีอำนาจสั่งการมาเก๊า
คนโปรตุเกสมีสัมพันธ์แผ่นดินหมิงเช่นนี้ มีผลประโยชน์เกี่ยวพันกัน ดังนั้นกับแผ่นดินหมิงจึงยังคงรักษาท่าทีเป็นมิตรกับชาวฮั่น แน่นอนหลายคนไม่รู้จักกำลังตนเข้าบุกแผ่นดินหมิง ผลปรากฏถูกตอบโต้กลับอย่างเจ็บปวด
เทียบกับพวกโปรตุเกสแล้ว พวกสเปนหัวเก่าป่าเถื่อนกว่ามาก แม้สเปนในยุคสมัยยุโรปเริ่มถดถอย ก็ยังพบว่าที่ทวีปอเมริกายังสามารถปราบพวกอินคาในอเมริกาใต้ ยึดทวีปอเมริกาได้ ได้ทวีปอเมริกาและทวีปเอเชียเป็นอาณานิคม ชัยชนะและความรุ่งโรจน์เหล่านี้ กอปรกับพวกเขายังเป็นพวกเลื่อมใสนิกายคาทอลิคอย่างสุดโต่ง ทำให้พวกสเปนมีความคิดว่าตนเองสูงส่งกว่าผู้อื่น คิดว่าเป็นพวกที่พระเจ้าเลือกสรรแล้ว เป็นชนชั้นสูงสุดบนโลกใบนี้ แต่พูดถึงพวกโปรตุเกสในเรื่องเดินทะเลกับล่าอาณานิคมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกสเปนสักเท่าไร ผลงานเป็นชิ้นเป็นอันก็มาก
สำหรับโปรตุเกสกับสเปน ภายใต้การสนับสนุนให้แบ่งโลกของนิกายโรมันคาทอลิค[1] ยิ่งทำให้คนสเปนรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ครองโลกแถบนี้
ราวปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 7 สเปนกับโปรตุเกสรวมกัน แต่ทว่าคนโปรตุเกสไม่คิดว่าเป็นการรวมกัน พวกเขายังคงดำเนินการของตนเองไปต่อ แต่คนสเปนยิ่งขยายอิทธิพลด้วยเหตุนี้
หลงว่าตนเองยิ่งใหญ่ ยังมีความเชื่อในศาสนาขั้นรุนแรง คนสเปนมีความโกรธแค้นแผ่นดินหมิงที่มีอารยธรรมสูงกว่าและชาวฮั่นที่ไม่นับถือพระเจ้า ขณะเดียวกันยังรวมตัวกันกอบโกยเงินทองจากแผ่นดินหมิงมานาน
เคยมีขุนนางสเปนเขียนจดหมายถึงทางการตน บอกว่าหากให้ทหารเขาสองหมื่น เขาก็จะพิชิตแผ่นดินจีนได้ เห็นได้ว่าพวกเขาหลงตนเองว่ายิ่งใหญ่ถึงระดับใด
แต่ทว่าหลงว่าตนเองยิ่งใหญ่กับความแค้นรุนแรงแม้ว่ามีอยู่ แต่การบุกเบิกพัฒนาลูซอนก็ยังคงไม่อาจอาศัยคนท้องถิ่นที่ไร้ความหวัง คนท้องถิ่นที่เก่งกว่าลิงไม่เท่าไร ยังไงก็ต้องการแรงงานขยันขันแข็งเช่นชาวฮั่น
ชาวฮั่นไปยังลูซอนนับวันยิ่งมาก กลายเป็นหมู่บ้านและเมืองต่างๆ บุกเบิกที่นาผืนใหญ่และปลูกโรงบ้านที่มีผลหมากรากไม้มากมาย สินค้าแผ่นดินหมิงมากมายหลากหลายทำให้ตลาดท้องถิ่นอุดมสมบูรณ์ ทำให้คนสเปนท้องถิ่นฟุ้งเฟ้อและละโมบอย่างมาก อำนาจวาสนาหาใดเทียบ ตามจดหมายบาทหลวงเขียนบรรยายไว้ว่า ‘ทหารที่นี่เลวร้ายต่ำช้ามาก กินอยู่ใช้จ่ายสามารถเทียบได้กับเจ้าของที่ดินในมาดริด หรืออาจเหนือว่าชนชั้นสูงระดับล่างด้วยซ้ำไป’
พวกเขาตักตวงผลประโยชน์จากชาวฮั่นเช่นนี้ แต่พอชาวฮั่นมากขึ้น คนสเปนท้องถิ่นก็หวาดกลัว พวกเขารู้สึกว่าชาวฮั่นจะมาแย่งอาณานิคมกับพวกเขา จะขับไล่พวกเขาออกไป อีกอย่าง เงินทองในมือชาวฮั่นก็มีมากพอ คนสเปนมองพวกเขาว่าเป็นผลไม้สุกงอม ควรเด็ดและเก็บเกี่ยว สองเหตุนี้ผสมกัน เหตุหลังน่าจะมากกว่า
สวรรค์เมตตา ราษฎรชาวฮั่นใจอารีล่องทะเลมายังลูซอน หาที่อาศัยยังชีพ มีวิธีการหาเลี้ยงชีพตน ก็ขอบคุณฟ้าดินมากแล้ว จะไปคิดอื่นใดได้อีก พวกเขาคิดว่าจะอยู่ที่นี่สงบสุข สามารถรักษาตัวรอดปลอดภัยไปได้อย่างดี ไหนเลยจะคิดวาจะมีคนลับมีดรอเชือด
ตอนเริ่มมีความขัดแย้งกับชาวพื้นเมืองลูซอน ชาวฮั่นก็อดทนอดกลั้น ไม่กล้ามีเรื่องกับพวกเขา ถึงกับส่งคนไปมะนิลาขอให้ขุนนางสเปนส่งคนมาไกลเกลี่ย
แต่พวกสเปนไม่สนใจ กลับออกกฎว่า เกิดเหตุเช่นนี้ล้วนเป็นเพราะชาวฮั่นไม่ยอมอ่อนข้อ ดังนั้นต้องเก็บอาวุธชาวฮั่นทั้งหมด แต่ให้ชาวพื้นเมืองมีไว้ป้องกันตนเองได้
นโยบายเช่นนี้ออกไป เห็นชัดว่าพวกพื้นเมืองยังคงความหวาดระแวงและเหิมเกริม ชาวพื้นเมืองอยากอยู่ดีกินดีแต่ขี้เกียจ พอเห็นชาวฮั่นร่ำรวยขึ้นทุกวัน ไม่คิดว่าเป็นเพราะชาวฮั่นขยันและประหยัด กลับอิจฉาตาร้อนพวกเขา คิดว่าพวกเขาแย่งชิงความร่ำรวยและแผ่นดินตนไป พอให้ท้ายกันเช่นนี้ พวกเขาก็ย่อมยิ่งเหิมเกริมไม่เกรงกลัวผู้ใด
ชาวพื้นเมืองมีมาก แต่ก็มีพวกเศษสวะอยู่มากเช่นกัน เผชิญกับชาวฮั่นปกป้องพื้นที่ พวกเขาไม่ได้เปรียบอันใด กลับเสียเปรียบอยู่มาก
ตอนนั้นเอง พวกสเปนก็ออกหน้า ที่ลูซอน คนสเปนมีแค่ 1,900 กว่าคน ในนี้มีทหารราว 1,200 คน แต่หากนับรวมพวกมีความสามารถต่อสู้ ก็ราว 1,800 คน
อย่าได้มองข้าม 1,800 คน ทหารราบสเปนยุคสมัยนี้เป็นทหารราบยุโรปที่เข้มแข็งที่สุด ปืนไฟกับทวนยาวผสมผสานกันได้ดี ล้วนมาจากสเปน
มีกำลัง 1,800 คน ชาวฮั่นก็ไม่อาจรวมกำลังต่อต้านได้อีก ทุกคนล้วนคิดต่อต้าน แต่ยังคนมีหลายคนรู้สึกว่า ‘ทางการชาวต่างชาติ’ ต้องการเพียงแค่เงินทอง พอให้เงินก็ย่อมสงบสุขได้ หากกับบรรดาชาวบ้านพื้นเมืองที่ร่วมกันก่อเรื่อง ใช่ว่าเป็นหายนะหรอกหรือ?
กำลังคิดว่าเป็นเช่นนี้ จำนวนชาวฮั่นเดิมที่ได้เปรียบ แต่พอคนสเปนร่วมกับชาวพื้นเมืองโต้กลับ จากนั้นก็เข้าสังหาร
ชาวพื้นเมืองแม้ว่าราวลิงกัง แต่อย่างไรก็เป็นคน พอคนสเปนกับชาวพื้นเมืองจัดการล้อมชาวฮั่นที่ลูซอนไว้แล้ว หายนะก็มาถึง
สเปนที่ลูซอนออกคำสั่ง ชาวฮั่นทุกคนแบ่งเป็น 300 คนต่อหนึ่งหน่วย ให้รับการตรวจสอบ หากรับรองว่าเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ให้กลับไปทำไร่ทำนาต่อได้ ชาวฮั่นตอนนี้ไม่มีกำลังต่อต้านอีกแล้ว ได้แต่ยอมรับคำสั่งแต่โดยดี ถึงกับมีคนหวังลมๆ แล้งๆ ว่า หลังครั้งนี้ไป ทุกคนจะได้กลับบ้านปลอดภัย
300 คนต่อหนึ่งหน่วย ก็เพื่อให้สังหารได้ง่ายยิ่งขึ้น เห็นชาวฮั่นฟังคำสั่งแต่โดยดี คนสเปนกับชาวพื้นเมืองลูซอนที่ยังกังวลอยู่ก็สิ้นกังวลทันที พวกเขาเริ่มกระทำการบ้าคลั่งทันที
คนสเปนคุม ชาวพื้นเมืองลงมือ เริ่มใช้เลือดล้างชาวฮั่น ยามนี้ก็พบว่าไม่ได้การ ก็ไม่มีทางหนีแล้ว พวกเขายากลำบากทำนากันมา บุกเบิกพื้นที่กันมา สะสมเงินทองกันมา ล้วนตกอยู่ในมือคนสเปน พี่น้องลูกหลานพวกเขาจะถูกสังหารสิ้น ลูกเมียบุตรสาวก็จะถูกย่ำยีไร้คุณธรรม
ปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 16 ลูซอนราวกับนรกสำหรับชาวฮั่น ทั้งลูซอนหลั่งไปด้วยเลือดชาวฮั่น ลูซอนหลายแห่งล้วนยิ่งอุดมสมบูรณ์เพราะใช้เลือดเนื้อกองกระดูกชาวฮั่นเป็นปุ๋ยบำรุงดิน
สภาพน่าอนาถเช่นนี้ การสังหารหมู่เช่นนี้ บนแผ่นดินหมิงกลับไม่มีคนรู้เรื่อง ถึงกับไม่มีคนสนใจว่าชาวฮั่นทะเลใต้เหล่านี้แท้จริงแล้วต้องเจอกับโชคชะตาเช่นไร
ออกจากแผ่นดินหมิงไป ร่อนเร่กลางทะเลไปยังต่างบ้านต่างเมือง ในสายตาขุนนางแผ่นดินหมิง ราษฎรพวกนี้เป็นแค่คนที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีค่าแก่การสนใจ
*******************
ณ พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมะนิลาออกไป 70 ลี้ เป็นพื้นที่รกร้างมาก ที่นั่นมีชาวฮั่นสองหมู่บ้าน ตอนนี้แน่นอนกลายเป็นที่รกร้าง
ไม่เหมาะแก่การเดินเรือ ไม่มีเมืองท่าอันใด แต่เรือจอดทอดสมอกันอยู่ที่นี่ เรือเล็กลอยเข้าเทียบฝั่งได้ง่ายมาก การเดินเรือบนท้องทะเลมีธรรมเนียมหนึ่ง คือไม่อาจทำอันใดตอนดึก เพราะชนหินโสโครกและถูกขวางได้ง่าย กลางคืนหากเกิดเหตุเช่นนี้ก็ไม่มีใครมาช่วย
แต่ทว่าตอนนี้เห็นชัดว่าไม่มีคนสนใจเรื่องพวกนี้ เรือใหญ่สามใบเรือลำหนึ่งจอดอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลไม่ไกล คนบนเรือล้วนหมอบตัวชะเง้อดูอยู่บนดาดฟ้า มีเสียงนายเรือตะโกนด่าทอไม่หยุด เพราะคนปีนขึ้นมากันเยอะไป เรือเริ่มเอียง
“มารดามันสิ มืดมิดเช่นนี้ พวกเจ้าจะไปเห็นบ้าอะไร รอให้พวกหัวแดงแล่นเรือมา หนีก็ไม่ทันแล้ว กลับไปทำงานตนเอง เจ้าแผลเป็นจับตาดูโคมไฟให้ดี หากคลาดสายตาเรือไป๋อู่ จะโยนเจ้าลงไปเลี้ยงปลา”
“คบไฟ คบไฟ !!”
บนเรือมีคนตะโกนดัง มองไปก็เห็นคบไฟโบกไปมา ทางนี้ก็ริมโบกโคมไฟ
ไม่นาน ก็มีเรือเล็กเข้ามาเทียบเรือใหญ่ มีคนชะโงกหัวลงไปดู ก็กล่าวอย่างแปลกใจว่า
“ไม่เพียงแต่แต่ไป๋อู่ ยังมีอีกสองคน รีบปล่อยแหลงไป”
ขอและเชือกแหถูกโยนลงไป คนบนเรือเล็กก็เอาขอสับกับเรือตน ก่อนจะปีนแหขึ้นเรือใหญ่ พาเหยียบกาบเรือ สองคนก็หมอบกับพื้น คนหนึ่งตะโกนดังว่า
“ใครก็ได้เอาอาหารแห้งมาให้พวกเขากินกันหน่อย ไม่ได้กินมาครึ่งเดือนแล้ว”
มีคนตะโกนร้อนใจ คนอื่นๆ ก็พากันรุมล้อมเข้ามาต่างคนต่างพูดกันคนละคำสองคำถามความเป็นมา แต่คนผู้นั้นกลับคุกเข่าที่พื้น ส่งเสียงร่ำไห้ดัง กล่าวน้ำเสียงแหบพร่าว่า
“หมู่บ้านไป๋เหลือแค่พวกเขาสองคนแล้ว ที่เหลือตายหมดแล้ว ถูกพวกต่างชาติสังหารหมดแล้ว ศพหาไม่พบแล้ว”
คนบนเรือล้วนพากันสูดลมหายใจลึก สองคนหมอบอยู่บนเรือส่งเสียงร้องไห้แหบพร่า
“น่าอนาถแท้ เด็กน้อยชุนหนีนั่นยังเล็ก ก็ยังไม่ปล่อย ถูกพวกต่างชาติแทงเสียบไว้บนทวนยาว ภรรยาพี่ชายสี่ก็ถูกกระทำย่ำยีจนตาย แม้แต่เด็กน้อยพวกเขาก็ไม่ไว้ชีวิต”
บนเรือมีคนส่งเสียงตะโกนด่าทอดัง มีคนร้อนใจยกใบเรือถอนสมอ หากนายเรือเดินมากล่าวว่า
“พี่ไป๋อู่ คนก็ช่วยกลับมาได้สอง ก็นับว่าโชคดีแล้ว ที่นี่ไม่อาจอยู่นาน ท่านดูให้ดีอีกสักพัก โขกศีรษะเสร็จเราก็จะไปกันแล้ว”
ไป๋อู่เป็นชายหนุ่มอายุราว 20 ต้นๆ ร่างสูง แต่ไม่เหมือนชาวทะเลใต้ที่ผิวดำกำยำ หากเหมือนพวกเรียนหนังสือ พอได้ยินเช่นนี้ ไป๋อู่ก็หันไปทางนั้นโขกศีรษะ พอโขกศีรษะเสร็จก็อดไม่ได้ร่ำไห้ออกมา
นายเรือรอให้เขาร้องไห้เสร็จ ก็เดินเข้าไปใกล้กระซิบว่า
“พี่ไป๋อู่ ครั้งนี้ให้พี่น้องมากัน เงินติดตัวท่านใช้หมดแล้วกระมัง นี่เงินห้าตำลึงเงิน พี่รับไว้ กลับถึงกวางตุ้งไปพึ่งพาญาติหาทางยังชีพต่อ หายนะนี้ นับว่าฟ้าไร้ตา….”
ไป๋อู่เช็ดน้ำตา รับเงินไป นิ่งไปนาน ก่อนจะกล่าวเสียงแหบพร่า
“ข้าจะล้างแค้น”
[1] เมื่อโปรตุเกสและสเปนขยายอาณานิคมไปทั่วโลก ทำให้เกิดกรณีพิพาทระหว่างทั้งสอง สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 จึงทรงให้แบ่งโลกเป็นสองส่วน แล้วยกดินแดนซีกโลกตะวันออกทั้งหมดให้โปรตุเกส
Comments for chapter "ตอนที่ 1035 คดีเลือดลูซอน"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
เจม
อยู่ชายแดนยังไม่สนใจเลย ไกลขนาดนั้นรู้ไม่รู้ราชสำนักก็คงไม่แคร์ ชงเก่ง