องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1043 โหดร้ายทารุณ
ไป๋อู่ประสบเหตุมาหนักหนา ทำให้สงบนิ่งได้มากขึ้น แม้เห็นพวกพวกคนสเปนแล้วอยากจะเข้าไปจับพวกเขาลอกหนังหักกระดูก แต่ก็ยอมอดทนทำงานต่อไปได้
เขาทำงานเป็นพ่อค้าขายของจิปาถะ ไป๋อู่เมื่อก่อนเคยทำมาระยะหนึ่ง ย่อมชำนาญ และสถานะนี้สามารถเข้าใกล้ที่พักพวกคนสเปนได้ เป็นของทั่วไปที่พวกชาวผิวขาวต้องใช้
ทุกคนก็ช่างไม่รู้จักตาย ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าแย้มยิ้มของชาวฮั่นที่ตั้งใจเพาะปลูก ในใจไป๋อู่ก็ล้วนคิดเช่นนี้ แม้ห่างจากเหตุสังหารเลือดลูซอนปีก่อนไม่นาน แต่ยังคงมีชาวฮั่นจำนวนมากนั่งเรือข้ามทะเลมาแสวงหาทางรอดที่นี่
ไป๋อู่ถึงกับเคยได้ยินว่า ‘พวกเราทำตามกฎหมายพวกผีต่างชาติ ไม่ทำผิดกฎหมาย ก็จะมีชีวิตที่สุขสงบได้’ ตอนนั้นเขาก็คิดบอกความจริง แต่ก็อดทนมาได้
ชาวฮั่นที่ถูกสังหารไปมากมาย พวกคนสเปนกับชาวพื้นเมืองก็ย่อมรู้สึกไม่สะดวกสบายเหมือนก่อน การค้าสินค้าเบ็ดเตล็ดของไป๋อู่ทำได้รุ่งเรืองมาก ถึงกับไปลงทุนเปิดหน้าร้านได้
“เมล็ดสนเมืองซงเจียงอร่อย!”
หากไม่มีชายชาวฮั่นมาพูดวาจานี้ออกมา ไป๋อู่ยังคงคิดว่าหวังทงส่งตนมามะนิลาคนเดียว แน่นอน การเคลื่อนไหวใหญ่เช่นนี้ ให้เขามาเคลื่อนไหวคนเดียวเกรงว่าจะไม่รอบคอบอยู่สักหน่อยแล้ว
เห็นชายมายืนหน้าประตู อายุราว 30 กว่า ผิวหน้าดำ มือไม้ใหญ่ เห็นแล้วก็รู้ว่าเป็นชาวนายากจนจากฮกเกี้ยนและกวางตุ้ง ฟังสำเนียงฮกเกี้ยนแล้ว ไม่ต่างอันใดกับชาวฮั่นที่พากันมายังลูซอน ผู้ใดจะไปรู้ว่านี้เป็นคนที่หวังทงส่งมา
เมล็ดสนเป็นสินค้านอกด่าน เมืองซงเจียงไม่เพียงไม่มี แม้แต่การค้ายังน้อย ใช้ข้ออ้างนี้มาพบกัน เป็นความลับมาก ไป๋อู่รีบเชิญเขาเข้าไป ชายผู้นั้นกลับรั้งเขาไว้
“ท่านเป็นเถ้าแก่ใหญ่ ข้าเป็นเพียงชาวนาแก่ๆ เข้าไป ใช้ว่าจะทำให้คนสงสัยหรอกหรือ คุยกันที่นี่ ทางเจ้ามีข่าวอันใดไหม?”
“ช่างน่าละอาย พวกผีต่างชาติป้องกันพื้นที่สำคัญแน่นหนา พอตกดึก นอกจากสตรีพื้นเมือง แม้แต่คนงานชาวพื้นเมืองยังถูกไล่ออกมา ตอนยังไม่เกิดเรื่องนั้น ชาวฮั่นยังเข้าไปส่งของได้ แต่ตอนนี้ที่นี่ไม่ให้แล้ว ทำให้กั๋วกงผิดหวังแล้ว”
ชายที่มาเป็นสื่อกลางทำทีเป็นมองสินค้าในร้าน ได้ยินแล้วก็โบกมือ กล่าวว่า
“ก็ไม่ใช่แค่เจ้า พี่น้องเราคนอื่นๆ ก็เข้าไปไม่ได้ ได้แต่คาดเดาจำนวนคนพวกเขา จำนวนเรือปืนใหญ่พวกนี้เท่านั้น ครั้งนี้มาพบเจ้าก็เพราะเรื่องอื่น ห่างจากมะนิลาออกไปร้อยลี้มีที่ไหนสามารถจอดเรือขนของได้บ้าง?”
ไป๋อู่ตอนนั้นเคยขนสินค้าไปมาระหว่างลูซอนกับแผ่นดินหมิง ขนส่งเข้าออกอ่าวมะนิลายุ่งยากมาก และยังต้องจ่ายภาษีให้พวกคนสเปนอีก ดังนั้นจึงพยายาหาที่พอขนถ่ายได้ เรือใหญ่จอดใช้เรือเล็กขนไปยังที่ต่างๆ ครั้งนี้หลบขึ้นเกาะมาได้ เพราะความชำนาญในตอนนั้น
ได้ยินชายผู้นั้นถามขึ้นเช่นนี้ ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ไป๋อู่คาดเดาได้ทันที รีบกระซิบกล่าวว่า
“รู้ รู้!”
“อีกสองวันเจ้าขายร้านนี้ออกไป คนที่จะมารับต่อเป็นคนกันเอง เจ้าเช่าเรือออกทะเลไปก่อน พออยู่บนท้องทะเล จะมีคนมารอรับเจ้าเอง!”
*****************
หมู่บ้านเอ้อร์อวี๋ห่างจากอ่าวมะนิลาตอนเหนือไป 70 กว่าลี้ ใกล้ชายฝั่งทะเล มีชาวพื้นเมืองอาศัยราวสองพัน เป็นหมู่บ้านที่หาได้ยาก
ชื่อนี้เป็นชื่อที่ชาวฮั่นใช้เรียกกัน แปลว่า จระเข้ เวลาหลายสิบปี ชาวพื้นเมืองก็เรียกตาม รอบหมู่บ้านพวกเขามีหมู่บ้านชาวฮั่นสี่หมู่บ้าน ตอนเริ่มต้น พวกชาวฮั่นใช้อาหารแลกกับสัตว์ที่ชาวพื้นเมืองล่ามา แต่ชาวพื้นเมืองมักคดโกง การค้านี้จึงไม่ได้นานนัก ต่อมา ชาวฮั่นคิดจ้างชาวพื้นเมืองมาเพาะปลูก แต่ชาวพื้นเมืองไม่เพียงแอบขี้เกียจ หากยังขโมยของ จึงต้องจบกัน
บนพื้นแผ่นดินเดียวกัน เห็นพวกชาวฮั่นจากยากจนค่อยๆ มีกิน ถึงกับร่ำรวยได้ ในใจชาวพื้นเมืองก็ย่อมรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม อิจฉาอย่างมาก
ชาวฮั่นเองก็ไม่ได้มีท่าทีต่อต้านชาวผิวขาว ชาวผิวขาวมักให้ความสำคัญพวกเขา ท่าทีชาวผิวขาวต่อชาวพื้นเมือง ไม่เหมือนกับการปฏิบัติต่อผู้มีปัญญาเสมอกัน ทำให้ชาวพื้นเมืองยิ่งอิจฉาและโกรธแค้น
มีผลประโยชน์ ชาวฮั่นแม้ว่ารูปร่างสูงใหญ่ มีใจสามัคคี แต่ไม่อยากมีเรื่อง พบความขัดแย้งใด ล้วนอดทนอดกลั้นเอาไว้หมด ชาวพื้นเมืองมักหาเหตุมารังแกชาวฮั่น เพื่อจะได้เอาเปรียบ เพื่อให้รู้สึกสะใจ
แต่ทว่าชาวฮั่นจากแผ่นดินหมิงนับวันยิ่งมากันมาก คนหนุ่มวัยฉกรรจ์นับวันยิ่งมาก บางครั้งพอเกิดเรื่องจึงไม่ได้เปรียบอันใดนัก ทำให้ชาวพื้นเมืองอัดอั้นอย่างมาก พ่อมดชนเผ่าถึงกับกล่าวว่า ชาวฮั่นเป็นผีร้ายส่งมาเพื่อทำลายชาวเผ่าเจ้าเกาะเดิมให้สิ้นซาก
ดีที่ชาวผิวขาวเองก็ระแวงชาวฮั่น จัดการสังหารหมู่ไประลอกนั้น ในการสังหารหมู่ ชายในหมู่บ้านเอ้อร์อวี๋ แม้แต่หญิงสาวก็ออกมาเคลื่อนไหว สังหารชาวฮั่นไม่เหลือ ทุกคนล้วนได้กันน้อยมากใหญ่บ้าง ถึงกับแม้แต่เสื้อผ้าคนตายก็ไม่ละเว้น
หลังผ่านมาเกือบปี ของที่แย่งชิงมาก็ใช้กับหมดแล้ว เพราะพวกเขาห่างจากมะนิลา ชาวฮั่นที่ย้ายมาใหม่ก็ล้วนมาไม่ถึงที่นี่
แย่งไปได้ครั้งก็ติดใจ ชาวพื้นเมืองในหมู่บ้านคิดไปถึงครั้งหน้า ชาวพื้นเมืองชอบได้อะไรมาแบบไม่ต้องลงแรง และหลังจากครั้งนั้นมา พวกเขาก็เข้าใจว่าชาวผิวขาวย่อมต้องลงมือกับชาวฮั่นอีก พวกเขาในเมื่อไม่อยากมาอยู่ที่นี่ เช่นนั้นพวกเราก็ย้ายไปเป็นอย่างไร ตอนนี้ชาวฮั่นย่อมไม่มีการป้องกันอันใด
ทุกคนในหมู่บ้านหารือกัน คิดไม่ถึงมีคนมาบอกว่า มีนายท่านชาวผิวขาวด้านนอก บอกว่ามาตรวจภาษี
นายท่านชาวผิวขาวล้วนสวมเกราะ ถือทวนคมเคียว[1] และปืน น่ากลัวจริงๆ นายท่านชาวผิวขาวหลายคนสามารถจู่โจมชาวพื้นเมืองนับพัน นายท่านชาวผิวขาวโหดเหี้ยมมาก แต่ไรไม่เคยรู้จักคำว่าอดทนอดกลั้น ไม่อาจล่วงเกินได้
ในหมู่บ้านก็ไม่มีภาษีใดให้เก็บ ก็แค่มาพาตัวสาวๆ ไป ก็เท่านั้น หมู่บ้านนี้ไม่มีอันใดไม่อาจให้ได้ หัวหน้าหมู่บ้านและระดับหัวหน้าคนอื่นๆ ล้วนสวมเสื้อผ้าไหมที่ถอดมาจากศพชาวฮั่น พากันเดินจะออกไปนอกหมู่บ้าน พวกเขากำลังออกไปก็รู้สึกน่าแปลก
เพราะชาวผิวขาวมากันร้อยกว่า ปกติเรื่องเช่นนี้ มากันสิบกว่าคนก็เพียงพอทำให้คนหมู่บ้านหวาดกลัวแล้ว มีคนตะโกนดัง ระยะใกล้พอ สามารถมองเห็นว่าเป็นพวกผิวขาวจริง และยังพูดจาภาษาพวกผิวขาว ชาวพื้นเมืองที่แปลอยู่ข้างๆ ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องจริง
รีบเปิดประตูหมู่บ้าน นายท่านชาวผิวเดินอาดๆ เข้ามา ชาวผิวขาวด้านหน้า จากนั้นด้านหลังเป็นชาวผิวเหลือง ดูจากหน้าตาแล้ว เป็นชาวฮั่น
ชาวฮั่นเหตุใดสวมเกราะกัน เหตุใดแต่งตัวแบบนายท่านชาวผิวขาว คนในหมู่บ้านพากันอึ้งตะลึงไป มีคนรู้สึกได้ว่าไม่ได้การแล้ว ส่งเสียงร้องตะโกนดัง แต่ชาวฮั่นก็ชักดาบออกมาทันที สังหารพวกเขาในทันที
ชาวพื้นเมืองได้ยินเสียงหวีดร้องก็รู้ว่าไม่ได้การแล้ว หมู่บ้านพวกเขาโกโรโกโส แต่ก็มีการป้องกัน แต่ทุกอย่างไม่ทันการณ์แล้ว ชาวผิวขาวที่สวมเกราะคุมประตูใหญ่ไว้แล้ว ที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวก็คือ ในป่ารอบๆ มีทหารชาวฮั่นจำนวนมาก หรือว่าเป็นแผ่นดินหมิงเปิดศึกมาแล้ว ชาวพื้นเมืองคิดแล้วก็ขวัญกระเจิง
****************
อย่างไรก็เขตร้อน ชาวพื้นเมืองยังใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมโบราณ ไม่ค่อยได้ทำลายธรรมชาติ ป่าไม้ยังคงอุดมสมบูรณ์เขียวขจี มีคนเริ่มสุมไฟไล่ยุง มีคนตัดไม้มา หนึ่ง มาเป็นฟืน สอง มาเป็นพื้นรอง จะได้ไม่ทำให้ของสำคัญเปียก
“ให้คนทุกที่สงบเสงี่ยมหน่อย สตรีชาวพื้นเมืองราวกับลิงกัง จะไปอยากได้ทำไมกัน ไม่กลัวตัวเองเป็นโรคหรือไง?”
ที่ลูซอนเช่นนี้ เพราะลูกเรือชาวผิวขาวสกปรก แพร่โรคผ่านสตรีชาวพื้นเมืองไปสู่ชาวพื้นเมืองทั่วไป แต่พวกโจรสลัดจากที่ต่างๆ ก็อดอยากบนท้องทะเลมานาน พอทะลายหมู่บ้านนี้ได้ หลายคนก็อดไม่ไหว
หากคนกองกำลังหู่เวยทำเช่นนี้ หวังทงย่อมใช้วินัยทหารสังหารตัดหัวทิ้งไปแล้ว แต่พวกโจรสลัดไม่ใช่คนของตน ให้พวกเขาทำงานพลีชีพให้ตนเต็มที่ก็แล้วกัน ไม่ต้องไปเข้มงวดมาก
ทหารเก่าที่ส่งไปสอดแนมแต่ละแห่งตอนนี้ล้วนอยู่ใต้คำสั่งการของหวังทงโดยตรง ในเรื่องนี้ก็ไม่มีผู้ใดคิดมาก เช่นนี้จึงยิ่งทำให้กำลังต่อสู้ไว้วางใจได้ และแม้ว่าคิดแย้ง หวังทงอย่างไรก็ใหญ่ที่สุด ซาต้าเฉิงยังเป็นลูกน้องหวังทงอีก ไม่มีผู้ใดมีความสามารถพลิกฟ้าในเรื่องนี้ได้ แต่ก็มีแอบนินทากันเองอยู่บ้าง
“คนแก่สังหารให้หมด ที่เหลือให้พวกเขาไปริมทะเลสร้างท่าเรือและเส้นทาง ขนถ่ายของลงมา ใช้งานดังพวกม้าวัวได้เลย ไม่ต้องสนใจเป็นตาย!”
หวังทงสั่งการน้ำเสียงเรียบ โจรสลัดหลากสายที่ติดตามมา ยังมีคนงานที่พวกพ่อค้าใหญ่จ้างมาเอง ล้วนเป็นพวกนักเลง เป็นพวกโจรเสียมาก พวกเขาเองเคยได้ยินเหลียวกั๋วกงมีระเบียบมาก ระเบียบเข้มงวด เดิมทียังกลัวตนเองจะถูกกดไว้จนขยับไม่ได้ คิดไม่ถึงเหลียวกั๋วกงจะปล่อยพวกเขาเช่นนี้ จึงรู้สึกดีใจมาก
หวังทงออกคำสั่ง ทหารรีบออกไปถ่ายทอดคำสั่ง ซาต้าเฉิงอยู่ข้างกายหวังทงมองไปรอบทิศ หัวเราะกล่าวว่า
“บนท้องทะเลพวกลูกหมาพวกนั้นก็คิดจะมาลองปะทะลิงเหล่านี้ให้ได้ หากปะทะกับพวกผีต่างชาติ เกรงว่าคงหมดหวังลงมือ!”
“เหล่าซา เจ้ามองออกไหมว่าลูกเรือเรากับคนอื่นมีอันใดต่างกัน?”
หวังทงยิ้มถามขึ้น ซาต้าเฉิงลูบคางไปมา กล่าวว่า
“ของเรารู้ระเบียบธรรมเนียม รู้รุกรู้ถอย ไม่วิ่งกันวุ่นวาย จะสนใจคนรอบข้าง คนอื่นๆ เอะอะราวผึ้งแตกรัง ยังตีกันอยู่เลย เห็นพวกสตรีชาวพื้นเมืองก็ถลาไปก่อนแล้ว ยังมัวแต่แย่งของจึงถูกชาวพื้นเมืองใช้ธนูยิงตายด้วย”
“บนท้องทะเลล่ะ?”
สองข้างพวกเขามีแค่ทหารติดตาม ไม่มีคนอื่น หวังทงสบายใจยิ่ง กล่าวถึงเรื่องบนท้องทะเล เป็นความสามารถซาต้าเฉิง ซาต้าเฉิงคิดครู่หนึ่งตอบว่า
“พวกลูกหมาที่ข้าน้อยฝึกมานั่นชำนาญการมากกว่าคนอื่น แต่คนที่กั๋วกงพามาด้วยล้วนเป็นทุกเรื่อง ยังรู้จักรับคำสั่ง ไม่มีลังเลชักช้าแม้แต่น้อย แม้คนเหล่านี้กล่าวว่าเพราะกั๋วกงมีเรือดี แต่แม้ว่ามีเรือเหมือนกัน เปลี่ยนคนบนเรือ ก็ไม่เหมือนทางกั๋วกงที่ลงมือได้ก่อน ยิงปืนใหญ่ได้เร็ว ล้วนเป็นเรื่องเป็นตายบนท้องทะเล”
อย่างไรก็เป็นคนใหญ่คนโตบนท้องทะเล หลังมาติดตามหวังทง เห็นโลกมามากก็ย่อมกล่าวได้เช่นนี้ หวังทงยิ้มกล่าวว่า
“จากเหนือลงใต้ ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นเจ้าทะเลมีไม่ถึงสิบคน แต่เมื่อตอนนี้ข้าเปิดทางนำมา พ่อค้าใหญ่แผ่นดินหมิงมากอำนาจวาสนาเกรงว่าคงออกทะเลมาหาทางรวยกันหมด บนท้องทะเลมีเรือเหล่านี้ คนเหล่านี้มากขึ้น อย่างไรก็ต้องเกิดเหตุปะทะฆ่าฟัน ขอเพียงเจ้าจำคำวันนี้ไว้ให้ดี ตั้งธรรมเนียมขึ้น ให้ฝึกตามแบบกองทัพ ให้เบี้ยตามแบบกองกำลังหู่เวยให้พอ พวกเราก็จะได้เปรียบอยู่ไม่คลาย พวกเราก็จะเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุดบนท้องทะเล”
ซาต้าเฉิงสีหน้าไร้รอยยิ้ม พยักหน้าเคร่งเครียด หวังทงตบไปสองสามที กล่าวว่า
“เจ้านำคนไปดูทุกทาง คนพวกนี้เคยผ่านสมรภูมิมา แต่ทว่าสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้ ข้าเกรงว่าพวกเขาจะใจอ่อน เจ้าไปจับตาดูไว้ ผู้ใดใจอ่อน ก็ถามไปว่าคอเขาอ่อนหรือไม่!”
หาท่าเรือขึ้นฝั่งได้แล้ว เช่นนั้นทุกอย่างก็ย่อมง่ายแล้ว ไม่เร่งรีบ ใช้เรือเล็กส่งคนขึ้นฝั่งไปก่อน จากนั้นค่อยเริ่มขนของ
อาวุธเบาขนขึ้นฝั่ง ยังต้องขนอาวุธหนักอีก อาวุธหนักนี้ไม่อาจทิ้งไว้ชายฝั่งได้ ต้องขนเข้าไปด้านใน ทหารกองกำลังหู่เวยมีความชำนาญในการสร้างเครื่องมือขน แต่ครั้งนี้หวังทงไม่อยากให้ทหารตนเองที่กำลังเป็นสิ่งมีค่าที่นี่ต้องเสียเปล่า พวกโจรสลัดกับพวกผู้คุ้มกันก็ยิ่งไม่ยอมทำงานลำบากเช่นนี้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตอนขนนั้นยังเป็นห่วงว่าชาวพื้นเมืองจะพบเข้าและไปรายงานหรือไม่ เช่นนั้นเสร็จงานก็สังหารทิ้งให้หมด แล้วค่อยไปหาแรงงานมาทดแทนต่อ
อย่าเห็นว่าไป๋อู่รู้ทุกอย่างในเมืองท่าที่มะนิลาไปหมด แต่ก็นับว่าชำนาญพื้นที่ไม่น้อย ที่แท้บ้านเขาก็อยู่ที่นี่ รอบๆ มีหมู่บ้านชาวพื้นเมืองรวมกันที่ไหน ล้วนกระจ่างหมด มีเขานำทาง จึงไม่มีอันใดไม่รู้จริงๆ
ชาวผิวขาวในมือหวังทงมีอยู่หลายสิบ มีคนโปรตุเกส และมีทหารรับจ้างที่มีฮั่นซือเป็นหัวหน้า คนเหล่านี้เมื่อปลอมตัวย่อมหลอกคนได้ ไม่ว่าบนท้องทะเลหลอกหรือว่าบนบกก็ตาม
ไม่ใช่ว่าทำลายหมู่บ้านนี้แล้วก็จบ หมู่บ้านชาวพื้นเมืองกระจัดกระจายโดยรอบไม่น้อย บ้างก็หลายพันหลายร้อยคน บ้างก็ไม่กี่สิบคนมารวมกัน
ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ที่นี่ล้วนไม่รังเกียจ พวกโจรสลัดไม่ยอมปล่อยผ่านแม้แต่หมู่บ้านเดียว ชาวพื้นเมืองพวกนี้เหมือนว่าร่วมวงสังหารหมู่ชาวฮั่นมาด้วย ล้วนมีเงินทองสั่งสม และยังมีผู้หญิงด้วย
ริมทะเลแผ่นดินหมิงมีคนใหญ่คนโตมาก แต่ละคนล้วนมีอิทธิพลอำนาจพอๆ กัน ปกติไหนเลยจะทำอะไรได้สะใจเพียงนี้ แต่ละคนล้วนรู้สึกว่าครั้งนี้ไม่ได้มาเสียเที่ยว รู้สึกสะใจอย่างยิ่ง ช่างมีความสุขเสียจริง ของที่ปล้นแย่งมายังไม่ต้องกลัวว่าจะถูกขโมยไป หรือถูกใครฮุบไป ใต้เท้าหวังตั้งหน่วยมาปกป้องเฉพาะ ขอเพียงเจ้าลงชื่อในบัญชีไว้ เสร็จเรื่องย่อมคืนให้เจ้า ได้ยินว่าไม่กี่วันนี้มีเรื่องเล่ากันว่า ของที่ปล้นชิงมาได้ล้วนมีคนนับให้เป็นเงิน เรื่องดีเช่นนี้ เมื่อก่อนเคยมีทีไหนกัน
คิดๆ ดู ที่บ้านนอกเช่นนี้ยังได้ขนาดนี้ หากเป็นมะนิลาที่เป็นเมืองระดับหลายหมื่นคน ที่นั่นย่อมมีเงินทองไม่น้อยผู้หญิงไม่น้อย ยังมีความสุขอีกมากมายเท่าไรรออยู่ ไม่ต้องพูดถึงการได้ครอบครองท่าเรือดี วันหน้าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร แต่ละคนพอคิดถึงตรงนี้ ก็พากันตาเป็นมัน
ชาวพื้นเมืองที่จับได้มาส่งไปสร้างท่าเรือและเส้นทาง ความจริงนั้นก็เริ่มมีภาพเป็นพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ความยากในการก่อสร้างไม่มาก แรงงานไม่น้อย ชาวพื้นเมืองที่จับมาถึงกับไม่เอามาใช้เป็นทาส หากเอาใช้งานดังวัวม้า ตายไปก็ไม่สนใจ
หากทำงานช้า ครั้งแรกก็จะโบย ครั้งที่สองก็จะฟันทิ้งเสียเลย หวังทงบอกไว้ชัดแล้ว สังหารก็สังหารไป อย่างไรก็มีคนถูกจับมาให้เรื่อย ๆ ไม่ขาด
ชาวพื้นเมืองขี้เกียจ ชาวพื้นเมืองราวกับลิงกัง คำวิจารณ์ที่มีต่อชาวพื้นเมืองล้วนไม่น่าฟัง แต่ทว่าหากยังขี้เกียจก็จะเป็นการเร่งไปสู่ความตาย ความเร็วการทำงานก็เริ่มเร็วขึ้นมาก อย่างไรก็เป็นการก่อสร้างที่ไม่ได้ต้องการคุณภาพมากนัก ขอเพียงใช้งานได้ครั้งสองครั้งก็พอแล้ว วันที่สองชาวพื้นเมืองก็ก่อจลาจล คว้าอุปกรณ์ก่อสร้างเตรียมหนี
ชาวนาฮั่นเป็นคนดีจริง แต่โจรสลัดชาวฮั่นไม่ใช่เช่นนั้น พวกเขาเป็นดังผีกระหายเลือด พอหลายหัวถูกแขวนขึ้นต้นไม้ มีบางคนตามตัวยังถูกฟันก่อนจะโยนลงทะเล ยังมีคนทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดถูกแขวนไว้รอสัตว์ป่ามาจัดการ ชาวพื้นเมืองเห็นแล้วก็หวาดกลัวมา เริ่มทำงานกันแต่โดยดี
เชลยชุดแรกถูกทรมานจนตายไป สภาพอนาถพวกเขาทำให้เชลยชุดหลังหวาดกลัว คนหนีก็ยิ่งน้อยลง การทำงานก็ค่อยๆ เร็วขึ้นไปอีก
ปืนใหญ่แต่ละกระบอกถูกส่งขึ้นฝั่ง เสบียงอาหารและอาวุธก็ขนขึ้นมาหมด เรือรบหวังทงกับกองเรือซาต้าเฉิงก็ขนทหารกับของมาแล้วก็มุ่งไปยังมะนิลา เรือคนอื่นๆ จอดอยู่ที่นี่ บ้างก็แล่นกลับไปแผ่นดินหมิง ขนของที่ได้มาหลังการปล้นชิงกลับไป
การล่าสังหารหมู่เกิดตามเส้นทางระยะเดินทางหนึ่งวัน ลูซอนเป็นเขตร้อน ยามนี้ก็ค่อนข้างแห้ง หลายเส้นทางใช้การได้ ไม่จำเป็นต้องถมที่ทางมากนัก
ชาวพื้นเมืองครั้งนี้ได้เจอปีศาจร้ายตัวจริงเข้าแล้ว พวกเขาถึงกับหนียังไม่มีโอกาส เพราะเชลยชาวพื้นเมืองหวาดกลัวกันอย่างมาก ถึงกับกลัวปีศาจร้ายจะมาไล่สังหาร
ชาวท้องถิ่นลูซอนมีทางเลือกไม่มาก ไม่ถูกฆ่าตาย ก็ต้องไปใช้แรงงานที่อยู่ไม่สู้ตาย การกวาดล้างหมู่บ้านโดยรอบเช่นนี้ จะทำให้ไม่มีใครหลุดรอดไปก็ย่อมไม่อาจเป็นได้ มีชาวพื้นเมืองหนีไปได้ บอกว่าชาวฮั่นกลับมาล้างแค้นแล้ว พวกเขาไปแจ้งข่าวได้ไม่กี่แห่ง ได้แต่ต้องไปยังมะนิลา
******************
กงศุลใหญ่ลูซอนของสเปน เปาโล ลูอิสรู้ข่าวรวดเร็ว ไม่เพียงข่าวชาวพื้นเมือง เรือที่มายังท่ามะนิลาก็นำข่าวมา บอกว่ามีเรือรบลำใหญ่มากลำหนึ่งกำลังแล่นเข้าใกล้ท่ามะนิลา เรือสเปนถูกปล้นไม่ได้เป็นข่าวใหม่อันใดแล้ว เรือการค้าหลายลำล้วนเสียหาย ยังนำเรื่องที่ได้เห็นกับตามารายงานว่า เรือสเปนกำลังถูกปล้น
ชาวพื้นเมืองที่มาแจ้งข่าว ไม่อาจบอกได้ว่าชาวฮั่นมากันเท่าไร บอกได้แต่หลายร้อย บ้างก็ว่าหลายพัน บอกกันไม่เหมือนกันสักคน ทำให้พวกคนสเปนที่มะนิลางง ตอนนี้รอบมะนิลามีชาวฮั่นอพยพมาใหม่หลายพัน แต่ไม่มีผู้ใดกล้าลงมือกวาดล้าง สถานการณ์ตอนนี้ไม่อาจทำอันใดโดยไม่ไตร่ตรอง ไม่อาจปล่อยให้เกิดเหตุได้
[1] ทวนแบบมีจันทร์เสี้ยวคมติดข้างทวน