องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1046 นี่คืออุบายเดิม
ตอนที่ 1046 นี่คืออุบายเดิม
โดย
Ink Stone_Fantasy
หอระฆังในฐานที่มั่นสเปนสูงกว่าหอระฆังโบสถ์มาก สามารถมองเห็นพื้นที่อาศัยไปสุดขอบมะนิลาได้ ความจริงนั้นตอนนี้ทหารด้านบนไม่ต้องมองไกลมากก็รู้ว่าเกิดจลาจลใหญ่แล้ว
พื้นที่พักอาศัยทั้งหมดจลาจลหนักแล้ว ชาวพื้นเมืองล้วนแตกตื่นตกใจวิ่งออกมาจากบ้าน จากนั้นก็มุ่งมายังฐานที่มั่นที่เมืองท่า เหมือนว่ามาขอรับการปกป้อง
มองไปยังริมขอบพื้นที่พักอาศัยมีกลุ่มคนแตกต่างกัน ชาวพื้นเมืองชอบสีสัน แม้คนจนก็ยังใช้วิธีการย้อมเอาเองได้ ส่วนพื้นที่ชายขอบที่แต่งกายสีเรียบ วิสัยนี้ย่อมเป็นการแต่งกายของชาวฮั่น
เทียบกับชาวพื้นเมืองเบื้องหน้าราวกับแมลงวันไร้หัว กลุ่มคนไกลออกไปกลับเคลื่อนไหวมีระเบียบ กงสุลใหญ่เปาโล ลูอิสกับนายทหารหลายคนล้วนอยู่บนหอระฆัง ดูสภาพการณ์นี้แล้ว ทหารหนึ่งก็สบถหยาบคายว่า
“คนพวกนั้นกำลังขับไล่ชาวพื้นเมืองไปชายฝั่ง นั่นเป็นทางตัน พวกเขาคิดทำอะไรกัน!?”
ริมทะเลสิ้นสุดเขตแดน ถึงที่นั่นไม่มีทางหนีได้อีก แม้มองจากหอระฆังระยะไกล ก็ยังเห็นกลุ่มคนไกลออกไปน้อยกว่าชาวพื้นเมืองมาก
ไล่ต้อนคนหลายหมื่นให้มายังเส้นทางแคบๆ ได้ คนน้อยไล่ล่าย่อมไม่ใช่เรื่องดีอันใด แม้ชาวพื้นเมืองอ่อนแอ แต่พวกสเปนเองรู้ว่าหากบีบคั้นสิ้นหนทาง มักมีเหตุเหนือคาดหมาย ถึงตอนนั้นคนน้อยก็ย่อมยุ่งยากมาก
บนท้องทะเลมีเรือรบปิดล้อม กลางคืนเกิดเหตุวางเพลิงไม่คาดฝันทำลายเรือที่ท่าหมดสิ้น ทำให้อีกฝ่ายสิ้นหนทางหนี ทางบนบกยังบุกมาทางที่คาดไม่ถึง ตลอดแต่เริ่มมาจนถึงวันนี้ เห็นภาพนี้แล้ว อีกฝ่ายเองก็เป็นทหารมาก่อน ย่อมไม่ทำอะไรผิดพลาดเช่นนี้ ดังนั้นพวกทหารสเปนตอนนี้ได้แต่พากันงง
งงก็ส่วนงง หากเปาโล ลูอิสยังคงไม่เลอะเลือน เขาหันไปคำรามใส่ทหารติดตามว่า
“ถ่ายทอดคำสั่ง! ถ่ายทอดคำสั่ง! ชาวพื้นเมืองกล้าเข้าใกล้กำแพงฐานที่มั่นเราในรัศมียิง ให้ยิงทันที ยิงทันที!”
“ท่านกงสุล บาทหลวงยังอยู่ข้างนอกนั่น!?”
“พระบิดาบนสวรรค์ย่อมอวยพรในความศรัทธาของเขา เขาไม่โทษพวกเราหรอก”
เปาโล ลูอิสคำรามกลับไปทันที ทหารถ่ายทอดคำสั่งอึ้งไป ก่อนจะรีบวิ่งออกไป เปาโล ลูอิสกระชากทหารอีกคนมาคำรามเบาๆ ว่า
“เจ้าก็ไปด้วย ให้คนแม่นปืนยิงใส่บาทหลวงให้ตายก่อน”
ทหารคนสนิทอึ้งไปก่อนจะรีบพยักหน้าวิ่งออกไป บาทหลวงมายังอาณานิคมล้วนมุ่งมั่นเกินไป เปาโล ลูอิสขอให้คนสเปนกลับเข้ามาในฐานที่มั่น บาทหลวงกลับโวยวาย ไม่ยอมเข้ามา
หากบาทหลวงวิ่งตามมาด้วย และร้องขอให้เปิดประตู ย่อมทำให้ชาวพื้นเมืองตามเข้ามาด้วยได้ สถานการณ์ตอนนี้ไม่อาจสนใจอันใดได้อีกแล้ว
****************
“ไม่รู้ว่าอีกหลายปีจากนี้ จะมีคนกล่าวถึงไหมว่า เส้นทางทุกตารางนี้ทับถมไปด้วยกระดูกชาวพื้นเมือง?”
“กั๋วกง ท่านหมายความว่า?”
ทหารติดตามอยู่ ๆ ก็งงว่า ไม่รู้เหตุใดหวังทงกล่าวเช่นนี้ คิดถามละเอียด แต่หวังทงยิ้มโบกมือ เส้นทางนี้ไม่ยาวนัก ยังมีรากฐานเส้นทางเดิมอยู่ ไม่เสียดายสละชีวิตคนซ่อมทาง คนขึ้นฝั่งมาได้ก็ต้องขนอาวุธขึ้นมา ให้สามารถมาได้ทันการ
กองกำลังหวังทงตอนนี้ปรากฏตัว ทำให้ชาวพื้นเมืองขวัญกระเจิง พวกเขาได้ยินข่าวโจรสลัดชาวฮั่นในป่า แต่ไม่เคยได้รับการยืนยัน
พวกชาวฮั่นติดอาวุธปรากฏต่อหน้าพวกเขาตอนนี้ ถึงกับยังไม่ทันคว้าอาวุธ ชาวพื้นเมืองก็หนีแล้ว เมื่อก่อนสังหารหมู่ชาวฮั่น ทำอะไรไม่เกรงกลัวฟ้าดิน พวกเขาแน่นอนย่อมลงมือกันอย่างบ้าคลั่งสนุกสนาน แต่ในใจก็ยังหวาดหวั่น หากชาวพื้นเมืองยังปลอบใจตนเอง ว่าสังหารก็สังหารไปแล้ว แผ่นดินหมิงแต่ไรมาไม่เคยสนใจราษฎรรอนแรมข้ามทะเลออกไป ปีกว่ามานี้เป็นเช่นนี้จริง พวกเขาเห็นชาวฮั่นที่มาใหม่ก็ล้วนรู้สึกวางใจ
กรรมไม่ใช่ไม่ตามสนอง แต่เวลายังไม่ถึง ผู้ใดก็ไม่เคยได้ยินอันใดในหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมานี้ ชาวฮั่นติดอาวุธมากันจริง ชาวพื้นเมืองเห็นชาวฮั่นถืออาวุธพวกนี้ ถึงกับไม่ทันได้ถามหรือคิดอันใด สมองที่คิดได้อันดับแรกก็คือชาวฮั่นมาแก้แค้นแล้ว พวกเราทำร้ายชาวฮั่น ตอนนี้ต้องชดใช้แล้ว รีบหนีกันเถอะ!
ชาวพื้นเมืองไม่ค่อยฉลาด แต่ก็ยังรู้ว่า หากวิ่งเข้าไปยังฐานที่มั่นสเปนได้ ที่นั่นแม้ไร้หนทางไปต่อ แต่พวกเขาไม่อาจวิ่งไปทางอื่นได้อีก เพราะทุกทางถูกปิดกั้นหมดแล้ว
คนที่วิ่งไปทางอื่นจะถูกสังหารทันที หากยังคิดหาทางรอด ไม่สู้วิ่งไปยังที่มั่นสเปนทางนั้น บางทีอาจมีทางรอด พวกคนสเปนเทียบกับชาวฮั่นแล้ว เข้มแข็งกว่ามาก
“กั๋วกง ข้าน้อยพูดอยู่ครึ่งชั่วยาม มีแค่ราวร้อยคนที่คิดตามไปด้วย ข้าน้อยไร้สามารถ ขอกั๋วกงลงโทษ”
ไป๋อู่หน้าแดงก่ำคุกเข่ากับพื้น หวังทงยิ้มกล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า
“ล้วนเป็นราษฎรพลเมืองดี! ไม่กล้าทำเรื่องผิดระเบียบ ยังหวังว่าพอข้าไปแล้ว พวกเขาจะได้อยู่ที่นี่ต่อไปยาวนาน วันหน้าผีผิวขาวกับชาวพื้นเมืองจะดีต่อพวกเขา ไป๋อู่ เจ้าไปบอกพวกเขาว่า วันหน้าลูซอนนี้เป็นแผ่นดินชาวฮั่นเราแล้ว วันนี้พวกเขาไม่ลงมือ วันหน้าก็ไม่มีทางให้พวกเขาได้ยืนอีก ผู้หญิงข้าไม่สน เด็กอายุไม่ถึง 10 ข้าก็ไม่เอา คนที่เหลือให้บรรดาเจ้าทะเลพาไป คนร้อยกว่าคนที่ยอมตามเราไป ให้คนละห้าตำลึงเงิน แจกอาวุธให้ รอปล้นชิงมาได้ ทุกอย่างเก็บไว้เองได้!”
หวังทงวางธรรมเนียมให้เช่นนี้ ก็ย่อมไม่มีที่เจ้าจะไม่ขยับ ไป๋อู่หน้าแดงก่ำ โขกศีรษะดังหลายที รีบวิ่งออกไป
ไป๋อู่โมโหชาวฮั่นที่อพยพมาลูซอนมาก เพราะคิดถึงตอนนั้นตนเองก็เป็นเช่นนี้ คิดว่าทำตัวดีๆ แล้วชาวผิวขาวกับชาวพื้นเมืองจะยอมให้ตนเองได้อยู่ต่อ ตนเองก็จะร่ำรวยมีความสุขสงบกว่าอยู่บนแผ่นดินหมิง แต่รอมาแล้วได้อะไร มีแต่คอยรังแกและสังหารหมู่ในท้ายที่สุด
ในใจเขายิ่งเข้าใจ หากไม่ใช่เหลียวกั๋วกงหวังทงนำกำลังมาแก้แค้นแทน เกรงว่าชะตาชาวฮั่นพวกนี้ก็คงเช่นกัน
“เหลียวกั๋วกงเป็นแค่ลูกหลานทหาร เหตุใดวิธีการแบบพวกขุนศึกเชี่ยวชาญเช่นนี้”
“เบาหน่อย บนท้องทะเลตอนเหนือ โดยเฉพาะบนทุ่งหญ้าตอนเหนือ ล้วนต้องอาศัยเหลียวกั๋วกง วิธีการนักเลงพวกนี้จะไม่ชำนาญได้อย่างไร!”
ชายร่างผอมทางขวาด้านหลังหวังทงซุบซิบวิจารณ์กัน ชายผอมสองคนนี้สวมชุดเสื้อผ้าเนื้อหยาบ ดูแล้วไม่ต่างอันใดกับชาวประมง แต่สองคนเป็นถึงเจ้าทะเลฮกเกี้ยนอันดับต้นๆ เป็นคนใหญ่คนโตแถบนี้
ซาต้าเฉิงได้ยินแล้ว มองสีหน้าหวังทงผ่อนคลาย ก็ยิ้มสัพยอกว่า
“กั๋วกงมีวิธีการดี ให้พวกนี้มือเปื้อนเลือด จึงจะเป็นหนึ่งกับเรา ทว่าพวกเราต่อสู้เป็นตายเพื่อพวกเขา พวกเขาก็ต้องเป็นราษฎรเชื่อฟัง ไม่งั้นคนของเราเบื้องหน้าจะยอมได้อย่างไร”
คนกล่าววาจานี้ก็คือซาต้าเฉิงเอง เขาเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์เกรงว่าจะเริ่มคล้ายกันมากไปแล้ว
หวังทงส่ายหน้ายิ้ม กล่าวว่า
“จะเป็นคนดีอย่างไรก็ตาม ขอเพียงมือเปื้อนเลือด แพะก็ยังกลายเป็นหมาป่าได้ วันหน้าผืนแผ่นดินนี้ก็ให้พวกเราชาวฮั่นมาดูแล หากจะให้แค่รักษาเมืองท่านี้คงไม่ได้ ต้องขยายออกไปเรื่อยๆ ต้องแย่งชิงพื้นที่ชาวพื้นเมืองต่อไปเรื่อยๆ จึงจะทำให้ชาวฮั่นมากันยิ่งมาก ที่นี่จึงจะยืนได้มั่นคง”
***************
หวังทง ซาต้าเฉิงและหัวหน้าขุนพลทหารพากันร่วมวงวิพากษ์วิจารณ์ พื้นที่นี้ดังไปด้วยเสียงสังหาร ไม่ใช่ชาวพื้นเมืองทุกคนมีโอกาสหนีออกไป
โจรสลัดแบ่งกำลังตนออกเป็นหลายกลุ่ม บ้างก็เฝ้าทุกทางออก กลุ่มซาต้าเฉิงบุกเข้าไปตามท้องถนน
ชาวพื้นเมืองหนีออกมาไม่มีทางจะต่อต้านต่อสู้กับโจรสลัดที่โหดเหี้ยมได้ มีคนหนีไปทางฐานที่มั่นสเปน มีคนกลับถูกลูกน้องซาต้าเฉิงไล่ไปปากทาง
พวกที่ถูกไล่มา หน้าหลังล้วนไร้ที่ไป กำลังต้านทานก็เริ่มหมด ถูกสังหารอย่างไม่ปราณี ได้แต่ยอมจำนน
กองผู้คุ้มกันหวังทงครั้งนี้ไม่ได้ขยับ ล้วนอยู่ข้างกายหวังทงนั่งพักผ่อน ตอนนี้สถานการณ์เช่นนี้ไม่ต้องการพวกเขาออกหน้า เตรียมเป็นกองหนุนก็พอ
ชาวฮั่นที่มาใหม่ไม่อยากก่อเรื่องก่อราว แต่หวังทงเอ่ยธรรมเนียมแล้ว ไป๋อู่ก็ไม่เกรงใจอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกโจรสลัดที่โหดร้ายพวกนั้น ยังมีพวกชายฉกรรจ์ที่ตามมาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ เหล่านี้ล้วนทำให้พวกเขาไม่อาจไม่ลงมือ
เชลยชาวพื้นเมืองถูกจับมาเรื่อยๆ ชาวฮั่นที่เพิ่งย้ายมาลูซอนไม่ว่าอยากหรือไม่ก็ต้องจับอาวุธออกสังหาร
หลังการสังหารหมู่ครั้งก่อน ชาวพื้นเมืองก็มีท่าทีกดขี่ชาวฮั่น ในการได้พบปะกันไม่นาน พวกชาวฮั่นที่มาใหม่อย่างไรก็ต้องถูกรังแก เดิมทีก็หวาดกลัว ให้จับอาวุธเข้าไปยืนหน้าพวกเชลยพื้นเมือง แค้นเก่าแค้นใหม่ก็ระบายออกมาหมดสิ้น
ตามที่หวังทงวิเคราะห์ พวกจิตใจดีงามพอเปื้อนเลือดก็ย่อมเปลี่ยนเป็นพวกกระหายเลือดได้ สังหารชาวพื้นเมืองไปหนึ่ง เดิมที่เคยเป็นราษฎรดีก็ปลดระวางสิ่งที่ปิดกั้นในใจ สังหารหนึ่งหรือสองไม่ต่างกัน ปลดปราการในใจลงแล้ว มีคนไม่น้อยส่งเสียงร้องโฮดัง คนมากมายรู้สึกถึงไฟที่แผดเผาในใจ
ที่พักชาวพื้นเมืองเป็นที่ที่ดีทีสุดในเมืองท่านี้ ครอบครัวพวกเขามีของให้ปล้นชิงมากมาย หากของเหล่านี้ล้วนตกเป็นของเรา ชาวฮั่นต่างพากันเริ่มคิดเช่นนี้
ทวนยาวเป็นอาวุธที่ง่ายที่สุด ทวนยาวแจกออกไป สังหารเชลยพื้นเมืองแล้ว ชาวฮั่นที่อพยพมาใหม่ก็เริ่มครอบครองพื้นที่ชาวพื้นเมือง นำพาโจรสลัดเข้ากวาดล้างทีละบ้าน พวกเขาอย่างไรก็อยู่ที่นี่ ย่อมรู้จักที่ทางเป็นอย่างมาก
เห็นคนนอกรุกรานเข้ามา ชาวพื้นเมืองพากันหนีไปยังฐานที่มั่นสเปน ทหารสเปนบนกำแพงฐานที่มั่นนับวันยิ่งมาก
ชาวพื้นเมืองตะโกนร้องขึ้นไปขอการปกป้อง พวกเขารู้ว่ามาถึงฐานที่มั่นย่อมปลอดภัย แต่ทว่าบนกำแพงหินกลับยิงปืนไฟใส่พวกเขา ทำลายความหวังพวกเขาสิ้น บนกำแพงหินมีคนตะโกนว่า
“ไปสู้กับพวกชาวฮั่นนั่น พวกเราจะให้การช่วยเหลือเอง!!”
ส่วนใหญ่ชาวพื้นเมืองไม่รู้ภาษาสเปน แต่ทว่าชาวพื้นเมืองในโบสถ์ที่เป็นชาวคริสต์เข้าใจ ในตอนนี้ผู้ใดยังกล้าไปสู้กับชาวฮั่นเล่า ทุกคนได้แต่หลบปืนไฟที่ยิงใส่ พากันเบียดตัวไว้ด้วยกัน วุ่นวายมาก ไม่มีคนกล้าหันหลังกลับไป
ทางหนึ่งถูกชาวฮั่นติดอาวุธไล่ต้อนมาทุกทาง รอบฐานที่มั่นพื้นที่เมืองท่าก็อัดแน่นไปด้วยชาวพื้นเมืองจำนวนมาก ชาวพื้นเมืองด่าทอกันเอง ถึงกับมีคนเพื่อต้องการแย่งที่ยืนด้านใน ถึงกับสังหารกันเองก็มี
ชาวฮั่นยิ่งใกล้เข้ามา พวกสเปนยิงปืนใหญ่จากกำแพงลงมา กระสุนปืนใหญ่ข้ามหัวกลุ่มชาวพื้นเมืองไปตกที่ถนน มีบางคนหลบไม่ทันถูกกระสุนปืนใหญ่ถล่มใส่ แต่พอยิงปืนใหญ่ไป ชาวฮั่นติดอาวุธก็หยุดรุกไล่
อยู่ ๆ ก็เริ่มวุ่นวายและถูกสังหาร อยู่ ๆ ก็เงียบกริบ พวกสเปนในฐานกับชาวพื้นเมืองรอบนอกล้วนพากันถอนหายใจเฮือก
เปาโล ลูอิสจับตาดูความวุ่นวายเบื้องหน้ามาตลอด เห็นสถานการณ์นิ่งลง เขาไม่ได้รู้สึกผ่อนคลาย กลับยิ่งเคร่งเครียด ชาวพื้นเมืองพวกนี้ไม่มีบ้านเรือนและอาหาร อยู่รอบฐานที่มั่นได้นานเท่าไรกัน ไม่ช้าต้องเกิดเรื่องแน่
คิดถึงตรงนี้ก็ทำให้เปาโล ลูอิสคิดได้ทางหนึ่ง
ผ่านไปสองชั่วโมงไม่ถึงดี กำแพงหินฐานที่มั่นสเปนอยู่ ๆ ก็มีพวกสเปนโยนเงินทองลงมา มีคนโยนอาหารลงมา
สถานการณ์เช่นนี้ แสงเงินทองวาบวับยังคงจับตาชาวพื้นเมือง นานเข้า หลายคนก็เริ่มหิวแล้ว
“ชาวฮั่นน้อยกว่าพวกเจ้ามาก ไล่พวกเขาออกไป เงินทองเหล่านี้เป็นของพวกเจ้า อาหารก็เพียงพอ หากพวกเจ้าไม่ไป จะยิงปืนใหญ่ละนะ!”
ให้ผลประโยชน์ล่อ และยังข่มขู่ด้วยปืนใหญ่ ชาวพื้นเมืองค่อย ๆ ได้สติ ชาวฮั่นน้อยกว่าตนเองจริง ทำไมจึงต้องแตกตื่นเช่นนี้ด้วย
ชาวพื้นเมืองเริ่มจับอาวุธ หันกลับไปตามทางที่มา อาวุธพวกเขาก็หยาบช้ามาก ล้วนเป็นเพียงดาบสันหนาที่พอมีความยาวอยู่บ้าง ดาบเช่นนี้ไว้ตัดฟืนฆ่าไก่พอได้ แต่นี่เป็นอาวุธที่พวกเขาใช้สังหารหมู่ชาวฮั่น
คนหนึ่งหันหลัง สองคนหันหลังกลับ พวกคนสเปนยังคงโยนเงินทองลงไปให้คนเบื้องหน้าด้านล่าง มีชาวพื้นเมืองคิดก้าวเข้าไปหยิบตรงด้านหน้ากำแพง กลับถูกทหารบนกำแพงยิงสังหารไม่ปราณี ถึงกับไม่ได้แจ้งเตือนก่อนด้วย
ชาวพื้นเมืองเริ่มถูกสมบัติริมกำแพงล่อลวงใจ คนหันกลับไปสู้ก็ยิ่งมาก พวกเขารู้สึกมีความกล้ามากขึ้น
ชาวฮั่นติดอาวุธบนเส้นทางพวกนั้นเหมือนว่าถูกปืนใหญ่สเปนข่มขวัญไว้แล้ว ไม่กล้าขึ้นหน้าอีก ชาวพื้นเมืองเริ่มเฮโลดังให้กำลังใจกัน
******************
“แต่ละคนหยิบออกไปท่อนหนึ่ง ออกไปแล้วรีบหาที่หลบ ไม่เช่นนั้นตายสถานเดียว!”
ทางหวังทง มีมัดไม้พลองมัดหนึ่ง ด้ามไม้เหลาแหลมด้านหนึ่ง เชลยชาวพื้นเมืองในที่สุดก็รู้ว่าให้พวกเขาตัดไม้ไผ่มาเหลาแหลมทำไม
ตลอดเส้นทางมา คนแก่ถูกฆ่าตายเพื่อข่มขวัญ สตรีและเด็กล้วนจับไปรวมกัน ชายฉกรรจ์ทุกคนถูกขับไล่ไปด้านหน้า
ในมือมีอาวุธ ชาวพื้นเมืองเหมือนกันมารวมกัน ความจริงปรากฏแล้ว ชาวพื้นเมืองยิ่งกว่าสัตว์ พวกเขาไม่สนใจญาติหรือมิตร พอมารวมกัน ความฮึกเหิมก็ยิ่งมากขึ้น
ชาวพื้นเมืองที่ใจกล้าหน่อยก็เริ่มคำรามเบาๆ เริ่มมีคนหันไปมอง พวกชาวพื้นเมืองเริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาอย่างไรก็หลายพันคน ชาวฮั่นมีดาบและขวานกันมาก ย่อมทำให้ท่อนไม้แหลมพวกเขาดูมีประโยชน์กว่า อย่างน้อยอาวุธยาวสู้อาวุธสั้นก็ได้เปรียบ
หวังทงยังคงยืนที่เดิม ข้างเขามีบรรดาเจ้าทะเลที่ล้วนเคร่งเครียด มองหวังทงไม่หยุด มีชาวพื้นเมืองหันกลับมา ด้านหลังกองกำลังมีคนตะโกนดัง
“ไปตั้งแถวด้านหน้า!”
ผู้คุ้มกันเหลียวกั๋วกงที่เอาแต่นั่งพักตอนนี้คว้าปืนไฟออกมาเรียงแถวหน้ากระดานเดินไปหน้ากองกำลัง หวังทสะบัดมือลง
ปืนไฟหลายร้อยยิงพร้อมกันทันที ชาวพื้นเมืองถือไม้ไผ่มาคิดไม่ถึงอยู่ๆ ชาวฮั่นก็สังหารทิ้ง พวกเขาถูกโจรสลัดถือมีดไล่ ผู้คุ้มกันหวังทงกลับเคลื่อนไหวเงียบๆ ชาวพื้นเมืองถึงกับไม่ทันได้สังเกตกองกำลังนี้ คิดไม่ถึงอีกฝ่ายจะคว้าปืนมายิงได้เหมือนพวกคนสเปน ยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ ไล่พวกเขาไปทำงานให้ ยังไม่มีน้ำใจ ลงมือเหี้ยมโหดเช่นนี้ได้
ระยะยิงปืนไฟยิงไป ชาวพื้นเมืองไปยืนออกัน ได้ยินร้องโหยหวนดังติด ๆ กัน เริ่มล้มทั้งแถบ ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกกลัวก็คือ ยังมีปืนใหญ่อีกสี่กระบอกดันมา แม้ปืนใหญ่ปากไม่ใหญ่ แต่อย่างไรก็เป็นปืนที่อานุภาพยิ่งกว่าปืนไฟ
ชาวพื้นเมืองที่แตกตื่นกันไปหมดเริ่มถอยหลัง บรรดาเจ้าทะเลล้วนถอนหายใจยาว ตามมาครั้งนี้ เรื่องทุกเรื่องไม่ต้องกังวล ล้วนมีเหลียวกั๋วกงจัดการ
ชาวฮั่นสองสามคนยืนหน้ากองปืนไฟ ตะโกนดังว่า
“พวกเจ้าบุกขึ้นไป อย่าได้หยุด หากหันกลับมา ศพเหล่านี้ก็จะเป็นจุดจบของพวกเจ้า บุกเข้าไป บุกไปถึงป้อมพวกสเปนนั่น พวกเจ้ากับครอบครัวพวกเจ้าหากคิดมีชีวิตรอด ก็ต้องบุกเข้าไป อย่าได้ถอย ไม่เช่นนั้นก็ล้วนตายสถานเดียว เสียงกลองดังครบ 10 ครั้ง จะยิงปืนใหญ่ทันที”
ได้ยินเสียงชาวพื้นเมืองเริ่มมีคนเสียงสั่น เสียง ‘ตูม’ ยิงดัง เสียงกลองก็เริ่มตีดัง ชาวพื้นเมืองล้วนหันไปมอง กลองที่สองดังขึ้น ชาวพื้นเมืองเริ่มวิ่ง กลองเสียงที่สามดัง ชาวพื้นเมืองวิ่งยิ่งเร็ว
เสียงกลองดังครั้งที่ 10 ปืนใหญ่ยิง ชาวพื้นเมืองที่อยู่ท้ายสุดถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงตายไป คนด้านหน้าก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้น
“ทุกเส้นทางให้ส่งคนไป 200 เป็นหลัก ให้เจ้าทะเลทุกคนร่วมศึก อย่าได้รอช้า”
หวังทงเอ่ยออกคำสั่ง ทุกคนล้วนรับคำสั่ง
“เข็นปืนใหญ่ตามไป จำไว้อยู่นอกระยะยิงปืนใหญ่ฐานที่มั่น ไล่พวกพื้นเมืองให้กลับไป!”
พอมีคำสั่งมา ทุกคนก็กลับประจำที่ คำสั่งสุดท้ายหวังทงก็คือสั่งกับซาต้าเฉิงว่า
“ฐานที่มั่นศัตรูไม่อาจสนใจบนท้องทะเลแล้ว ดูว่าสามารถนำปืนใหญ่วนกลับไปท่าเรือทางใต้ขนขึ้นได้ไหม ชาวพื้นเมืองอย่าเห็นว่าคนมาก ใช่ว่าจะเปิดป้อมประตูพวกผีต่างชาติได้ สุดท้ายยังต้องใช้ปืนใหญ่ยักษ์เรายิงถล่ม”
ซาต้าเฉิงรับคำสั่งรีบออกไป ถนนด้านหน้าชาวพื้นเมืองถูกพวกคนสเปนยุให้กลับมา และพวกที่ถูกหวังทงบีบให้กลับไป ปะทะกันพอดี
เดิมเป็นพี่น้องร่วมชาติ ถึงกับเป็นญาติมิตรกันก็มี ยามนี้ราวกับศัตรู!