องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1047 ปล่อยไปตาย
บุกเข้าไป ยังมีทางรอด บุกเข้าไป ยังมีทรัพย์สินเงินทองกับอาหาร ชาวพื้นเมืองล้วนคิดเช่นนี้ ด้านหน้าไม่ใช่เพื่อนร่วมชาติอีกต่อไป ไม่ใช่เพื่อนบ้าน ไม่ใช่ญาติ พวกเขาขวางทางตนเองมีชีวิตรอด ก็ย่อมเป็นดังศัตรู
การต่อสู้เริ่มดุเดือด เป็นสงครามชาวพื้นเมืองที่ปะทุขึ้นหลังจากครั้งที่รุนแรงที่สุดนานมาแล้ว บาดเจ็บล้มตายกันมาก
จัดการไม้ไผ่ได้ความยาวและความเรียวพอดีก่อนจะเหลาแหลม จากนั้นเอาไปเผาไฟ หากพิถีพิถันยังจะต้องชุบกองขี้เพื่อให้มีพิษ จะได้เปรียบมาก
ไม่ได้เป็นการต่อสู้ซับซ้อนใด ไม้ไผ่อย่างไรก็ดีกว่าดาบตรงที่ยาวกว่า ไม้ไผ่ที่เผามาก็เหนียว มีดที่ไม่ได้คมเท่าไรไม่อาจตัดขาดได้ แม้ว่าคนที่มีฝีมือฟันอย่างแรงคิดตัดขาดยังต้องฟันแฉลบ
นี่เป็นกลยุทธ์ที่ตอนนั้นชีจี้กวงใช้รับมือโจรสลัดวัวโค่ว ใช้กับชาวพื้นเมือง ช่างเป็นการปรับใช้ได้เหมาะสมยิ่ง
เมืองซงเจียงตอนนี้หิมะตกแล้ว แต่ที่ลูซอน ชาวพื้นเมืองยังสวมเสื้อชั้นเดียว นี่ยังเป็นเพราะการปรากฏขึ้นของชาวฮั่นที่ทำให้พวกเขารู้จักสิ่งทอ เมื่อก่อนพวกเขาไม่สวมเสื้อกัน
ไม้ไผ่แทงทะลุร่างที่ไม่มีสิ่งปิดบัง เลือดสดไหลทะลักออกมา เสียงร้องโหยหวนดังไปทั่วบริเวณ ขณะเดียวกันเหมือนดังฝ่ายเดียว ปะทะกัน ชาวพื้นเมืองที่ชาวฮั่นไล่ต้อนมาก็ย่อมได้เปรียบ
ชาวพื้นเมืองจากฐานที่มั่นพวกคนสเปนถูกจัดการไปอย่างน่าอนาถ บาดเจ็บล้มตายกันจนหวาดกลัวยิ่ง คนแถวแรกแถวสองถูกแทงตาย จากนั้นด้านหลังก็หันหลังหนี
แต่คนที่แทงกันมามากเกินไปแล้วจริงๆ คนด้านหลังไม่รู้ด้านหน้าตายอนาถ พวกเขารู้แต่ตอนนี้หันหลังกลับไป สมบัติลอยไปไม่ว่า พวกคนสเปนยังลงมือสังหารอีกด้วย
ไม่อาจถอยกลับ ในเมื่อบุกมาแล้ว เจ้าจะถอยกลับได้อย่างไร ยามนี้ทุกคนล้วนหน้ามืดตามัว ไม่ว่าผู้ใดเมื่อวานมีสายสัมพันธ์ใดกับตน วันนี้ก็ฟันทิ้งไปได้เลย
พอถอยไปสักหน่อย อีกคนก็ตะโกนด่ากราดดันเข้ามา ชาวพื้นเมืองเพิ่งได้ไม้ไผ่เหลาแหลม ใช้งานไม่คล่องเท่าไร แทงสังหารไปทีหนึ่ง เห็นอีกฝ่าย ตนเองก็แทงมั่ว ไม่ได้แทงโดนเป้าหมาย ยังกลัวอีกฝ่ายเข้าประชิด ไม้ไผ่ในมือจึงกลายเป็นใช้ฟาดแทน
ไม้ไผ่เอามาฟาดไม่ได้สร้างอานุภาพสังหาร อดทนกับความเจ็บแล้วก็สามารถมาอยู่ด้านหน้าอีกฝ่ายได้ เช่นนั้นมีดสั้นดาบสั้นก็ย่อมได้เปรียบแทน
คมดาบนี้ไม่ได้คมเท่าไร คมดาบเปรอะเปื้อนสิ่งสกปรกมาก ดูแล้วไม่เพียงทรมาน หากยังทำให้เกิดความยุ่งยากที่บาดแผลตามมา พอเพิ่งเข้าใกล้กันได้ ก็ถูกอีกฝ่ายดันกลับมา แต่ได้เปรียบเช่นนี้ไม่นานนัก เพราะไม้ไผ่ด้านหน้าทำอะไรไม่ได้ ด้านหลังก็ยังแทงใส่ได้
เลือดสาดกระเซ็น เสียงร้องโหยหวนดังติดกัน สองฝ่ายปะทะกัน เจ้าถอยข้ารุก การต่อสู้โหดร้ายเริ่มค่อยๆ ทรมานจิตใจและความกล้าของผู้ร่วมต่อสู้ สำหรับชาวพื้นเมืองขี้เกียจพวกนี้แล้ว ก็ยิ่งเป็นความทรมานมาก
การต่อสู้เพิ่งเริ่มไม่นาน ก็มีชาวพื้นเมืองหนีกระจัดกระจายสี่ทิศ อ่าวตอนเหนือมะนิลาเป็นพื้นที่พักอาศัย บอกว่าเป็นเมือง ไม่สู้บอกว่าเป็นที่รวมของหมู่บ้านมากมายดีกว่า ถนนเละเทะ แต่หนีก็ง่ายมาก
แต่ทว่าหวังทงนำกองกำลังปิดทางทุกทางไว้แล้ว คิดหนีก็มีแต่ตายสถานเดียว ไกลออกไป มีพวกชาวฮั่นกำลังรื้อบ้านอยู่ ชาวพื้นเมืองพักกันเป็นเพิงที่พักมุงหญ้าเสียมาก ให้ชาวฮั่นที่มาใหม่มาอยู่รวมกันร่วมแรงรื้อก็ง่ายมาก
บ้านเหล่านี้อย่างไรก็มีสมบัติบ้าง สำหรับชาวฮั่นที่ถูกบังคับมานั้น อย่างไรก็จะได้ชดเชยไปได้บ้าง และยังเป็นการกระตุ้นให้พวกเขายิ่งอยากลงแรง
มีบ้านหัวหน้าชาวพื้นเมืองกับชนชั้นสูง บ้านพวกเขาพอดูได้อยู่ แต่ในเมื่อไม่หนี เช่นนั้นก็ย่อมต้องให้คนของหวังทงไปขับไล่ ยิ่งตายกันยิ่งมาก
ตอนนี้ชาวฮั่นทางนั้นเหมือนกับใช้แหจับปลา ชาวพื้นเมืองเป็นดังปลาในแห ยามนี้เหมือนว่ามีพื้นที่ยิ่งมากให้ล้อมจับ ความจริงนั้นพื้นที่ยิ่งน้อยลง
เห็นว่าหนีไม่พ้นแล้ว ถึงกับมีคนที่หนีได้เร็วถูกชาวฮั่นขวางทางสังหารทิ้ง พวกเขาได้แต่หันหลังกลับ อยากหรือไม่ก็ตามก็ต้องเข้าร่วมสังหารครั้งนี้ เริ่มแรกสองฝ่ายก็แค่เผชิญหน้ากัน แต่ต่อมาเพราะคนหนีกลับ ทำให้มีกำลังหลายเส้นทางเข้าสู่สนามรบ
อย่างไรก็พวกสเปนขับไล่ชาวพื้นเมืองมามากกว่า สำหรับฝีมือการต่อสู้ที่ย่ำแย่ของชาวพื้นเมือง จำนวนคนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสิน
ชาวพื้นเมืองถือดาบเริ่มได้เปรียบ พวกถือไม้ไผ่เริ่มถอย ในตอนนั้นเอง เสียงดังราวอสุนีบาตดังมา กลางอากาศมีวัตถุลอยมาอย่างรวดเร็ว
ชาวพื้นเมืองคุ้นเคยเสียงนี้ยิ่ง เป็นปืนใหญ่ ได้ยินเสียงนี้แล้ว ชาวพื้นเมืองถือดาบก็ยิ่งดุเดือด เพราะพวกเขารู้ มีแต่พวกคนสเปนที่มีปืนใหญ่ นี่ย่อมเป็นปืนพวกคนสเปนยิงมาช่วยพวกตนแล้ว
ระยะทางสั้นมาก มีคนได้ยินทิศทางการยิงมาของกระสุนปืนใหญ่ว่ายิงไปทางฐานที่มั่นสเปน ชาวฮั่นถึงกับมีปืนใหญ่
ยังไม่ทันตั้งสติได้ กระสุนปืนใหญ่ก็ตกท่ามกลางฝูงคน ปืนใหญ่ที่เข็นมาพร้อมฝูงชน ย่อมไม่ใช่ปืนใหญ่ขนาดใหญ่อันใด แต่เป็นปืนใหญ่กระสุนสามชั่ง รับมือสถานการณ์ตอนนี้ กับพวกที่ไม่ทันป้องกัน เบียดเสียดกันเช่นชาวพื้นเมืองแล้ว นับว่าสร้างอานุภาพสังหารเพียงพอแล้ว
กระสุนปืนใหญ่ลอยมา กระดูกถูกกระแทกหัก เลือดสาดกระเซ็น ที่สำคัญก็คือ ชาวพื้นเมืองถือดาบถึงกับวิ่งกันแตกกระเจิงต่อหน้าปืนใหญ่ถล่ม
ชาวผิวขาวชำนาญปืน สยบมะนิลา พวกเขาในใจชาวพื้นเมืองก็ราวกับเทพเทวดา ชาวฮั่นไม่มีปืน แม้แต่โจรสลัดก็ยังใช้การโดดขึ้นเรือและวางเพลิงเป็นหลัก แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน ชาวฮั่นที่บุกมาสังหารถึงกับมีปืน และยังยิงได้เช่นนั้นอีก
ปืนใหญ่ยิงติดต่อกันสองระลอก ชาวพื้นเมืองบาดเจ็บล้มตายไปเกือบสองร้อย จากนั้นก็ถอยกันกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง คนที่ถือไม้ไผ่พริบตาก็มีพื้นที่ด้านหน้ามาก
“บุกเข้าไป !!”
ไม่ต้องให้คนด้านหลังตะโกนดัง พวกเขาพากันตะโกนบุกเอง ในใจพวกเขา ขอเพียงเข้าใกล้ฐานที่มั่นสเปนได้ ก็ย่อมมีโอกาสรอดชีวิตยิ่งมาก
“ใกล้ระยะยิงแล้ว ทุกคนหยุดก่อน!”
เสียงนี้มิได้ตะโกนดัง หากเป็นเสียงกระซิบจากกองกำลังด้านหลังเบาๆ ปืนใหญ่บนฐานที่มั่นสเปนแม้ว่าไม่ใช่ปืนใหญ่ขนาดใหญ่แบบบนท้องทะเล แต่ระยะยิงก็ไกลพอตัว อันนี้ต้องป้องกันไว้ก่อน ทางนี้เร่งบรรจุกระสุนปืน จากนั้นก็เข็นขึ้นหน้าสุดชีวิต
มะนิลาเป็นที่ที่ดีที่สุดในลูซอน แต่ถนนหนทางยังคงเละเทะอย่างมาก หากไม่ใช่ว่าเข็นปืนใหญ่กระสุนสามชั่งมา เกรงว่าคงไม่อาจตามชาวพื้นเมืองด้านหน้าทัน ด้านหลังมีคนถ่ายทอดคำสั่ง มีคนใช้ภาษาพื้นเมืองตะโกนดังทันที
“พวกเจ้าตะโกนด้วยกัน บุกฐานที่มั่นสเปน ทุกคนมีโอกาสรอด ไม่เช่นนั้นตายสถานเดียว!!”
ยังกล่าวไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงปืนไฟดังตามมา ยิงคนที่วิ่งช้าและท้ายแถวตายทันทีหลายคน คนหนึ่งตะโกน สองคนตะโกนตาม
ชาวพื้นเมืองเองไม่หวังให้แรงต้านทานตรงหน้าตนเองรุนแรงขึ้น พวกเขาแน่นอนย่อมตะโกนตาม ชาวพื้นเมืองถือดาบโดนกระสุนปืนใหญ่ถล่มหัว สองฝ่ายเว้นระยะห่าง พวกถือไม้ไผ่แหลมแทงได้เปรียบแล้ว
สถานการณ์พลิกผันอีก ชาวฮั่นติดอาวุธขับไล่ชาวพื้นเมืองถือไม้ไผ่ ชาวพื้นเมืองถือไม้ไผ่ไล่ชาวพื้นเมืองถือดาบ ไล่ไปทีละชั้น เหมือนเป็นคลื่นไม่รู้จบ มุ่งไปทางฐานที่มั่นสเปน
สถานการณ์เช่นนี้ ฐานที่มั่นไม่อาจไม่ยิงปืนใหญ่ ไม่นานเสียงตูมดังสนั่นไปทั่ว ชาวพื้นเมืองได้แต่ส่งเสียงร้องโหยหวน ทางจะหนีกลับถูกปิดตายแล้ว
แต่มีปัญหาหนึ่ง ปืนใหญ่ฐานที่มั่นยิงไม่ดีนัก หากหลบใต้รัศมียิงก็สามารถหลบพ้น แต่ปืนใหญ่กับปืนไฟที่ตามหลังชาวพื้นเมืองมา ค่อยๆ ไล่บี้มา ถอยก้าวหนึ่ง ด้านหลังก็จะยิงทิ้ง หยุดชะงักครู่หนึ่ง จากนั้นมุ่งหน้าฐานที่มั่นสเปนต่อ
ชาวพื้นเมืองปกติก็มีแต่ความอ่อนแอ พวกคนสเปนตอนเข้าจัดการเมืองท่าเป็นฐานที่มั่น ไม่คิดป้องกันด้านในอันใด คิดแต่ป้องกันด้านนอกด้วยกำแพงสูงและปืนใหญ่
หลังสังหารหมู่ชาวฮั่น พวกคนสเปนถึงกับนำปืนใหญ่ด้านในสามกระบอกไปยังริมทะเล เห็นชัดว่า พวกเขาคิดว่าชาวพื้นเมืองจะไม่มีทางก่อเรื่อง แม้ว่าคิดจะก่อเรื่อง อาศัยทหารสเปนก็เพียงพอรับมือแล้ว
การจัดการแบบรับมือนอกปล่อยด้านในไม่ได้เป็นปัญหาอันใด แต่ไม่มีผู้ใดคิดว่า ชาวพื้นเมืองไม่กลัวตายจะถูกไล่ต้อนมาโจมตีฐานที่มั่นสเปนได้
พูดให้ชัดก็คือ ไม่ใช่ชาวพื้นเมืองไม่กลัวตาย แต่เป็นเพราะพวกเขากลัวตายอย่างมาก ดังนั้นจึงยิ่งบุกเข้ามาไม่หยุด ปืนใหญ่ฐานที่มั่นยิงไป ไม่นาน พวกชาวพื้นเมืองก็ถูกปืนใหญ่ยิงบาดเจ็บล้มตายอนาถมาก ปืนใหญ่ด้านหลังเริ่มยิงแนวระนาบ ปืนไฟยิ่งยิงระดมกันแน่น
ระยะทางชาวพื้นเมืองบุกเข้าฐานที่มั่นปืนใหญ่เริ่มใกล้ขึ้น ตอนนี้ที่บุกถึงก่อนกลับเป็นคนแก่เด็กสตรีอ่อนแอ ตอนชาวพื้นเมืองบุกมาก่อนหน้า คนเหล่านี้ถูกทิ้งไว้ด้านหลัง ตอนนี้วิ่งกลับมาอีก พวกคนบ้าคลั่งตรงหน้าเช่นนี้ พวกเขาไม่หนี ไม่บุกหน้า ก็ย่อมต้องถูกเหยียบตาย
เปาโล ลูอิสกงสุลใหญ่ลูซอนอยู่บนหอระฆังเฝ้าดูสถานการณ์ เห็นชาวพื้นเมืองบุกกันกลับมา เขาสบถด่า ‘ลิงกัง’ แล้วก็ตะโกนว่า
“ทหารราบขึ้นป้อม เตรียมต่อสู้!”
ระยะห่างไม่มาก หากบุกเข้ามา ปืนใหญ่ไม่ว่าจากมุมใดหรือความถี่ใด ก็ล้วนไม่อาจมีผลในการป้องกันอีกแล้ว ยังต้องการทหารราบใช้ปืนไฟและดาบรับมือ
ความจริงไม่ต้องให้เขาออกคำสั่ง ทหารเบื้องหน้าก็จัดการแบบเดียวกันแล้ว ในตอนนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงตะโกนร้องเสียงหลงดังมาจากทะเลว่า
“เรือโปรตุเกสไปท่าเรือทางใต้แล้ว!”
ระยะยิงปืนใหญ่บนฐานที่มั่น เรือบนท้องทะเลขอเพียงวนไปรอบใหญ่ ยังไม่อาจจะขึ้นเทียบท่าที่ดีที่สุดของท่าเรือทางใต้ได้ หากอยู่ขอบๆ พอได้ แต่ท่าเรือทางใต้ไม่ใกล้จากท่าเรือเหนือ เดินทางก็แค่ราวหนึ่งชั่วโมงกว่า ศัตรูขึ้นฝั่งที่นั่น หมายถึงอะไร
“รักษาฐานที่มั่นไว้ นอกระยะยิงปืนใหญ่เรา ปืนใหญ่พวกเขาไม่อาจทำอะไรฐานที่มั่นเราได้ แม้ให้ชาวพื้นเมืองตายไปหมด พวกเราก็ยังสามารถขอยอมจำนนยกธงขาวอันแสนทรงเกียรติได้!”
เปาโล ลูอิสกัดฟันกล่าว พ่อค้าที่ฐานที่มั่นสเปนได้รับแจกดาบและปืนไฟ แต่ละคนต้องต่อสู้ แม้แต่สตรีก็ต้องมาช่วยบรรจุกระสุน
*******************
“หาที่ได้ยัง?”
“หาได้แล้ว!”
หวังทงกับทหารติดตามคนหนึ่งถามตอบกันไปมา จากนั้นก็หันไปออกคำสั่ง ชาวฮั่นที่ถูกนำมารวมตัวกันเข้ารื้อบ้านชาวพื้นเมือง ไม่เพียงแต่รื้อให้ว่าง แต่พวกเขายังต้องขนไม้ที่ใช้งานได้มา ทำเป็นเครื่องมือยุทโธปกรณ์ง่าย ๆ เช่นบันไดกับโล่ไม้ ล้วนทำเสร็จหมด
ไม่ใช่ว่าชาวพื้นเมืองทุกคนถูกไล่ไปโจมตีกำแพงเมือง ชาวพื้นเมืองบางส่วนยังทำงานส่วนนี้ เริ่มจะขนย้าย
ปืนใหญ่ฐานที่มั่นยิงได้พื้นที่จำกัด ตอนนี้ชาวพื้นเมืองฮือกันมาถึง หามุมที่ห่างไกลสักหน่อย อาศัยบ้านเรือนเป็นกำบัง เครื่องมือยุทโธปกรณ์ขนส่งไปไม่ยาก
แน่นอนคนขนเครื่องมือยุทโธปกรณ์ล้วนเป็นชาวพื้นเมือง ตายไปไม่ใช่เรื่องใหญ่ พวกเขาเพียงแค่ขนของไปให้ถึงก็พอ
ตามคำสั่ง ใช้ไม้สร้างขึ้นเป็นหอสังเกตการณ์ ผู้คุ้มกันหวังทงวันหน้าล้วนจะต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งต่างๆ ดังนั้นความสามารถแต่ละอย่างล้วนต้องครบ เรื่องนี้ไม่ยาก
“ม้าวัวที่มาลากเป็นอย่างไร?”
“เรียนกั๋วกง ชาวพื้นเมืองไม่มีม้า ม้าล้วนอยู่ในมือชาวผิวขาว วัวก็รวบรวมมาได้ราว 230 ตัว”
หวังทงพยักหน้า หันไปทางหอสังเกตการณ์ตะโกน
“เรือเข้าใกล้แล้วยัง!”
“เรียนกั๋วกง ยังขอรับ แต่เริ่มวนมาแล้ว!”
บนหอสังเกตการณ์ตอบเสียงดังมาก หวังทงพยักหน้า หันไปกล่าวว่า
“อย่าเห็นว่าชาวพื้นเมืองคนมาก ไม่แน่ว่าสามารถยึดฐานที่มั่นสเปนได้ สุดท้ายยังต้องพวกเราไปเอง แต่ทว่าไม่จำเป็นต้องให้พี่น้องเราไปทำงานเสี่ยงตายนี้ ให้พวกชาวพื้นเมืองไปลงแรงก่อน”
ความจริงนั้นตลอดทางมานี้ พ่อค้าใหญ่กับบรรดาเจ้าทะเลที่ตามมาร่ำรวยเหล่านี้ ล้วนรู้สึกได้เปิดโลกทัศน์อย่างมาก โดยเฉพาะหลังมาอยู่มะนิลานี่ มีตำแหน่งนี้ในทะเลใต้ ตนเองทำอะไรได้บ้าง ภาพที่คิดตอนนี้ช่างทำให้รู้สึกหลงใหล คิดจะทำเรื่องพวกนี้ ล้วนต้องได้รับการสนับสนุนจากหวังทง
ทุกคนล้วนเข้าใจดี คิดจะอยู่ที่นี่ให้นาน คิดจะใช้เรือ ไม่เช่าก็ต้องซื้อ แปดเก้าส่วนก็ต้องคบหากับหวังทง หาเรือมาสักลำ ผู้คุ้มกันกับความปลอดภัย เกรงว่าคงต้องไปหาเอาจากหวังทง ต้องการหวังทงปกป้อง สำหรับสินค้าไม่ต้องพูดถึง เมืองซงเจียงกับเทียนจินเป็นเมืองท่าใหญ่เพียงนั้น ลูซอนแม้ว่ามีของแต่ก็ต้องไปขายที่นั่น แม้แต่ปืนใหญ่ คนที่ฝึกยิงชำนาญพวกนี้ ก็ต้องไม่อาจไม่มีหวังทง ทุกคนคิดแล้วก็เข้าใจอย่างมาก จึงได้ยอมเสียเงินทองก้อนนี้ได้
ครั้งนี้ของที่ปล้นแย่งได้มาหลังสงคราม ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขอกั๋วกงแบ่งสรร การจัดการทุกอย่าง ก็ล้วนขอกั๋วกงออกหน้าจัดการ ปกติการออกปล้นชิง คนพวกนี้ก็มักจะเหิมเกริมสักหน่อย แต่ตอนนี้หวังทงว่าอย่างไรก็อย่างนั้น ไม่อาจทำการพลการ ของพวกนี้เป็นเรื่องเล็ก
ไม่เพียงแค่คนเดียวที่แอบมาแสดงท่าทีกับหวังทง ชีวิตลูกน้องตนเหล่านี้ก็ได้มอบให้กั๋วกงไปแล้ว วาจานี้ไม่ใช่ว่าให้หวังทงเข้าดูแล แต่ให้หวังทงชี้แนะ นำคนไปใช้การได้ตามสบาย เป็นตายไม่ว่ากัน คนตายไปแล้วก็กลับไปหามาเพิ่มได้ แต่ความรู้สึกดีของหวังทงไม่ได้สร้างได้ง่ายๆ
ล้วนมีท่าทีเช่นนี้ และดูสภาพตอนนี้แล้ว เห็นชัดว่าต้องการการรบปะทะแล้ว ต้องการคนกล้าตายแล้ว หวังทงตัดสินสินใจเช่นนี้ การกล่าวเช่นนี้ก็คิดเพื่อทุกคน แต่ใช่ว่าไม่เด็ดขาดพอ ข่าวต่างๆ ของกั๋วกง ไม่ได้เคยมีใครบอกว่ากั๋วกงเป็นคนใจอ่อน
ทุกคนคิดอย่างไรหวังทงไม่สน เขาขึ้นไปยังหอสังเกตการณ์ ทหารถ่ายทอดคำสั่งยืนเฝ้าอยู่ วิ่งไปมาตลอด ชาวพื้นเมืองไม่อาจโจมตีได้ผลแต่อย่างไร เป็นเพราะความตายบีบให้บุกอย่างบ้าคลั่ง
เสียงระเบิดดังมาถึงหวังทง เป็นเสียงปืนใหญ่ดังเป็นระยะ ฐานที่มั่นมีควันลอยขึ้นตลอด หวังทงบนหอสังเกตการณ์เห็นชัด ทุกครั้งที่ควันขาวลอยขึ้นมา คนเบื้องหน้าก็บ้าคลั่งกันเฮโลถอยหลัง จากนั้นก็ยังบุกขึ้นหน้าอย่างไม่แน่ใจต่อ
การบุกไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ เป็นเพราะเสียงปืนใหญ่ด้านหลังยังมี
“สั่งการไปบนท้องทะเล ยิงป้อมปืนใหญ่!”
หวังทงออกคำสั่ง
****************
เพราะมีเรือรบกำลังวกไปทางท่าเรือทางใต้ ดังนั้นเรือหลายลำบนท้องทะเลล้วนอยู่ในสภาวะพร้อมยิง จ่อกับป้อมปืนใหญ่ฐานที่มั่น สองฝ่ายกุมเชิงกัน
หวังทงออกคำสั่งไป แน่นอนสามารถยิงปืนใหญ่ทันที แต่คำสั่งนี้จะออกไปจากแผ่นดินไปยังท้องทะเลได้อย่างไร ก็ย่อมใช้เวลาระยะหนึ่ง
เดิมเสากระโดงเรือมีไว้เพื่อมองไกล รับหน้าที่มองไปรอบผืนทะเล ตอนนี้มีสองคน คนหนึ่งจับตาดูมุมหนึ่งท่าเรือทางใต้ รอทางนั้นส่งข่าวมา
พอส่งข่าวมา เรือใหญ่หลายลำก็เริ่มปรับทิศ พวกเขาปรับทิศทาง ทหารปืนใหญ่สเปนบนป้อมปืนใหญ่ก็พบทันที รีบเตรียมการป้องกัน
แต่การป้องกันก็ทำไปอย่างไม่มีทางเลือก ปืนใหญ่อีกฝ่ายระยะยิงไกลกว่าปืนใหญ่บนเกาะ ปืนใหญ่ยิงป้อมปืนใหญ่ย่อมก่อความเสียหาย ปืนใหญ่ฝ่ายตน อย่างมากก็ได้แต่ข่มขู่ สองฝ่ายเทียบกันแล้วน่าอึดอัดมาก
ยังคงได้ยินเสียง ตูม ดังต่อเนื่อง กระสุนปืนใหญ่ถล่มกำแพงหินป้อมปืนใหญ่ แต่กระสุนปืนใหญ่ระลอกสองเห็นชัดว่ายกมุมสูงขึ้น เสียงตูมดังสนั่นใส่ช่องกำแพงหิน เศษหินปลิวกระจาย
หากยิงปืนใหญ่ใส่หลายวันก่อน คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ พลปืนใหญ่รู้จักหมอบ แต่ตอนนี้ไม่ได้ นอกและในฐานที่มั่น ด้านล่างกำแพงหิน ทุกแห่งล้วนมีทหารกำลังต่อสู้ บนลานหน้ากำแพงก็มีอีกชุด ไม่ใช่แค่ด้านเดียว ปืนใหญ่ขนาดใหญ่ยิงหินแตกกระจุย คนกำแพงหินและคนบนลานด้านหน้าบาดเจ็บไม่น้อย
แต่ไม่ทำให้ถึงตาย หากบาดแผลก็น่าตกใจ เลือดสดไหลทะลัก ส่งเสียงร้องโหยหวนไม่หยุด ทหารที่ต้องไปจัดการชาวพื้นเมืองเริ่มขาดสมาธิ
ทิศทางบนท้องทะเลยังคงมีเสียงดังไม่หยุด ครั้งนี้ชาวผิวขาวในฐานที่มั่นไม่สนใจอันใดแล้ว พากันหาที่หลบกันจ้าละหวั่น ครั้งนี้ยังดี กระสุนปืนใหญ่ยังคงตกลงบนกำแพงหิน ระยะนี้ยังเรียกว่าไกลไป เรือปืนใหญ่ความแม่นไม่มาก ไม่อาจทำความเสียหายให้กับทหารรักษาฐานที่มั่น
แต่ครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว ผู้ใดก็ไม่กล้าเอาชีวิตมาเสี่ยงภัย การโจมตีฐานที่มั่นไม่เพียงแต่มาจากทางท้องทะเล พอพวกเขาผ่อนลง ชาวพื้นเมืองก็เข้ามาใกล้อีก คำกล่าวที่ว่าถอยหรือรุกยากยิ่งก็คงเป็นเช่นนี้เอง ดีที่ชาวพื้นเมืองราวกับกระต่ายน้อย ไร้พิษสง
ปืนระดมยิง พวกเขาก็วิ่งหนีกันไปไกลอย่างอลหม่าน กลัวว่าตนเองจะโดนไปด้วย เสียงปืนใหญ่บนท้องทะเลเริ่มเบาบางลง ไม่มีสมาธิจะป้องกันแล้ว