องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1054 ประโยชน์แผ่นดิน
ผลิตเงินเหรียญเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นประเทศมหาอำนาจ แน่นอนมีเพียงราชสำนักทำได้ แม้เรื่องผลิตเงินเหรียญนี้ราชสำนักแผ่นดินหมิงทำได้ไม่มาตรฐานนักก็ตาม
เครือข่ายสามธาราคิดทำเรื่องเดียวกัน ก็ง่ายที่จะถูกคนจับผิดหาเรื่องให้เป็นความผิดได้ ดังนั้นต้องคิดหาทาง หาวิธีการอ้อมไปมาให้ไม่อาจจับได้
แรกสุด คำว่า ‘เงินเหรียญ’ ก็ไม่อาจใช้ได้ เรื่องนี้คิดง่ายมาก หวังทงเริ่มคิดใช้คำว่า ‘เงินเหลี่ยง’ แปลว่าตำลึง มีราคาครึ่งตำลึง หนึ่งตำลึง ห้าตำลึง และสิบตำลึง และยังมีทองคำสองตำลึงทอง ห้าตำลึงทองและสิบตำลึงทอง
หน่วยน้ำหนักมีเฉียน เหลี่ยง และจิน[1] ที่ใช้กันทั่วไป แต่ทว่าทั้งแผ่นดินหมิงแต่ละมณฑลมีค่าคำนวณต่างกัน ถึงกับใช้หลักการคิดไม่เหมือนกัน มีความแตกต่างมากมายไม่เป็นไปตาม ‘เหลี่ยง’ และ ‘จิน’ หากที่ทำให้คนยิ้มก็ไม่ออก ร้องไห้ก็ไม่ได้ก็คือท้องพระคลังในวังกับกรมอากร สองหน่วยงานคิดคำนวณยังไม่เหมือนกัน
แน่นอนผู้ใดล้วนเข้าใจหลักการ หน่วยคำนวณยิ่งต่าง คนทำงานก็มีโอกาสลงมือยิ่งมาก แต่หวังทงไม่อาจทำเช่นนี้ หน่วยแลกเปลี่ยนกับเงินเหรียญที่ทางการกำหนดล้วนตายตัว แต่ก็ยังมีช่องโหว่อยู่มาก
ตอนนี้เพราะเทียนจินกับเมืองซงเจียงรุ่งเรือง ยังมีการค้นขนส่งร้านค้าตอนเหนือหลายแห่ง เงินทองจำนวนมากไหลทะลักเข้าแผ่นดินหมิง ความจริงนั้นราคาเงินทองพวกนี้ลดฮวบเรื่อยๆ หากยังต้องทำตามอัตราอีก ก็เรียกได้ว่าเป็นเรื่องน่าขันแล้ว
หวังทงกำหนดระบบคำนวณก่อนอันดับแรก จากนั้นก็ใช้ระบบนี้เป็นฐาน เริ่มผลิตเงินเหรียญ ที่อื่นไม่สนใจ แต่ระบบเครือข่ายสามธาราย่อมกำหนดเป็นเอกภาพ
โรงช่างเทียนจินเป็นโรงงานทำงานด้วยเครื่องจักรพลังน้ำอันดับหนึ่งในแผ่นดินหมิง หลายปีมานี้ ช่างแผ่นดินหมิงมากมายไม่ว่ายอมหรือไม่ก็ตาม ล้วนรับวิธีการตะวันตกนี้ ล้วนกำหนดเป็นแบบแผน เคยชินกับธรรมเนียมต่างๆ ยังมีค่าตอบแทนที่เครือข่ายสามธาราให้เพียงพออีก ช่างแผ่นดินหมิงที่ฉลาดก็ย่อมเกิดขึ้นมากมาย กลายเป็นกำลังผลิตที่ผลิตงานออกมาได้มาก
ตอนนี้เครื่องจักรพลังน้ำปรับปรุงได้ดีกว่าเมื่อสิบปีก่อนแล้ว ไม่ว่าจากโครงสร้างหรือรายละเอียด เรือการค้าโปรตุเกสกับฮอลันดาไปมาระหว่างแผ่นดินหมิงกับยุโรป ค้าขายร่ำรวยได้เพราะเทียนจิน พวกเขาเองได้รับภารกิจในการนำเครื่องจักรในยุโรปและความรู้ต่างๆ มายังแผ่นดินหมิงตลอดเวลา หลายปีมานี้ มีช่างยุโรปไม่น้อยมาจากยุโรป แต่ละประเทศในยุโรปกำลังทำสงครามกัน เป็นโอกาสให้ตะวันออกได้รับประโยชน์ใหญ่ ไม่ว่าอาหรับ ชมพูทวีปหรือทะเลใต้ล้วนล้าหลังยิ่ง แต่แผ่นดินหมิง กลับก้าวหน้ายิ่ง เกินหน้าระดับพวกยุโรป
ตามคำพูดของช่างและคนเรือที่เดินทางมานั้น ตอนนี้การผลิตที่เทียนจิน เทคนิคเรียกได้ว่าก้าวไกลไปกว่ายุโรป
และด้วยพื้นฐานเทคนิคพวกนี้ การผลิตเงินเหรียญจึงสามารถดำเนินการได้ เงินเหรียญต้องมีขอบนูนขึ้น ตรงกลางมีอักษรจีนมาตรฐานเขียนว่า ‘สามธารา’ กับอักษรตัวเลขค่าเงินด้วยอักษรจีนตัวเต็ม ด้านหลังมีอักษรสี่คำความว่า ‘ภักดีตอบแทนแผ่นดิน’ และเลขอารบิกที่ว่าหวังทงออกแบบขึ้นมาเอง
เนื่องจากใช้กันในร้านสามธารา ดังนั้นตัวอักษรไม่จำเป็นต้องซับซ้อนมาก พยายามให้อักษรชัดที่สุด น้ำหนักให้เท่ากันก็พอ
เงินเหรียญทองกับเงินเหรียญ เงินเหรียญเงินกับเงินเหรียญเงินแลกเปลี่ยนกันยังดี หากระหว่างเงินกับทอง หรือทองแดงแล้ว ในตอนนี้ แต่ละเดือนล้วนต่างกัน อย่างไรก็ต้องกำหนดค่าภายในเครือข่ายสามธารา และประกาศออกไปตามเวลาเป็นระยะ
ใต้หล้าแลกเปลี่ยนเงินกันในตอนนี้ ก็มีแค่เมืองหลวงและเทียนจินกับแดนใต้ ที่เทียนจินกับเมืองซงเจียงสองแห่งนี้เป็นพื้นที่เจ้าทะเล
ค่าเทียบสองแห่งเปลี่ยนแปลงเป็นที่รับรู้แล้ว ก็กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนให้แม่นยำ เป็นมาตรฐานตามร้านสามธารา
แต่ทว่าระหว่างเทียนจินกับเมืองซงเจียงห่างกันพันลี้ ข่าวไปถึงไวนั้นไม่ง่ายนัก หวังทงใช้วิธีการง่ายๆ ในเรื่องนี้ ก็คือจากเทียนจินถึงเมืองซงเจียง ตลอดทางให้มีร้านพักแรมสามธารา ส่งข่าวเร็วด่วน แต่ละแห่งห่างกันยี่สิบสามสิบลี้ ที่พักแรมมีม้า ข่าวก็ย่อมถ่ายทอดไปตามที่พักแรมต่อๆ กันเป็นทอดไม่หยุดตลอดวันตลอดคืน หากระหว่างทางไม่มีเรื่องเภทภัยใด สิบวันก็ย่อมมาถึง
ตลอดทางมีที่พักระหว่างทางมาก ก็ต้องการคนมาก ต้องเลี้ยงม้าไว้มาก เงินและอาหารม้าย่อมสิ้นเปลืองมาก แต่ตอนนี้เครือข่ายสามธารากิจการใหญ่โต สิ้นเปลืองแค่นี้เทียบกับความเสียหายแล้ว เรียกได้ว่าไม่กระไรนัก
เครื่องจักรและโรงงานผลิตเงินเหรียญล้วนต้องเตรียมการใหม่ ส่วนใหญ่ล้วนมาจากเทียนจิน เรื่องนี้มีความสำคัญมาก เพื่อป้องกันความเสี่ยง หวังทงต้องใช้คนสนิทตนมาดูแลเองใกล้ชิด
ไม่ว่าอย่างไร การผลิตเงินเหรียญครั้งนี้ล้วนต้องขาดทุนไปก่อน นับดูแล้วต้องลงเงินไปก่อนไม่น้อย ตอนเครือข่ายสามธาราส่งจดหมายมา ก็เอ่ยถึงว่าวิธีการใช้ตั๋วแลกเงินก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้ในวงกว้าง แต่ทว่าหวังทงยังคงยอมเปลืองเงินเปลืองแรงผลิตเงินเหรียญ
ผลิตเงินเหรียญเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่งใหญ่ ด้วยการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังเทียนจินเปิดทะเล ขนาดเศรษฐกิจขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว เงินเหรียญที่เจ้าทะเลกับประเทศวัวแอบผลิตไม่อาจเพียงพอกับความต้องการ แน่นอนการกล่าวเช่นนี้เป็นการเสียดสีอย่างมาก
หวังทงผลิตเงินเหรียญแม้บอกกับคนนอกว่าเป็นเพียงไว้ใช้กันในเครือข่ายสามธารา เพื่อให้ตนเองสะดวก แต่สถานการณ์ตอนนี้ พอเขาเริ่มทำ เงินเหรียญที่มีน้ำหนักและสีสันมาตรฐานก็ย่อมกลายเป็นเงินที่เป็นที่ยอมรับและใช้กันทั่วไป เครือข่ายสามธาราอยู่ทั่วทุกแห่ง ใต้หล้าคนไม่น้อยรู้ว่าสามารถอาศัยเครือข่ายนี้ร่ำรวยและทำมาหากิน พวกเขาก็ย่อมต้องทำตัวให้ชินกับเงินมาตรฐานนี้
สามารถทำนายอนาคตได้ว่า อีกไม่ถึงร้อยปี อาจะแค่สิบหรือยี่สิบปี ถึงกับอาจสั้นกว่านั้น แผ่นดินหมิงระดับเมืองย่อมใช้เงินเช่นนี้กันทั่วไป วงการค้าและคนรวยต่างก็ย่อมชินกับเงินนี้ เพราะเทียบกับเงินทองแดงที่พวกเขาใช้ตอนนี้แล้วสะดวกกว่ามาก
ทำได้ตามนี้ ก็เท่ากับคุมระบบการเงินแผ่นดินหมิงได้ เท่ากับคุมโครงสร้างการค้าแผ่นดินหมิงระดับสูงไว้ได้ เครือข่ายสามธาราเดิมทีก็มีข้อได้เปรียบมากกว่าผู้ใดบนแผ่นดินหมิงแล้ว หากยังมีระบบเงินนี้อีก นั่นหมายความว่าอันใด ไม่กล่าวก็ย่อมกระจ่างใจ
และสามารถทำเช่นนี้ได้ ขุนนางบุ๋นราชสำนักและขันทีฝ่ายในยังไม่อาจคิดระแวงสงสัย พวกเขาไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้ ถึงกับกล่าวได้ว่า พวกเขาไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ พวกเขาเดิมก็ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ หากพวกเขาเข้าใจ ถึงตอนนี้คงไม่ขาดแคลนเงินเหรียญเช่นนี้ ปล่อยให้มีเส้นทางเงินเหรียญที่ไม่ได้ผลิตจากทางการเกิดขึ้น ขอกล่าวเสริมอีกว่า เงินเหรียญผลิตเองนี้ถึงกับดีกว่าทางการอีก
ในรายละเอียดพวกนี้ เรื่องคุมการเงินแผ่นดินหมิง คุมโครงสร้างการค้าระดับบนของแผ่นดินหมิง ล้วนเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง การผลิตเงินเหรียญในระยะยาวแล้วมีกำไรอย่างมาก
เงินเหรียญครึ่งเหลี่ยง หนึ่งเหลี่ยงไปถึงเหรียญทองสิบเหลี่ยง ทำเงินเหรียญเหล่านี้ให้มีค่าน่าเชื่อถือแล้ว ค่าของตัวเงินเหรียญตามน้ำหนักก็จะค่อยๆ หายไป เริ่มมองไปยังตัวเลขที่เขียนไว้บนนั้นเอง ก็หมายความว่า ความน่าเชื่อถือเกิดขึ้น เงินทองใช่ว่าได้น้ำหนักตามที่ผลิต สามารถเติมแร่โลหะอื่นลงไปผสมได้ แต่มีความน่าเชื่อถือเครือข่ายสามธารารับประกัน แม้ทองห้าเหลี่ยงมีน้ำหนักสามเหลี่ยง เขาก็ย่อมใช้เสมือนห้าเหลี่ยงในการแลกเปลี่ยน ความแตกต่างนี้ทำให้ธนาคารสามธาราผลิตเงินเหรียญออกมาได้อีกมากมายตั้งเท่าไร รวมกันเข้าก็ย่อมมาก
สำหรับการสร้างความน่าเชื่อถือนั้น เรื่องนี้สำหรับเครือข่ายสามธาราไม่ใช่ปัญหา เงินทองในมือมากเกินยิ่งกว่ามาก พอจะรับมือกับระดับแลกเปลี่ยนได้
เหล่านี้ล้วนไม่อาจทำได้ในเวลาสั้นๆ อาจทำได้ในปีหรือสองปีก็เรียกว่าโชคดีแล้ว แต่ทว่าตั๋วเงินสามารถใช้ไปก่อนได้ เป็นการแลกเปลี่ยนที่ง่ายๆ
ธนาคารสามธาราสาขาหลักตั้งที่เมืองซงเจียงข้างจวนเหลียวกั๋วกง คนในเครือข่ายสามธาราล้วนชินกับการเรียกว่าสามธาราสาขาหลัก เรียกเช่นนี้ง่ายมาก และยังแสดงให้เห็นสถานะธนาคารสามธารานี้ จากเดิมร้านค้า ร้านเงิน ร้านประกันภัย โรงช่าง โรงต่อเรือสามธารา กิจการพวกนี้ที่เป็นเอกเทศก็หยุดลง จากนั้นให้ธนาคารสามธาราสาขาหลักดูแลรวม เป็นสาขาหลักที่เรียกว่าสมศักดิ์ศรี
***************
ข่าวเมืองหลวงมีมามากมาย ที่ทำให้หวังทงสนใจที่สุดก็คือ ฮ่องเต้ว่านลี่เปิดลานฝึกหู่เวยอีกครั้ง ทุกอย่างล้วนทำตามที่หวังทงตอนนั้นวางแบบไว้ ให้เมืองเซวียนฝู่และเมืองจี้โจวคัดเลือกลูกหลานขุนพลทหารมาร่วมฝึกกับโอรสสวรรค์
แต่ยามนี้ไม่เหมือนตอนนั้น ฮ่องเต้ว่านลี่ไม่ได้มีเวลาไปฝึกร่วมมากนัก เพียงไปแค่ตอนเปิดครั้งเดียว สองสามวันไปที นับเป็นการเชื่อมสายสัมพันธ์ เดาว่าหลังจบการศึกษาก็จะไปอีกครั้ง
ครูฝึกนั้น ก็ย่อมมีขุนนางบู๊ฝ่ายในและขันทีในวังฝ่ายบู๊เป็นตัวเลือกแรก แต่ทว่ากำลังกองกำลังหู่เวยใต้หล้าเป็นหนึ่งไม่มีสอง แน่นอนไม่ปล่อยไป ว่ากันว่าหานกัง หลี่หู่โถว หม่าซานเปียวล้วนถูกเลือกให้มาเป็นครูฝึก ผลัดกันมาสอน
เดาว่าหลังเด็กหนุ่มเหล่านี้เรียนจบ ก็จะถูกส่งไปประจำยังกองกำลังวังหลวงและฝ่ายในและกองกำลังหู่เวย แต่การฝึกเช่นนี้ การปฏิสัมพันธ์เช่นนี้ ฮ่องเต้ว่านลี่จะคว้าใจทุกคนไว้ได้ไหม พูดยากอยู่
กองกำลังหู่เวยแต่ละหน่วยล้วนส่งออกไปตามที่หวังทงจัดการให้ก่อนจากไป แต่ละหน่วยไปยังที่ต่างๆ ขยายตัวต่อ จากนั้นก็ปรับระบบเมืองชายแดน เหลือทหารสังกัดขุนพลทหารที่เก่งกาจไว้ ที่เหลือให้เป็นราษฎร ให้พวกเขาเป็นแรงงานรับใช้ขุนพลทหารตามหลักการ
นโยบายนี้ทำให้คนระดับสูงเมืองชายแดนได้ผลประโยชน์มาก นับเป็นการปฎิรูปกองทัพที่ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้าน แต่มีคนได้ก็มีคนเสีย คนสายบู๊ไม่อาจทนรับได้ เสียเปรียบอย่างไรก็ต้องก่อเรื่อง การก่อเรื่องเช่นนี้หากเป็นเมื่อก่อน ส่วนใหญ่ย่อมก่อการในพื้นที่ ก่อการให้วุ่นวายมากยิ่งดี ไม่เช่นนั้นก็สมคบกับพวกชายแดน สมคบพวกนอกด่านเป็นภัยต่อแผ่นดินหมิง
แต่สถานการณ์ตอนนี้ คิดจะสมคบผู้ใดย่อมไม่อาจทำได้ บนทุ่งหญ้าไหนเลยจะมีพวกนอกด่าน กลายเป็นแผ่นดินหมิงไปหมดแล้ว ดังนั้นล้วนก่อการกันในพื้นที่วุ่นวายไปทั่ว ผู้ว่าการมณฑลเดิมไม่ค่อยชำนาญเรื่องการจัดการปฏิรูปเมืองชายแดนของหวังทงนัก พวกเขาเองได้ผลประโยชน์จากเมืองชายแดนตอนนี้มาก พอปฏิรูป ขุนพลผู้บัญชาการนับว่ายังดี แต่พวกเขาก็ได้ลดลงไม่น้อย จะไปยอมได้อย่างไร พอเห็นสภาพการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น จึงพากันยื่นฎีกา พริบตาก็ก่อให้เกิดความแตกตื่นตกใจ
หวังทงเดาเรื่องนี้ได้อยู่ ไม่เช่นนั้นเขาย่อมไม่วางใจไป ‘พักผ่อน’ ที่เกาะนานหลายเดือน เรื่องราวแสดงให้เห็นแล้วว่าที่เขาวิเคราะห์ไม่ผิด
ลี่เทาที่ส่านซี ถานปิงที่ซานซี ซุนซิงที่หนิงเซี่ย พ่อค้าซานซีอิทธิพลอำนาจมาก สายสัมพันธ์มากมายกับพ่อค้าในเมืองชายแดน พวกก่อการไม่ต้องรอให้ทางการส่งทหารมาปราบ ตนเองก็แตกพ่ายไปก่อนแล้ว ไม่งั้นก็ถูกพ่อค้าใหญ่ในพื้นที่รวมกำลังหน่วยต่อสู้มาปราบราบ ไม่มีโอกาสขยายตัวใหญ่ สำหรับหนิงเซี่ย ในพื้นที่หนิงเซี่ยใหญ่สุดก็คือของตระกูลปัว ตระกูลปัวตอนนี้ล้วนย้ายไปเมืองกุยฮว่าเฉิงแล้ว คนที่เหลือก็ไม่อาจออกหน้าออกตา มีสองแห่งก่อเรื่อง หนึ่งถูกซุนซิงนำทหารไปปราบ อีกแห่งถูกพ่อค้ากำราบเอง ผู้คุ้มกันการค้าเข้าจัดการได้
ที่ค่อนข้างยุ่งยากเหมือนเป็นทางลี่เทา เรียกว่าส่านซีสามชายแดน แผ่นดินหมิงมีเก้าชายแดน ส่านซีเองก็มีถึงสามชายแดนแล้ว กู้หยวน เหยียนสุยกับอวี้หลิน ส่านซีถูกรวมเป็นหนึ่ง อิทธิพลอำนาจวุ่นวายทับซ้อนกัน เพราะเรื่องนี้ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมไม่น้อย
เทียบกับซานซีและหนิงเซี่ยแล้ว ลี่เทาอยู่ส่านซีได้รับการช่วยเหลือน้อยมาก ยากลำบากทุกด้าน แต่ทว่าตอนนั้นมอบส่านซีให้ลี่เทาไปไม่ใช่ไม่มีเหตุผล ลี่เทาแม้อายุไม่มาก แต่ทำงานแล้วโหดเหี้ยมอยู่มาก เขานำกำลังกองเก่งกล้ากองกำลังหู่เวย
ในเวลาคับขัน เขานำกำลังไปยังกำแพงเมืองสิบวัน รบสี่ทิศต่อเนื่องปราบได้หมด ตัดหัวไปได้สามพันกว่า กวาดป้อมค่ายอีก 20 กว่า ชาวบ้านในป้อมค่ายถูกนำเข้าด่าน พริบตาสถานการณ์ส่านซีก็สงบ ส่านซีสงบมานานไป อย่างไรก็ไม่เคยเห็นคนตายมากเพียงนี้ หลั่งเลือดมากเพียงนี้ ทุกคนล้วนเหน็บหนาวใจ พากันสงบลง
หวังทงแอบวิเคราะห์ลี่เทาไว้ว่า ลี่เทาเป็นขุนพลทหารกองกำลังหู่เวยที่เลือดเย็นที่สุดคนหนึ่ง และการแสวงหาอำนาจนั้นก็เป็นอะไรที่คนอื่นเทียบไม่ติด กว่าจะมีโอกาสได้ครองเมืองหนึ่ง เขาย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้พังในมือตน
แต่ส่านซีเทียบกับที่อื่นแล้วเรียกได้ว่าใหญ่กว่ามาก สถานการณ์ซับซ้อนกว่ามาก แต่การแบ่งเป็นสามหน่วยตอนนี้เหมือนไม่เหมาะนัก ราชสำนักมีข่าวเล็ดรอดมาว่าคิดให้กองกำลังส่านซีแบ่งออกเป็นสี่หน่วย
เหลียวหนิงเริ่มเปิดตัว แต่ทว่าที่มีความเห็นต่อเหลียวหนิงมากที่สุดกลับเป็นขุนนางเหอหนานกับหูกว่าง ถกเถียงกันนานสามเดือนกว่า เหลียวหนิงกับเขตปกครองเหนือ เมืองหลวงและเทียนจิน เป็นฝ่ายเดียวกัน เหอหนานกับหูกว่างเป็นฝ่ายเดียวกัน ซานตงค่อนไปทางเหอหนานและหูกว่าง
สาเหตุก็ง่ายมา เหลียวหนิงบุกเบิกพื้นที่ ราษฎรที่รับมาอยู่ส่วนใหญ่เป็นราษฎรยากจนจากสองแห่งนี้ จากซานตงก็ไม่น้อย
หากเป็นเมื่อก่อน ขุนนางท้องที่พอเห็นราษฎรลดลง พื้นที่เงียบสงบ ก็คงยอมรับเงียบๆ แต่เมื่อรับคนไปนับวันยิ่งมาก คนมีอำนาจในพื้นที่ตอนนี้ก็ล้วนเริ่มกังวลเรื่องแรงงานคน สภาพนี้แน่นอนย่อมก่อให้เกิดความขัดแย้ง นี่เป็นการพัฒนาแห่งยุคสมัยนี้
[1] น้ำหนัก 1 เฉียนเท่ากับ 3.72 กรัม 1เหลี่ยงเท่ากับ 10 เฉียน หรือ 37.2 กรัม ส่วนหนึ่งจินเท่ากับ 16 เหลี่ยงหรือ 595 กรัม