องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1070 ต้นปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 20
คนแผ่นดินหมิงถึงกับได้เป็นซามูไร และยังเป็นซามูไรชั้นสูง ทำให้หลายคนไม่พอใจ ยิ่งได้ข่าวลือว่า เจ้าทะเลนี่วันหน้าจะเป็นผู้ครองชิเซ็น ได้เป็นถึงไดเมียวปกครอง เรื่องนี้แม้เป็นเรื่องเหลวไหล แต่ไม่มีผู้ใดกล้ากล่าวว่าไม่ถูกต้อง ผู้ใดหากไปกล่าวอันใดต่อหน้าใต้เท้าคัมปะกุที่กำลังเศร้าเสียใจตอนนี้ โดนคว้านท้องกับริบคืนบำเหน็จก็อาจเป็นได้
และกำลังเสิ่นหวั่งเองก็ยิ่งใหญ่เพียงพอ ไดเมียวมากมาย ทหารเรือใหญ่น้อย ไม่มีกำลังใดจะเทียบเท่ากองเรือเสิ่นหวั่ง
สถานะเสิ่นหวั่งตอนนี้ไม่ธรรมดา เมืองท่าในคิวชูกับฮอนชูหลายแห่งล้วนให้สิทธิเขาในการทำการค้า เขาเดิมก็มีการค้าประเทศวัวกับแผ่นดินหมิงที่เป็นข้อได้เปรียบอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ยิ่งได้เปรียบผู้อื่นอย่างสิ้นเชิง
ตอนนี้คิดจะทำการค้ากับประเทศวัวก็ต้องร่วมมือกับเขา เจ้าทะเลเล็กใหญ่ที่เคยหากินกับประเทศวัว ไม่มาสวามิภักดิ์ ก็ร่วมเป็นพันธมิตร เสิ่นหวั่งคุมแทบทั้งหมดแล้ว ไม่ใช่ไม่มีคนคิดกินรวบ แม้ทหารบกทั้งหมดรวมกันรอบทะเลประเทศวัว พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้จริง
หากไม่ใช่ว่ารู้หรือมีคนบอก มองการแต่งกายเสิ่นหวั่งแบบชาวประเทศวัวแล้ว เป็นชุดชั้นสูง ท่าทางกิริยา ผู้ใดก็ล้วนมองไม่ออกว่าเสิ่นหวั่งมีอันใดต่างจากไดเมียวอื่น ล้วนเป็นเหมือนคนท้องทะเลคิวชูแห่งประเทศวัว
หลังมายังเมืองโอซาก้า เสิ่นหวั่งจัดการไปคารวะศพไว้เป็นอันดับแรก ขุนนางและทหารของคัมปะกุล้วนให้ความเกรงใจและมีมารยาทกับใต้เท้าเสิ่นผู้นี้อย่างมาก คัมปะกุโทโยโตมิ ฮิเดโยชิแม้เศร้าเช่นนี้ แต่ก็ยังหาเวลาพบกับเสิ่นหวั่งตามลำพัง และยังคุยกันส่วนตัวอยู่นาน เสิ่นหวั่งย่อมได้รับสิทธิพิเศษนี้
ตระกูลอาริมะกับตระกูลริวโซจิเดิมที่ไม่พอใจสถานะเสิ่นหวั่ง ก็เริ่มมาสร้างไมตรีส่วนตัวกัน ตระกลูชิมัสสึถึงกับยังส่งบุตรสาวมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์
เสิ่นหวั่งตอนนี้กล่าวได้ว่าพึงพอใจอย่างมาก บนแผ่นดินหมิงเขาเป็นแค่โจรสลัดคนหนึ่ง แม้ว่าขุนนางจะเคารพนอบน้อมเขา แต่ก็แค่เห็นแก่เงินทองเขาเท่านั้น ขุนนางใดก็มีสิทธิ์จับเขาได้ทั้งนั้น ราษฎรใดล้วนดูถูกเขาได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เสิ่นหวั่งในประเทศวัวเป็นคนเหนือคน เป็นชนชั้นขุนนางชั้นสูงแล้ว
แต่หน้าตาก็ส่วนหน้าตา พึงใจก็ส่วนพึงใจ เสิ่นหวั่งอยู่ประเทศวัวนับว่าดี แต่หากจากที่นี่ไป ก็ยังคงไม่ได้อะไรติดตัว
เดิมคิดว่ามาถึงประเทศวัวตั้งเครือข่ายตนได้ก็จะห่างจากเทียนจินได้ แต่เสิ่นหวั่งมาถึงประเทศวัวกลับพบว่า ตอนนี้ทะเลตะวันออก คิดจะทำการค้า คิดจะซื้อหาสินค้าให้ได้กำไรมหาศาล ล้วนต้องเป็นพันธมิตรกับเครือข่ายสามธารา
เช่นการค้าน้ำตาลอ้อยที่ทำกำไรมากที่สุด หลังยึดครองลูซอน การขนส่งน้ำตาลอ้อยทั้งหมดล้วนต้องผ่านเขตควบคุมกองเรือสามธารา การเข้าพัฒนาการปลูกและหีบอ้อยในลูซอน ทำให้น้ำตาลอ้อยเพิ่มปริมาณขึ้นมาก สามารถเข้าสู่ตลาดประเทศวัวได้
ผ้าไหม สมุนไพร กับเครื่องกระเบื้องเคลือบ ซงเจียงกับเทียนจินก็ล้วนอยู่ใต้การควบคุมของเครือข่ายสามธารา เสิ่นหวั่งตอนนี้ทำกำไรบนท้องทะเลแต่ละเงินทองที่ได้มา เครือข่ายสามธาราล้วนได้ไปครึ่งหนึ่งหรือมากกว่านั้น ถูกคนสกัดจุดไว้เช่นนี้ รสชาติไม่อาจทนรับได้ เสิ่นหวั่งพยายามสลัดให้หลุด
ที่ทำให้เสิ่นหวั่งไม่พอใจมากก็คือเขาเดิมทีหาพ่อค้าหนังสัตว์ที่เกาหลีได้แล้วรายหนึ่ง คิดว่าพบแหล่งทำกำไรแล้ว คิดไม่ถึงพอส่งคนไปสอบถาม ก็วกไปวนมา ถึงกับเป็นกิจการสามธารา ตอนนี้บนท้องทะเลนี้ถึงกับหนีไม่พ้นเขตอิทธิพลหวังทง
เสิ่นหวั่งตอนนี้ได้ครองเมืองท่า เป็นเมืองท่าที่เป็นของตนเอง ก็ตั้งใจอย่างมาก ขอเพียงมีเมืองท่านี้ เขาก็สามารถมีที่ตั้งถาวรเป็นหลักแหล่ง มีที่ส่งสินค้าให้เขา
ด้วยความคิดนี้ ทำให้เสิ่นหวั่งยิ่งใส่ใจคำสั่งโทโยโตมิ ฮิเดโยชิมาก ให้เขารวบรวมกองเรือ รวบรวมเรือที่ใช้การได้ เงินทองที่โทโยโตมิ ฮิเดโยชิให้เขานั้นมีปริมาณมาก หากเป็นเมื่อก่อน ก็ย่อมเป็นโอกาสขูดรีด แต่เสิ่นหวั่งไม่ได้ละโมบ หากพยายามสุดความสามารถในการหาเรือและคนมาให้มากที่สุด
ท่าทีการทำงานของเขาทำให้ซามูไรที่โทโยโตมิ ฮิเดโยชิส่งมาดูแลพอใจมาก เสิ่นหวั่งก็ยิ่งได้รับความไว้วางใจจากโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ทำให้ชื่อเสียงยิ่งมาก เรือเสิ่นหวั่งตอนนี้ยังมีใช้มากพอ สิ่งที่เขาทำนั้นยากที่จะปิดบังคนที่ต้องการอยากรู้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง พ่อค้าใหญ่ที่นี่เริ่มขนสินค้าและเสบียงอาหารหลากหลายมาทั้งทางน้ำทางบกมายังชิเซ็นและชิคุเซ็น ทางนั้นไปทางตะวันตกก็คือเกาะสึชิมะ เกาะสึชิมะข้ามไปทางตะวันตกก็คือเกาหลีแล้ว
เกาหลีมีอันใด ที่นั่นล้วนมีแต่ความยากจนข้นแค้น ผลประโยชน์ใดยังต้องเข้าไปหาเอาทางตะวันตกฝั่งแผ่นดินหมิง ที่นั่นตามตำนานว่ากันว่าซ่อนทองคำเอาไว้
****************
ตามหลักการแล้ว แผ่นดินหมิงเป็นประเทศใหญ่ ประเทศวัวเป็นประเทศเล็ก สองฝ่ายไม่อาจอยู่สถานะเจรจากันได้ แต่มาคิดให้ดีก็อาจไม่ใช่เช่นนี้ สมัยฮ่องเต้เจียจิ้ง ภัยตะวันออกเฉียงใต้ โจรสลัดวัวโค่วที่แทบสั่นคลอนแผ่นดินหมิง ประเทศวัวตอนนั้นก็ใช้กำลังซามูไรเป็นหลัก ทำเอาทหารหมิงเสียหายหนักมาก
มาดูตอนนี้ แผ่นดินหมิงสงบมานาน ขุนศึกและทหารประเทศวัวกลับเพิ่งเริ่มหยุดรบกัน หนึ่งสงบมานาน อีกหนึ่งเพิ่งกวาดล้างเสร็จ เรื่องนี้แน่นอนไม่เหมือนกัน
พ่อค้าทะเลไปมาแผ่นดินหมิงกับประเทศวัวเห็นขุนศึกและทหารประเทศวัวมามาก เห็นแผ่นดินหมิงน้อยกว่า ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรกองกำลังหลวงอันใดบนทุ่งหญ้า สำหรับพวกเขาแล้วล้วนเป็นเรื่องเล่าลือ ความจริงเท็จเช่นไรยากแยกแยะ แต่ประเทศวัวรบกันมาสองร้อยปี ไปมาหลายเมืองท่า ที่ได้เห็นได้ยินมาไม่น้อย
ราชสำนักแผ่นดินหมิงวิพากษ์วิจารณ์อะไร คืนนั้นก็จะไปเล่าลือกันในร้านน้ำชาและโรงสุรา ไม่ต่างอันใดกับที่ประเทศวัว เรื่องลับอาจจะยังดี แต่วันที่สองหรือสาม ทุกมุมเมืองก็ย่อมแพร่ข่าวไปทั่ว
ใต้เท้าคัมปะกุคิดจะรวบกำลังคนจำนวนมาก เดือนสิบเอ็ด ปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 19 คนมีสถานะล้วนรู้กัน ไม่น้อยกว่าสองแสน
ทัพใหญ่สองแสน หลายปีที่รบกันมานี้ กำลังคนออกรบเช่นนี้ก็มีแค่ปีก่อนที่ยกทัพปราบตระกูลโฮโจ ครั้งนี้ถึงกับต้องการกำลังรบใหญ่เช่นนี้ และขุนศึกกับทหารล้วนได้ข่าวว่า มีหน่วยทหารกล้าไซโกกุกับรอบคิวชูสี่เมือง
ขนาดกำลังเช่นนี้ ขุนศึกกับทหารเช่นนี้ ร่วมสองแสน แผ่นดินหมิงมีกี่ครั้งกันที่เคลื่อนกำลังรบได้เช่นนี้ มาคิดให้ดี หลายปีนี้ก็เหมือนไม่มี
การรบหลายครั้งล้วนกล่าวว่าหลายแสน แต่ทว่าเป็นแค่ตัวเลขไม่จริงนัก เรียกว่าล้านอาจมี แต่ความจริงคนเท่าไร คิดให้ดีเหมือนว่าไม่เกินแสน ทหารแผ่นดินหมิงไม่ใช่สู้เป็นทุกคน ยังต้องแบ่งเป็นทหารในสังกัดขุนพล ทหารมาตรฐานที่ฝึกมา ทหารกองกำลังจริง ทหารมากมายก็แค่แขวนชื่อว่าทหารเท่านั้น ความจริงนั้นเอาไว้ทำงานขนย้ายใช้แรงงานในกองทัพเท่านั้น
แต่ประเทศวัวสองแสนนี้ หากคิดให้ดี ล้วนเป็นทหารเก่าจากหลายแห่ง ล้วนออกรบในสนามรบมาอย่างโชกโชน ไม่มีทหารแค่ชื่อ กำลังเช่นนี้หากไปเกาหลีจริง ใช่ว่าเป็นกองกำลังยิ่งใหญ่หรือ เดินทัพมาองอาจเหิมเกริม หากเข้าแผ่นดินหมิง ทางเหลียวหนิงเกรงว่าคงไม่มีกำลังต้านทานป้องกันเพียงพอ
บรรดาเจ้าทะเลอยู่บนท้องทะเลมานาน พวกเขาเห็นอะไรมาไม่น้อย แต่สามารถวิเคราะห์ได้ไม่มาก แต่ทว่าก็ไม่อาจห้ามหากพวกเขาทำการวิเคราะห์ผลดีผลเสีย
เสิ่นหวั่งกำลังได้เป็นไดเมียวแห่งชิเซ็น ข่าวนี้ทำให้พวกเขาอิจฉามาก ราชาไตรธาราครั้งนี้ได้เป็นราชาจริงๆ แล้ว หลายคนล้วนกล่าวเช่นนี้ เขามีเรือ มีคน ข้าเองก็มีเรือ มีคน เหตุใดข้าไม่อาจทำได้บ้างเล่า จึงมีอิทธิพลอำนาจใหญ่น้อยมาให้ความช่วยเหลือ
สำหรับเจ้าทะเลแผ่นดินหมิงเหล่านี้ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิแน่นอนเป็นผลประโยชน์มากมาย ประเทศวัวสามารถใช้เรือใหญ่ที่เรียกว่า เรืออะตะเกะ เรือใหญ่ด้านบนมีพื้นราบให้สร้างหอไม้ตั้งปืนและไว้ยิงธนู แต่ไม่อาจทนแรงลมคลื่นทะเล เรือเล็กไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง แม้แต่เทคนิคการตอกเหล็กล้วนเพิ่งทำเป็นหลายปีนี้เอง ไม่อาจเทียบกับเรือแผ่นดินหมิงได้
ความจริงนั้น พวกฮอลันดากับโปรตุเกสยอมให้ยืมเรือมาก แต่พวกเขาให้มาได้แค่ไม่ถึงสิบลำ และยังขอค่าตอบแทนสูงลิ่ว
นอกจากเสิ่นหวั่ง ยังมีเจ้าทะเลเกิดใหม่ให้กำลังคนและเรือ สำหรับคนระดับนี้ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิย่อมมอบรางวัลให้อย่างงาม เขาเองรู้ว่าไม่อาจอาศัยแค่ตระกูลเดียว ต้องทำให้สมดุล
รอนแรมบนท้องทะเลมานาน เห็นคลื่นลมมามาก เห็นความตายมามาก คนบนท้องทะเลชินกับการเสี่ยงภัย แต่เจ้าทะเล พ่อค้าทะเลมีความเหมือนกันที่ชอบสะสมทรัพย์สินเงินทอง ไม่ใช่ว่าทุกคนอยากจะสู้ดู หลายยังอยากรอชม ดูว่าเรื่องสุดท้ายจะลงเอยเช่นไร
พวกเขาไม่อยากสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนผู้ใดออกหน้า พวกเขาขอแค่เงินทอง ประเทศวัวยอมใช้ทองคำกับสิทธิการค้ามาซื้อน้ำใจพวกเขา พวกเขาแน่นอนยินดีช่วยเหลือ
บรรดาเจ้าทะเลกับพ่อค้าทะเลเป็นพวกไร้น้ำใจกับคนของตน ตอนหลังเหตุการณ์โจรสลัดวัวโค่วตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่โจรสลัดถูกขับไปทางประเทศวัว พวกเขาไม่รู้สึกว่าตนเองทำเรื่องพวกนี้ควรหรือไม่ เป็นผู้ทรยศแผ่นดินหมิงหรือไม่ พวกเขาเพียงแค่รู้สึกว่ามีเงินมีกำไร ไยไม่ทำ
เคยมีบาทหลวงบันทึกในตอนออกท่องเที่ยวไว้ว่า ‘โจรสลัดหมิงกล่าวชัดเจนว่าไม่ควรเห็นพวกเขาเป็นราษฎร ประเทศอันใด พวกเขามีแค่ประเทศเดียว พูดให้ถูกก็คือ ที่พวกเขาทำนั้นเหมือนกับพวกฮอลันดา อิทธิพลอำนาจบนท้องทะเลตนเป็นหนึ่ง พวกเขามีผลประโยชน์ตนเอง มีคนค่อนไปทางฝ่ายหมิง มีคนค่อนไปทางประเทศวัว ยิ่งมีคนคิดยอมรับแค่เพียงตนเอง…พวกเขามีแผ่นดินตนเอง ไม่เป็นของพวกเขาเอง ก็อาจร่วมกับพวกฮออลันดา…’
การมีผลได้ผลเสียกับวิเคราะห์เช่นนี้ ภายนอกก็ช่วยประเทศวัวรุกรานเกาหลี พวกที่วางตัวเป็นคนนอก ก็มีบ้างทีเริ่มเป็นห่วงแผ่นดินหมิง
เดือนสิบสอง ปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 19 มีพ่อค้าทะเลจูจวิ้นวั่งกับเฉินเซินมารายงานที่ฝูโจวกับผู้ตรวจการฮกเกี้ยน ชาวประเทศวัวกำลังรุกรานเกาหลีและจะรุกต่อมายังแผ่นดินหมิง
แต่ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่ควรกล่าวถึง แผ่นดินหมิงมีโทษหนักกับการลอบติดต่อโจรสลัด เจ้ารายงานข่าว เจ้าได้ข่าวมาจากไหนกัน หากไม่ได้ติดต่อกับชาวประเทศวัว ก็ย่อมยากอธิบานที่มานี้กระจ่าง
และพวกที่คิดว่าตนวิเคราะห์เป็นล้วนคิดว่า เรื่องที่ประเทศวัวรุกรานเกาหลีช่างไม่อาจเป็นได้ เหลวไหลสิ้นดี ห่างไกลความจริง ตั้งแต่สมัยฮ่องเต้เจียจิ้ง แผ่นดินหมิงไม่เคยถูกรุกราน จะมีกำลังรุกรานมาถึงสองแสนได้อย่างไร ช่างเป็นแค่ข่าวลือเสียจริง จงใจให้เกิดความวุ่นวายใช่ไหม?
ตอนนั้นแถบฮกเกี้ยน เจ้อเจียงเล่นงิ้วกัน มีคนล้อเลียนตะโกนว่า ‘โจรสลัดมา’ หลายคนแตกตื่นตกใจ หลายร้อยคนเบียดเสียดกันตาย มีโจรถือโอกาสปล้น หรือว่าครั้งนี้ไม่ใช่กัน?
พ่อค้าทะเลสองคนนี้ถูกจับตัวทันที ส่งเข้าคุก ผู้ตรวจการฮกเกี้ยนกล่าวว่า
“สมคบคิดโจรสลัดกลับคิดว่าเป็นความชอบ ทำให้คนวุ่นวายเพื่อรับประโยชน์!”
ทุกคนพากันสรรเสริญว่า ใต้เท้าสยบสถานการณ์ได้ ไม่หลงกลอุบายคนชั่ว เป็นดังมหาอำมาตย์
แต่ทว่าเรื่องนี้ทำให้คนตกใจจริง ใต้เท้าผู้ตรวจการแม้ว่าจัดการไปเช่นนี้ องครักษ์เสื้อแพรในพื้นที่กลับไม่กล้าวิเคราะห์เช่นนี้ รีบส่งคนไปในคุกสอบสวน นำข่าวม้าเร็วส่งไปเมืองหลวง
การกระทำนี้ถูกใต้เท้าผู้ตรวจการตำหนิว่าพวกเรารับเบี้ยหวัดราชสำนักด้วยกัน อย่าได้ทำเรื่องเหลวไหล เดิมทีไม่มีเรื่อง พวกเจ้าไปสอบเรื่องก็คงกลายเป็นเรื่องแล้ว แพร่ออกไป ใช่ว่าทำให้คนแตกตื่นหรือ คิดหรือว่าชาวประเทศวัวรุกรานมาจริงๆ
“หากไม่มีหวังทง พวกเจ้าวันนี้จะกล้าเหิมเกริมเช่นนี้หรือ!”
ใต้เท้าผู้ตรวจการกล่าวด้วยน้ำใจองอาจทรงคุณธรรม อย่างไรหวังทงตอนนี้เป็นเหลียวกั๋วกงที่ไม่ได้อยู่เมืองหลวง ด่าคำสองคำที่ฮกเกี้ยนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยังได้ชื่อเสียงว่ามือสะอาดไม่เกรงกลัวขุนนางชั่ว
แต่ไรมาก็เป็นธรรมเนียมเช่นนี้ แต่เรื่องครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้ตรวจการฮกเกี้ยนคาดไว้ นายกองพันองครักษ์เสื้อแพรที่ถูกสั่งสอนนำวาจาเขารายงานไปยังเมืองหลวงด้วย ความจริงนั้นหลายที่ด่าทอหวังทงกันมาก องครักษ์เสื้อแพรไม่สนใจเท่าไร เหลียวกั๋วกงผู้บัญชาการหวังตนเองล้วนแค่ยิ้มเท่านั้น ทุกคนไยต้องใส่ใจ
แต่ครั้งนี้ไม่ได้ ปลายเดือนหนึ่งปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 20 ผู้แทนพระองค์เร่งเดินทางมายังฝูโจวอ่านความผิดผู้ตรวจการฮกเกี้ยนปลดจากตำแหน่งส่งเข้าคุก นำตัวจูจวิ้นวั่งกับเฉินเซินสองคนออกจากคุกมาสอบสวน และจัดเรือให้นำตัวขึ้นเหนือไปยังเมืองหลวง
****************
ซ่งฉานฉานคลอดลูกชาย รู้ว่าลูกปลอดภัย และเป็นเด็กชาย ซ่งฉานฉานดีใจหลั่งน้ำตา ทำเอานางแม่นมที่ดูแลตกใจ รีบปลอบใจ อยู่เดือนร้องไห้ทำลายสุขภาพ
หวังทงแน่นอนยินดีที่สุด ครั้งนี้ตั้งชื่อกลับผ่อนคลายกว่าครั้งก่อนมาก ในเมื่อมีคำว่า ‘จง’ แล้ว ก็ย่อมมีชื่อว่า ‘หวังอี้’ แปลว่า ‘คุณธรรม’
หวังทงได้ลูกชาย ทั้งแดนใต้ล้วนยินดี มาถึงเดือนหนึ่งปีรัชสมัยว่านลี่ที่ 20 ทุกคนล้วนใช้โอกาสนี้มาแสดงความยินดีให้คึกคัก อวยพรกันถึงจวน ไม่ใช่เพราะใต้เท้าหวังได้บุตรชาย แต่เป็นเพราะหาโอกาสใกล้ชิดเหลียวกั๋วกง หวังทงแน่นอนย่อมร่วมฉลองไปด้วย
บุตรชายเว่ยกั๋วกงต้นเดือนสองมาเยือน ผู้นี้อย่างไรไม่ว่ามองมุมใดก็เป็นแขกคนสำคัญ หวังทงจัดงานเลี้ยงรับ คารวะสุราไปแล้ว ก็กินดื่มสำราญ ทหารติดตามวิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจ บอกว่าเป็นข่าวด่วนจากเมืองหลวง หวังทงเปิดออกอ่าน สีหน้ารอยยิ้มพลันมลายหายไปสิ้น…
โทโยโตมิ ฮิเดโยชิส่งสาส์นให้จักรพรรดิเกาหลี กล่าวว่า ‘…อยากขอเส้นทาง ผ่านทางซานไห่ เข้าสู่แผ่นดินหมิง ครอบครองแผ่นดิน…’