องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1100 ล้วนตามคาด
ปิดสามเปิดหนึ่ง ประเด็นไม่ใช่สาม หากอยู่ที่หนึ่ง ยุทธวิธีรบนี้ล้วนใช้กันหลายแห่ง วิธีการรบแผ่นดินหมิงอาจมีทหารประเทศวัวเคยอ่านกันมาก
ทัพใหญ่เกือบสองหมื่นจากประตูตะวันออกบุกฝ่าออกไป โคนิชิ ยูกินากะรู้นอกเมืองย่อมไม่มีทางกว้างให้ตนเองนำทหารกองรบหนึ่งหนีออกไปได้อย่างราบรื่น สถานการณ์เช่นนี้ กลางคืนไม่ต้องคิดว่าจะพักผ่อนอันใดกันแล้ว โคนิชิ ยูกินากะกลางวันแม้ว่ารับมือได้ลนลาน แต่กลางคืนกลับเริ่มนิ่งมีแผน
ทหารราบนนำโดยซามูไรแต่ละกองถูกส่งออกไป ถึงกับยังมีนินจาในสังกัดตนนำออกไปด้วย แต่ละกองล้วนคนไม่มาก แต่ได้ผลตามความต้องการ สามารถก่อกวนทัพกองกำลังหมิงได้ กองกำลังนินจาให้สืบข่าวและเข้าลอบสังหารในกระโจมแม่ทัพหมิง หากสามารถสังหารแม่ทัพอีกฝ่ายได้ย่อมดีที่สุด อย่างน้อยก็ก่อให้เกิดความวุ่นวายได้
นินจาประเทศวัวมีตำนานมหัศจรรย์พันลึกมากมาย แต่ทว่าสถานะในประเทศวัวแต่ไรมาล้วนต่ำต้อย เทียบกับซามูไรแล้วห่างชั้นกันมาก น่าแสดงให้เห็นความสามารถแท้จริงของพวกเขา
ขุนพลทหารโจรวัวโค่วเรียกระดมกองกำลังเช่นนี้ กองกำลังหมิงเองก็เช่นกัน คืนนี้ไม่นอน นักรบถูกส่งออกไปเพื่อก่อกวนและสืบข่าวเช่นกัน
สองฝ่ายในความมืด ปะทะกันในความมืด สังหารกันและกัน เพราะสองฝ่ายตั้งฐานใกล้กันมาก เสียงสังหารจึงมักทำให้ทหารสองฝ่ายตกใจแตกตื่น จากนั้นก็กลายเป็นการรบใหญ่ค่ำคืน การเข่นฆ่ากันยามมืดมิดมักสังหารผิดได้ง่าย ทำให้เกิดความสับสนอลหม่านได้ง่าย
กลางคืนในเปียงยางยาวนาน เสียงสังหารดังมาจากที่ใดสักที่หนึ่ง จากนั้นก็สงบลงอย่างรวดเร็ว แต่คนทั้งเมืองล้วนไม่ได้พักผ่อน ทหารล้วนกำลังเตรียมพร้อม
เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้ไม่มีผู้ใดทันสังเกต ประเทศวัวใช้ระบบแบบเดียวกับแผ่นดินหมิง ตอนนี้สองฝ่ายล้วนควรอยู่ในช่วงปีใหม่ ปกติล้วนเต็มไปด้วยบรรยากาศเฉลิมฉลอง แต่ยามนี้ผู้ใดจะยังสนใจเรื่องพวกนี้อีก
“ใต้เท้า โจรวัวโค่วเปิดประตูตะวันออก ทัพใหญ่หนีออกนอกเมืองแล้ว!”
ฟ้าเริ่มรำไร พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น หลี่หรูซงนอนไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ก็ได้รับรายงานด่วน ไม่อาจเรียกว่าไม่ได้พักผ่อน เพราะทุกคนความจริงนั้นล้วนสวมเกราะอยู่ในกระโจมแม่ทัพรอข่าว หลี่หรูป๋อกับหลี่หรูซงอยู่กระโจมกลาง ที่เหลือล้วนรอในกระโจมตน ทหารถ่ายทอดคำสั่งรอข่าวอยู่รอบๆ กระโจมแม่ทัพ!
“หนีแล้ว พี่ใหญ่ ตอนนี้ให้ทหารม้าไล่ล่า ความชอบใหญ่ๆ!”
ได้ยินข่าวนี้ หลี่หรูป๋อห่อตัวในเสื้อคลุมหนังหมีก็แทบจะกระโดดตัวลอย ตะโกนลิงโลด ในกระโจมแม่ทัพ ยิ่งออกคำสั่งก็ยิ่งดูเร่งร้อน แต่ทว่าตระกูลหลี่ทุกคนล้วนเข้าใจว่าเหตุใด
หลี่หรูซงขมวดคิ้ว ด่าอย่างไม่สบอารมณ์นักว่า
“ไล่ตามบ้าไร ไล่ตามไปเช่นนี้ ทหารที่เจ้าเลี้ยงมาก็คงจับจ้องแต่เงินทองและหัวศัตรู จะไปตามล่าหรือไง เกรงว่าคงไล่ตามจนเกิดจลาจลแทน ถ่ายทอดคำสั่งข้า รวมกำลังบุกเข้าเมืองทันที ขับไล่โจรวัวโค่วออกนอกเมือง!”
“พี่ใหญ่ ไล่ล่านอกเมืองไม่ทำแล้วหรือ!”
“เมื่อวานสั่งให้หลี่หนิงกับฉาต้าโข่วไปแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดมาก!”
การนำคำสั่งไปยังพื้นที่ต่างๆ ไม่ง่าย โดยเฉพาะพื้นที่ซับซ้อนในเมืองเปียงยาง ถนนสายแคบก็ยิ่งเสียเวลา แต่ทว่าพระอาทิตย์เริ่มขึ้นขอบฟ้าแล้ว การต่อสู้จะเริ่มอีกแล้ว
ในเมืองเปียงยางเริ่มคึกคักวุ่นวาย กองกำลังหมิงตั้งพักมาแต่คืนวานก็เริ่มกำหนดเขตโจมตีโจรวัวโค่วได้แล้ว
แต่ทว่าคึกคักกันแค่ฝ่ายเดียว ส่วนใหญ่การโจมตีล้วนสูญเปล่า เพราะโจรวัวโค่วหายไปหมดจากที่พักไปรวมตัวกันแล้ว ทหารกองกำลังหมิงไม่ได้รวมตัวกันอยู่ ยามนี้ก็ไม่กล้าไล่ล่า
ทหารโจรวัวโค่วถอนทัพ ตอนนี้ทัพใหญ่ทหารโจรวัวโค่วกำลังรวมตัวกัน แต่กำลังกองกำลังหมิงกลับกระจัดกระจาย ไม่ว่าเพราะการจัดการเมื่อคืนวาน หรือเป็นเพราะบ้านเรือนและถนนที่ทำให้กระจัดกระจาย แต่ละคนล้วนไม่กล้าเคลื่อนไหวพลการ รีบรอคำสั่งรายงาน การรับมือเช่นนี้เป็นไปตามหลักการ
หลี่หรูซงรีบถ่ายทอดคำสั่งไปยังแต่ละกองในเปียงยาง ให้มารวมตัวกันที่ราบกว้าง จากนั้นค่อยบุกต่อ การรบหลังม้ากำลังจะเริ่มดุเดือดอีกแล้ว ณ หอกลองใจกลางเมือง ทัพใหญ่สองฝ่ายจะปะทะกันแล้ว
กับเมื่อวานแย่งชิงเมืองไม่เหมือนกัน ทหารโจรวัวโค่วที่นี่เข้มแข็งกว่ามาก และยังชำนาญการรบ ได้เปรียบพื้นที่ทำให้ผลปืนใหญ่วัวโค่วเกือบพันยิงได้สามรอบ จากนั้นก็ถอย ธนูกองกำลังหมิงยิงกวาด กลับถูกอีกฝ่ายพากันไปหลบหลังสิ่งก่อสร้างและใช้ประตูไม้ทำเป็นโล่บัง
ยามนี้ปะลองกองกำลัง ซามูไรจำนวนมากสวมเกราะ มือถือดาบนาว ยังมีธนู เทียบกับทหารราบเมื่อวานแล้วเหนือกว่ามาก
การต่อสู้ในเมือง ความเห็นจู่เฉิงซวิ่นมีประโยชน์มาก กองกำลังหมิงดันทหารราบเข้าไปก่อน เมื่อวานอลหม่านกันหน้าประตูเมือง พวกเก่งกล้ารู้ว่าควรบุกเข้าไป แต่วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน พวกเขากลับไปบุกเข้าไป หากให้ทหารดันทหารราบเข้าไปก่อน
ทหารราบเมืองเหลียวโจวว่าไปแล้วก็ใช่ว่าจะเก่งกล้ากว่าทหารราบนั่น ถึงกับอาจไม่รู้ว่า ครั้งนี้มีซามูไรเป็นหลัก กลิ่นอายสังหารเปล่งรัศมีกดดัน
“มารดามันสิ เจ้านั่นบอกว่าโจรวัวโค่วไม่มีธนู ยังบอกว่ามีแต่สายเกาหลีที่ใช้กัน!”
มีขุนพลทหารตวาดด่าเสียงดังกลางวง โจรวัวโค่วเองมีธนู การต่อสู้ซึ่งๆ หน้ากันเช่นนี้ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายไม่น้อย ที่กองกำลังหมิงคิดไม่ถึงก็คือธนูโจรวัวโค่วเป็นธนูใหญ่ ธนูไม่ยาว ยิงไม่ไกล แต่หัวหนักและใหญ่ พอยิงโดนเข้า บาดแผลไม่เล็ก เลือดย่อมไหลไร้แรงต่อสู้ ความจริงนั้นมีความคล้ายกับธนูชาวเผ่าหนี่ว์เจิน
“ลากปืนใหญ่มานี่ ๆ!”
การโจมตีหลายครั้ง กลับถูกพวกโจรวัวโค่วจัดการจนเลือดตกยางออก นายกองกองกำลังหมิงหลายคนเริ่มไม่อาจสูญเสียอีกแล้ว อย่างไรก็มีปืนใหญ่ และยังเป็นปืนใหญ่กระสุนสามชั่งกับปืนใหญ่กระสุนหกชั่งจากโรงช่างสามธาราที่ซื้อมามาพร้อมแท่นล้อเข็นปืนใหญ่ ลากออกมาง่ายมาก ยิงมารดามันไปเลย
ณ ประตูตะวันออก ทัพใหญ่โจรวัวโค่วออกมาด้านนอกแล้ว เดิมทีโจรวัวโค่วใช้การเดินทัพแบบทหารราบอยู่กลาง พลปืนใหญ่วัวโค่วอยู่สองปีก เพราะพลปืนใหญ่วัวโค่วต้องพยายามติดไฟไว้จุดชนวนตลอดเวลา จึงต้องใช้พื้นที่มาก ซามูไรเป็นหัวหน้าอยู่กลางกองกำลัง ครั้งนี้กลับไม่เหมือนเดิม พลปืนใหญ่วัวโค่วยังคงอยู่รอบนอก หากซามูไรไม่ได้อยู่กลางกองกำลัง พวกซามูไรใช้อาวุธต่างจากพวกทหารราบ บ้างก็ถือดาบโอดาชิ ที่แปลว่าดาบใหญ่ บ้างก็ทวนหัวกากบาท แต่ตอนนี้เกือบทั้งหมดล้วนเปลี่ยนเป็นทวนยาว กองกำลังโจรวัวโค่วกองรบหนึ่งสองพันนาย ล้วนรีบออกมาจากประตู
เมื่อวานโคนิชิ ยูกินากะส่งฮิซาโน ชิเกคัตสึกองรบสามออกมาตาย วันนี้กลับไม่ได้ทำแบบเดิม โจรวัวโค่วนำกำลังมาครั้งนี้ บางกองรบเป็นกองรบไดเมียวหนึ่ง บางกองรบเป็นหลายไดเมียวรวมกันเป็นหนึ่ง กองรบหนึ่งเป็นเช่นนี้
พวกอาริมะ ฮารุโนบุล้วนเตรียมชนวนไฟพร้อม หากเจ้าโคนิชิ ยูกินากะส่งพวกเราไปตาย ก็ย่อมสู้กันสักตั้ง แต่ทว่าโคนิชิ ยูกินากะครั้งนี้กลับจัดการได้ดี ส่งทหารกองเก่งกล้าของเขาเองไป เขานำกำลังอยู่ตรงกลาง ขอเพียงปืนใหญ่วัวโค่วระดมกำลังยิงพร้อมกันได้ ในเมื่อทำเช่นนี้ ขุนพลเบื้องหน้าจึงมิได้มีความเห็นแย้ง
ทุกคนล้วนออกศึกมานาน ไม่ไร้เดียงสาอวดเก่งไปคิดเอาเองว่า รบในเมืองแล้ว กองกำลังหมิงจะไม่ลอบซุ่มนอกเมืองแต่เมื่อวานปืนใหญ่กองกำลังหมิงกับการปะทะกันก็น่าตกใจจริง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแม้แต่จำนวนคนก็ได้เปรียบ แต่ทุกคนรู้ในเมืองยิ่งอยู่ยิ่งตายแน่ ต้องรีบหนีให้เร็วที่สุด
ถนนต่างๆ ในเกาหลีไมได้ใหญ่ไปกว่าเมืองในประเทศวัว ข้ามแม่น้ำแทดองเป็นจังหวัดฮวังแฮ ไปถึงที่นั่น ไม่เพียงมีกองรบสามรอรับ หน่วยหลักที่ตั้งค่ายหลักที่จังหวัดคยองกีก็ย่อมเร่งมา ไม่ถึงสองวันก็ถึง กองกำลังหมิงกองนี้บุกไปก็ย่อมไม่ใช่ปัญหา
แต่จะหนีรอดออกไปได้ราบรื่นหรือไม่ จะข้ามแม่น้ำแทดองที่แข็งเป็นน้ำแข็งไปได้หรือไม่ ทางฝั่งตอนเหนือแม่น้ำแทดองมีพื้นที่ราบเกาหลีที่หาได้ยากแห่งหนึ่ง
มองความคดเคี้ยวแม่น้ำแทดอง เหมือนกับที่ขุนพลทหารโจรวัวโค่วคาดไว้ ขบวนทัพม้ากองกำลังหมิงไล่ตามมา
“พลกองปืนใหญ่ตรวจปืนใหญ่!! ฮาตาโมโตะเตรียมป้องกัน!!! แต่ละหน่วยรักษากองกำลังไว้ อย่าให้กองกำลังแตกกระจัดกระจาย”
ทหารขี่ม้ามาถ่ายทอดคำสั่งไม่หยุดยังแต่ละหน่วย ถ่ายทอดคำสั่งหัวหน้ากองรบ พลปืนใหญ่วัวโค่วค่อยๆ เดินช้าลง แต่พอไม่มีซามูไรอยู่วงใน ทหารราบแน่นอนได้เห็นทัพใหญ่ศัตรูพุ่งทะยานมา ตนค่อยๆ เข้าใกล้ขบวนทัพม้ากองกำลังหมิง พวกเขาบางคนเริ่มลนลาน แต่ซามูไรล้วนอยู่รอบนอก ตอนเดินทัพก็แทบจะห่อหุ้มทหารราบไว้หมด คุมทหารราบไม่ให้แตกตื่นหนี ภาพการยกทัพเช่นนี้ รอบนอกสุดรอรับศัตรู มีคนมาอยู่ด้านหน้า มีคนมารับศึกก่อนย่อมทำให้ทหารราบเบาใจ
แถวแม่น้ำแทดองมีพื้นที่ราบกว้าง สามารถมองเห็นขบวนทัพม้ากองกำลังหมิงเริ่มเคลื่อนไหว สองกองล้วนกำลังเดินทัพเข้ามา ในสถานการณ์ตอนนี้ไม่อาจตั้งทัพรับศึกได้ทัน เพราะหากต้องการจัดทัพรับศึก หากรูปทัพถูกศัตรูบุกเข้ามาได้ ก็ยิ่งง่ายกับการแตกกระเจิง
ทหารม้ากองกำลังหมิงยิ่งใกล้เข้ามา ได้ยินขุนพลทหารตะโกนดังพร้อมกันว่า
“…มีคำสั่งจึงลงจากหลังม้าได้ ไม่เช่นนั้นลงโทษวินัย…”
“…ตั้งแถวด้านหน้า…”
“…ธนู…”
ทหารปืนใหญ่วัวโค่วล้วนเริ่มจุดชนวน รักษาเชื้อไฟไว้ คนระมัดระวังรอบคอบได้บรรจุดินปืนไว้แล้ว ซามูไรหลายกลุ่มล้วนหยุดเดิน ที่โคนิชิ ยูกินากะมีธงโบกสะบัดไม่หยุด
ขบวนทัพม้าบุกเป็นแนวราบ ตำแหน่งที่ดีที่สุดก็คือกลางกองกำลัง หากตัดกลางกอง ทั้งกองกำลังล้วนอาจแตกกระจัดกระจาย ขบวนทัพม้ากองกำลังหมิงมาถูกทิศทาง หลังการวิเคราะห์ความสามารถกองกำลังหมิง โจรวัวโค่วก็รู้ ระหว่างทางทหารโจรวัวโค่วสองกองอยู่ๆ เปลี่ยนทิศทาง หันไปทางขบวนทัพม้ากองกำลังหมิงที่กำลังมุ่งหน้ามาด้านหน้า