องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 1119 ฆ่า ฆ่า ฆ่า
เส้นทางมักเป็นหุบเขาไม่ก็ริมแม่น้ำ ล้วนเป็นแอ่งต่ำที่ไม่เรียบ ทัพใหญ่โจรวัวโค่วนำเสบียงมาก็ล้วนถูกอัดกันอยู่บนเส้นทางยาวและแคบนี้
โจรวัวโค่วไม่ใช่คนโง่ คาโต คิโยมาสะใช่ว่าไม่รู้พิชัยสงคราม เขาเข้าใจดีว่าทัพทหารราบเป็นหลักในพื้นที่เช่นนี้ย่อมถูกลอบโจมตีได้ง่าย เขาคิดถึงเรื่องนี้ แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ กองกำลังหมิงมาเร็วเช่นนี้
ตามความเร็วในการไล่ตาม กองกำลังหมิงไม่ได้เสียเวลาที่เมืองฮัมฮึงมากนัก ไม่ก็ไม่ได้ไปโจมตี เห็นทหารม้ากองกำลังหมิงบุกมาด้วยความเร็วที่แม้ไม่ได้เร็วมาก แต่เห็นชัดว่าทหารม้ากองกำลังหมิงไล่มาไม่หยุด ม้าล้วนเหน็ดเหนื่อยระดับหนึ่งแล้ว แต่คุ้มค่า ไล่ตามมาทัน ก็ย่อมเปิดฉากรบได้
ทหารม้ากองกำลังหมิงอยู่ที่สูงบุกเข้ามา พวกเขาเห็นโจรวัวโค่วเบื้องหน้าราวกับแมลงวันไร้หัววิ่งเปะปะไปมาไม่สนใจอันใด ทหารม้ากองกำลังหมิงยังขี่ควบบุกเข้าไปในความเร็วคงที่ ให้ทุกคนได้ไปถึงตรงหน้า
ทหารม้ากองกำลังหมิงที่วิ่งอยู่หน้าสุดเข้าสู่เขตพื้นที่ใกล้พอควร มือยกธนูเล็ง ความเร็วยังคงอยู่ ทหารม้ากองกำลังหมิงที่บุกด้านหน้าล้วนน้าวธนูบนหลังม้า ยกยิงเอียงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ได้มุมเงย
โจรวัวโค่วเริ่มยิงปืนใหญ่วัวโค่ว เพียงแต่ปืนใหญ่วัวโค่วยิงใส่คลื่นทหารม้ามหาศาล ไม่อาจสร้างผลกระทบใดแม้แต่น้อย
“ยิง!!”
มีคนตะโกนดัง ท่ามกลางเสียงฝีเท้าม้ากับเสียงเอะอะดังราวอสุนีบาต ไม่มีคนได้ยิน แต่หลายคนล้วนมองไปยังทิศทางยิงของธนู คนที่น้าวกะระยะยิงได้แล้วก็ปล่อยมือที่ดึงสายอยู่
‘ฉึกๆ’ ธนูแหวกมากลางอากาศเป็นแถบ เหมือนเป็นกระแสลมพัดแรงบนพื้นที่ราบ ลูกธนูราวห่าฝน พริบตาทหารโจรวัวโค่วก็เห็นท้องฟ้ามีแต่สีดำทะมึน จากนั้นก็ล้มตาย
ความเร็วม้าผสมกับธนู ธนูระยะยิงเพียงพอส่งแรงสังหารได้พอ ไม่ว่าเกราะไม้ไผ่หรือหนังล้วนไม่อาจต้านทานธนูราวห่าฝนนี้ได้
เสียงร้องโหยหวนบาดเจ็บล้มตายกระจัดกระจายน่าสงสาร หลังสาดธนูปูพรมไประลอกหนึ่ง โจรวัวโค่วตรงหน้าก็ว่างลง ยังมีระยะห่าง ทหารม้าแถวหน้าน้าวธนูอีกรอบ ตั้งท่ายิงแนวระนาบ ยิงออกไป
ครั้งนี้เป็นท่ายิงเล็งหวังผลสังหารศัตรู ไม่ต้องการยิงพร้อมกัน เพียงแต่สังหารศัตรูในกรอบสายตาตน จากนั้นก็หยิบอาวุธบนอานม้าตนที่แขวนไว้ บ้างทวนยาว บ้างหอก ไม่มีผู้ใดคิดหยุดการสังหาร พวกเขาเพียงแค่บุกเข้าไป เพราะด้านหลังยังมีเพื่อนทหารวิ่งตามมา คลื่นทัพนี้พอเริ่มต้นขึ้น ก็ได้แต่รอให้หมดกำลังคลื่นไปเอง ผู้ใดกล้าหยุดกะทันหัน ก็ย่อมถูกบดขยี้แทน
ดาบยาวขวานใหญ่กวาดไป ทวนหอกแทงไป หากไม่ทันดึงกลับก็ย่อมต้องทิ้งไป กวาดล้างศัตรูตรงหน้า จากนั้นก็บุกเข้าไปบนเนินสูงตรงข้าม ความเร็วม้าผ่อนลง จากนั้นก็เร่งต่อ เริ่มหันกลับมาบุกสังหารต่อ
ระลอกแรกสังหารไป ทหารโจรวัวโค่วถูกตัดตอนแล้ว เนินอีกข้างก็มีทหารม้ากรูกันออกมายิ่งมาก คนเหล่านี้ไม่ได้บุกเป็นระเบียบอย่างชุดก่อนหน้าที่มีเกราะ ส่วนใหญ่เป็นเสื้อหนัง ธนูพวกเขาก็ทำอย่างหยาบๆ ดาบและกระบองตุ้มหนามเหล็กในมือร้ายกาจมาก
ส่วนพวกโจรวัวโค่วก็ยังไม่ถูกตีกระจาย ทหารม้าเผ่าหนี่ว์เจินเหล่านี้ตะโกนดัง ไม่สนใจบุกเข้าไป กองทัพโจรวัวโค่วของคาโต คิโยมาสะล้วนถูกการโจมตีกะทันหันนี้ทำเอาแตกตื่นตกใจเสียขวัญ ความฮึกเหิมกล้าหาญล้วนแตกกระเจิง เห็นภาพมากันอย่างโหดเหี้ยเช่นนี้ หลายคนล้วนพากันหลบอย่างไม่ต้องคิด มีซามูไรคิดต่อสู้ ตะโกนดังรวมกำลังทหารราบ ตั้งแถวอาวุธมุมแทงขวางไว้ พวกป่าเถื่อนเผ่าหนี่ว์เจินในตอนนี้ถึงกับไม่กระตุกม้าหลบ พุ่งชนปะทะเข้าไปตรงๆ
มีคนหลบไม่ทัน ก็ถูกแทงตายทันที มีคนก่อนม้าชน ตนเองม้วนตัวกลิ้งลงจากหลังม้าไปก่อน อาศัยจังหวะนั้นมุดเข้าพื้นที่ว่างศัตรู กวัดแกว่งดาบสังหารเข้าไป ทหารราบโจรวัวโค่วเหล่านี้กับชาวเผ่าหนี่ว์เจินเทียบกันแล้ว ตัวเล็กกว่ามาก กำลังย่อมไม่อาจทาน ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ นักรบเผ่าหนี่ว์เจินบุกสังหารใหญ่ตรงหน้า
แถวทัพที่ตั้งรับเริ่มถูกตีแตกกระจัดกระจาย จากนั้นโจรวัวโค่วที่หนีกันกระจัดกระจายก็กลายเป็นเหยื่อสังหารของทหารม้าทันที ความอลหม่านยิ่งขยายวงกว้าง
“เจ้าเห็นไหม ทหารม้าต้าถงไม่ได้ดูองอาจเหมือนเผ่าหนี่ว์เจิน แต่สังหารคนได้มากกว่าเผ่าหนี่ว์เจิน มีประสิทธิภาพดีจริง!”
หวังทงบนหลังม้าชี้แส้ม้าไปยังสนามรบกล่าวขึ้น หม่าซานเปียวบนหลังม้าพยักหน้า หวังทงยังกล่าวว่า
“ตอนนี้โจรวัวโค่วที่ยังไม่วุ่นวายมีสองแห่ง กลางทัพหนึ่ง คุ้มกันหมวกแม่ทัพไว้ น่าจะเป็นแม่ทัพใหญ่โจรวัวโค่ว ด้านหน้าอีกที่ ดูธงแล้วน่าจะเป็นแม่ทัพระดับหนึ่งหรือสองกองทัพนี้ ข้าจะนำทหารติดตามไปโจมตี เจ้านำทหารม้าไปสังหารทัพหน้ามันก่อน ไปได้ ให้คนเบื้องหน้านี้ได้เห็นความเกรียงไกรทหารม้าหู่เวยเรา!”
บรรดาขุนพลทหารข้างกายหวังทงถูกหวังทงกล่าวจนรู้สึกเลือดในกายเดือดพล่าน ล้วนตะโกนรับคำกึกก้อง จัดทัพตนเอง หวังทงกระตุกม้าหันไป กล่าวว่า
“ทหารม้า ‘ผู้กล้า’ ไปตีปีกข้าง ข้านำตีกองกลางเอง!”
นอกจากต้าถงทหารม้ากับทหารม้าเผ่าหนี่ว์เจิน ยังมีกลุ่มติดอาวุธโรงบ้านและขบวนการค้า พวกเขาไม่อาจเรียกว่าเป็นระบบกองทัพ แต่ล้วนติดตามทัพหวังทง ได้ยินเช่นนี้ ก็รีบออกไปถ่ายทอดคำสั่ง พวกที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของทหารเก่าที่ปลดประจำการ ตะโกนดังติดต่อกัน หันเปลี่ยนทิศทาง
หวังทงหันไปมอง ทหารติดตามชุดเกราะเต็มยศไปเรียงตัวเป็นขบวนทัพม้าแล้ว หวังทงพยักหน้า กระชากม้าไปยังด้านหน้ากองกำลัง ยกมือขึ้นโบกสะบัดสามที ม้าค่อยๆ ก้าวไปด้านหน้า ทัพใหญ่ล้วนเคลื่อนตามไป
ตอนนี้ทัพคาโต คิโยมาสะเป็นแกนหลักทัพโจรวัวโค่วแล้ว ปืนใหญ่วัวโค่วและปืนกระบอกใหญ่ ยังมีธนูยังคงสร้างอานุภาพสังหารใส่ทหารม้าที่ล้อมไว้ไม่หยุด โจรวัวโค่วหนีกระจัดกระจายมารวมตัวกันที่นี่อีกครั้ง
“ท่านแม่ทัพ ทหารม้า ทหารม้า…”
มีซามูไรข้างกายนายหนึ่งตะโกนดังแตกตื่น คาโต คิโยมาสะมองตามไป หนังตากระตุกสองสามที ถึงกับทหารม้าชุดเกราะนับพันนาย เห็นเกราะแล้วเหมือนว่าเป็นเกราะเต็มยศของพวกป่าเถื่อนทางใต้พวกนั้น ม้ายังมีพรมและเกราะหนังปิดทับอีกชั้น
นี่เป็นทหารม้าที่ไหน เห็นชัดว่าเป็นสัตว์ประหลาดชุดเกราะเคลื่อนที่ได้ ราวกับใส่เครื่องป้องกันทั้งตัว วิ่งมาแม้ว่าไม่เร็ว แต่ทั้งกองวิ่งมาพร้อมกัน สร้างอานุภาพข่มคนตรงหน้าได้อย่างมาก
“ซามูไรทุกคนมาตั้งแผงป้องกันด้านหน้า กองปืนใหญ่วัวโค่วกับปืนกระบอกมารวมกันทางนี้!”
คาโต คิโยมาสะเสียงแหบไปแล้ว เขาเองล้วนไม่คิดว่าน้ำเสียงตนแอบสั่น ทุกคนในพื้นที่เขาอยู่นั้นได้สังเกตเห็นทหารม้าทัพใหญ่แล้ว
แม้กองกำลังทหารม้าไม่ได้บุกสังหารมาด้วยท่าทางโหดเหี้ยม ตอนนี้ระยะห่าง ไม่ไกล แต่ความรู้สึกที่แผ่กลิ่นอายกดดันนั้นมากกว่ากองกำลังเมื่อครู่ มีซามูไรเบื้องหน้าผู้หนึ่งมองคาโต คิโยมาสะด้วยความแค้น ล้วนเพราะเจ้าหวังความชอบใหญ่ ไปโจมตีเผ่าอูเหลียงฮาอะไรได้ แล้วอย่างไร ชักนำสัตว์ประหลาดพวกนี้มาเป็นไง
มีทหารราบเริ่มทนรับแรงกดดันไม่ไหว ร้องไห้ตะโกนทิ้งอาวุธ วิ่งหันหลังกลับ แน่นอนสนามรบอันแสนโหดร้ายนี้ เขาวิ่งไม่ไกลก็ย่อมถูกทหารม้าสังหารมาทัน แต่ก็ยังมีคนวิ่งหนีกันยิ่งมาก พวกเขายอมตายที่อื่น แต่ไม่ยอมถูกบดขยี้เป็นกองเนื้อบดของกองทัพเหล็กนั่น
ทวนยาวในมือหวังทงเอียงไปด้านหน้า ทหารม้าติดตามแบ่งเป็นหลายกอง พื้นที่นี้ไม่อาจให้ทหารม้าน้ำหนักมากบุกเข้าไปพร้อมกัน ทุกคนล้วนเร่งความเร็วม้า แต่ทวนยาวหวังทงพอเอียงได้ระดับก็หยุด ทุกคนล้วนรู้คำสั่ง ความเร็วไมได้เพิ่มขึ้น
ม้ามีเกราะ คนมีเกราะ ยังมีอาวุธ ยังมีระยะวิ่ง ม้าล้วนเหนื่อยมาก วิ่งไม่เร็ว หากเร่งความเร็วเต็มที่บุกก็อาจทำให้เกิดผลเสียแทนได้ ดังนั้นจึงผ่อนความเร็วม้าบุก พื้นที่เช่นนี้ จากที่สูงลงต่ำ เพียงพอสร้างแรงที่มากพอแล้ว
กองกำลังคาโต คิโยมาสะเบื้องหน้าเริ่มสะเทือนสั่นคลอน เพราะทหารม้า ‘ผู้กล้า’ ที่บุกมาก่อนเริ่มโจมตีปีกข้างพวกเขา ยิงธนูใส่ไม่ว่า ยังมีคนลงจากม้ามายิงด้วยปืนไฟอีก
ระยะยิงปืนใหญ่วัวโค่วสั้นกว่าปืนไฟโรงช่างสามธาราโรงช่าง ระยะห่างในรัศมีก็ย่อมทำให้บาดเจ็บถึงชีวิตได้ แน่นอนหากอีกฝ่ายอยู่นอกรัศมีสังหารก็สามารถบุกสังหารได้ ยามนี้จะต้องหาทางโต้กลับ เช่นนั้นย่อมต้องเคลื่อนปืนใหญ่มา แต่ปืนใหญ่วัวโค่วน้อยลง แล้วจะจัดการอย่างไรกับทหารม้าชุดเกราะที่กรูกันมา!!
“ทหารม้า เพื่อทุกคน บุกเข้าไปสู้ตาย!!”
กองรบสองของคาโต คิโยมาสะมีทหารม้าจำนวนหนึ่ง แต่ตอนถูกบุกทะลวง ในเวลากระชั้นชิดไม่อาจรวมกำลังทหารมาได้ มาที่กองกลางตอนนี้ก็แค่ทหารม้าราวสี่ร้อยกว่าเท่านั้น เห็นทหารม้าชุดเกราะตรงหน้ายังคงบีบเข้ามาไม่หยุด รอบๆ ล้วนเริ่มสังหารกันไร้ระเบียบไปหมดแล้ว ทหารม้ากลุ่มเล็กถูกกระตุ้นให้กล้าหาญออกสู้ตาย เตรียมใช้การโต้กลับนี้ผ่อนอานุภาพสังหารของอีกฝ่าย
เห็นทหารม้าหลายร้อยบุกมา ยังบุกเข้าไปอย่างรู้ว่าเสียเปล่า ความเสียสละไม่หวาดกลัวเห็นแก่ตนเช่นนี้ ทำให้กองกำลังโจรวัวโค่วหลายคนน้ำตาไหลคลอเบ้า
“โง่เง่า!”
หวังทงยิ้มเย็นวิจารณ์ ปิดหมวกเกราะตนลง มีทหารติดตามสิบกว่านายแย่งกันมาด้านหน้าเขาแล้ว เป็นทหารติดตามไม่อาจให้แม่ทัพใหญ่อยู่แถวแรก นี่เป็นระเบียบพวกเขา ทัพใหญ่ค่อยๆ เร่งความเร็ว ทหารม้าติดตามชุดเกราะเต็มยศ ยกธนูน้าวบนหลังม้าไม่ง่าย เห็นทหารม้าโจรวัวโค่วออกมารับศึก พวกเขาล้วนวางทวนยาวแนวระนาบ ค่อยๆ ขยายแนวออก ตรงหน้านี้กลายเป็นแถวแนวนอน
ความกล้าหาญส่วนความกล้าหาญ การต่อสู้ในสนามรบนั้นเป็นคนละเรื่อง ทหารม้าโจรวัวโค่วมากันแบบม้าเปล่าๆ ม้าหลายตัวถึงกับไม่เคยเห็นทหารม้าติดตามทหารม้าของหวังทงเช่นนี้ ถึงกับมีม้าถูกชุดเกราะส่องแสงกระทบตา ตกใจร้องกระโดดยกตัว ทำเอาคนบนหลังม้าร่วง
“ฆ่า!!”
สองฝ่ายราวกับตะโกนคำนี้พร้อมกัน จากนั้นก็เข้าปะทะกัน