องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 850 เผาให้สิ้นซาก
ได้ยินหวังทงกล่าว จางเหลียนเซิงอึ้งไป ได้แต่ปรับสีหน้าครู่หนึ่ง เดิมกำลังตื่นตระหนกก็ค่อยๆ มั่นใจมากขึ้น เอวที่งอก็เริ่มยืดขึ้น
หนานจิงกับเมืองหลวงห่างกันไหกล ตั้งแต่ย้ายเมืองหลวงไป ศูนย์กลางการปกครองก็ไปอยู่ตอนเหนือ แต่แดนใต้ก็ยังเป็นศูนย์กลางภาษีของแผ่นดินหมิง เป็นพื้นที่สำคัญแผ่นดินหมิง ต้องคุมให้อยู่
ดังนั้นพื้นที่สำคัญใจกลางแดนใต้อย่างเมืองหนานจิงจึงมีการจัดระเบียบที่สอดรับกับเมืองหลวง กล่าวคือ เว่ยกั๋วกงตระกูลสวีเป็นดังตัวแทนขุนนางบู๊ชนชั้นสูง เสนาบดีกรมทหารหนานจิงตัวแทนระบบขุนนางบุ๋น ขันทีใหญ่ประจำหนานจิงตัวแทนราชสำนักฝ่ายใน สามฝ่ายร่วมกันควบคุมดูแลหนานจิง ควบคุมบริหารแดนใต้
ในนี้ เสนาบดีกรมทหารหนานจิงบางครั้งปีหนึ่งเปลี่ยนหลายคน ขันทีใหญ่ประจำหนานจิงอย่างมากก็ไม่เกิน 10 ปี เปลี่ยนบ่อยมาก สองตำแหน่งนี้เหมือนว่าเปลี่ยนเร็วราวกับโคมไฟหมุนได้ที่เปลี่ยนรวดเร็ว มีเพียงเว่ยกั๋วกงตระกูลสวีที่อยู่ประจำเมืองหนานจิง แต่ต้นจนบัดนี้ก็รับหน้าที่ดูแลหนานจิง
เว่ยกั๋วกงตระกูลสวีในสายตาชาวหนานจิง ก็เป็นเหมือนผู้นำแดนใต้ เป็นผู้ทรงอิทธิพลที่สุดและสูงส่งที่สุดอีกด้วย
คุณชายเก้าตระกูลสวีวางอำนาจครองเมืองหนานจิง ย่อมไม่เห็นนายกองพันองครักษ์เสื้อแพรในสายตา วันนี้จางเหลียนเซิงรู้ว่านายตนเองเป็นติ้งเป่ยโหว เป็นถึงผู้บัญชาการสำนักองครักษ์เสื้อแพรและยังเป็นถึงผู้แทนพระองค์ แต่กลับไม่กล้าเอาเรื่องคุณชายเก้าผู้นั้น มีท่าทีหวาดกลัวอย่างมาก
จนกระทั่งตอนหวังทงลงมือ ได้เห็นหวังทงจัดการรุนแรงราวกับตีสุนัขตาย คนตระกูลสวีแม้แต่จะเคืองแค้นก็ไม่กล้า ได้แต่มีท่าทีหวาดกลัว จางเหลียนเซิงรู้สึกว่าเบื้องหน้าฟ้าเปิดแล้ว เว่ยกั๋วกงตระกูลสวีคืออะไรกัน ที่แท้องครักษ์เสื้อแพรสามารถเบ่งบารมีได้เช่นกัน
ตนเองได้ปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่เช่นหวังทงได้ วันหน้าในเมืองหนานจิงนี้ ในแดนใต้นี้ ใช่ว่าจะวางอำนาจได้เหมือนกันหรอกหรือ จะไม่ต้องคอยระวังตัวอีก จะไม่ต้องอดกลั้นกับเพื่อนร่วมงานและลูกน้องอีกแล้ว แสงสว่างเบื้องหน้าเห็นรำไรแล้ว
ไม่พูดถึงจางเหลียนเซิงที่เริ่มรู้สึกดี พวกคนตระกูลสวีวางอำนาจเหิมเกริมก็ส่วนวางอำนาจเหิมเกริม แต่ก็รู้ความหนักเบามาก พอได้ยินเบื้องหน้าคือหวังทง ก็ไม่มีใครหาทางเอาคืน ได้แต่ก้มหน้าก้มตาพันแผลให้คนบาดเจ็บไป จนกระทั่งลงเรือเล็กจากเรือสำราญไป
ส่วนพรุ่งนี้ส่งมาให้โบยหรือไม่ ก็ย่อมเป็นเรื่องของเว่ยกั๋วกงแล้ว ผู้น้อยเช่นพวกเขาย่อมไม่อาจตัดสินใจแทนได้
หลังมีเรื่องกันเสร็จ ในห้องรับรองมีแต่คราบโลหิต งานเลี้ยงฟังเพลงดีๆ ไม่อาจดำเนินต่อได้ดังเดิม ซิ่วเอ๋อร์เรียกได้ว่านิ่งมาก สาวใช้หลายคนพากันขวัญเสียไปหมดแล้ว
พอสวีจิ่วหรือคุณชายเก้าจากไป พวกหวังทงก็ลงจากเรือสำราญ ยามนี้เรือสำราญเทียบท่าแล้ว เรือสำราญมีแขกอื่นอยู่อีก ได้ยินเสียงต่อสู้กันเมื่อครู่ รู้ว่าคนที่สู้กันเป็นผู้ใด ผู้ใดก็ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวด้วย แม้ว่าอยากร่วมชมความสนุกก็ต้องดูว่าตนเองนั้นคอแข็งพอรับคมดาบหรือไม่
จางเหลียนเซิงยามนี้สยบให้หวังทงหมดสิ้นแล้ว แม้แต่ซิ่วเอ๋อร์ก็ไม่สนใจ ตามหวังทงติดหนึบลงจากเรือสำราญมา แต่พอตอนจะก้าวขึ้นฝั่ง ก็เห็นพ่อบ้านเรือสำราญตามมารั้งไว้
พ่อบ้านเรือสำราญสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ก็มาขวางด้านหน้าไว้ กล่าวเพียงว่า
“เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ ข้าน้อยตัดสินใจเองไม่ได้ รอให้นายข้าน้อยมาก่อน ขอนายท่านรอสักครู่จัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยก่อน”
ด้านบนปล่อยนายน้อยตระกูลสวีบุกขึ้นไป ตอนนี้ทางเรือสำราญยังมารั้งตัวไว้อีก หน้าตาจางเหลียนเซิงถูกฉีกหมดสิ้นแล้ว ยามนี้เขาก้าวขึ้นมาด้านหน้า หันไปตบหน้าพ่อบ้านผู้นั้นอย่างแรงสิบกว่าที ตวาดด่าดังว่า
“เจ้าสุนัขตาบอด ไม่รู้หรือว่านี่คือท่านติ้งเป่ยโหว ท่านโหวผู้บัญชาการสำนักองครักษ์เสื้อแพร? ถึงกับกล้ามาขวางทางได้!!”
พ่อบ้านผู้นั้นถูกตบแก้มแดงเป็นปื้น แต่กลับเงยหน้าจ้องจางเหลียนเซิงเขม็ง ลงคุกเข่าบนพื้นเรือ ยังไงก็ยังคงต้องการขวางทุกคนไว้ ได้แต่กล่าวว่า
“นายกองพันจางอย่าทำข้าน้อยลำบากใจ นายท่านให้ข้าน้อยมาดูแลเรือสำราญนี้ วันนี้กลับเละเช่นนี้ นายท่านต้องถามสาเหตุ…”
จางเหลียนเซิงยังจะด่าต่อ แต่หวังทงกลับรั้งไว้ ยิ้มกล่าวว่า
“ไม่อยากเอาเรื่องเจ้าแล้ว ข้าจะรอนายเจ้ามาก็แล้วกัน ส่งคนไปตามมาสิ นายเจ้าคืนนี้ไม่มา ข้าจะสังหารเจ้าทิ้ง จากนั้นก็ส่งกลับไปรายงานแทน”
สีหน้าหวังทงมีรอยยิ้ม น้ำเสียงนุ่มนวล แต่พอกล่าวเช่นนี้ พ่อบ้านที่ท่าทีไม่แข็งไม่อ่อนก็สะดุ้งสุดตัว โขกศีรษะลงกับพื้น รีบสั่งคนจัดการ
เรือไป๋หลันแล่นบนแม่น้ำฉินไหวเหอ มีเรือเล็กไม่น้อยตามมา ก็เพื่อมารอรับฟังบทเพลงของซิ่วเอ๋อร์ คนมากมายเช่นนี้ตามมา เหตุบนเรือก็ย่อมรู้กันทั่ว พวกหวังทงรออยู่บนฝั่ง คนที่รอดูเรื่องสนุกกันรอบๆ ไกลออกไปก็ไม่น้อย บนแม่น้ำฉินไหวเหอ ทิวทัศน์งดงาม ยามนี้มีเรือสำราญไม่น้อยแล่นอยู่ แต่ตอนนี้พากันหยุดลง แขกไม่น้อยกับผู้หญิงก็ออกมามองตามหน้าตาและบนดาดฟ้าเรือ รอดูเรื่องว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
หวังทงในเมื่อรออยู่ที่นี่ คนเรือไป๋หลันไม่กล้ารั้งอันใดอีก แต่เป็นคำสั่งองครักษ์ของหวังทงให้นำโต๊ะเก้าอี้บนเรือลงมาตั้งวางริมฝั่งและจัดเตรียมสุราอาหารอีกครั้ง หวังทงนั่งดื่มสุราอย่างสบายอารมณ์ ดื่มไปก็ชมทิวทัศน์ริมแม่น้ำไป
“เฉิงหย่งป๋อ เยว่เจียงหนาน เป็นตำแหน่งที่ได้แต่งตั้งมาในรุ่นก่อน ว่ากันว่าตอนนี้ไม่เท่าไร เหตุใดตระกูลเว่ยกั๋วกงยังคงไว้หน้าอีก พ่อบ้านนี่ถึงกับยังใจกล้าเช่นนี้อีก?”
มีเรื่องหนึ่งหวังทงยังไม่ทันเอ่ยถึงก็คือ การที่อยู่หนานจิงแล้วสามารถมีเรือไป๋หลัน เรือสำราญหอคณิการะดับนี้ริมน้ำแห่งนี้ ย่อมเป็นการแสดงถึงอำนาจบารมีแล้ว
จางเหลียนเซิงอย่างไรก็คนในพื้นที่ เรื่องนี้ย่อมรู้ อธิบายกล่าวว่า
“ตอนขันทีใหญ่ประจำหนานจิงหูจื้ออันอยู่ในตำแหน่งที่นี่ ตระกูลเยว่เคยให้ความช่วยเหลือ อาศัยบารมีนี้ ตระกูลเยว่ก็นับว่ามีที่พึ่งแล้ว มีขันทีใหญ่ให้การสนับสนุน ก็ย่อมมีหน้ามีตา”
สำหรับจางเหลียนเซิง ขันทีใหญ่ประจำหนานจิงเป็นสายสัมพันธ์ชั้นสูงที่ไม่อาจตะกายไปถึงได้ ขณะเขากล่าวนั้นก็ย่อมใจเต้นไม่น้อย ตามมาด้วยคิดถึงเรื่องวันนี้ที่ตนได้ล่วงเกินเว่ยกั๋วกงตระกูลสวีไป หากจะล่วงเกินตระกูลเยว่อีกก็คงไม่เท่าไรแล้ว ความกล้าเริ่มมาอีกแล้ว
ขันทีใหญ่ประจำหนานจิงหูจื้ออัน ตอนนั้นยังเป็นขันทีธรรมดา เคยไปเทียนจินร่วมตรวจสอบ เขาอยู่ฝ่ายหวังทง กลับเมืองหลวงไปก็ได้รับแต่งตั้งให้มามีหน้ามีตาที่หนานจิงนี่
หูจื้ออันย่อมไม่เล่าเรื่องความลับในวังให้คนอื่นฟัง คนอื่นก็ย่อมรู้สึกว่าบารมีมหาขันทีเช่นเขาในวังนั้นยิ่งใหญ่มาก ซึ่งก็จริงอยู่ แต่หูจื้ออันตำแหน่งนี้ต่อหน้าหวังทงแล้วไม่เท่าไร หวังทงสนิทสนมกับขันทีระดับใดในวัง เขามันระดับใดกัน เรื่องนี้ทุกคนรู้ดีแก่ใจ
ผ่านไปครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าควบมาอย่างเร่งรีบ องครักษ์ของหวังทงมารวมตัวกัน พอได้ยินเช่นนี้ก็เตรียมพร้อมป้องกันแน่นหนา
ทว่าก็คลายความป้องกันลงอย่างรวดเร็ว เห็นชายผู้หนึ่งนำผู้ติดตามรีบควบม้ามา พอเห็นคนผู้นี้มา พ่อบ้านใบหน้าบวมแดงก็รีบวิ่งเข้าไปรายงาน พอไปถึงเบื้องหน้า ไม่ทันได้พูด ก็ถูกชายผู้นั้นถีบหงายลงกับพื้น ผู้ติดตามด้านหลังรีบเข้ามาจับตัวไว้ ชายผู้นั้นเดินตรงมาทางหวังทง
“นี่ก็คือเฉิงหย่งป๋อ…”
จางเหลียนเซิงกระซิบแนะนำ หวังทงยิ้มกำลังจะพูด เฉิงหย่งป๋อ เยว่เจียงหนานกลับคำนับก่อน พอลุกขึ้นก็กล่าวว่า
“ข้าน้อยละอายใจยิ่ง ท่านโหวอย่าได้ตำหนิ คนข้าน้อยสมองพิการเลอะเลือน จึงได้ถึงกับไม่รู้ดีชั่ว ทำให้ท่านโหวเสียเวลาเดินทาง ขอท่านโหวโปรดอภัยด้วย”
เห็นหวังทงนั่งยิ้มนิ่ง เยว่เจียงหนานกัดฟัน หันไปคว้าดาบจากผู้ติดตาม ให้คนกดตัวพ่อบ้านเรือไป๋หลันไว้ กล่าวว่า
“คนผู้นี้ล่วงเกินท่านโหว ช่างสมควรตาย ข้าน้อยจะจัดการเสียเดี๋ยวนี้”
กล่าวจบก็ตวัดดาบฟันลงไป คนรอบๆ สูดลมหายใจเฮือก เว่ยกั๋วกงเป็นตระกูลอันดับหนึ่ง เฉิงหย่งป๋อหลายปีนี้ก็มีเกียรติไม่น้อย เหตุใดต่อหน้าหวังทงจึงต้องระวังเพียงนี้ ถึงกับสังหารคนตัวเอง หน้าตาไม่ต้องการแล้วหรืออย่างไร?
“หยุดเขาไว้!”
ทางนั้นยกดาบขึ้น หวังทงก็กล่าวขึ้น อู๋เอ้อร์ข้างกายหวังทงไวพอที่จะยั้งเฉิงหย่งป๋อไว้ ยกดาบกันดาบไว้ทัน หวังทงยิ้มกล่าวว่า
“พ่อบ้านเจ้าผู้นี้ก็เพราะซื่อสัตย์ภักดี และก็ปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่จำเป็นต้องทำให้เขาลำบากใจ”
นับว่าให้ทางลงแล้ว เฉิงหย่งป๋อย่อมไม่ดึงดัน กำลังจะขอบคุณ หวังทงกลับกล่าวอีกว่า
“รบกวนเฉิงหย่งป๋อนำน้ำมันกับฟืนมาที!”
ได้ยินหวังทงขอเช่นนี้ เยว่เจียงหนานอึ้งไป แต่ก็ยังคงรีบสั่งให้คนไปนำมา หอคณิกาและหอสุราริมแม่น้ำฉินไหวเหอมากมาย น้ำมันกับฟืนก็ย่อมมีพร้อม นำมาได้ไม่ยาก
ไม่นานก็มากองเต็มฝั่ง ยามนี้คนมุงรอบๆ ก็มากขึ้นเรื่อยๆ บนผืนนี้ก็มีเรือจอดนิ่ง ล้วนจอดดูเรือสำราญ สถานการณ์เริ่มครึกครื้นขึ้นเรื่อยๆ
เห็นกองน้ำมันเป็นไห มัดฟืนหลายมัดแล้ว หวังทงก็ยิ้มกล่าวว่า
“เฉิงหย่งป๋อ เรือไป๋หลันวันนี้เกิดเรื่องมากมาย อัปมงคลยิ่ง เผาทิ้งดีกว่า!!”
พอหวังทงถามเช่นนี้ เฉิงหย่งป๋อเยว่เจียงหนานอึ้งไป ตามมาด้วยไร้วาจา ไม่รู้ว่าควรตอบเช่นไร หวังทงยิ้มมองเขาไม่กล่าวอันใด เยว่เจียงหนานคิดถึงหลายวันก่อนที่ได้คุยกับขันทีใหญ่ประจำหนานจิงหูจื้ออัน ก็เริ่มเหงื่อซึมหน้าผาก กระทืบเท้ากล่าวว่า
“ท่านโหวกล่าวได้ถูกต้อง เรือไป๋หลันอัปมงคลจริง ควรเผาให้สิ้นซาก”
หวังทงยิ้มพยักหน้ากล่าวอีกว่า
“มา ข้าช่วยท่านป๋อเผาเรือสำราญนี่เอง”
กล่าวจบ หวังทงก็สั่งการไปสองสามคำ พวกทหารหวังทงก็เริ่มก้าวขึ้นเรือ ไล่คนบนเรืออย่างเช่นสาวใช้หรือคนงานที่คอยรับใช้บนเรือ รวมทั้งพ่อครัวลงมาให้หมด
เรือไป๋หลันไร้คนแล้ว เริ่มเทน้ำมันสุมฟืนไปทั่วเรือ เตรียมการเสร็จสรรพ หวังทงรับคบไฟมา ตะโกนดังกังวานว่า
“เผาให้สิ้นซาก!”
โยนคบไฟใส่เรือสำราญ ไฟโหมไหม้ รอบๆ และบนแม่น้ำเงียบกริบ เรือสูงค่าอลังการงดงาม เป็นดังเช่นภาพสัญลักษณ์แม่น้ำฉินไหวเหอเช่นเรือไป๋หลัน ถูกเผาไปเช่นนี้หรือนี่?
Comments for chapter "ตอนที่ 850 เผาให้สิ้นซาก"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
yoyo
ช่วยให้คลายความอัดอั้นตลอดทางไปได้บ้างนะพี่หวัง