องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 894 ย่าหลานแท้ๆ ความสัมพันธ์ครอบครัวกับอำนาจ
ราชสำนักมีธรรมเนียมราชสำนัก ฝ่ายในมีธรรมเนียมฝ่ายใน เช่นกัน วังหลังก็มีธรรมเนียมวังหลัง
สนมในวังหลัง หากมีหญิงใดได้รับแต่งตั้งเป็นพระสนมชั้นเฟย ก็เทียบเท่ากับตำแหน่งเสนาบดีนอกวัง สถานะเรียกได้ว่าสูงส่งยิ่ง
ทว่าในหมู่เสนาบดี หากเจ้าอยู่กรมปกครอง กรมทหาร กรมอากร ก็ย่อมมีคนคิดมาเป็นพวก ส่วนกรมโยธาที่มีเงินเข้าออกมากก็ไม่เลว แต่กับกรมพิธีการกับกรมอาญาแล้วนั้น เป็นงานที่ต้องมีคุณธรรมและไม่เรียกรับสินบน ต้องมือสะอาด เสนาบดีกรมพิธีการหากไม่ได้เป็นราชบัณฑิตใหญ่ในคณะเสนาบดีใหญ่ ทุกคนก็แค่เคารพกันต่อหน้าเท่านั้น ส่วนเสนาบดีกรมอาญา ผู้ใดอยากจะสนใจข้องเกี่ยวด้วย
เช่นกัน วังหลังมีพระสนมมากมาย ก็มีพวกที่มีอิทธิพลไม่มากนัก ฮองเฮาไม่ต้องพูดถึง พระสนมเอกเจิ้งก็ไม่ต้องพูดถึง พระสนมที่เหลือนั้น ก็มีแต่พระสนมหลี่ที่ค่อยข้างได้รับการโปรดปราน ธิดาองค์แรกฮ่องเต้ว่านลี่มาจากพระสนมหลี่ ตอนนี้พระสนมเอกเจิ้งแม้ว่าเป็นที่ทรงโปรดพิเศษ แต่ฮ่องเต้ว่านลี่ก็ยังทรงแวะเวียนไปยังตำหนักพระสนมหลี่อยู่บ้าง
นอกวังแย่งชิงกันดุเดือด แย่งอันใดกัน แย่งกันล้มไม่ให้โอรสพระสนมเอกเจิ้งได้เป็นรัชทายาทอย่างไรเล่า โอรสพระสนมกงเป็นโอรสองค์โต จึงควรได้เป็นรัชทายาท
ตามหลักที่ว่ามารดาขึ้นตำแหน่งตามบุตร จูฉางสวินมีคุณสมบัติพอจะเป็นรัชทายาท พระสนมกงในวังหลังก็เรียกได้ว่าสูงส่งไม่น้อย
ที่จริงแล้ว พระสนมในวังหลังทั้งหมดนั้น ตำแหน่งพระสนมกงต่ำที่สุด แม้ว่าทรงได้ประทับตำหนักตามระเบียบปฏิบัติ แต่ขันทีและนางกำนัลที่จัดสรรให้มารับใช้นั้นล้วนเป็นระดับล่างอย่างที่สุด
แน่นอนที่ว่าล่างที่สุด ย่อมไม่รวมของใช้และอาหารการกิน อย่างไรก็เป็นโอรสองค์โต หากไม่ระวังปรนนิบัติให้ดี ฝ่าบาทอาจจะลงโทษได้เช่นกัน
จากหญิงธรรมดามาถึงตอนนี้ แต่ไรมาฮ่องเต้ว่านลี่ไม่เคยเสด็จมา ถึงกับแม้แต่จูฉางสวินก็ทรงพบแค่ครั้งเดียว และยังเป็นการเรียกให้แม่นมนำมาเข้าเฝ้าแทนด้วย
ท่าทีฮ่องเต้ว่านลี่เช่นนี้ เห็นได้ถึงเรื่องราวมากมาย ดังนั้นพระสนมกงแม้ว่าเป็นชั้นพระสนมระดับเฟย แต่ในวังพวกขันทีและนางกำนัลมีอิทธิพลก็แค่เกรงใจต่อหน้าเท่านั้น ในใจย่อมไม่เห็นอยู่ในสายตา
พระสนมกงเองก็ไม่สนพระทัย พระนางแต่เล็กเป็นนางกำนัลในวัง เพราะมีคืนพิเศษกับฮ่องเต้จึงได้ขึ้นเป็นพระสนมชั้นเฟยในตอนนี้ จากคนปรนนิบัติมาเป็นคนถูกปรนนิบัติ อาหารการกินของใช้อย่างดี พระสนมกงพอใจมากแล้ว และมีโอรสอยู่เป็นเพื่อนทุกวัน ก็ยิ่งทำให้พระนางมีที่พึ่งและมีหลักในชีวิต
นอกวังวุ่นวายกันอย่างมาก ทำให้ขันทีและนางกำนัลปรนนิบัติพระสนมกงเริ่มคิด หากทรงได้ก้าวขึ้นไป พวกเขาก็คงได้ก้าวขึ้นตาม หากพวกเขาปรนนิบัตินายจนได้เป็นรัชทายาท พวกเขาก็ย่อมเป็นคนเก่าแก่ตำหนักบูรพา เช่นนั้นสถานะก็ย่อมไม่เหมือนเดิม จะได้ก้าวสยายปีกถึงตะวัน
มีคนแอบกล่าวกับพระสนมกง พระสนมกงกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย ทุกวันก็เอาแต่เล่นกับลูก จูฉางสวินอ้วนจ้ำม่ำ พูดจากคล่องแคล่ว น่ารักน่าชังอย่างมาก
พระสนมกงท่าทีเช่นนี้ทำให้นางกำนัลและขันทีรับใช้เริ่มแอบบ่นไม่พอใจ พระสนมกงหากทรงคิดถึงพระโอรสจริง ก็ควรจะออกมาแย่งชิงในเรื่องนี้บ้าง รอให้ทรงแต่งตั้งเป็นรัชทายาท จึงจะดีต่อพระโอรสแท้จริง แต่วาจานี้ผู้ใดกล้ากราบทูลกัน
ทว่าพระสนมกงท่าทีเช่นนี้ ทำให้พวกอยู่มานานในวังพอใจพยักหน้า พระสนมกงไม่มีความคิดเป็นใหญ่ แม้ความคิดนี้จะถูกต้อง เรื่องรัชทายาทหากพระนางคิดลงมือ จูฉางสวินอาจยังมีชีวิตรอด แต่พระนางเองนั้นกลับต้องแหลกสลายแทน ไม่อาจรักษาชีวิตไว้ได้
วันที่ 13 เดือนห้า แม้ว่าคนฝ่ายพระสนมกงที่การข่าวไม่ไวก็ยังรู้ว่าฮ่องเต้ว่านลี่ไม่ได้ออกว่าราชการมาสิบกว่าวันแล้ว และพระสนมกงยังรู้ว่า หลายวันนี้ฮ่องเต้ว่านลี่ไปตำหนักพระสนมหลี่บรรทม สาเหตุนี้คนในวังล้วนรู้ดี พระสนมเอกเจิ้งร่ำไห้ต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ว่านลี่
พระสนมเอกเจิ้งเป็นคนฉลาด แม้ว่าจะไม่พอใจฮ่องเต้ว่านลี่ แต่แต่ไรมาก็ไม่เคยบ่นหรือแสดงอาการพรั่งพรูต่อหน้าพระพักตร์เช่นนี้ ทว่าหญิงพอมีลูกแล้วกลับไม่เหมือนเดิม นอกวังวุ่นวายเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงฎีกาที่กล่าวถึงพระสนมเจิ้งโดยตรง สถานการณ์ตอนนี้มาถึงขึ้นต้องขึ้นไม่อาจลงได้แล้ว
หากไม่มีเรื่องเกิดขึ้น แม้ว่าจูฉางสวินได้เป็นรัชทายาทหรือไม่ ก็คงได้เป็นอ๋องมีวาสนาไปทั้งชีวิต แต่พอเกิดเรื่องเช่นนี้ ไม่อาจเป็นรัชทายาท วันหน้าจะทำเช่นไร เกรงว่าคงยุ่งยากมาก
เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง พระสนมเอกเจิ้งเองก็คงได้ยินมาแล้วว่าอ๋องลู่ที่เมืองเว่ยฮุย เหอหนานนั้นเป็นอย่างไรในตอนนี้ ว่ากันว่าอ๋องลู่ถูกขังแต่ในจวน วันๆ ร่ำสุราจนเมาเละเทะ พระพลานามัยไม่ไหวแล้ว ไทเฮาฉือเซิ่งส่งหมอหลวงไปดูอาการ แต่ไปได้ครึ่งทาง ก็ถูกฮ่องเต้ว่านลี่มีรับสั่งไปอีกอย่าง ว่ากันว่ารักษาไม่ตั้งใจนัก
โอรสพระสนมเอกเจิ้งกับอ๋องลู่สถานการณ์คล้ายกัน จะว่าไปจูฉางสวินกับจูฉางลั่วยังไม่ใช่พระมารดาเดียวกันอีก นี่ก็ยิ่งทำให้แตกต่างกันจนน่าจะแย่กว่า
คิดถึงเหตุการณ์ยามนี้แล้ว จะไม่ให้พระสนมเอกเจิ้งไม่หวาดกลัวได้อย่างไรกัน มีแต่ทางแก้ทางเดียวก็คือให้จูฉางสวินเป็นรัชทายาท แต่ในสถานการณ์ตอนนี้จะได้อย่างไรกัน
สตรีนางหนึ่งมาร้องไห้คร่ำครวญตรงหน้าทุกคน ตนเองยังรู้สึกละอายใจ สถานการณ์เช่นนี้ช่างน่าลำบากใจมากยิ่งนัก มิน่าฮ่องเต้ว่านลี่จึงต้องหลบ
พระสนมกงที่รู้เรื่องพวกนี้กลับดีใจที่แม้ตนเองไม่เป็นที่โปรดปราน แต่ยังดีที่มีลูกชายไว้เป็นที่พึ่ง เรียบง่ายก็เรียกว่าวาสนาเช่นกัน
เล่นกับจูฉางลั่วตลอดช่วงเช้า กว่าจะกล่อมให้หลับได้ก็นาน พระสนมกงนั่งอยู่ข้างเตียง ทำงานเย็บปักไปดูและลูกน้อยที่หลับสนิทไป
ขณะกำลังเงียบอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าขันทีคนหนึ่งรีบวิ่งมา พระสนมกงขมวดคิ้วขึ้นทันที คนในวังที่ไม่ค่อยเห็นพระองค์ในสายตา แต่เช่นนี้เหมือนจะเกินไปสักหน่อย ทำเด็กน้อยตื่นจะทำอย่างไร พระสนมกงกำลังจะตำหนิ ขันทีก็เข้ามาใกล้กล่าวเบาๆ ว่า
“พระสนม นางกำนัลจิ่นซิ่วตำหนักฉือหนิงกงมา บอกว่ามีกระแสรับสั่งไทเฮาฉือเซิ่งให้มาเยี่ยมพระสนมเป็นพิเศษ”
กล่าวถึงตรงนี้ สีหน้าขันทีก็ลิงโลดอย่างไม่อาจระงับ ที่นี่ที่เคยถูกละเลยกำลังจะพลิกสถานการณ์แล้ว แม้แต่ตำหนักฉือหนิงกงยังส่งคนมาเยี่ยม นางกำนัลจิ่นซิ่วเป็นคนโปรดใกล้ชิดอันดับหนึ่งของไทเฮาฉือเซิ่งเชียวนะ!
พอได้ยินเช่นนี้ พระสนมกงก็สะดุ้ง สีหน้ากลับไม่ได้ยินดี หากตกใจหวาดกลัวหลายส่วน
*****************
พระสนมกงนั่งอยู่ มองไปยังนางกำนัลตำหนักตนนำทางจิ่นซิ่วเข้ามาอย่างนอบน้อม พอจิ่นซิ่วเข้ามา พระสนมกงก็อดไม่ได้ต้องยืนขึ้น กล่าวว่า
“พี่จิ่นซิ่ว…”
“พระสนมกงทำหม่อมฉันอายุสั้นแล้ว ไม่อาจรับได้จริงๆ จิ่นซิ่วถวายบังคมพระสนมกง”
กล่าวจบ จิ่นซิ่วก็ยิ้มแย้มคุกเข่าลงโขกศีรษะคำนับ พระสนมกงตอนนั้นเป็นนางกำนัลต่ำต้อยที่สุดในตำหนักฉือหนิงกง ตอนนั้นจิ่นซิ่วเป็นคนสนิทข้างพระวรกายไทเฮาแล้ว เป็นหัวหน้านางกำนัลตำหนักฉือหนิงกง สถานะย่อมไม่ธรรมดา ตอนนี้อยู่ๆ ตนมาเป็นนาย อีกคนเป็นนางกำนัล สถานะกลับกัน แต่จะว่าไปแล้ว เหมือนว่าสถานะแท้จริงของพระสนมกงตอนนี้ยังไม่อาจสู้จิ่นซิ่วได้
“…แม่ได้ดีเพราะลูก ถึงตอนนั้นพระสนมกงก็เป็นพระสนมเอก ก็เป็นฮองเฮา พอรัชทายาทได้ครองราชย์ พระสนมกงก็จะเป็นไทเฮาแล้ว!”
ในห้องมีแค่พระสนมกงกับจิ่นซิ่ว และจูฉางลั่วก็นอนหลับสนิท น้ำเสียงจิ่นซิ่วเบามาก ทว่ากลับกล่าวอย่างจริงจัง สีพระพักตร์พระสนมกงกลับไม่แปรเปลี่ยน ถอนหายใจตรัสว่า
“จิ่นซิ่ว ทางข้าไม่ได้คิดอันใด ขอเพียงลูกเจริญเติบโตอย่างราบรื่นปลอดภัยก็พอ”
เมื่อครู่กล่าวาไปมากเช่นนั้น คิดไม่ถึงว่าพระสนมกงไม่รู้สึกสนใจสักนิด ปฏิกิริยาเรียบเฉยเช่นนี้ ทำเอาจิ่นซิ่วขมวดคิ้วแน่น มองตามสายตาพระสนมกงไป เห็นจูฉางลั่วกำลังนอนหลับสนิทบนเตียงหลังน้อย จิ่นซิ่วเงียบไปครู่หนึ่ง กล่าวว่า
“พระสนมกงรักพระโอรส ไม่อยากให้ต้องจากไปไกลจากสายพระเนตร พระกระยาหารไม่ว่าสิ่งใดก็ย่อมทรงลองเสวยก่อนจะให้พระโอรสเสวย ก็คงเกรงว่าจะต้องเจอกับเรื่องไม่คาดคิดกระมัง?”
จิ่นซิ่วกล่าวจบ พระสนมกงก็พระวรกายสั่นน้อยๆ จิ่นซิ่วเข้าไปใกล้ แสร้งทำจริงจังกล่าวว่า
“พระสนมเพคะ ในวังนี้เรื่องใดก็เกิดขึ้นได้ ตอนนี้ข้างนอกวุ่นวายกันเพียงนั้น พระโอรสกำลังเป็นที่กล่าวถึง และพระนางในตำหนักเฉียนชิงกงนั้นก็ด้วย หากว่า…”
กล่าวไม่ทันจบพระสนมกงก็สีหน้าแปรเปลี่ยน ยกมือคว้าชายแขนเสื้อจิ่นซิ่ว กล่าวอย่างร้อนใจว่า
“เราแม่ลูกไม่คิดแย่งชิงวาสนาใด แต่ไรมาไม่เคยออกไปให้ใครเห็น จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ได้อย่างไร…”
จิ่นซิ่วสองมือกุมพระหัตถ์พระสนมกง ดูราวกับเป็นห่วงเป็นใยด้วยความจริงใจว่า
“พระสนมเพคะ ท่านอยู่ในวังมานาน เรื่องพวกนี้ในวังหรือว่าท่านไม่รู้กัน เพื่อตำแหน่งนั้น เรื่องใดก็ทำได้ทั้งนั้น ท่านนั้นเองก็ไม่ได้จิตใจเมตตาอันใด”
“พี่จิ่นซิ่ว ทำไงดี ข้าเป็นตายไม่เป็นไร แต่พระโอรสเล่า ไม่อาจปล่อยให้เกิดเรื่องได้เด็ดขาด ท่านช่วยพระโอรสด้วยๆ”
“พระสนมทำอะไรกัน ท่านไม่ใช่ทำให้ข้าอายุสั้นหรอกหรือนี่ ข้าน้อยสมควรตาย ทว่าก็มีวิธี ไทเฮาทรงรักใคร่เอ็นดูองค์ชาย รุ่นปู่ย่าก็มักจะเอ็นดูรุ่นหลาน หากองค์ชายอยู่ในความดูแลของตำหนักฉือหนิงกง ย่อมไร้ปัญหา”
*****************
“ฝ่าบาท พระโอรสตำหนักสนมกงถูกคนตำหนักฉือหนิงกงรับไปแล้ว บอกว่าไทเฮาต้องการพบพระนัดดา!”
จางเฉิงได้ข่าวก็ไม่สนใจว่าใครจะว่าอย่างไร รีบวิ่งกลับมายังห้องทรงอักษร ฮ่องเต้ว่านลี่กำลังถือถ้วยพระสุธารสชานั่งเหม่ออยู่นั้นก็ถึงกับอึ้งไป ถ้วยพระสุธารสชาร่วงลงพื้นแตกกระจาย
ไทเฮาเลี้ยงดูพระโอรส แต่บรรพกาลมาก็มีตัวอย่างมากมาย ไม่ใช่น้อยเลย ปัญหาก็คือไทเฮาเลี้ยงดูมา ถึงสุดท้ายโตเป็นรัชทายาท เดิมคิดว่าสามารถดึงต่อไปได้ แต่คิดไม่ถึงว่าตำหนักฉือหนิงกงจะแสดงท่าทีเช่นนี้ ฮ่องเต้ว่านลี่ไม่สนใจถ้วยพระสุธารสชา หากตรัสอย่างร้อนใจว่า
“พาไปเมื่อไร เรื่องแต่งตั้งพร้อมกันสององค์ได้แจ้งไปถึงเซินสือหังหรือยัง?”
“กระหม่อมเองก็เพิ่งรู้ข่าว เมื่อครู่นางกำนัลจิ่นซิ่วแห่งตำหนักฉือหนิงกงมาพาไป ตอนนี้ไปอยู่ตำหนักฉือหนิงกงแล้ว กระหม่อมไปถึงประตูวังก็ไม่คิดออกไปแล้ว ได้แต่รีบวิ่งกลับมากราบทูลฝ่าบาท”
ฮ่องเต้ว่านลี่ประทับนั่งนิ่งไปนาน ก่อนจะถอนใจตรัสขึ้น
“รับไปก็รับไป ไม่ได้บอกให้แต่งตั้ง อะไรก็ไม่แน่นอน”
ตรัสจบก็เงียบไปนาน ก่อนฮ่องเต้ว่านลี่จะตรัสถามขึ้นอีกว่า
“นอกวังรู้ข่าวแล้ว?”
จางเฉิงพยักหน้าเสริมขึ้นเบาๆ ว่า
“พระสนมเอก เกรงว่าก็คงรู้แล้ว!”
Comments for chapter "ตอนที่ 894 ย่าหลานแท้ๆ ความสัมพันธ์ครอบครัวกับอำนาจ"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
giorgioroc
เรื่องนี้เป็นปัญหาทุกราชวงศ์
ตามประวัติศาสตร์จูฉางลั่วได้เป็นรัชทายาท หลังจากนี้อีกหลายปี ได้เป็นฮ่องเต้ไท่ซาง
คิดว่าเรื่องนี้คงไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ฮ่องเต้ไท่ซางตายไวมาก เพราะสนมเจิ้งปองร้าย เพราะงั้นหวังทงน่าจะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า