องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 931 ทุ่งหญ้าแต่ละแห่ง
สภาพการณ์ประชุมของบรรดาพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิง หวังทงแน่นอนไม่อาจเห็นด้วยตาตนเอง แต่ภาพบรรยายเสมือนจริงก็ส่งมาถึงหวังทงอย่างรวดเร็ว
องครักษ์เสื้อแพรกับสายของหวังทงมีเรื่องสำคัญยิ่งกว่าต้องทำ ไม่มีเวลามารายงานเรื่องพวกนี้ รายงานฉบับนี้ได้อธิบายสภาพความจริงละเอียดและพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงฝากคนร้านสามธารานำไปเมืองหลวง แต่ไม่ได้นำมาให้หวังทง
ข่าวบรรยายละเอียดนี้นำมาเมืองหลวงให้บรรดาโรงงิ้วแต่ละโรง ให้พวกโรงงิ้วได้แสดงตามบทให้เร็วที่สุด ว่ากันว่าร้านค้าใหญ่เมืองกุยฮว่าเฉิงกับพ่อค้าที่ร่วมประชุมนั้นร่วมลงขันกัน นี่เป็นเงินจำนวนไม่น้อย
ว่ากันว่าพวกหนิวเกินกังกับหลายคนที่มีหน้ามีตาในเมืองกุยฮว่าเฉิงนั้นยังร้องไห้คร่ำครวญในการประชุมด้วยความเจ็บปวดเศร้าใจมาก ยังมีผู้คุ้มกันสองตาแดงก่ำ กวัดแกว่งดาบตะโกนว่าจะต้องแก้แค้น
ทั้งการประชุมเต็มไปด้วยความโกลาหล ทุกคนล้วนเดือดพล่านกับความโหดร้ายของเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นนอกด่าน เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันว่าวันหน้าไม่อาจอยู่ร่วมโลก
มีข่าวมาว่าหนิวเกินกังกับพ่อค้าใหญ่หลายคนได้วางแผนกันล่วงหน้าแล้ว ถึงตอนนั้นก็ทำทีร้องไห้ เรื่องนี้หวังทงผ่านไประยะหนึ่งจึงได้รู้
เมืองกุยฮว่าเฉิงคิดเปิดศึกกับพวกนอกด่าน และยังมีแค่ผู้คุ้มกันขบวนการค้าเป็นกำลังหลัก นี่ไม่ใช่ปฏิบัติการของทางการ ทุกคนอย่างไรก็รู้สึกกำลังไม่พอ ต้องการการสนับสนุนจากทางการ หรืออาจแอบสนับสนุนก็ได้
แต่ทว่าการต่อสู้อย่างไร้เหตุผลก็มักจะทำให้คนถือสา ดังนั้นจึงต้องบรรยายให้เมืองกุยฮว่าเฉิงปฏิบัติการครั้งนี้ด้วยคุณธรรม และให้ขุนนาง ให้ในวังและชาวประชาเมืองหลวงได้รู้กันด้วยการแสดงงิ้ว ขอเพียงโรงงิ้วแสดงได้ดี งิ้วว่าอย่างไร ชาวบ้านก็เชื่อเช่นนั้น
วิธีการนี้เกรงว่าอาจมีพรรคพวกตนร่วมอยู่ด้วย หวังทงรู้ดีแก่ใจ แต่ทว่าเรื่องนี้ในรายงานไม่ได้กล่าวละเอียด
ครั้งนี้ลงมือกับเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่น มีผลประโยชน์ยิ่งใหญ่ดึงดูด แม้แต่พวกหวังทงก็นั่งไม่ติด แน่นอนต้องออกความเห็นอยากเข้าร่วมด้วย
งิ้วเมืองหลวงเริ่มแสดง บนทุ่งหญ้าก็เริ่มร้อนแรง สำหรับชนเผ่าบนทุ่งหญ้า ฤดูร้อนกับต้นฤดูใบไม้ร่วงไม่ใช่ฤดูที่เหมาะแก่การรบ ในช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่สัตว์เลี้ยงกำลังเติบโต ทุกคนล้วนเร่งมือเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นพวกนอกด่านที่ออกปล้นส่วนใหญ่จึงอยู่ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงต้นฤดูหนาว
แต่สำหรับขบวนการค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงที่สะสมเสบียงเพียงพอ ฤดูใดก็ไม่ใช่ปัญหา หน้าร้อนหญ้าเติบโตดี อากาศเหมาะ กำลังเป็นโอกาสในการลงมือปฏิบัติการบนทุ่งหญ้า
ขบวนการค้าแต่ละตระกูลไปทางตะวันตกล้วนนำสินค้าไปมาก นำผู้คุ้มกันไปน้อย เพราะทางตะวันตกไม่มีผู้ใดกล้าทำอันใดขบวนการค้าแล้ว พวกเขาทำการค้ากับทางซีอวี้และเผ่าต่างๆ เป็นหลัก ทำการค้ากับพวกชาวฮั่นที่มายังพื้นที่ลุ่มน้ำเพาะปลูก แต่ไปทางตะวันออกล้วนนำสินค้าไปน้อย นำผู้คุ้มกันไปมาก รถใหญ่ พร้อมคนจำนวนมาก ยังมีอาวุธและเสบียงพร้อม พวกเขาไม่ใช่ขบวนการค้า แต่เป็นกองกำลังออกปล้น
ขบวนการค้ากับชนเผ่ารอบเมืองกุยฮว่าเฉิงที่ไปมาแล้วก็เห็นตำแหน่งที่ตั้งชนเผ่าและพื้นที่อุดมสมบูรณ์บนทุ่งหญ้าตะวันออกของเมืองกุยฮว่าเฉิง และยังมีแผนที่ระบุชัดเจนกับคนนำทางที่คุ้นเคยพื้นที่ ตอนนี้ที่พวกเขาต้องทำก็คือไปแย่งชิง ไปสังหารทิ้ง
ที่เรียกว่าไม่อาจอยู่ร่วมโลก แน่นอนไม่ใช่รวบรวมกำลังทั้งหมดในเมืองกุยฮว่าเฉิงไปร่วมรบเป็นตายทางตะวันออกกับเคอเอ่อร์ชิ่นและฉาฮาเอ่อร์ แต่เป็นว่าสองฝ่ายจากนี้ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อีก ขบวนการค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงตัดสินใจตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ทำการค้า เริ่มเข่นฆ่าแล้ว
ชนเผ่าที่ไม่มีกำลังทหารม้าห้าร้อย ต่อต้านขบวนการค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงก็ย่อมเสียเปรียบมาก พวกเขาเริ่มออกโจมตีก่อนก็ไม่อาจฝ่าด่านค่ายรถใหญ่ได้ หากถูกโจมตี พื้นที่ลุ่มน้ำนี้ไม่อาจละทิ้งไปได้ หากต้องอพยพไป ก็ได้แต่ต้องปล่อยให้คนและสัตว์เลี้ยงต้องตายและกระสานซ่านเซ็น ก็เท่ากับทั้งเผ่าสิ้นสูญเช่นกัน
การต่อสู้แม้ขบวนการค้าไม่อาจประกอบเป็นค่ายรถใหญ่ แค่สวมเกราะ ถือปืน อาศัยรถใหญ่เป็นกำบัง และยังมี ทหารม้าทุ่งหญ้าจากชนเผ่ารอบนอกเมืองกุยฮว่าเฉิงที่เชี่ยวชาญการต่อสู้เหมือนกันเข้าช่วย ชนเผ่าเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนเป็นหลักจะต้านทานไหวได้อย่างไร ได้แต่บาดเจ็บล้มตายไปก็เท่านั้น สตรีและเด็ก ยังมีสัตว์เลี้ยงถูกกวาดต้อนไปหมด
บนทุ่งหญ้าเมืองกุยฮว่าเฉิงไปเมืองเซวียนฝู่ตกอยู่ใต้การควบคุมของกลุ่มพ่อค้าติดอาวุธเมืองกุยฮว่าเฉิงในเวลาไม่นาน ขณะนี้มีพื้นที่ลุ่มน้ำหนึ่งห่างจากป้อมจางเจียโข่ว 150 ลี้ ที่แห่งนี้สร้างป้อมดินล้อมแล้ว มีอาวุธและเสบียงที่ขนมาจากเมืองเซวียนฝู่ มีกองกำลังติดอาวุธจากเมืองเซวียนฝู่มาประจำที่นี่แล้ว
เมืองเซวียนฝู่เดิมเป็นเมืองการค้าผงฟูกับการค้าสัตว์เป็นหลัก แต่ตั้งแต่เข้าสู่เดือนเจ็ดมา ราคาสัตว์เลี้ยงก็เริ่มลดฮวบลงอย่างรวดเร็ว ชาวนาเมืองเป่าติ้งกับเมืองเหยียนชิ่งซื้อวัวม้าก็เริ่มเลือก หากไม่ใช่ตัวที่อ้วนพีแข็งแรงก็ไม่สนใจ เพราะสัตว์เลี้ยงมีมาขายกันจำนวนมาก
เขตปกครองเหนือกับซานซีที่ใกล้กัน โดยเฉพาะตระกูลใหญ่เมืองชายแดน ล้วนเริ่มซื้อหาสัตว์เลี้ยงกับคนที่กวาดต้อนมาจากการปล้น ที่กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงปล้นได้มา หากจะส่งกลับมาจัดการที่เมืองกุยฮว่าเฉิงยุ่งยากสักหน่อย ขายให้หมดที่เมืองเซวียนฝู่ก็เหมาะสมดี
ของที่ปล้นชิงมาได้ใช้ต้นทุนไม่มาก และยังได้ผลประโยชน์อื่นมามากมาย ดังนั้นราคาจึงถูกมาก คนเขตปกครองเหนือล้วนรู้ว่าถูกมาก ผู้ใดก็ล้วนอยากจะมีส่วนในของถูกพวกนี้
เมืองหลวงกับเทียนจิน รวมถึงตระกูลใหญ่เขตปกครองเหนือแต่ละเมือง บรรดาผู้มีอำนาจอิทธิพลอาจไปเองหรือส่งคนไป ล้วนต้องเก็บเกี่ยวผลจากการขายทิ้งนี้ให้มากสักหน่อย
ชนชั้นสูงเมืองหลวงคึกคักเป็นพิเศษ เดิมหลายปีนี้พวกเขาเหมือนถูกละเลย ตามสภาพรอบด้านไม่ทัน เรื่องไขว่คว้าเงินทองใดล้วนตามไม่ทัน พวกเทียนจินฉวยโอกาสไปเสียหมด ทหารเมืองชายแดนอย่างเมืองต้าถงและเมืองเซวียนฝู่ได้กันไปก็เยอะ ตอนนี้นับว่าตามมาทันแล้ว เมืองเซวียนฝู่อยู่ข้างเมืองหลวง
ผลประโยชน์ร้อนแรง คนที่คิดร่ำรวย ก็เริ่มเห็นโอกาส มีคนไม่น้อยเริ่มพกความกล้า บ้างก็เป็นคนที่ไม่อาจทนลำบากในชนบทแล้วพากันรวมกลุ่ม บ้างก็อาจฉายเดี่ยว พากันเดินทางออกนอกเมืองเซวียนฝู่
บนทุ่งหญ้าตอนนี้ ไม่เพียงต้องการขุนนางบู๊มีความสามารถสังหารคนได้ เลี้ยงสัตว์เร่ร่อนได้ เพาะปลูกได้ ทำงานหนักได้ ทุกเรื่องสำคัญหมด อย่างไรก็ไม่อาจปล่อยให้ยึดมาได้แล้วไม่สนใจ
พวกเลี้ยงสัตว์เร่ร่อนชาวฮั่นต่างจากพวกนอกด่าน พวกเขาเลือกพื้นที่หญ้าอุดมสมบูรณ์ชัดเจนแล้ว ก็ขุดทางน้ำ สร้างป้อมกำแพงไม้ จากนั้นก็สร้างคอกสัตว์ กลางวันออกไปเลี้ยงสัตว์เร่ร่อน กลางคืนหลบในป้อม สัตว์เลี้ยงไล่ต้อนเข้าคอก หากมีโจรม้ามาก่อกวน ก็ใช้อาวุธป้องกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องค่อยว่ากันภายหลัง
อย่าเห็นว่าหวังทงกดดันตระกูลหลี่เมืองเหลียวโจว ทำให้ตระกูลหลี่ต้องถอยให้หลายก้าว ถึงกับแผ่นเหล็กกล้าอย่างเมืองเหลียวโจวยังถูกหวังทงแหวกออกได้ ร่ำรวยก็ส่วนร่ำรวย ทางเมืองเซวียนฝู่ไม่น้อยตั้งกองเล็กๆ ออกปล้น เบื้องหลังล้วนมีเงาของหลี่หรูซง ตอนนี้ผู้ใดมีกำลังการต่อสู้ก็ย่อมร่ำรวยบนทุ่งหญ้าได้ ขุนพลเมืองชายแดนย่อมมีกำลังการต่อสู้ที่มากที่สุด
กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงไปทางตะวันออกสร้างจุดพักขนาดใหญ่ทางตอนเหนือเมืองเซวียนฝู่ ตำแหน่งนั้นหากเกิดปัญหาขึ้น ทหารเมืองเซวียนฝู่ในวันหนึ่งก็ย่อมไปทัน มีคนบอกว่า กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงกับขุนพลทหารเมืองเซวียนฝู่ตระกูลหม่าและตระกูลลี่ล้วนมีสายสัมพันธ์ ตอนนี้ดูแล้ว หลี่หรูซงออกแรงในเรื่องนี้ไม่น้อย
ในบรรดากลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิง ร้านสามธารา ร้านหย่งเซิ่ง กับร้านทงไห่ดูเหมือนไม่ได้ประโยชน์อันใดนัก ผู้คุ้มกันหลายร้านก็ไม่ได้บุกอยู่หน้า กลับตั้งกระโจมอยู่ริมทะเลสาบหนองบึง น้ำจากแอ่งน้ำบนทุ่งหญ้าล้วนรสขม ไม่อาจเลี้ยงคนและสัตว์ให้ดื่มกินได้
ร้านสามธาราเคยทำการค้าขาดทุนที่ไหน ทุกคนล้วนแปลกใจ สุดท้ายก็เป็นพ่อค้าเมืองเซวียนฝู่ที่เข้าใจ คนจากสายร้านสามธาราครอบครองทะเลสาบที่มีผงฟู เทียนจินกับเมืองเซวียนฝู่มีการค้าใหญ่ก็คือการค้าผงฟู ผงฟูพวกนี้ล้วนขนมาจากบนทุ่งหญ้า การค้านี้ไม่รู้สร้างความร่ำรวยได้มากมายเท่าไร
แม้ว่ามีการค้าบนทุ่งหญ้า ราคารับซื้อก็กดต่ำมาก แต่หากนำทะเลสาบที่มีผงฟูมาเป็นของตนได้ กำไรก็ย่อมมากมายมหาศาล
ยังคนเป็นคนสายร้านสามธาราที่วางแผนได้ลึกซึ้ง ถึงกับไปชิงครองก่อนเสียได้ ทุกคนไปถึงก็ได้แต่กวาดต้อนเอาสัตว์เลี้ยงและคนเท่านั้น พวกเขาเตรียมการไว้ก่อนแล้วว่าจะยึดทะเลสาบผงฟูนี้
เสียใจภายหลังก็ส่วนเสียใจภายหลัง ทุกคนได้แต่ยอมรับหลักการนี้ บนทุ่งหญ้าทุกแห่งเป็นเงินเป็นทอง ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถคิดไขว่คว้ามาได้หรือไม่ ว่ากันว่าพวกที่ขายของเบ็ดเตล็ดตอนนี้ล้วนได้เป็นสมบัติก้อนโตแล้ว จะไม่รวยได้อย่างไรไหว เรื่องนี้ยิ่งดึงดูดผู้คนมากันมากยิ่งขึ้น
บนทุ่งหญ้าใช่ว่าทุกที่เป็นทองคำ ขบวนพ่อค้าไม่ได้เดินทางราบรื่นไปหมด ต่อสู้บนทุ่งหญ้าแน่นอนย่อมมีบาดเจ็บล้มตาย และเรียกได้ว่ามาก
มีขบวนรถบางกลุ่มที่ไม่อาจรักษาเสบียงอาหารและอาวุธไว้ได้ ถูกทหารม้าพวกนอกด่านบุกปะทะสังหารเรียบ กลางคืนมีคนฉวยโอกาสยามมืดมิดบุกเข้าไปสังหาร ยังมีคนแสร้งทำเป็นมาสวามิภักดิ์ แต่กลับพลิกลิ้นหรือไม่ก็นำพาไปที่อันตราย สังหารบาดเจ็บไปไม่น้อย
กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงสมคบกันเช่นนี้ก็แล้วไป แต่ยังมีพวกที่รวบรวมกำลังผู้กล้า แม้แต่ปืนไม่มีก็ยังพากันออกสู่ทุ่งหญ้า ปะทะทหารม้าพวกนอกด่านก็ไม่มีจุดจบที่ดี แท้จริงแล้วความน่ารันทดบนทุ่งหญ้ายังไม่เพียงเท่านี้ หลายคนแม้แค่ถูกธนูยิงธรรมดา แต่เพราะบนทุ่งหญ้าขาดแคลนยารักษา ไม่มีทางช่วยชีวิตไว้ได้ ดวงดีก็แค่ไร้แขนขา ดวงไม่ดีก็ได้แต่บาดแผลกำเริบและตายบนทุ่งหญ้า
กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงกระจายกันออกโจมตี คิดจะทำลายกำลังใดก็ต้องใช้กำลังทหารที่เก่งกล้าชิงความได้เปรียบ และต้องใช้เวลา ในฤดูกาลนี้ ทหารม้าชนเผ่าเล็กรวมตัวทำสงครามก็มีแต่ทำตัวเองตายอย่างช้าๆ
กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงเริ่มเปิดฉาก กำลังชาวฮั่นกรูกันออกสู่ทุ่งหญ้านับวันยิ่งมาก ความจริงนั้นได้ไล่บี้เผ่าใหญ่อย่างเคอเอ่อร์ชิ่นกับฮาลาเซิ่นไปทางตะวันออก ขอบเขตอิทธิพลอำนาจพวกเขาจากทางตะวันตกค่อยๆ ถูกกลืนกิน จากนั้นก็ได้แต่ถอย
แม้มีกำลังที่รวบรวมมาได้เตรียมสู้ครั้งสุดท้าย แต่ก็ต้องมีพื้นที่ให้ไปด้วย แต่เผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นความจริงนั้นไม่เพียงแต่ทางตะวันตกถูกกลุ่มพ่อค้าติดอาวุธบีบ ทางใต้ก็ยังมีเมืองเซวียนฝู่กับเมืองจี้โจวสองเมืองชายแดนแผ่นดินหมิง ทางตะวันออกยังมีเมืองเหลียวโจว
ทุ่งหญ้าหมื่นลี้ ไม่มีทางให้ถอย