องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 957 ขากลับก็ไม่ว่าง
ตอนหวังทงออกจากเมืองหนิงเซี่ย บารมียิ่งใหญ่กว่าขามามาก คนมีหน้ามีตาทั้งเมืองชายแดนล้วนมาส่งหวังทง
ไม่พูดถึงหวังทงอยู่หนิงเซี่ยช่วงเวลาสั้นๆ แค่เดือนเดียวก็สร้างอิทธิพลได้เพียงนี้ ยังได้เริ่มบุกเบิกที่ดินและเพาะปลูก ประสานผลประโยชน์สองฝ่ายได้มาก ทำให้มีผลประโยชน์ร่วมกัน สายสัมพันธ์สองฝ่ายก็ใกล้ชิดกันขึ้นมาในเวลาไม่นาน
มาเงียบๆ ก็เพื่อไม่ทำให้ตระกูลปัวรู้ตัว ตอนไปกลับไม่ต้องระวังตัวเช่นนั้น ครั้งนี้ไม่ต้องเดินเส้นทางผ่านภูเขา ใช้เส้นทางสะดวกไปเมืองซีอาน
เมืองหนิงเซี่ยนั้นจริงๆ อยู่ภายใต้การดูแลของผู้บัญชาการทหารส่านซีสามชายแดน สถานะเช่นหวังทงข้ามเขตแดน อย่างไรก็ต้องมาคำนับพร้อมกันกับผู้ว่าการมณฑล อ๋องฉินแห่งส่านซีก็ต้องปรากฏตัว
แน่นอนสองฝ่ายไม่เคยคบหากัน ก็ย่อมอ้างว่างานยุ่งแล้วก็จากไปได้ แต่ครั้งนี้พวกคนใหญ่คนโตที่ซีอาน มณฑลส่านซีพากันมาเรียนเชญ สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม เส้นทางซีอานกลับอ้อมไกลกว่า
มาพบโดยเฉพาะเพื่ออะไร หวังทงพอเดาได้ ยังมีผู้บัญชาการเมืองกานซู่ที่ได้ส่งคนสนิทมาแจ้งไว้ก่อนแล้ว ว่าจะมาคารวะหวังทง
เมืองกานซู่เป็นเมืองชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือแผ่นดินหมิง คบหากับเผ่าทางซีอวี้หลายเผ่า การค้ามีมาแต่โบราณ เมืองกานซู่มีโลกกว้างอยู่ รู้ว่าซีอวี้มีพื้นที่ทำนาเพาะปลูกที่เหมาะ รู้ว่าซีอวี้มีสินค้าหลากหลายและยังมีแร่ใต้ดิน ผู้บัญชาการกานซู่คิดง่ายมาก เตรียมจะไปเปิดร้านที่เมืองกุยฮว่าเฉิง ส่งทหารในสังกัดตนเข้าร่วมผู้คุ้มกันกลุ่มพ่อค้า วันหน้าไม่ว่าเพาะปลูกหรือทำการค้าที่ซีอวี้ เขาล้วนมีส่วนเต็มที่
เรื่องนี้หวังทงยินดียิ่ง กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงแม้ว่าบุกเบิกเส้นทางไปทางตะวันตกได้ไกลเพียงพอแล้ว แต่กองกำลังชื่อจิน เยี่ยเอ่อร์เชียงกับอี้ลี่ปาหลี่ พื้นที่ศูนย์กลางของซีอวี้เหล่านี้ล้วนไกลเกินไป ด้วยความช่วยเหลือของผู้บัญชาการกานซู่ ก็จะสามารถขยายไปถึงได้ ไยจะไม่ทำเล่า
แน่นอนผู้บัญชาการกานซู่เห็นการบุกเบิกลุ่มน้ำแล้วก็เข้าใจได้ อย่างไรก็ต้องนำเงินมาลงทุนโรงบ้านไว้สักสองสามแห่ง
ผู้บัญชาการกานซู่ระดับนี้ย่อมรู้โอกาสทางการค้า เมืองซีอานเป็นพื้นที่รุ่งเรืองใต้หล้าที่มีไม่มาก ผู้ใดจะไม่อยากเข้าร่วม
กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงเริ่มออกไปนอกกำแพงเมืองเพาะปลูกกันนานแล้ว ผู้มีอำนาจวาสนาส่านซีกับคหบดีท้องที่ก็เข้าร่วมกันมาก พวกเขาย่อมรู้ว่าจะสร้างความร่ำรวยได้อย่างไรมากกว่าที่อื่น ปีใหม่อยู่ๆ ก็มีพ่อค้าใหญ่ส่านซีมอบของขวัญให้หวังทง ตอนนี้คนก็มาถึงแล้ว อย่างไรก็ต้องพบหน้ากัน
แต่ความจริงนั้นเกี่ยวพันถึงการป้องกัน ชายแดนแผ่นดินหมิงล้วนมีเขตแดนป้องกัน เพาะปลูกล้วนต้องอยู่นอกกำแพงเมือง เกิดเรื่องขึ้น กองทหารเล็กๆ ยังแอบให้การปกป้องได้ หากกลุ่มใหญ่ ทหารก็ไม่รู้ทำอย่างไรเช่นกัน เรื่องชายแดนนั้นทุกคนล้วนรู้ดีแก่ใจ หากเกิดเรื่องจริง ทหารชายแดนใช่ว่าจะเก่งกว่าพวกโจร กลับเป็นกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงที่มีชื่อเสียงกว่า และลงมือได้ไวมากกว่า
ทุกคนล้วนเข้าใจดี เพราะเมืองกุยฮว่าเฉิงเป็นหวังทงดูแล ไม่พูดถึงว่าเป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากฮ่องเต้ว่านลี่ แต่บรรดาร้านค้าใหญ่ก็ล้วนเห็นหวังทงเป็นตัวแทน ไม่ต้องพูดถึงหวังทงมีผลประโยชน์ใหญ่ที่นั่น ทุกคนล้วนคิดจะพบหน้าพูดคุยกับหวังทง แม้ไม่ได้มีเรื่องนอกกำแพงเมืองพวกนั้นคุย แต่หากได้เชื่อมสัมพันธ์กับติ้งเป่ยโหว ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรก็ย่อมเป็นเรื่องดี
น้ำใจยากปฏิเสธ แม้เดินทางผ่านเส้นทางเมืองซีอานจะอ้อมไกลก็ต้องไป หวังทงรู้ดี หากทุ่งหญ้าตอนนี้มีเพียงกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงเสี่ยงภัยกลุ่มเดียวย่อมไม่พอ อย่างไรก็ต้องพยายามส่งคนออกไปบุกเบิกพื้นที่เพาะปลูกทำการค้า เช่นนี้จึงจะสามารถทำให้สถานการณ์แผ่นดินหมิงบนทุ่งหญ้ามั่นคง หากเป็นไปได้ ก็อาจจะขยายพื้นที่ออกไปได้อีก
อยู่ซีอานได้ครึ่งเดือนกว่า หวังทงรู้สึกว่าตนเองยุ่งกว่าตอนอยู่หนิงเซี่ยเสียอีก ทุกวันต้องพวกคนจากที่ต่างๆ ต้องยิ้มแย้มต้อนรับพูดคุย
ผู้บัญชาการส่านซีสามชายแดนกับผู้ว่าการมณฑลล้วนมาคารวะนอบน้อม หวังทงไปจวนอ๋องฉินเองก็พบกันอย่างนอบน้อมตามมารยาท จากนั้นที่เหลือก็ล้วนเป็นงานเจรจาการค้าอย่างเป็นรูปธรรม เช่นว่า พื้นที่เพาะปลูกส่านซีนอกกำแพงเมือง การเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ได้มาเท่าไร เมืองกุยฮว่าเฉิงจะรับซื้อไหม จะรับซื้อราคาเท่าไร กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงบนทุ่งหญ้าทำการค้ากับโรงบ้านเหล่านี้ ราคาจะมีส่วนลดไหม เป็นต้น
เหล่านี้ล้วนต้องเจรจา ทุกคนล้วนต้องเจรจาให้ละเอียด การค้าก็คือการค้า ไม่นานทุกคนก็ล้วนลืมสถานะยิ่งใหญ่ของหวังทง ทุกคนร่วมหารือการค้า!
ที่จริงแล้วพื้นที่เพาะปลูกใกล้กำแพงเมือง สินค้าส่งตรงไปขายส่านซีก็ได้ แต่ระยะห่างไกลออกไป ก็ยิ่งต้องการสายสัมพันธ์เมืองกุยฮว่าเฉิง
ยังมีเรื่องใหญ่อีกเรื่อง ก็คือบ่อเกลือฉือเหยียนที่หนิงเซี่ย ส่านซีกับหนิงเซี่ยเดิมนั้นก็ติดกัน ข่าวไปมาระหว่างกันก็ย่อมเร็ว ทุกคนล้วนรู้ว่าวันหน้าผลประโยชน์ใหญ่หนิงเซี่ยอยู่ในมือหวังทงแล้ว ไม่พูดถึงพื้นที่เพาะปลูกนอกกำแพงเมืองต้องการบ่อเกลือฉือเหยียน ส่านซีหลายเมืองก็ต้องการ
เกลือจากบ่อเกลือฉือเหยียนสู่ส่านซี ความจริงนั้นเป็นการค้าเกลือเถื่อน การค้าขายขนาดใหญ่เช่นนี้ เบื้องหลังล้วนเป็นตระกูลใหญ่ส่านซี คิดทำการค้านี้ต่อไป อย่างไรก็ต้องคุยกับใต้เท้าหวัง
ปืน ชุดเกราะ รถใหญ่ เกลือ สินค้าพวกนี้เป็นสินค้าที่ทุกคนต้องการ ความจริงนั้นสินค้ากับอาวุธจากกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิง และการฝึกซ้อมจากทหารเก่ากองกำลังหู่เวย เป็นบริการที่ทุกคนต้องการ
หลังจากพบปะผู้ว่าการมณฑล อ๋องฉินและทุกคนตามมารยาท พ่อค้าใหญ่ที่มาถึงที่หลายคนหลังจากนั้น เบื้องหลังส่วนใหญ่ก็ล้วนเกี่ยวข้องมีสายสัมพันธ์กับคนเหล่านี้ วันที่ห้า มีน้าชายคนเล็กของอ๋องฉินมาพบถึงที่ เพื่อคุยการค้ากับใต้เท้าหวังอย่างนอบน้อม
ที่ทำให้ทุกคนในส่านซีดีอกดีใจก็คือ ใต้เท้าหวังครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำตนร่ำรวย ยังช่วยทุกคนให้ร่ำรวยไปด้วย เช่นว่า ซื้อหาพรมและสัตว์เลี้ยงจำนวนมากจากส่านซี ของเหล่านี้ความจริงนั้นสามารถหาซื้อได้ที่หนิงเซี่ยกับเมืองกุยฮว่าเฉิง ราคายังถูกกว่าอีกหน่อย แต่หวังทงทำเช่นนี้ ความจริงนั้นเป็นการให้ประโยชน์แก่ทุกคน คืนกำไรตนให้กับทุกคน วิธีการเช่นนี้เรียกว่ามีคุณธรรมมาก
ทางนี้คุยจบ ทางซานซีก็ส่งคนมา กลุ่มการค้าซานซีล้วนมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเมืองกุยฮว่าเฉิง พวกเขามาครั้งนี้-เพื่อขอให้ใต้เท้าหวังขากลับแวะผ่านเมืองเซวียนฝู่สักหน่อย
สาเหตุก็ง่ายมาก ตอนนี้กลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงขยายพื้นที่ไปทางตะวันออกกว้างมาก ครอบครองการค้าเลี้ยงสัตว์และบ่อผงฟู การค้าไปถึงเหมืองทอง เชื่อว่าวันหน้าอีกไม่นาน ที่นี่ยังจะเป็นพื้นที่เพาะปลูกโรงบ้านรุ่งเรือง
สินค้ามากมาย ผลประโยชน์มากมาย ทุกคนล้วนควรต้องหารือ เพราะเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นใช่ว่ากำลังจะลดลง ไม่มีกลุ่มพ่อค้าติดอาวุธเปิดศึก คอยสร้างสมดุลกำลังอิทธิพลได้อย่างไร
ความจริงนั้นกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงกับซานซีพ่อค้าต่างรับรู้ได้เรื่องหนึ่งว่า พวกเขาขยายอิทธิพลออกไปทางตะวันออกของทุ่งหญ้า ส่งผลให้กำลังเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นยิ่งเข้มแข็ง ถึงกับทำให้เผ่าฉาฮาเอ่อร์ที่เคยเป็นศัตรูกับเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นหันมาร่วมมือกัน
เช่นนี้อิทธิพลมองโกลตะวันออกที่พวกเขาต้องเผชิญก็เพียงพอจะเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่แล้ว การต่อสู้ที่เหมืองทองหม่านเท่าเอ๋อร์ ทหารม้าเผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นบนทุ่งหญ้ามีพื้นที่ครองหลายแห่ง ทำให้กลุ่มพ่อค้ายิ่งต้องระวัง
พวกเขาขายพื้นที่เพาะปลูกไปทางตะวันออกของมองโกล ก็ต้องการกำลังเมืองเซวียนฝู่และกองกำลังมี่อวิ๋นให้การช่วยเหลือ รวมทั้งการปกป้องสินค้าด้วย ถึงกับส่งทหารกล้าออกมาดูแล
กำลังกลุ่มพ่อค้าเมืองกุยฮว่าเฉิงอย่างไรก็มีจำกัด ทุ่งหญ้าหมื่นลี้ พื้นที่ให้พวกเขากว้างใหญ่มาก ไม่อาจให้ทุกคนมีกำลังป้องกันเพียงพอได้
สามารถเจรจากับเมืองเซวียนฝู่ได้ ผู้มีสถานะเจรจาย่อมมีแค่หวังทง หวังทงก็มีจุดยืนนี้ แน่นอนผู้บัญชาการเมืองเซวียนฝู่หลี่หรูซงก็ทำให้ทุกคนวางใจ ทุกคนล้วนรู้ว่าสายสัมพันธ์หวังทงกับเมืองเหลียวโจวธรรมดามาก แต่หลี่หรูซงกลับเป็นคนหัวไว รู้ว่าอะไรเป็นผลประโยชน์ อะไรเป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอม
ตอนหวังทงออกเดินทางจากเมืองซีอาน ก็มีพ่อค้าจากเมืองกุยฮว่าเฉิงกับซานซีเร่งเดินทางมาซีอาน เรื่องหลักก็คือพ่อค้ามาคุยรายละเอียด เทียนจินอย่างไรก็ยังต้องส่งคนมา เพียงแต่ทางไกล คงกำลังอยู่ระหว่างเดินทาง
คนแม้ว่าอยู่ข้างนอก แต่ข่าวสารก็ยังคงไม่ขาด ตอนหวังทงเดินทางสู่เขตซานซี ข่าวจากเทียนจินก็มา
ข่าวนี้มาจากเมืองจี้โจวว่า เผ่าเคอเอ่อร์ชิ่นตอนนี้ทิ้งทหารไว้ที่ตัวหลุนเพียงห้าพันกว่า พวกชนเผ่าอื่นๆ ที่ไม่เคยเข้ามาสู่พื้นที่นี้มาก่อนก็เริ่มปรากฏตัว แต่เผ่าฉาฮาเอ่อร์ที่เป็นเผ่าใหญ่กลับไม่มีคนมากที่นี่ ที่ตัวหลุนนี้นับว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำบนทุ่งหญ้าหากกล่าวว่าราชวงศ์ฮั่นต้องการเป็นใหญ่ก็ย่อมต้องยึดพื้นที่ตอนกลางแผ่นดินจีน บนทุ่งหญ้าจะเป็นใหญ่ก็ต้องยึดตัวหลุนกับแม่น้ำถู่ม่อชวน
พื้นที่เช่นนี้ สองกลุ่มใหญ่กลับปล่อยทิ้งเช่นนี้ ช่างน่าสงสัย ชาวเมืองจี้โจวไม่กล้ารุกออกไปมาก หากเป็นพ่อค้าเทียนจินไม่น้อยไปทำการค้าที่ตัวหลุน พอรู้ข่าวนี้ แจ้งข่าวมาว่าสองกลุ่มใหญ่ตอนนี้ล้วนเคลื่อนไปทางตะวันออก
ข่าวเหมือนไม่น่าเชื่อ แต่คิดให้ดีก็วิเคราะห์ได้ง่ายว่า กลุ่มพ่อค้าติดอาวุธขยายพื้นที่เปลี่ยนจากแผ่นดินหมิงที่เคยใช้นโยบายป้องกันเป็นการรุกแทน กลุ่มอิทธิพลอำนาจบนทุ่งหญ้าไม่ถูกทำลายก็ควบรวมเป็นพวกกัน หรือไม่ก็ยอมหลีกทางให้กัน ชนเผ่าสองเผ่าทางมองโกลตะวันออกเห็นได้ว่ายอมหลีกทางให้กัน
ตั้งแต่สมัยฮ่องเต้จูตี้มา อิทธิพลอำนาจแผ่นดินหมิงบนทุ่งหญ้าตกอยู่ในสถานะเก็บตัวหัวหดในกำแพงเมือง แต่ตอนนี้กลับตาลปัตร หวังทงรู้สึกภูมิใจมาก
นอกจากข่าวเหล่านี้ที่มาอย่างกระจัดกระจาย เช่นว่า ร้านสามธาราทางใต้ได้ข่าวมาจากซาต้าเฉิง บอกว่าโจรสลัดวัวโค่วบนท้องทะเลเพิ่มมากขึ้น สาเหตุเป็นเพราะสถานการณ์ทางนั้นค่อยๆ สงบลง พวกขุนศึกพ่ายก็ได้แต่มาร่อนเร่บนท้องทะล มีทั้งหากินเดี่ยว และรวมตัวกับพ่อค้าทะเล
ยังมีทางเมืองเหลียวโจว ขุนพลทหารที่ส่งไปปราบเผ่าหนี่ว์เจินเปลี่ยนเป็นฉินเต๋ออี่ สามวันชนะเล็กๆ ห้าวันชนะใหญ่ ตามรายงานฉินเต๋ออี่ เผ่าหนี่ว์เจินได้ถูกสังหารไปหลายรอบแล้ว แต่ทว่าตามรายงานพ่อค้า เผ่าหนี่ว์เจินไม่ได้เสียกำลังหลักอันใดเลย เผ่าหนี่ว์เจินนับวันยิ่งเคียดแค้นชาวฮั่น