องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 982 ไปถึงที่แรกสำแดงบารมี
น้ำเสียงและท่าทางของหวังทง มีความรู้สึกมั่นใจเต็มเปี่ยม ความมั่นใจนี้มาจากความสำเร็จและชัยชนะที่ได้รับมาตลอดแต่เล็กจนโต
คนที่คุยกับเขามักถูกความมั่นใจนี้ครอบงำใจอย่างไม่ทันรู้ตัว แน่นอนเป็นเพราะเรื่องราวที่ผ่านมาของหวังทงเป็นประกัน ทุกคนล้วนพากันมั่นใจตาม
หวังซีเจวี๋ยที่เป็นกังวลได้หารือกับหวังทงแล้ว ความกังวลก็หายไปไม่น้อย เริ่มไปคุยต่อเรื่องอื่นในกองทัพ ถามขึ้นหลายเรื่อง
ทหารม้า ‘ผู้กล้า’ คุ้นเคยกับพื้นที่และผู้คนในพื้นที่มาก หัวโจรแลกเงินทำให้พวกเขาตั้งใจกันมากยิ่งขึ้น ที่หวังทงคิดไม่ถึงก็คือ ชายฉกรรจ์ในแต่ละหมู่บ้านไม่น้อยตามทัพมา ทัพใหญ่รับสมัครทหารม้า ‘ผู้กล้า’ เงื่อนไขสูง พวกเขาจึงสมัครใจเป็นผู้ติดตามทหารม้า ติดตามทำงานจิปาถะไป
ทัพใหญ่ไม่มีอำนาจจัดการเรื่องนี้ สื่อชีส่งสองสามคนปะปนเข้าไป ให้รายงานสถานการณ์ ทหารม้าหนึ่งคนอาจมีคนติดตามจากหมู่บ้านถึง 7-8 คน ล้วนนำม้าและอาวุธมากันเอง ทุกคนบอกว่าเป็นสายสัมพันธ์นายบ่าวก็ไม่น่าใช่ สายสัมพันธ์เจ้านายลูกน้องก็ไม่ใช่ เหมือว่าเป็นพวกร่วมกันทำการค้ามากกว่า
หวังซีเจวี๋ยทอดถอนใจกล่าวว่า คิดไม่ถึงเมืองเหลียวโจวร่ำรวยเช่นนี้ ม้าและอาวุธ หมู่บ้านต่างๆ ล้วนสะสมไว้มากมายเพียงนี้
หวังทงสามารถส่งกำลังทหารม้าเหล่านี้ออกไปไกลที่สุด ให้ทหารม้ากองทัพร่วมประสานกำลังกับทหารม้าชาวบ้าน ส่วนใหญ่ก็รวมเป็นขบวนใหญ่ได้
แต่ที่ไม่เหมือนกันกับที่คิดไว้ก็คือ ทางตะวันตกกับทางใต้ของเหลียวหยาง ไม่พบเผ่าหนี่ว์เจินหรือเผ่ามองโกลเลย แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ยังอยู่ขอบเขตที่ควบคุมได้
ขันทีคุมกำลังเฉินจวี่เห็นท่าทีหวังซีเจวี๋ยแล้ว ก็เข้าใจว่าตนควรทำตัวเช่นไร จริงๆ เขานั้นทำหน้าที่ได้ดี ‘คุม’ ไม่ทำอะไร เขาทำได้มีตกบกพร่อง
เสบียงทัพใหญ่ใช้เงินไปแต่ละก้อน ล้วนต้องผ่านตาเขา ไม่ใช่ว่าหาเรื่องให้ทำงานลำบาก แต่เพราะเป็นห่วงมีการโกงกินในกองทัพหรืออาจมีคนกอบโกย จึงได้ตั้งใจทำงานนี้ หนึ่งก็เพื่อหางานทำ สองก็เพราะเขาคิดว่าหากยังใช้จ่ายเช่นนี้ ทัพใหญ่อาจยันไว้ได้ไม่นาน
แต่ทว่าเฉินจวี่จับตาได้ 20 วัน ก็พบว่า การเสบียงหวังทงอาจใช้คำว่า ‘มือสะอาด’ มากล่าวถึงก็ได้ ไม่ใช่ไม่ฟุ่มเฟือยจ่ายหนัก ไม่ใช่ว่าไม่มีการละโมบเล็กน้อย แต่ไม่มีการหักเบี้ยอันใด ทุกอย่างล้วนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สถานการณ์แบบนี้แม้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่ตั้งใจที่สุดก็ยังไม่อาจทำได้ ทำให้เฉินจวี่เลื่อมใสอย่างมาก แต่เมื่อเห็นทุกคนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ เขาเริ่มรู้สึกกลัวอยู่บ้าง
***************
ที่นำทหารมารับก็คือหลี่หรูเหมยขุนพลเมืองเหลียวโจว ผู้ช่วยคือฉาต้าโข่ว สองคนนำทหารสองพันมาถึง พวกเขาสองคนแม้ว่าท่าทีนอบน้อม แต่ไม่อาจเรียกได้ว่าสนิทใจอันใด
การเย็นชาใส่เช่นนี้หวังทงคาดเดาไว้ก่อนหน้าแล้ว องครักษ์เสื้อแพรมีรายงานมาก่อนหน้าว่า พวกเมืองเหลียวโจวทุกระดับพูดถึงหวังทงด้วยอาการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกันส่วนมาก สาเหตุก็ง่ายมาก หากไม่ใช่หวังทงบีบ เมืองเหลียวโจวจะพ่ายแพ้เช่นนี้ได้อย่างไร
แน่นอนเมืองเหลียวโจวเหตุใดปล่อยปละศัตรูตน เหตุใดถูกศัตรูที่อ่อนแอกว่าตีพ่ายได้ เรื่องนี้ไม่มีคนพูดถึง
หวังทงย่อมไม่ใส่ใจกับท่าทีเช่นนี้ หวังซีเจวี๋ยกับเฉินจวี่เกรงใจหวังทง แต่กับขุนพลทหารเมืองเหลียวโจวกลับวางตัวเหนือกว่ามาก
“ผู้บัญชาการแม่ทัพใหญ่เรารู้ว่าฝ่าบาทมีราชโองการ ควรออกมาต้อนรับ แต่แม่ทัพใหญ่ตอนนี้อายุมากแล้ว ยังล้มป่วย ขอใต้เท้าทุกท่านโปรดอภัย”
ยามส่วนตัว ฉาต้าโข่วยังเอ่ยถึงเรื่องนี้กับพวกหวังทงสามคน ขุนพลชายแดนในพื้นที่แสดงความนอบน้อม อย่างไรก็ต้องออกนอกเมืองมาต้อนรับ แต่หลี่เฉิงเหลียงไม่อาจมาได้จริงๆ
เฉินจวี่ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ ตามระเบียบราชสำนัก ควรประกาศราชโองการในที่ทำการ แต่เขาก็ย่อมรอความเห็นหวังทง หากหวังทงคิดอาศัยโอกาสนี้ลงมือ เขาก็ย่อมให้น้ำใจ
ที่หวังทงสนใจไม่ใช่เรื่องนี้ หลี่หรูป๋อกับหลี่หรูเหมยจัดที่ตั้งฐานทัพให้ทัพใหญ่ปราบตะวันออก ห่างจากเหลียวหยางสิบลี้ เหลวไหลจริง สาเหตุก็เห็นได้ตอนเข้าเมืองมา รอบเหลียวหยางตอนนี้มีทหารห้าหมื่นหรืออาจมากกว่านั้น
พอถามจึงได้รู้ หลังพ่ายศึกกลับถึงเหลียวหยาง หลี่เฉิงเหลียงก็ระดมทหารทุกสารทิศกลับมาป้องกัน ทหารส่วนใหญ่ตอนเหนือเหลียวหยางถูกเรียกตัวกลับมาหมด รอทัพใหญ่ศัตรูล้อมเสิ่นหยาง หลี่เฉิงเหลียงก็ล้มป่วย หลี่หรูป๋อยิ่งลนลาน ถึงกับระดมกำลังทหารฝึกใหม่จากหน่วยต่างๆ มาหมด
พอเข้าเมืองมาพักในจวนใหญ่ตระกูลหลี่เรียบร้อย ทหารติดตามก็นำข่าวใหม่ล่าสุดจากองครักษ์เสื้อแพรในเมืองมารายงานหวังทง ว่าตอนนี้ในเมืองสังหารปล้นชิง เรื่องพังประตูบุกเข้าไปปล้นพฤติกรรมชั่วร้ายพวกนี้ตอนนี้เป็นเรื่องปกติ ทหารติดตามตระกูลหลี่กับคนงานตระกูลใหญ่ในเมืองและทหารเสริมกำลังจากนอกเมือง มักจะมีเรื่องกันประจำ ตามถนนชกต่อยกันได้เลือดเป็นเรื่องปกติ ราษฎรตัวเล็กๆ ล้วนพากันหลีกหนี
ที่แท้มีเรื่องกันถึงขั้นนี้ ที่ทำการผู้บัญชาการก็ส่งทหารมาคุมสถานการณ์ไว้ก่อนหน้าแล้ว ตอนนี้จิตใจทุกคนหวาดหวั่น ไม่มีผู้ใดสนใจผู้ใด ผลปรากฏในเมืองนอกเมืองนับวันยิ่งชุลมุน
ข่าวรายงานมากจริงๆ หวังทงให้ทหารติดตามนำตัวคนรายงานเข้ามา เขาเป็นผู้บัญชาการสำนักองครักษ์เสื้อแพร มีสถานะนี้ แม้ดูแล้วขัดตา แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเอาเรื่อง
คุยกันไม่นาน คนในที่ทำการก็ว่าจัดห้องและกำยานพร้อมแล้ว ขอทุกท่านไปประกาศราชโองการได้
หวังทงได้ยินคนมากมายบรรยายหน้าตาหลี่เฉิงเหลียง แม้ไม่ได้เห็นด้วยตนเอง แต่หวังทงก็ยังพอนึกภาพออก ขุนพลใหญ่มากบารมีและองอาจผู้นี้ย่อมไม่ธรรมดา แต่พอเห็นสองคนประคองหลี่เฉิงเหลียงออกมา หวังทงก็อึ้งไป เป็นชายชราผอมแห้ง แค่นี้เท่านั้น
ร่างกายถานเจียงฝืนไว้อยู่ แต่ถานเจียงยังมีจิตใจฮึกเหิมประคองไว้ แต่ชายชราตรงหน้าล้วนไม่มี หลี่เฉิงเหลียงซีดเซียวซูบผอม หวังทงคิดไม่ถึงจริง
หลี่เฉิงเหลียงสถานะสูงส่ง พบพวกหวังทงก็เพียงแค่พยักหน้ากันเท่านั้น หลี่เฉิงเหลียงกล่าวว่า
“ข้าเป็นขุนพลมาทั้งชีวิต มาถึงตอนแก่ กลับก่อเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่เช่นนี้ได้ ฝ่าบาททรงพระเมตตาไม่ลงอาญา แต่โทษความผิดนี้ ฟ้าคงไม่ปราณี พอกลับถึงเหลียวหยางก็ล้มป่วย หมอกำชับว่าอาการป่วยนี้ไม่อาจต้องลมหนาว ดังนั้นจึงไม่ได้ออกไปต้อนรับทุกท่าน ขอทุกท่านโปรดอภัย”
หวังทงก้มหน้าลงเล็กน้อย ช่างสมเป็นขุนนางในวงการมาหลายสิบปีเสียจริง ป่วยซูบผอมเช่นนี้ยังคงท่าทีไม่ขาดตกบกพร่อง หากมีใจเช่นนี้ในการศึก จะมาถึงวันนี้ได้อย่างไร
จากนั้นก็เป็นไปตามกระบวนการ เป็นเฉินจวี่ประกาศราชโองการ พ่ายใหญ่ครานี้ พ่อลูกตระกูลหลี่ล้วนมีความผิด หลี่เฉิงเหลียงถูกลดบรรดาศักดิ์ พ่อลูกตระกูลหลี่ถูกปรับเบี้ยหวัดสามปี
การลงโทษเช่นนี้สำหรับตระกูลหลี่แล้ว เรียกได้ว่าไม่ได้ทำให้รู้สึกเท่าไร แต่ทว่าทุกคนล้วนรู้ ตระกูลหลี่ในเมืองเหลียวโจวราวกับอ๋อง คงไม่อาจมีวันนั้นอีกแล้ว
ราชโองการอีกส่วนหนึ่งมีเนื้อหาว่า ทุกคนเมืองเหลียวโจวให้ประสานกำลังเสริมทัพใหญ่ปราบตะวันออก ขุนพลทหารเมืองเหลียวโจวล้วนอยู่ใต้บังคับบัญชาของหวังซีเจวี๋ย หวังทงและเฉินจวี่ ผู้ว่าการเขตจี้เหลียวที่มาคุมสถานการณ์ก่อนหน้าได้ไปปักหลักที่กองกำลังหนิงหย่วนแล้ว เพื่อให้สั่งการทับกันกับพวกหวังซีเจวี๋ย
ราชโองการประกาศจบ หลี่เฉิงเหลียงก็นำขุนพลทหารเมืองเหลียวโจวทั้งหมดคารวะหวังซีเจวี๋ย หวังทงและเฉินจวี่ตามธรรมเนียมทันที สามคน ถือเป็นผู้บังคับบัญชาแล้ว
ในนี้มีหวังซีเจวี๋ยสถานะสูงสุด มาถึงที่นี่ครั้งแรก อย่างไรก็ต้องประชุมสั่งการ พ่อลูกตระกูลหลี่กับทหารเมืองเหลียวโจวนั่งกันตามลำดับชั้น จัดที่นั่งให้หลี่เฉิงเหลียงที่หนึ่ง นับว่าให้เกียรติ
ทุกคนล้วนรอหวังซีเจวี๋ยกล่าว แต่กลับเห็นหวังซีเจวี๋ยหันไปทางหวังทงพยักหน้า ยิ้มกล่าวว่า
“ขอใต้เท้าหวังกล่าวละกัน ข้าเหมือนกับตลอดทางที่มา นั่งรับฟังก็พอ!”
ขุนพลทหารเมืองเหลียวโจวไม่อาจกล่าวอันใด ได้แต่สบตากันไปมา สายตาล้วนตกตะลึงแปลกใจ ราชสำนักส่งผู้บัญชาการที่ปรึกษาทัพมา เป็นถึงรองอำมาตย์คณะเสนาบดีใหญ่ ยังมอบให้หวังทงเป็นใหญ่?
หลี่เฉิงเหลียงที่นั่งอยู่หันไปส่ายหน้าเบาๆ กับทุกคน ส่งสัญญาณว่าให้เงียบ แต่ตัวหลี่เฉิงเหลียงกลับลอบถอนหายใจ หวังทงอำนาจล้นฟ้าแล้ว เขารู้นานแล้ว แต่ทุกครั้งก็พบว่าอำนาจหวังทงเหนือกว่าที่เขาคาดไว้มาก หากรู้ก่อนหน้านี้ ไยต้องมีลูกเล่นเช่นนั้นก่อนหน้านั้นด้วย ทำให้เกิดเรื่องกันมาหลายครา
หวังทงตอนนี้มาถึงที่แล้ว อำนาจตระกูลหลี่และพื้นที่เมืองเหลียวโจวสามารถไม่เอาแล้ว ขอเพียงทั้งครอบครัวไม่ต้องมีภัยก็ถือว่าเป็นโชควาสนาแล้ว
“ยามเผชิญหน้าศัตรู ไม่ขอกล่าววาจามากความ ข้าขอจัดการสองสามประการ เกี่ยวกับทุกท่านที่นี่ ให้รีบเร่งดำเนินการ ไม่อาจรอช้า!”
หวังทงกล่าววาจาเป็นการเป็นงาน ทำให้ทุกคนรู้สึกอึดอัด หลายคนถลึงตาคิดโต้ แต่สายตากำราบของหลี่เฉิงเหลียงกวาดตามองมา หลี่เฉิงเหลียงแม้ว่าสุขภาพอ่อนแอ แต่ยังคงทรงบารมีในเมืองเหลียวโจว คนเบื้องหน้าล้วนเงียบทันที
“ทหารหน่วยฝึกนอกเมือง พรุ่งนี้ให้กลับประจำการที่เดิม…”
ทุกคนเบื้องหน้าพากันถลึงตาจ้องไม่พอใจ หวังทงกล่าวต่อว่า
“โกดังในเมืองแต่ละแห่งให้ส่งมอบเร็ววัน ให้กองเสบียงข้าเข้าดูแล ให้ทหารเมืองจี้โจวกับเมืองเหลียวโจวร่วมเฝ้าป้องกัน แจกจ่ายตามคำสั่ง ล้วนให้กองเสบียงข้ารับหน้าที่ดูแล!”
กล่าวจบ คนเบื้องหน้าก็เริ่มเอะอะ หวังทงกล่าวไม่จบต่อว่า
“จากวันนี้ไป ข้าจะส่งทหารไปลาดตระเวนตามท้องถนน ยามสงครามไร้น้ำใจ ทหารไม่อยู่ในค่ายถือเป็นทหารหนีทัพ กระทำการไร้กฎหมายถึงเป็นโจร หากจับกุมได้ ไม่ว่าเป็นคนผู้ใด ตระกูลใด สังหารหมด”
สั่งการสามเรื่องเสร็จ ไม่ว่าหลี่เฉิงเหลียงถลึงตาจ้องอย่างไร ล้วนไม่อาจกำราบลูกหลาและขุนพลคนสนิทตระกูลหลี่ได้ มีคนส่งเสียงด่าขึ้นเบาๆ หวังทงกวาดตามองกล่าวว่า
“ข้าเคยนำทัพสามหมื่นขึ้นเหนือปราบเผ่าอันต๋า ตัดหัวมาได้หกหมื่น ยึดเมืองศัตรูมาได้ ตอนนี้การทหารเคร่งเครียด คำสั่งทางการค่อยมีตามไป ทุกคนไปจัดการกันก่อน!”
วาจานี้เหมือนไม่สอดรับกัน แต่สถานการณ์วุ่นวายตรงหน้าที่เดิมมีคนคิดจะออกมา หลี่เฉิงเหลียงก้มหน้าไม่ยับยั้ง อยู่ๆ ก็ค่อยๆ เงียบ ทุกคนสีหน้าล้วนให้ความเคารพ
หวังทงนำกำลังทหารสามหมื่นขึ้นเหนือ ตัดหัวศัตรูหกหมื่น ยึดเมืองศัตรูมาได้ เมืองเหลียวโจวนับแสนยกทัพปราบตะวันออก กลับพ่ายแพ้กระจัดกระจาย แข็งแกร่งหรืออ่อนแอเห็นได้ชัด การใช้กำลังเหนือกว่าสยบผู้คนเป็นเรื่องที่ขุนนางบู๊ยอมรับ
Comments for chapter "ตอนที่ 982 ไปถึงที่แรกสำแดงบารมี"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
เจม
ตัวละครตรรกะป่วยช่างมีมากมายเหมือนเม็ดทราย