องครักษ์เสื้อแพร - ตอนที่ 985 เหลียวหยาง หนึ่งวันหนึ่งคืน
ไม่เพียงแต่เมืองเหลียวโจว ขุนนางบู๊ใต้หล้าล้วนมีความคิดคล้ายกันอันหนึ่ง ก็คือทวนยาวและดาบใหญ่เป็นอาวุธดี แต่ที่ใช้งานได้ดี มีแต่ลูกหลานทหาร
ทวนยาวใช้ได้ดีในสนามรบ เป็นอาวุธสังหารที่ดีจริง แต่หากไม่ได้ฝึกแต่เด็กก็ยากจะชำนาญ ไม่สู้ใช้ดาบหรือขวาน ดาบหรือขวานอย่างไรก็ไม่มีความยาว บังคับกระชับมือได้ราวกับแขนตน
กลับมาที่สถานการณ์ยามนี้ ทหารตอนนี้ใช้ทวนยาวเยอะที่สุด ก็เพราะทวนยาว อย่างไรก็ประหยัดเหล็กและเวลาทำมากกว่าดาบ ด้ามทวนใช้ไม้ สามารถใช้ไม้ไป๋ล่าเป็นด้ามทวนย่อมไม่ใช่ทหารธรรมดา
ทหารเมืองเหลียวโจวก็มีฝีมือการต่อสู้เช่นกัน ทุกคนล้วนใช้ดาบและขวาน เข้าใกล้ปะทะ แสดงถึงความองอาจกล้าหาญ เผ่าหนี่ว์เจินก็เช่นกัน มีแต่พวกอ่อนแอจึงจะใช้ทวนยาววางท่าวางทางเท่านั้น ชายฉกรรจ์แท้จริงล้วนใช้ดาบสั้นเข้ารบในสนามกันทั้งนั้น
ขุนนางบู๊ทุกคนล้วนคิดเช่นนี้ แม้ทหารปกติถือทวนสู้ดาบศัตรู เกิดเรื่องง่ายมาก อันแรกคือแทงไม่ดี ถูกคนใช้ดาบเข้าประชิดได้ก็ย่อมยุ่งยาก
ตอนนี้ทหารไร้ระเบียบถือดาบและขวานกันมาก ล้วนเป็นดาบและขวานเป็นส่วนใหญ่ ส่วนทหารทวนยาวกองกำลังหู่เวยกลับบีบเข้าใกล้ทีละก้าว สถานการณ์นี้เรียกได้ว่าใกล้เสียเปรียบ
ควันดินปืนเริ่มกระจายหายไป ท้องถนนเห็นศพกองเกลื่อนกลาด ด้วยชื่อเสียงกองกำลังหู่เวย น่าจะไม่เสียเปรียบ ขุนนางบู๊เมืองเหลียวโจวหลายคนบนกำแพงที่ชมอยู่ พวกตาดีก็จะเห็นว่าสีหน้าพลทวนยาวกองกำลังหู่เวยเคร่งเครียด ดูท่าแล้ว เห็นชัดว่าเพิ่งเห็นการหลั่งเลือดเช่นนี้เป็นครั้งแรก
ที่คนบนกำแพงเมืองเห็นก็คือ ทหารไร้ระเบียบเบื้องหน้าเริ่มกระวนกระวาย อย่างไรก็ทางตัน สู้ตายเท่านั้น ตอนนี้โอกาสมาแล้ว ทหารไร้ระเบียบแต่ละคนล้วนถูกกระตุ้นให้ฮึดสู้
“สังหารได้หนึ่งเท่าทุน ได้สองก็กำไรแล้ว!!” ตอนนี้ไม่มีคนคิดวิ่งออกมา คิดแต่จะสู้อย่างไรไม่ให้เสียเปรียบ ทหารไร้ระเบียบที่ยังเหลืออยู่ยังคงมีความกล้าหาญ ตะโกนดัง รวมกำลังกันบุกออกไป
บีบเข้าใกล้เพียงพอแล้ว ตามองเห็นทวนยาวตรงหน้า คนตรงหน้าแม้ว่าหวาดกลัว แต่คนด้านหลังกลับไม่ยอมให้เขาถอยหลัง ทหารไร้ระเบียบด้านหน้าได้แต่ตัดใจ ระหว่างทวนยาวกับทวนยาวย่อมมีช่องว่าง เสี่ยงเอาละกัน
“สังหาร!!”
หัวหน้าทหารปีกขวาตะโกนดัง เห็นพวกด้านหน้าราวพยัคฆ์มุ่งเข้าโจมตีทหารไร้ระเบียบ กองกำลังหู่เวยเหล่านี้ล้วนเป็นทหารใหม่ ในใจยังหวาดกลัว พวกเขากับหน่วยที่ฝึกจากเมืองกุยฮว่าเฉิงไม่เหมือนกัน พวกเขาอยู่ในพื้นที่สงบเช่นเทียนจิน นอกจากฝึกตรากตรำลำบากแล้ว ไหนเลยเคยพบการนองเลือด
ในสนามฝึกภายใต้การคุมของครูฝึกที่ใช้ไม้พลองและแส้หนัง ระเบียบวินัยเข้มงวด และเวลาฝึกซ้อมเพียงพอ ทำให้พวกเขาเมื่อทำตามคำสั่งหัวหน้าแล้ว ก็เหมือนเครื่องจักรทำงาน
กระชับทวนยาวให้แน่น พยายามยกให้ได้ระดับสูง ใช้แรงแทงเข้าไปตรงหน้า ตอนแทงออกไป พวกเขาก็ยังคงกลัว แต่ท่าทางเคลื่อนไหวก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ทหารไร้ระเบียบด้านหน้ารู้ว่าอีกฝ่ายแทงมา ต้องรู้หลบ แต่ป้องกันช่วงท้อง คิดไม่ถึงอีกฝ่ายจะแทงสูง ยกดาบกันไว้ไม่ทัน หน้าอกและลำคอถูกแทงทะลุ เลือดสดสาดกระจาย
มีบางคนทะลุแถวพลทวนยาวหนึ่งเข้าไปตามช่องว่างได้ ไม่ทันได้เดินหน้าต่อ ก็มองเห็นพลทวนยาวแถวสองรอจ่ออยู่ ย่อมสิ้นหวัง
มีพวกที่เคลื่อนไหวว่องไว เห็นท่าไม่ดี ก็กลิ้งไปบนพื้นราวกับน้ำเต้าคิดหาทางรอดระหว่างแถวทวนยาวไป แต่เขาไปได้ไกลกว่าเพื่อนทหารด้วยกันอีกเล็กน้อยเท่านั้น เพราะพลทวนยาวแถวสามมารอแทงอยู่แล้ว แทงเสียบติดพื้นทันที
เสียงร้องโหยหวนดังไปทั่วท้องถนนไม่หยุด ทหารเหลียวโจวบนกำแพงล้วนไม่อาจคลายสายตาในฉากนี้ แม้ว่าเสียงร้องโหยหวนดังมากมาย หากแต่ละคนล้วนรู้สึกว่าเสียง ‘ฉึกๆ’ ของทวนยาวแทงทะลุนั้นดังกว่า บนสนามต่อสู้มีแต่เสียงนี้ที่กระทบโสตหูดังที่สุด
หน่วยกองกำลังหู่เวยแต่ละหน่วยมารวมกัน ทหารไร้ระเบียบเริ่มน้อยลง จิตใจคิดต่อสู้แตกกระเจิงไปนานแล้ว มีคนคิดหนี แต่ไร้ทางหนี ทางเข้าออกทั้งหมดถูกกองกำลังหู่เวยอุดไว้หมด สองข้างทางเป็นกำแพงสูงบ้านใหญ่ เกรงว่าปีนเข้าไปไม่ได้
มีคนคุกเข่าร้องขอชีวิต แต่กองกำลังหู่เวยยังคงไม่ลังเลแทงสังหารทิ้งทันที มีคนสติแตกแล้ว วิ่งไปร้องไป แต่ก็ยังคงต้องตายใต้คมทวน หัวหน้าทหารไร้ระเบียบชุดสุดท้ายเป็นทหารนายกองร้อยเป็นส่วน พวกเขาเห็นอยู่ว่า พวกทหารกองกำลังหู่เวยพากันอาเจียน มีคนวิ่งออกไปร้องไห้ แต่พวกเขากลับยังคงแทงไม่หยุด ราวเครื่องจักรทำงานวนซ้ำไปมา
หลังวันนี้ผ่านไป เจ็ดหน่วยกองกำลังหู่เวยไม่มีทหารใหม่อีกแล้ว
“ข้ารู้สึกเวียนหัว เดี๋ยวเจ้าไปรายงานแม่ทัพใหญ่หวังหน่อยว่าข้าขอลาป่วย บอกว่าพรุ่งนี้ข้าจะไปรับคำสั่งท่านแม่ทัพที่กระโจม วันนี้ไปไม่ไหวแล้ว”
ฉาต้าโข่วสีหน้าซีดเผือดหลังดูการต่อสู้อยู่บนกำแพง เหมือนป่วยกะทันหัน ทหารติดตามแปลกใจมองตาเขา ฉาต้าโข่วรีบลงจากบันไดไปทันที พอถึงพื้นดิน ก็ถอนหายใจ ‘เฮือก’ ออกมา
ขุนพลทหารเมืองเหลียวโจวแม้เป็นพวกหรูหราฟุ่มเฟือย แต่ก็เคยออกสนามรบสังหารมา เห็นเลือดและการบาดเจ็บมามาก หากการต่อสู้วันนี้ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบาย รู้สึกทำกับทหารที่อยู่ท่ามกลางมีดดาบเหล่านี้โหดเหี้ยมไป เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึก การรบไม่เกี่ยวอันใดกับความกล้าหาญของขุนพลทหารและพลทหาร ปัจจัยหลักมีอีกอย่างคือ เครื่องมือสังหารเลือดเย็น สังหารกวาดล้างยังสู้ไม่ได้
****************
ทหารไร้ระเบียบถูกสังหารกวาดล้างอย่างโหดเหี้ยม ยามนี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว หลังประกาศราชโองการ ทุกคนยังมีท่าทีใส่อารมณ์กับคำสั่งหวังทง
แต่หลังกวาดล้างเก็บกวาดไปแล้ว พวกหลี่หรูป๋อก็มาขอพบหวังทงเอง กล่าวว่าจะส่งคนมาช่วยทัพใหญ่เคลื่อนย้ายศพ อย่างไรก็ศพมากมายอยู่ในเมือง ทำให้เกิดโรคระบาดได้ง่าย
“อากาศหนาว ศพทิ้งไว้ในเมืองวันหนึ่งไม่เป็นไร”
หวังทงตอบง่ายดายมาก ยังคงห้ามทุกคนออกจากเมือง หวังทงให้ขุนนางท้องที่ ทหารในสังกัดตนกับองครักษ์เสื้อแพรในเมืองร่วมประสานงาน คนร้านสามธาราที่เชี่ยวชาญพื้นที่ให้ออกมาช่วยงาน หวังทงส่งคนไปขอให้หลี่เฉิงเหลียงจัดการดูแลความสงบในเมืองให้ 500 นาย หน่วยเจ็ดกองกำลังหู่เวยก็จะแบ่งเป็นกองเล็กติดตามด้วย
หลังเสียงฆ้องเคาะตะโกนตามท้องถนน แต่ละครอบครัวจำเป็นต้องให้ผู้ชายหัวหน้าครอบครัวออกมาแสดงตัวกับทหาร ไม่เช่นนั้นมีความผิดแอบซ่อนทหารโจรไร้ระเบียบ หัวหน้าครอบครัวออกมาก็ต้องแจ้งว่าครอบครัวมีกี่คน วันหน้าจะตรวจสอบอีก หากไม่เหมือนเดิม ทั้งครอบครัวต้องรับโทษ
นอกจากให้ขุนนางในเมืองกับครอบครัวขุนพลทหารไม่ต้องตรวจสอบแล้ว ที่เหลือไม่ว่าร้านค้าหรือชาวบ้าน ก็ต้องเปิดประตูให้เข้าตรวจทั้งหมด
เมืองเหลียวหยางเงียบเชียบหลังการสังหารก็เริ่มคึกคักอีกครา ขุนนางทั้งหลายถือคบเพลิงและโคมไฟ ออกไปตรวจสอบแต่ละบ้าน ไม่นานก็มีเสียงคนตะโกนและหวีดร้องดัง และมีเสียงคำรามสังหารดังมาเป็นระยะ
ทหารเหลียวโจวที่ยังอยู่บนกำแพงส่งข่าวไปยังหลี่เฉิงเหลียง ที่พักนอกเมืองเหลียวโจวพวกนั้นถูกกองกำลังหู่เวยเข้าตรวจที่ละหลังแล้ว
ตามธรรมเนียม ทัพใหญ่ไปถึงที่ใด หากทำเช่นนี้ แปดเก้าส่วนย่อมคิดปล้นทีละบ้าน แต่ทว่าหลี่เฉิงเหลียงกับลูกหลานเขารู้ดีกว่าไม่ใช่เช่นนี้ แต่เป็นเช่นไร พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
เช้าวันต่อมาก็รู้คำตอบ หลังจากตรวจสอบเข้มทั่วเมืองมาถึงก่อนรุ่งสาง ทหารไร้ระเบียบที่เข้าหลบตามบ้านราว 300 ก็ถูกกวาดต้อนออกมา เป็นไปตามคาด ยังมี 200 กว่าคนไม่รู้ที่มาที่ไปก็ถูกจับออกมาด้วย นี่นับว่าเป็นผลพลอยได้
มีทหารหนีทัพมาจากเหลียวตงกับเหลียวเป่ย มาพักอาศัยญาติ หลังจากลงโทษโบยไปก็ให้ไปทำงานใช้แรงงานหนัก ยังมีคนมาจากนอกกำแพงเมือง เป็นชาวเผ่าหนี่ว์เจิน
เผ่าหนี่ว์เจินนอกกำแพงเมืองเมืองเหลียวโจวส่งสายมาแฝงตัวตามหมู่บ้าน ชาวเผ่าหนี่ว์เจินก็ทำเรื่องเช่นนี้เช่นกัน แต่หลังเมืองเหลียวโจวพ่ายศึก ก็ไม่มีใจติดสืบต่อ สายสืบไม่น้อยเข้ามาในเมืองเหลียวหยาง ครั้งนี้จึงถูกจับตัวออกมาราวกับใช้กระด้งร่อนหาเจอหมด
สายเผ่าหนี่ว์เจินแน่นอนว่าน่ารังเกียจ แต่พวกที่คิดละโมบเงินทองเล็กน้อยให้ที่พักสายเผ่าหนี่ว์เจินยิ่งน่ารังเกียจกว่า วิธีจัดการพวกเขาก็ง่ายมาก ตัดหัวสายเผ่าหนี่ว์เจิน พวกที่แอบให้ที่พักพวกนอกด่านก็สังหารทิ้ง
หนึ่งคืนหนึ่งวันจัดการเข้มงวดเสร็จ ในเมืองก็มีระเบียบผิดปกติ ย่อมยังมีทหารไร้ระเบียบกับพวกนอกด่านที่หลุดรอด แต่บรรยากาศในเมืองที่โหดเหี้ยมก่อนหน้า พวกเพื่อนบ้านที่กลัวกับคนตามท้องถนนที่ระวังตัวกันมาก ทำให้พวกเขาแม้จะหลบก็หลบได้ไม่นาน
เมืองเหลียวโจวไม่ขาดไม้ แม้ว่าแพ้มา แต่ก็ไม่ขาดคน ศพในเมืองเริ่มขนย้ายออกไป ตามทางตั้งท่อนไม้แขวนศพทหารไร้ระเบียบประจานให้ทุกคนได้เห็น
การข่มขวัญเช่นนี้ได้ผลดีที่สุด เห็นว่าไม่กี่วันพวกทหารไร้ระเบียบในเมืองกลายเป็นศพ แต่ละคนล้วนอึ้งไป ศพที่แขวนประจานเหล่านี้เตือนสติทุกคน เมืองเหลียวโจวพ่ายศึก แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ใช่แผ่นดินหมิง คิดจะทำผิดกฎหมาย คนพวกนี้ล้วนมีจุดจบน่าอนาถ
บ่ายหลังจากแขวนประจาน หน่วยดูแลความสงบกับองครักษ์เสื้อแพรก็ได้ข่าวลับมาหลายสิบข่าว มีทหารไร้ระเบียบกับสายศัตรูถูกเปิดเผยที่ซ่อน แต่นี่เป็นแค่งานเก็บกวาดส่วนปิดท้ายเท่านั้น
*************
“ใต้เท้าหลี่ขอให้รายงานตามจริง เหลียวหยางและพื้นที่โดยรอบนี้ระยะทางหนึ่งวันรวบรวมกำลังทหารม้ามาได้เท่าไร?”
หลังเก็บกวาดเรียบร้อย หลี่เฉิงเหลียงก็มีท่าทีนอบน้อมต่อหวังทงขึ้นหลายส่วน ได้ยินหวังทงถามขึ้นเช่นนี้ หลี่เฉิงเหลียงยิ้มเยาะตนเอง ตอบว่า
“ต่อหน้าใต้เท้ายังมีอันใดกล้าปิดบัง พวกที่ออกรบได้ไม่รู้ระดับไหน หากเป็นทหารตระกูลหลี่ได้ระดับ สี่พันกว่าคงหาได้”
ได้ยินหลี่เฉิงเหลียงตอบ หวังทงเงียบไป กล่าวว่า
“ขอใต้เท้าหลี่ส่งขุนพลท่านมาร่วมรบ ข้าต้องการใช้คนเหล่านี้”
“ในเมื่อใต้เท้ามีคำสั่ง เมืองเหลียวโจวแน่นอนไม่กล้าไม่ทำตาม แต่ยามศึกเช่นตอนนี้ การป้องกันเหลียวหยางไม่อาจปล่อยว่าง!”
“ป้องกันรักษาเมือง ข้าทิ้งทหารราบไว้ที่นี่หมื่นนาย เพียงพอแล้ว ทัพใหญ่ออกศึก เสบียงก็ขอให้ใต้เท้าหลี่ดูแลจัดการด้วย”
พูดถึงตอนนี้ หลี่เฉิงเหลียงแน่นอนไม่มีอันใดกล่าวต่อ ได้แต่รับคำสั่ง หวังทงเงียบไปครู่หนึ่ง กล่าวอีกว่า
“ไม่ทราบว่าตอนนี้ใต้เท้าหลี่สามารถส่งข่าวไปแต่ละแห่งในเมืองเหลียวโจวได้ไหม…”