ลิขิตฟ้าชะตารัก - ตอนที่ 297 เฒ่าทารก / ตอนที่ 298 เจ้าแห่งการแสดง
ตอนที่ 297 เฒ่าทารก
น้ำเสียงของนางหนักแน่นขึ้นหลายส่วน ทำให้ชายชราตกใจจนสะดุ้ง น้ำเสียงเปลี่ยนไปจนเหมือนเป็นเด็กตัวเล็กๆ เวลาตกใจ “แค่ถามเพียงเท่านั้นเอง เหตุใดต้องตะคอกกันเช่นนี้เล่า”
“ท่าน…” อวี้อาเหราหมดคำจะกล่าว เมื่อพิจารณาชายชราตรงหน้าแล้ว หากฟังแต่เพียงเสียงก็คงคิดว่าเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่กำลังออดอ้อนอยู่เท่านั้น รังสีเทพเซียนเมื่อครู่นี้คงต้องเป็นเพราะนางตาฝาดไปแน่ๆ! นางบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ เข้าไว้ อย่าได้เผลอปล่อยอารมณ์ใส่เขา เมื่อตั้งสติได้แล้วก็ถามขึ้นมาอีกครั้งว่า “เช่นนั้นท่านรู้จักกับนักพรตเฒ่าหรือไม่”
“อ้อ! นักพรตนั่นน่ะหรือ!” ชายชราปรบมือ ราวกับรู้จักเป็นอย่างดี
“ท่านเคยพบหรือ” อวี้อาเหราแสดงท่าทีดีอกดีใจออกมา
ชายชราส่ายหน้า ก่อนจะพยักหน้าอีกครั้ง “ข้ามีชีวิตมาจนถึงตอนนี้ จะไม่เคยพบใครบ้างเล่า? เมื่อเจ้าพูดถึงนักพรตขึ้นมา ก็เหมือนว่าจะเคยพบและก็เหมือนจะไม่เคยพบ หากให้ข้าระบุอย่างชัดเจนว่าพบที่ไหน ก็คงจะต้องนึกดีๆ อาจจะพอจำได้”
“ถ้าเช่นนั้นก็รีบนึกเข้าซี!” อวี้อาเหราแสดงท่าทีเร่งร้อน เมื่อเห็นท่าทีอึกๆ อักๆ ของชายชราแล้ว นางก็ร้อนรนเหมือนมดไต่ในหม้อร้อน หันกลับไปมองเจาเอ๋อร์ที่นอนอยู่กับพื้น แล้วจึงหันกลับมาดึงมือของชายชรา “ท่านผู้เฒ่า เช่นนั้นท่านก็ค่อยๆ เข้ามาคิดกับข้าเถิด”
“ได้ เห็นแก่แม่นางน้อยที่มีรูปโฉมงดงามเช่นเจ้า ข้าก็จะพยายามคิดดูให้ดีๆ แล้วกัน” ชายชราลืมตาขึ้น สายตามองกวาดไปทั่วร่างกายของนาง อวี้อาเหราพลันสะบัดมือของเขาออกอย่างแรงแล้วจึงยกมือขึ้นกุมหน้าอกของตน กดมือของตัวเองเอาไว้แล้วถลึงตาจ้องมอง ไอ้แก่ลามก! หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นผู้ที่รู้เบาะแสของนักพรตนั่น นางคงจะตบหน้าไปสักฉาดแล้ว!
เมื่อเข้ามาในห้อง นางก็กอดเจาเอ๋อร์เอาไว้ จ้องมองใบหน้าซีดขาวของนางอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงหันกลับมามองชายชรา “ท่านผู้เฒ่า ตอนนี้ท่านนึกออกแล้วหรือไม่”
“ยังไม่ออก นี่ต้องใช้เวลาสักหน่อย เจ้าคิดดูสิว่าเวลาให้กำเนิดเด็ก ไหนเลยจะไม่ต้องอาศัยผู้ชายบ้าง” ชายชราพูดไปพูดมาก็วกเข้ามาสู่เรื่องใต้สะดืออีกแล้ว สีหน้าของอวี้อาเหราเปลี่ยนไปเป็นแข็งกระด้าง หากเจ้าเฒ่าลามกผู้นี้ยังกล้าที่จะพูดอะไรเลอะเทอะอีก อารมณ์ของนางก็คงใกล้จะระเบิดออกมาเต็มทนแล้ว!
ราวกับชายชราสัมผัสได้ถึงสายตาไม่เป็นมิตรของนาง เขาจึงรีบร้อนหุบปากในทันที
อวี้อาเหราลูบหยกเลือด พยายามทำใจให้สงบ
ตอนนี้นางเริ่มได้เบาะแสของนักพรตแล้ว แต่เจาเอ๋อร์ต้องมาบาดเจ็บก็เพราะนางเช่นนั้น หากเจาเอ๋อร์ตายขึ้นมาจริงๆ แม้นางจะหาตัวนักพรตผู้มอบหยกเลือดเจอ และเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่ในใจก็ไม่มีทางสงบลงเป็นแน่
หยกเลือด…
หยกเลือดหรือ?
ทันใดนั้นอวี้อาเหราก็คิดอะไรขึ้นมาได้ รีบดึงแขนเสื้อขึ้น ในเมื่อหยกเลือดสามารถช่วยชีวิตฉู่ป๋ายได้ เช่นนั้นก็น่าจะช่วยชีวิตเจาเอ๋อร์ได้เช่นกัน ว่ากันว่าหยกเลือดนั้นสามารถช่วยคนตายให้ฟื้นและช่วยคนเจ็บให้หายดี เหตุใดนางจึงลืมเรื่องสำคัญเช่นนี้ไปได้นะ!
นางจับมือของเจาเอ๋อร์ให้กุมหยกเลือดเอาไว้ ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็ดีขึ้นมาก
ในวินาทีที่เห็นหยกเลือด ชายชราที่อยู่ข้างๆ ก็หรี่ตาลงมองในทันที “นั่นก็คือหยกเลือด?”
เสียงของเขาเรียกความสนใจของอวี้อาเหราได้สำเร็จ นางรีบหันมาในทันที “ในเมื่อท่านรู้จักหยกเลือด เช่นนั้นท่านก็ต้องรู้จักนักพรตแน่ หรือว่านึกออกแล้ว?”
“แม่นางน้อย เจ้าต้องการหาเขาไปทำไมหรือ”
ชายชราเหม่อลอยไปชั่วขณะ จากนั้นก็มองหน้านาง แล้วจึงลุกขึ้นยืนจากพื้นอย่างจำยอม สองมือกุมศีรษะขณะที่เอาแต่ส่ายหน้าไปมา ท่าทีราวกับเด็กน้อยอายุสักสิบขวบกำลังดื้อรั้น ส่วนน้ำเสียงนั้นเหมือนเด็กสักแปดเก้าขวบไม่มีผิด
“โอ๊ย เจ้าอย่าถามอีกเลย เดิมทีข้าก็เกือบจะนึกออกอยู่แล้วแต่ถูกเจ้าขัดขึ้นเสียได้ จริงๆ เลย! ไม่คิดแล้วไม่คิดแ หัวจะระเบิดอยู่แล้ว!”
ตอนที่ 298 เจ้าแห่งการแสดง
เมื่อได้ยินดังนี้ อวี้อาเหราก็รู้ได้เลยว่าคนตรงหน้าเริ่มชักจะไม่ดีแล้ว นางจึงพูดด้วยท่าทีกึ่งบังคับกึ่งขอร้องว่า “ข้าหาเขาเพราะมีเรื่องบางอย่างจริงๆ ท่านผู้เฒ่าช่วยลองคิดให้ดีๆ ได้หรือไม่ ข้าไม่ดุท่านแล้วก็ได้ แต่หากท่านยังนึกไม่ออกอีก…”
“โอ๊ย หรือเจ้าคิดที่จะทุบตีคนแก่ ช่างไม่มีใครสั่งสอนจริงๆ! ชั่วร้ายยิ่งนัก!” ชายชราพลันกระโดดถอยออกไปหลายก้าว น้ำเสียงยิ่งเสแสร้งทำเป็นเจ็บปวดเสียนักหนา เรียกร้องความสนใจของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา จนคนพวกนั้นพากันชี้มาที่นาง
อวี้อาเหรารู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก “ท่านอย่ากล่าววาจาส่งเดชได้หรือไม่!”
ชายชราไม่ฟัง อ้าปากเตรียมจะร้องตะโกนขึ้นอีกครั้ง
เช่นนั้นอวี้อาเหราจึงถอนหายใจยาว มีแต่คนบอกมิใช่หรือว่าคนชรานั้นมักจะใจดี? เหตุใดนางถึงกลับพบเฒ่าทารกไปเสียได้ ยังไม่รู้เลยว่าจะงัดเอาข้อมูลเกี่ยวกับนักพรตเฒ่าจากปากของเขาได้หรือไม่ เดิมทีนางก็ยังคิดว่าเขาเป็นท่านนักพรตเฒ่า แต่เมื่อเห็นสภาพเช่นนี้แล้วก็ไม่เห็นจะมีท่าทีสูงส่งราวเทพเซียนของนักพรตอยู่เลย
เมื่อครู่นี้นางก็คงตาฝาดไปจริงๆ
เมื่อชายชราเห็นว่าใบหน้าของนางไร้ซึ่งความรู้สึก ก็เริ่มบีบน้ำตาออกมา “สวรรค์ เหตุใดโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมยิ่งนัก แม้แต่คนเฒ่าคนแก่ยังรังแกได้ลงคอ ปล่อยให้ข้าตายเสียให้รู้แล้วรู้รอดเถิด!”
อวี้อาเหรารู้สึกนับถือเขาเป็นอย่างมาก ฝีมือทางการแสดงของเขานั้นก็ช่างเป็นพรสวรรค์ที่สิ้นเปลืองยิ่งนัก
คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็จ้องมองมาที่นาง ไม่ว่าใครก็ต่างจ้องมองอวี้อาเหราอย่างเป็นปรปักษ์ ด่าว่านางว่าช่างเป็นคนไร้มนุษยธรรม แม้แต่คนแก่ก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา
อวี้อาเหรารู้สึกได้ถึงความอยุติธรรมนั้น นางไม่ได้หาเรื่องใครเสียหน่อย เสียงก่นด่าของคนเหล่านั้นดังเข้ามาจนปวดหูไปเสียหมด เมื่อเห็นชายชรายังคงแกล้งบีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้ นางก็เปลี่ยนท่าที “ท่านผู้เฒ่า อย่าได้โกรธไปเลย ข้าไหนเลยจะกล้าทำร้ายท่าน รีบนั่งลงเถิด ท่านต้องการอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
“จริงหรือ?” ดวงตาของชายชราส่องประกาย
“จริงสิ!” อวี้อาเหรามองไปยังกลุ่มคนที่รายล้อม จะให้นางบอกว่าไม่จริงได้อย่างไรเล่า?
“ถ้าเช่นนั้นข้าไม่ร้องไห้แล้ว” ชายชราเผยรอยยิ้ม “ทุกคนสลายตัวเถิด”
ในใจของอวี้อาเหรารู้สึกเหมือนได้กลับชาติมาเกิดใหม่ รอมาห้าร้อยปีแล้วจึงพบว่ายังจะต้องรออีกห้าร้อยปี รอจนกระทั่งสุดท้ายได้รู้ว่าตัวเองได้กลายเป็นเซียนเสียแล้ว เหตุใดนางจะต้องทนถึงเพียงนี้ด้วย? นางโกรธเสียจนใบหน้าแดงก่ำไปหมด แต่ก็ไม่กล้าที่จะบันดาลโทสะออกมา ใครจะรู้เล่าว่าเจ้านักแสดงเอกผู้นี้จะแผลงฤทธิ์อะไรขึ้นมาอีก
ชายชรานั่งลงด้วยท่าทีพึงพอใจเป็นหนักหนา ยื่นมือออกมาหาอวี้อาเหราพลางบ่นพึมพำ “ข้าไม่ได้กินข้าวมาตั้งหลายวันแล้ว เจ้ามีเงินหรือไม่ เอามาให้ข้าหน่อยสิ”
“…ไม่มี” นี่เขายังมียางอายอยู่หรือไม่นะ?
ชายชราเริ่มทำท่าทีกระเง้ากระงอดขึ้นมาในทันที อวี้อาเหราจึงรีบกลับคำ “มีๆ ข้าให้ท่านก็ได้”
นางดึงเอาเงินออกมาจากอกเสื้ออย่างหมดความอดทน “ข้ามีเพียงเท่านี้จริงๆ”
“เหอะ” ชายชราส่งเสียงทอดถอนใจ หลังจากได้เงินมาแล้วก็ลุกขึ้นยืน “เห็นแก่ที่เจ้าไม่มีเงินติดตัว เช่นนั้นข้าจะพาเจ้าไปยังที่ที่ข้าอยู่แล้วกัน และดูแล้วก็คงไม่อาจทิ้งเพื่อนของเจ้าไว้เช่นนี้ตลอดไปได้ นางต้องพิษมิใช่น้อยเลย ได้ยินมาว่าบนเขาข้างๆ ตลาดมืดมีสมุนไพรชนิดหนึ่งที่สามารถขจัดพิษได้หลากหลาย หากเจ้าไปเก็บมาได้ก็คงจะช่วยชีวิตนางได้”
“วาจานี้ของท่านก็เชื่อถือได้หรือ” อวี้อาเรหามองมาด้วยความสงสัย อย่าได้โทษว่านางไม่เชื่อเลย ในเมื่อนางถูกตาแก่ผู้นี้ป่วนประสาทเสียขนาดนี้แล้ว แม้แต่เงินเขายังจะหลอกเอาได้ ไหนเลยจะวางใจปล่อยให้เจาเอ๋อร์อยู่ในมือเขาได้เล่า
“จะช่วยหรือไม่ก็อยู่ที่เจ้าแล้ว ข้าคงไม่อาจช่วยอะไรได้” หลังจากที่ชายชราพูดจบ ร่างค่อมๆ ก็เดินจากไป ไม่สนใจอวี้อาเหราผู้มีสายตาไม่เชื่อมั่นที่อยู่ข้างหลังเลยแม้แต่น้อย หลังจากลังเลอยู่นาน ในที่สุดนางก็แบกร่างของเจาเอ๋อร์ตามหลังไป