ลิขิตฟ้าชะตารัก - ตอนที่ 519 กลั่นแกล้งอีกครั้ง / ตอนที่ 520 กวนจนตื่น
ตอนที่ 519 กลั่นแกล้งอีกครั้ง
“ข้าไม่ไป เจ้าจะทำอะไรข้าได้?” จวินฉางอวิ๋นคร้านที่จะสนใจนาง แล้วจึงก้าวยาวๆ อ้อมตัวนางไป
แผ่นหลังนั้นกวัดแกว่งไปมา ทำให้รู้สึกอยากจะถีบเข้าให้สักครั้ง
อวี้อาเหรากัดฟันแล้วจ้องมองแผ่นหลังนั้น นางกำนัลอาวุโสที่นำทางมองมา จากนั้นก็หัวเราะเพื่อสร้างบรรยากาศให้คึกคักขึ้น “คุณหนูรองอย่าได้โกรธเลยเจ้าค่ะ องค์รัชทายาทชอบมาเที่ยวเล่นที่ตำหนักของไทเฮา บางครั้งก็อยู่ที่ตำหนักรอง อีกอย่างองค์รัชทายาทเองก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ท่านทนอีกสักหน่อยเถิดนะเจ้าคะ”
“เข้าอยู่ที่ตำหนักรองบ่อยหรือไม่” อวี้อาเหรากำหมัดแน่น
มิน่าเล่าไทเฮาใจดีจึงยอมให้นางพักผ่อน แล้วยังให้ไปตำหนักรองอีก ที่แท้ก็อยากให้นางและจวินฉางอวิ๋นอยู่ด้วยกันนี่เอง แต่นางไม่อยากอยู่กับคนน่ารำคาญเช่นเขา ดังนั้นนางจึงหันหลังกลับ ยามที่กำลังจะเดินหนีไปนั้น ไทเฮาก็รีบใช้โอกาสนี้ในการกล่าวว่า
“ไทเฮาตรัสเอาไว้ว่าหากคุณหนูรองไม่อยากพักผ่อน ก็เชิญให้ไปฝึกพิณเจ้าค่ะ”
อวี้อาเหราที่ได้ยินเช่นนั้นก็จำต้องหันกลับมาอย่างไร้ทางเลือก ก็เพียงแค่อยู่ในตำหนักเดียวกันมิใช่หรือ? ไม่ได้นอนในห้องเดียวกันเสียหน่อย และยิ่งไม่ได้นอนเตียงเดียวกันเลยด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับการเล่นพิณ นางยังเลือกที่จะอยู่กับจวินฉางอวิ๋นมากกว่า
ดูแล้วไทเฮาคงเดาใจของนางได้ทะลุปรุโปร่ง จึงได้แต่ต้องทำตามที่อีกฝ่ายต้องการ
ต่อหน้าทำราวกับรักใคร่เอ็นดูนาง แต่แท้จริงแล้วก็บีบบังคับ จิตใจของสตรีเหมือนเข็มในมหาสมุทรที่ว่าลึกแล้ว แต่จิตใจของสตรียังลึกกว่า
เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ส่งยิ้มให้กันและกัน
เมื่อมาถึงพระตำหนักรองแล้วตำหนักนี้ไม่ใหญ่มาก เป็นเพียงอาคารสองห้องเท่านั้น มีเพียงบานประตูกั้นเท่านั้น เมื่ออยู่ที่นี่คงจะได้ยินชัดเจนว่าห้องอีกฝ่ายกำลังทำอะไรอยู่
ไทเฮาไม่ได้ตั้งใจหรอกใช่หรือไม่?
น่าตายยิ่งนัก ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกแบบ จึงได้ทำออกมาเป็นเช่นนี้
อวี้อาเหราก้มหน้าลงสูดลมหายใจ
นางกำนัลอาวุโสลอบมองท่าทีหม่นหมองของนางอย่างระมัดระวัง “คุณหนูรอง ไม่เป็นอะไรนะเจ้าคะ?”
“ไม่เป็นไร” เสียงยามที่พูดของนางยังเหมือนกับเสียงที่ลอดไรฟันที่ถูกกัดเคี้ยวจนแหลกละเอียด
“ถ้าเช่นนั้นคุณหนูรองก็เชิญพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ บ่าวขอลา ต้องไปรอรับคำสั่งจากไทเฮาเจ้าค่ะ” นางกำนังอาวุโสรีบออกไปในทันที
อวี้อาเหรากัดฟัน “ไปเถิด”
เมื่อนางกำนัลอาวุโสจากไปแล้ว เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ก็มองนางอย่างระมัดระวัง “คุณหนูท่านไม่เป็นอะไรนะเจ้าคะ”
“ไม่เป็นไร” อวี้อาเหราส่ายหน้า
เจาเอ๋อร์ไม่วางใจ “บ่าวเห็นว่าสีหน้าท่านไม่ค่อยดีนัก”
“หุบปาก น่ารำคาญเสียจริง” ในยามนี้เอง เสียงของจวินฉางอวิ๋นก็ดังมาจากห้องข้างๆ อย่างรำคาญใจ
เจาเอ๋อร์รีบหุบปากทันที ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
อวี้อาเหราโกรธจนคันปากยิบๆ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ในเมื่ออยู่ในตำหนักของไทเฮา นางจึงทำราวกับไม่ได้ยินคำพูดโกรธเคืองของรัชทายาท ตั้งใจที่จะพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “ข้าไม่เป็นอะไร แต่เมื่อครู่นี้ข้ากินมากไปหน่อย ตอนนี้เลยมวนท้อง ได้ยินมาว่าหากเดินมากๆ จะช่วยบ่อยได้ เจาเอ๋อร์ เมี่ยวอวี้ พวกเจ้าประคองข้าเดินไปรอบๆ ห้องหน่อยเถิด”
“เอ่อ” เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ชะงัก คุณหนูตั้งใจที่จะกลั่นแกล้งรัชทายาทอีกแล้ว!
จวินฉางอวิ๋นได้ยินดังนั้นก็นิ่งงันไป ไม่ส่งเสียงอะไรอีก
อวี้อาเหราส่งสายตามองเมี่ยวอวี้และเจาเอ๋อร์ที่พานางเดินไปรอบๆ นางตั้งใจที่จะย่ำเท้าลงไปหนักๆ เสียงนี้ก็สามารถทำให้คนที่นอนอยู่ตื่นได้ แต่ก็ยังไม่เพียงเท่านั้น นางยังหัวเราะเสียงดังกับเจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ เสียงหัวเราะของพวกนางดังก้องไปทั่วทั้งตำหนัก
อีกฝ่ายทำได้แต่เพียงเอาหมอนปิดหู จากนั้นก็ผลักประตูเข้ามาอย่างแรง “พวกเจ้าจะเสียงดังกันพอหรือยัง!”
อวี้อาเหราแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา “รัชทายาทกล่าวอะไรหรือ หม่อมฉันไม่เข้าใจเลยเพคะ”
ตอนที่ 520 กวนจนตื่น
“อวี้อาเหรา! เจ้าอย่ามาแกล้งทำไขสือใส่เรา!” จวินฉางอวิ๋นก้าวเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
อวี้อาเหรายังคงทำสีหน้าไม่เข้าใจ จากนั้นก็ทำหน้าราวกับถูกรังแก “รัชทายาททรงทำอะไรเพคะ หม่อมฉันเพียงแค่มาพักผ่อนในตำหนักนี้เท่านั้น ไม่ทราบว่าไปยั่วโมโหพระองค์ตอนไหนกัน เมื่อก่อนรังเกียจหม่อมฉันจนผลักตกหน้าผาก็แล้ว ตอนนี้ยังคิดที่จะทำอะไรอีก แม้ว่าจะเป็นรัชทายาท แต่หากกล้าจะทำร้ายหม่อมฉัน จะต้องถูกไทเฮาจัดการแน่!”
“หญิงร้ายกาจ กล้าที่จะกลับถูกเป็นผิดหรือ?” จวินฉางอวิ๋นที่โกรธเสียจนยิ้มเยาะ มองไปที่เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ “พวกเจ้ากล่าวมาสิว่าคุณหนูของพวกเจ้าเสียงดังจนทำข้าตื่นอย่างไร”
เมี่ยวอวี้และเจาเอ๋อร์มองหน้ากัน จากนั้นก็ก้มหน้าลง “พวกหม่อมฉันไม่ทราบว่าเมื่อครู่นี้รัชทายาทตรัสอะไร”
อวี้อาเหรายืดอก แววตาที่มองมาเผยให้เห็นถึงความเย้ยหยัน “ตอนนี้องค์รัชทายาทก็ได้ยินคำพูดของสาวใช้ของข้าหรือยัง? เมื่อถึงตอนนั้น เจ้าว่าไทเฮาจะเชื่อเจ้าหรือเชื่อข้ากันเล่า”
จวินฉางอวิ๋นไม่อาจทำอะไรตามใจชอบได้ หากถูกรายงานว่าเขารังแกอวี้อาเหรา คงจะต้องเปลืองน้ำลายแก้ตัวแน่ๆ เพราะอย่างนั้นอวี้อาเหราจึงกล้าถึงเพียงนี้ นางไม่กลัวที่จะรายงาน เมื่อถึงตอนนั้น อย่างไรเสียก็เพียงรายงาน จากนั้นนางก็ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ จนทำให้คนรู้ไปทั่ว แล้วทำให้เขาต้องพระอาญา
เมื่อถึงตอนนั้น ไม่เพียงแต่เรื่องศิลปะสตรี แม้แต่เรื่องงานหมั้นก็คงจะต้องถูกยกเลิก
จวินฉางงอวิ๋นชะงักไปชั่วครู่ แล้วจึงค่อยๆ ระงับความโกรธลง แล้วหันไปยิ้มให้นาง “ได้ ในเมื่อพวกเจ้านายบ่าวรวมหัวกัน เช่นนั้นก็คอยดูเราให้ดีเถิด”
หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็เหวี่ยงประตูเปิดออกไปด้วยความโกรธๆ กลับเข้าห้องตัวเองไปตามเดิม
อวี้อาเหราเดินไปปิดประตู แล้วมองเห็นจวินฉางอวิ๋นนอนคุดคู้อยู่บนเตียง ราวกับรู้ว่านางมาหา ดวงตาที่ปิดลงก็เปิดออก สายตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางมองเห็นแล้วก็รู้สึกแปลกใจ แล้วปิดประตูลง
เมื่อแกล้งจวินฉางอวิ๋นได้หนึ่งยก นางก็อารมณ์ดีขึ้นมาก ดังนั้นนางจึงส่งเมี่ยวอวี้ไปเฝ้าประตู ส่วนนางก็นอนลงบนเตียง เมื่อเช้าถูกปลุกเสียตอนเช้ามืด ยุ่งไปเสียครึ่งวัน แล้วยังต้องเรียนดีดพิณและเดินหมากตั้งนาน นางก็เหนื่อยเสียจนปวดหลังไปหมด เมื่อมองเห็นเตียงใหญ่แสนอบอุ่น นางก็รีบนอนลงไปแล้วหลับไป
ความรู้สึกง่วงพุ่งเข้ามากระทบศีรษะ ฉับพลันนางก็ค่อยๆ หลับลงไป
ในยามที่นางเพิ่งจะตื่นนอนนั้น ข้างๆ ห้องก็เกิดเสียงดังจอแจ และยังมีเสียงกลอง เสียงดังจนหูนางจะแตกอยู่แล้ว อวี้อาเหราถูกเสียงดังจนตื่น รีบเรียกเมี่ยวอวี้และเจาเอ๋อร์เข้ามา “เกิดเรื่องอะไรขึ้น ฝั่งรัชทายาทเล่นบ้าอะไรกัน?”
“เรียนคุณหนู” เจาเอ๋อร์มองนางย่างระมัดระวัง “เมื่อครู่นี้รัชทายาทนำเหล่าองครักษ์เข้ามา ในมือยังมีพวกอุปกรณ์ดนตรีมากมาย เมื่อครู่จู่ๆ ก็ตีกลองขึ้นมา คงเป็นเพราะเมื่อครู่นี้คุณหนูทำอย่างนั้นเข้า ดังนั้นจึงได้…”
อวี้อาเหราชะงักไปแล้วจึงเข้าใจ ที่แท้จวินฉางอวิ๋นก็ใช่วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งนี่เอง
ผลักประตูเข้าไป เดินนำตัวเมี่ยวอวี้และเจาเอ๋อร์เข้าไปในห้อง นางขี้เกียจเคาะประตู จึงเปิดประตูเข้าไปเลย
เมื่อเข้ามาในครรลองสายตา ก็ได้เห็นว่าเหล่าองครักษ์ที่จวินฉางอวิ๋นพามานั้นกำลังตีกลองเล่นอยู่
เสียงดังจนหูนางจะระเบิดอยู่แล้ว อวี้อาเหราเกลียดเวลาที่ถูกปลุกจนตื่นเช่นนี้มากที่สุด เมื่อเห็นเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะร้องขึ้นมา “รัชทายาท เจ้าจะปล่อยให้คนนอนบ้างไม่ได้หรืออย่างไร”