ลิขิตฟ้าชะตารัก - ตอนที่ 545 หมดความอดทน / ตอนที่ 546 ชี้ความผิด
ตอนที่ 545 หมดความอดทน
หลิงอ๋องยังไม่ทันพูดอะไร อนุรองที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะสอดปากขึ้น “ไม่ใช่ว่าข้าน้อยอยากจะตำหนิคุณหนูรองหรอกนะเจ้าคะ แต่ท่านเป็นหญิงที่ยังไม่สมรส เหตุใดถึงไปยังจวนของผู้อื่น ทั้งอีกฝ่ายยังเป็นเซิ่นซื่อจื่ออีกด้วย หากคนอื่นเห็นเข้าก็คงคิดว่าท่านกับเซิ่นซื่อจื่อ…”
วาจาที่เหลือนั้น ก็ชัดเจนว่านางคิดอย่างไรโดยที่ไม่ต้องพูดออกมา
หลิงอ๋องได้ยินดังนั้นก็แปลกใจ “หรือว่าตอนนี้เจ้าไม่ได้ชอบพอองค์รัชทายาทแล้ว แต่ชอบ…”
“จะเป็นไปได้อย่างไรกันเพคะเสด็จพ่อ” อวี้อาเหรารีบปฏิเสธในทันที ขณะที่พูดนางก็จ้องอนุรองตาแทบถลน นางคงตั้งใจพูดขึ้นมาเช่นนี้แน่ๆ!
หลิงอ๋องลังเลอยู่บ้าง “หากเป็นเรื่องจริง เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องอาย”
“เสด็จพ่อ ลูกไม่ได้ชอบจริงๆ นะเพคะ” อวี้อาเหราหมดความอดทน นางบอกว่าไม่ได้ชอบก็ยังไม่ยอมเชื่ออีก
หลิงอ๋องไม่ตรัสอะไรอีก “ไม่ได้ชอบก็ไม่ได้ชอบสิ”
อวี้อาเหราได้ยินเสียงของหลิงอ๋องเช่นนั้น ก็ฟังดูเหมือนจะคิดว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างนางและฉู่ป๋ายแน่ โชคดีที่เขายังไม่เห็นรอยกัดที่ปากของนาง ไม่อย่างนั้นถึงแม้ว่านางจะมีสักสิบปากเขาก็คงไม่ยอมเชื่อ
หลิงอ๋องเงยหน้าขึ้นมามองอีกครั้ง “พ่อและอนุรองกำลังทานอาหารกันอยู่พอดี เจ้าก็มาทานด้วยกันสิ”
“ไม่เป็นไรเพคะเสด็จพ่อ” อวี้อาเหราส่ายหน้า “ลูกทานจากจวนเซิ่นอ๋องมาแล้ว”
“ในเมื่อกินแล้วก็ช่างเถิด” หลิงอ๋องแย้มยิ้มออกมาบางๆ จากนั้นก็พลันมีท่าทีอยากจะเอ่ยปากอย่างลังเล ราวกับมีเรื่องอะไรบางอย่างที่อยากจะพูด ทว่าเมื่อเห็นดวงตากลมโตของอวี้อาเหราที่จ้องมองมาแล้ว กลับไม่พูดอะไรออกมา
อวี้อาเหราเห็นว่าเขาลังเล เช่นนั้นจึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “เสด็จพ่อมีอะไรก็เชิญตรัสออกมาเถิดเพคะ”
“พ่อมีเรื่องที่อยากจะบอกเจ้าสักหน่อย” หลิงอ๋องลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะเอ่ยปากขึ้น “เมื่อครู่นี้ อนุรองก็ไม่กล่าวไม่ผิดนัก เจ้าเป็นธิดาเอกแห่งจวนหลิงอ๋อง เป็นตัวแทนของจวนอ๋องเรา หากไปจวนเซิ่นอ๋องบ่อยๆ คงไม่งามนัก แม้ว่าจวนหลิงอ๋องจะไม่ได้มีแค่เซิ่นซื่อจื่อคนเดียวก็ตาม เจ้าเข้าใจหรือไม่”
“เข้าใจแล้วเพคะ” อวี้อาเหราพยักหน้าอย่างหนักแน่น “เสด็จพ่อโปรดวางใจ ลูกทำอะไรล้วนรู้ดีอยู่แก่ใจ ไม่มีทางทำอะไรเสื่อมเสียแน่เพคะ”
“ถ้าเจ้ารู้เช่นนั้นก็ดีแล้ว” หลิงอ๋องแย้มยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ
“หากเสด็จพ่อไม่มีอะไรแล้ว ลูกก็ต้องขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะเพคะ”
ในยามที่อวี้อาเหรากล่าวจบนั้น อนุรองก็กระทุ้งแขนของหลิงอ๋อง เพื่อเตือนหลิงอ๋องว่าอวี้อาเหรากำลังจะขอตัวกลับแล้ว หลิงอ๋องจึงรีบเอ่ยขึ้นว่า “อีกสองวันจะถึงวันปีใหม่แล้ว จื้อเอ๋อร์ก็ใกล้จะกลับมาบ้านเต็มที เจ้าก็ให้เยียนเอ๋อร์ออกจากหนานย่วนเถิดนะ”
“แต่ว่าเสด็จพ่อรับปากลูกแล้ว…”
“ใช่ พ่อรับปากเจ้าแล้ว แต่อนุรองอ่อนแอถึงเพียงนี้ เจ้าก็ยอมผ่อนปรนให้นางเสียหน่อยเถิด”
หลิงอ๋องตัดบทคำพูดของอวี้อาเหรา ก่อนจะส่งสายตาอย่างจนใจมาให้
อวี้อาเหราพลันเข้าใจได้ในทันที ที่แท้ให้นางมาถึงที่นี่แล้วไถ่ถามคำถามไร้สาระนั้นไม่ใช่ประเด็นหลัก จริงๆ แล้วจุดประสงค์ก็เพื่อต้องการให้ปล่อยอวี้จื่อเยียนออกมาจากหนานย่วนต่างหาก นางมองอนุรองด้วยสายตาพินิจ ในใจคิดว่านางช่างเก่งกาจเสียยิ่งนัก ที่สามารถจัดการหลิงอ๋องเสียอยู่หมัด คงจะเป็นเพราะเอาเด็กในท้องออกมาเรียกคะแนนสงสารเป็นแน่
หลิงอ๋องนั้นเป็นคนใจอ่อนอยู่แล้ว แน่นอนว่าเมื่อเห็นอนุรองอ่อนแอลง อีกทั้งก่อนหน้านี้ที่เขาโกรธจัด จนเผลอตัวตีอวี้จื่อเยียนเสียจนบาดเจ็บหนัก ตอนนี้เมื่อความโกรธบรรเทาลงแล้ว ในใจย่อมเต็มไปด้วยความเป็นห่วงลูกสาวคนโต
หลังจากที่อวี้อาเหราคิดจนเข้าใจ ในที่สุดก็จำต้องพยักหน้ายอมรับท่ามกลางสายตาตั้งความหวังของอนุรองและหลิงอ๋อง
ตอนที่ 546 ชี้ความผิด
เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ที่อยู่ข้างหลังนั้นชะงักไป
ต้องเหนื่อยยากถึงเพียงใดจึงจะโยนอวี้จื่อเยียนเข้าไปในหนานย่วนได้ แล้วจะให้ปล่อยออกมาง่ายๆ เช่นนี้น่ะหรือ?
อีกทั้งคุณหนูยังไม่ถูกกับคุณหนูใหญ่เป็นที่สุด แต่ก็ยังรับปากท่านอ๋อง
อวี้อาเหราเห็นว่าเรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว ก็ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้อีก นางย่อกายลงคารวะ “ลูกไม่รบกวนเวลาทานอาหารของเสด็จพ่อและอนุรองแล้ว ขอตัวก่อนเพคะ”
เมื่อพูดจบนางก็ไม่รอให้หลิงอ๋องเอ่ยปากอีก เดินนำเจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ออกมาในทันที
หลิงอ๋องเห็นเช่นนั้นก็ไม่อาจสงบใจลงได้ เขาที่ทำเช่นนี้ การที่นางจะไม่โกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย นี่ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แต่นางกลับไม่ได้โกรธอะไรมาก อย่างไรเสียไม่ช้าก็เร็วอวี้จื่อเยียนก็ต้องออกมาจากหนานย่วนอยู่แล้ว สิ่งที่นางทำไม่ได้ผิดร้ายแรงจนถึงตาย อีกทั้งยังมีอนุรองให้ท้ายเช่นนี้ แน่นอนว่านางต้องปลอดภัยแน่
หากต้องการจะกำจัดอวี้จื่อเยียนให้สิ้นซาก เช่นนั้นก็จะต้องกำจัดอนุรองเสีย และหากต้องการจะกำจัดพวกนางสองแม่ลูกคู่นี้ นางก็ต้องกำจัดอวี้จื้อ น้องชายต่างแม่ผู้นี้ก่อนเช่นกัน
หลิงอ๋องมองแผ่นหลังที่กำลังเดินจากไปของอวี้อาเหราแล้ว ในใจก็นิ่งงัน
อนุรองเห็นดังนั้นก็รีบแย้มยิ้มออกมา “ท่านอ๋อง เยียนเอ๋อร์ออกมาได้แล้ว หม่อมฉันดีใจยิ่งนักเพคะ”
“เจ้าดีใจก็ดีแล้ว” หลิงอ๋องยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นช่างบางเบา แต่คิ้วกลับขมวดมุ่น “แต่ก่อนหน้านี้ข้ารับปากอาเหราไปแล้ว มาถึงตอนนี้ข้าดันกลับคำพูด เมื่อครู่นี้นางจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ เราเกรงว่า…”
“ท่านอ๋องกลัวอะไรหรือเพคะ” อนุรองได้ยินดังนั้นก็หุบใบหน้ายิ้มแย้มของตัวเองทันที “ท่านอ๋องเป็นประมุขของบ้าน เรื่องเช่นนี้ก็ต้องแล้วแต่ท่านอ๋องจะตัดสิน เหตุใดจะต้องถามความเห็นชอบจากคุณหนูรองด้วยเล่าเพคะ”
ในเวลาเดียวกัน ในใจของนางก็คิดแค้นยิ่งนัก ที่อวี้จื่อเยียนต้องถูกขังอยู่ในหนานย่วนนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพราะอวี้อาเหราชี้ความผิดให้เห็นทั้งนั้น
หลิงอ๋องมีสีหน้าเคร่งขรึม “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? อาเหราเป็นธิดาเอกของจวนเรา เรื่องภายในจวนเดิมทีเป็นเรื่องที่ต้องมอบให้พระชายาดูแล แต่ตอนนี้พระชายาไม่อยู่แล้ว เช่นนั้นก็ต้องถามความคิดเห็นของอาเหราเป็นธรรมดา”
“ท่านอ๋องอย่าทรงกริ้วเพคะ” อนุรองเห็นท่าทีเคร่งขรึมของหลิงอ๋องก็เข้าใจว่านางได้พูดเรื่องที่ไม่ควรพูดขึ้นมาเสียแล้ว นางตกใจรีบก้มหน้าลงในทันที จ้องมองลายดอกไม้ที่อยู่บนโต๊ะ
หลิงอ๋องหันมาเห็นท่าทีของนาง จึงค่อยคลายความไม่พอใจของตัวเองลง พยายามที่จะใช้น้ำเสียงอ่อนโยนในการพูดจา แต่กลับฟังดูเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น “ตอนนี้เยียนเอ๋อร์สามารถออกมาจากหนานย่วนได้แล้ว เจ้าก็ดูแลครรภ์ให้ดีๆ เถิด ต่อไปก็ดูแลนางด้วย หากเกิดเรื่องราววุ่นวายขึ้นมาอีก อย่าโทษว่าข้าไม่เมตตานาง แม้แต่เจ้า ข้าก็จะจัดการ”
“หม่อมฉันเข้าใจแล้ว ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ” ดวงตาของอนุรองสั่นไหว เมื่อได้ยินเสียงของหลิงอ๋องที่ไม่มีทีท่าว่าล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นเช่นนั้นนางก็สงบจิตสงบใจ ห้ามไม่ให้อวี้จื่อเยียนก่อเรื่องขึ้นมาอีก หากโดนอวี้อาเหราจับได้อีกก็คงตายไร้ที่ฝังเป็นแน่แท้
เมื่อหลิงอ๋องพูดจบ ก็ยืนขึ้นแล้วเดินไปทางประตู
อนุรองชะงัก “ท่านอ๋อง ไม่ทานแล้วหรือเพคะ”
“ไม่กินแล้ว” หลิงอ๋องส่ายหน้าอย่างยุ่งยากใจ ในใจคิดถึงแต่ท่าทีของอวี้อาเหรายามที่นางจากไป
อนุรองจำต้องมองเขาเดินหนีหาย สายตาดำมืดลง
อีกด้านหนึ่งนั้น อวี้อาเหราเพิ่งออกจากเรือนพักของอนุรอง เพื่อเดินทางกลับไปยังห้องพักของตัวเอง
“คุณหนู ท่านเกลียดชังคุณหนูใหญ่มิใช่หรือเจ้าคะ เหตุใดครั้งนี้ถึงได้รับปากหลิงอ๋องให้ปล่อยนางออกมาเสียเล่า ไม่กลัวว่าพวกนางแม่ลูกจะก่อเรื่องหรือเจ้าคะ อีกอย่างบ่าวก็ได้ยินท่านอ่องกล่าวว่าอีกไม่กี่วันนายน้อยสามก็จะกลับมาแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นพวกนั้นก็จะมีกันสามคนแม่ลูก คุณหนูต้องอยู่ตัวคนเดียว ไร้ซึ่งความช่วยเหลือใดๆ”