ลิขิตฟ้าชะตารัก - ตอนที่ 703 ออกไป / ตอนที่ 704 ตั้งใจ
ตอนที่ 703 ออกไป
อวี้อาเหราไม่กล้าที่จะหยุด รีบถอดเสื้อผ้าของเขาด้วยความร้อนแรงในทันที
เพียงยั่วยุเล็กน้อย ก็ปลดปล่อยออกมาเต็มที่!
ทว่ากลับเป็นฉู่ป๋ายที่ได้สติขึ้นมาก่อน เขาพยายามหยุดมือของนางเอาไว้
อวี้อาเหราหมดหนทาง จ้องมองเขาด้วยสายตาน่าสงสาร
สายตาของฉู่ป๋ายมุ่งมั่น ไม่มีแววลังเลแม้แต่น้อย เห็นเช่นนี้เขาคงไม่ยอมให้นางทำอะไรส่งเดชเป็นแน่
อวี้อาเหราไม่รู้จะทำอย่างไร นางทำได้แต่เพียงกอดเอวของเขาแล้วลูบไล้ไปทั่ว ในเมื่อทำเช่นนั้นไม่ได้ อย่างไรนางก็ขอลูบไล้ก็ยังดี
ใบหน้าของฉู่ป๋ายเครียดขมึง ก้มหน้าลงมองมือซุกซนของนางคู่นั้นที่ลูบไปทั่ว เมื่อมองเห็นใบหน้าแดงก่ำราวกับตกลงไปในหม้อน้ำร้อนของนาง เขาก็ถอนหายใจเสียงต่ำอย่างเหนื่อยหน่าย จำต้องอดทนเอาไว้ ยื่นมือออกไปหยิบเชือกบังเหียนออกมา แล้วขี่ม้าต่อไป
ผ่านไปอึดใจเดียว ก็มาถึงจวนหลิงอ๋อง
ฉู่ป๋ายผูกม้าเอาไว้ที่ประตูหลังของจวนหลิงอ๋องแล้วอุ้มอวี้อาเหราเข้าไปยังเรือนพักของนาง
เมื่อวางอวี้อาเหราลงบนเตียงแล้ว เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียง รีบเดินเข้ามาดู เมื่อเห็นอวี้อาเหราและฉู่ป๋ายสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ทั้งผมเผ้ายังยุ่งเหยิง และใบหน้าของอวี้อาเหรายังคงมีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนที่ยังไม่ได้เช็ดให้แห้ง ราวกับถูกบังคับขืนใจก็ไม่ปาน
ดวงตาของพวกนางโตเหมือนไข่ห่าน เป็นนานก็ยังไม่รู้ตัว
“คุณหนูของพวกเจ้าถูกรังแก เราเขียนใบสั่งยาเอาไว้ให้แล้ว เจ้าไปหายาตามใบสั่งนี้ จากนั้นก็เอายาใส่ในถังน้ำ แล้วเติมน้ำร้อนลงไป แล้วให้คุณหนูของพวกเจ้าแช่น้ำร้อน ผ่านไปไม่นานก็จะดีขึ้น”
ฉู่ป๋ายรีบออกคำสั่ง หลังจากที่พูดจบก็รีบหยิบกระดาษและพู่กันออกมาเขียน
เมื่อเขียนเสร็จแล้วก็ยื่นให้พวกนางทั้งสอง
เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้เห็นใบสั่งยาก็ผ่อนลมหายใจออกมา ในจวนนี้ล้วนแล้วแต่มีตัวยาเหล่านี้พร้อม นางจึงวางใจ
ฉู่ป๋ายกลับมาที่เตียง เห็นใบหน้าแดงก่ำของอวี้อาเหราแล้วสายตาก็พลันชะงัก
ฤทธิ์ยาของอวี้อาเหราเริ่มออกฤทธิ์อีกครั้ง นางเริ่มทำอะไรสะเปะสะปะอีกครั้ง แม้ว่านางจะหลับตาลงแต่ก็ราวกับรับรู้ได้ว่าฉู่ป๋ายอยู่ที่ไหน คว้าจับได้อย่างแม่นยำ ฉู่ป๋ายไม่ได้หลบหนี แต่ปล่อยให้นางจับไปทั่ว เพราะเขาได้ทำในเรื่องที่ควรทำไปหมดแล้ว เหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น คือนางยังไม่ถูกจับกินเสียหมดตัว
เมื่อเจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้เข้ามาแล้วก็เห็นคุณหนูของตัวเองกำลังปีนป่ายร่างของเซิ่นซื่อจื่ออยู่
สีหน้าของเซิ่นซื่อจื่อยังคงนิ่งเฉย ปล่อยให้นางทำไปตามใจ
แต่หากมองอย่างตั้งใจแล้วจะมองเห็นได้ว่า สีหน้าของเขานั้นก็เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก ราวกับกำลังอดกลั้นกับอะไรบางอย่าง
ฉากอันตรายเช่นนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็รู้สึกยากเกินจะรับกันทั้งนั้น แล้วคุณหนูของนางเองยังจะยอมที่จะเป็นคนออดอ้อนเองเสียอีกเล่า หากเป็นชายคนอื่น คงจะทนไม่ไหวกัดกินนางไปทั้งตัวแล้ว ทว่าเซิ่นซื่อจื่อนั้นมีความอดทนเป็นเลิศ เขาทำเพียงนั่งเฉยๆ เท่านั้น ทั่วทั้งร่างของเขานิ่งเฉย ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เลย
เพียงแต่ปล่อยให้อวี้อาเหราทำไปเท่านั้น
ในที่สุด ฉู่ป๋ายจึงรับรู้ได้ถึงการมาของคนทั้งสอง จึงหันกลับไปมอง
เจาเอ๋อร์จึงค่อยได้สติขึ้น รีบก้มหน้าลงในทันที “เซิ่นซื่อจื่อ เตรียมพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”
ฉู่ป๋ายพยักหน้า “พวกเจ้ามาเอาตัวนางไปเถิด”
เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ก้าวเข้ามา ยามที่กำลังเตรียมจะพยุงร่างของอวี้อาเหราขึ้นมานั้น แต่ทำอย่างไรนางก็ไม่ยอม ไม่ว่าพวกนางทั้งสองจะว่าอย่างไรนางก็ไม่ยอมที่ปล่อยมือจากสาบเสื้อของฉู่ป๋าย ราวกับทากาวติดเอาไว้อย่างแน่นหนา พวกนางทั้งสองไร้ซึ่งหนทาง จำต้องหันไปมองฉู่ป๋าย
ฉู่ป๋ายชะงัก แล้วจึงถอนหายใจ “พวกเจ้าออกไปก่อน”
ดูท่าเขาคงต้องลงมือทำเองเสียแล้ว เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้ลังเล ทั้งสองนั้นยังเป็นหญิงชายที่ยังไม่ได้แต่งงาน…
“ออกไป” ฉู่ป๋ายอดรนทนไม่ได้ กล่าวกับนางทั้งสองด้วยน้ำเสียงหนักๆ
ตอนที่ 704 ตั้งใจ
เช่นนั้นทั้งสองจำต้องออกไป แล้วปิดประตูลง
“เหราเอ๋อร์ ไปแช่น้ำเสียงหน่อยก็ไม่ทรมานแล้ว ไปกันเถิดนะ?” น้ำเสียงของฉู่ป๋ายเปลี่ยนไปเป็นอ่อนโยนขึ้นมา
“ไม่ไป” อวี้อาเหราส่ายหน้า นางเอาแต่รบเร้าเขาท่าเดียว ตอนนี้นางสูญสิ้นซึ่งสติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง ไหนเลยจะฟังในสิ่งที่เขาพูด?
ฉู่ป๋ายชะงัก ทำได้แต่เพียงกอดนางเอาไว้ แล้วเดินไปยังถังไม้หลังฉากกั้น ได้กลิ่นของตัวยาอย่างเข้มข้น
เขากำลังเตรียมจะหย่อนร่างของอวี้อาเหราลงน้ำ แต่ทำอย่างไรนางก็ไม่ยอม เอาแต่เกาะเกี่ยวอยู่กับร่างของเขา
ฉู่ป๋ายต้องใช้กำลังเล็กน้อย ร่างของนางจึงร่วงลงสู่ภายใน
อวี้อาเหราเบ้ปากออกด้วยความไม่พอใจ ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา แล้วลากเขาลงมาด้วย
ทั้งสองจมอยู่ในถังไม้ ที่มีกลีบดอกไม้โรยอยู่จนทั่ว
เสื้อผ้า เส้นผม ล้วนเปียกปอนจนทั่ว
“เจ้าตั้งใจใช่หรือไม่?” ฉู่ป๋ายกัดฟัน เหตุใดอวี้อาเหราที่ไม่ได้สติจึงได้ชอบแกล้งผู้อื่นกว่ายามปกตินักเล่า? แล้วยังตอนนี้อีก ทั่วทั้งร่างเปียกปอนไปทั่ว ยามที่สาวใช้ทั้งสองมองเขานั้นก็ฉายแววล้อเลียนอยู่แล้ว ตอนนี้คงจะยิ่งไปกันใหญ่กระมัง
เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย…
อวี้อาเหราอยู่ในน้ำก็ยังไม่ลืมที่จะเกาะเกี่ยวเขาเอาไว้ แต่ก็ถือว่านางสงบขึ้น ไม่ได้ขยับไปไหน ทำเพียงกอดเขาเอาไว้นิ่งๆ หากนางยังทำอะไรส่งเดชอยู่อีก เขาคงจะจัดการไม่ไหวแน่ แม้ตอนนี้จะอดทนอดกลั้นเอาไว้ได้ แต่ก็ยังเกือบจะทำให้นาง…
หลังจากแช่น้ำสักพัก อวี้อาเหราก็รู้สึกสบายขึ้นมาก ไม่ทำอะไรส่งเดชอีก
ฉู่ป๋ายถอนหายใจออกมา ก่อนคิดจะลุกขึ้นจากถังไม้
ในตอนนั้นอวี้อาเหราก็ได้สติขึ้นมาทันที จากนั้นจึงค่อยรู้เนื้อรู้ตัว ลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นว่าตัวเองรวมไปถึงร่างของฉู่ป๋ายต่างก็เปียกปอนอยู่ในถังไม้ถังเล็กๆ แต่คนสองคนกลับนั่งเบียดกันอยู่ในนี้ นางก็รู้สึกหนักหัวขึ้นมาในทันที
นางจำได้ว่าตัวเองอยู่กับจวินจื่อหร่าน จากนั้นก็เกือบถูกข่มขืนเพราะน้ำชาถ้วยนั้น…
จากนั้น โชคดีที่หนิงจื่อเย่เข้ามาช่วยนางเอาไว้ ยามที่ทั้งสองเดินออกมาก็ราวกับว่านางมองเห็นร่างของฉู่ป๋าย
กอดเอาไว้ด้วยกัน ฤทธิ์ยาก็กำเริบ นางกอดเขาแล้วกลิ้งตัวไปยังป่าข้างทาง และกำลังบังคับขืนใจ ทั้งร้องไห้ทั้งโวยวาย พยายามที่จะถอดเสื้อผ้าของเขาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังโวยวายขึ้นมาบนรถม้า ก่อนที่เจาเอ๋อร์และเมี่ยวอวี้จะเข้ามาเห็นด้วย
ยิ่งคิดถึง นางก็ยิ่งเครียด
นางทำเรื่องอะไรลงไปบ้างกันเนี่ย?
ทุกเรื่องที่นางไม่กล้าทำ ก็ดูเหมือนว่านางจะทำลงไปเสียหมดแล้ว!
แล้วเหตุใดตอนนี้นางจึงอยู่ในน้ำได้เล่า? ยังมาอยู่ร่วมกับเขาอีก?
ใบหน้าของอวี้อาเหราเครียดเขม็ง สีหน้าที่ค่อยๆ คลายความแดงซ่านกลับมาแดงก่ำอีกครั้ง
ไม่อยากจะคิดเลยว่าหญิงสาวที่เอาแต่ร้องไห้รบเร้าฉู่ป๋าย หญิงสาวที่ไร้ยางอายคนนั้น ที่แท้ก็เป็นนางเอง
ฉู่ป๋ายเห็นว่าในที่สุดนางก็ได้สติขึ้นมา ทว่ากลับมองไปข้างหน้าอย่างไร้สติ เช่นนั้นจึงยื่นมือออกไปลูบผมของนางอย่างลืมตัว
อวี้อาเหราหลบไปด้านหลังอย่างตื่นกลัว นางมองไปที่เขาอย่างเคร่งเครียด “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“ข้าคิดจะทำอะไรหรือ? เหราเอ๋อร์ เจ้าลืมไปหมดแล้วหรือว่าเจ้าทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง” ฉู่ป๋ายค่อยๆ เข้ามาใกล้ จนร่างของทั้งสองแทบจะแนบติดกัน อวี้อาเหรามองไปที่เขาอย่างหนักใจ แล้วก้มหน้าลงอย่างหงอยๆ ยามที่นางกำลังอยู่ในช่วงว้าวุ่นเสียจนไม่รู้จะทำอย่างไร หากนางได้สติ ไหนเลยจะกล้าทำเรื่องเช่นนั้นกันเล่า?
แต่นางนั้น เป็นฝ่ายผิดดนี่นา
นางคงไม่กล้าเจอใครอีกไปตลอดชีวิต
แม้ว่าจะไม่เงยหน้า แต่ก็ราวกับรับรู้ได้ถึงสายตาของเขาที่กำลังกวาดตามองนางอยู่
นางรู้สึกขนลุกชัน อยากจะขุดหลุมแล้วมุดหน้านหนีให้รู้แล้วรู้รอด
นางก็ไม่เคยเสียหน้าขนาดนี้มาก่อนในชีวิต