ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ - ตอนที่ 506 การปกครองเป็นลำดับชั้นของทวยเทพ
การปกครองเป็นลำดับชั้นของทวยเทพ
ขณะที่ยืนนิ่งอยู่ข้างโกดัง หลี่ว์ซู่เฝ้ามองคาวาโยชิเยินยอชายที่มีตำแหน่งสูงที่มีชื่อว่า คุริยามะอยู่เงียบๆ ความรู้สึกขยะแขยงเอ่อล้นขึ้นมาจากคอหอยของเขาเมื่อรถแล่นออกไป
เขาได้เป็นสักขีพยานว่าสายลับทวยเทพได้สละชีพไปหลายชีวิตในโบราณสถานเป่ยหมังเพื่อที่จะใช้กำลังดึงให้พละกำลังของตัวเองมากขึ้น ในตอนนั้นเขาก็เพียงแต่สะดุ้งในความหมกมุ่นอย่างผิดปกติของพวกเขาในการสร้างนักสู้ที่ทรงพลัง
และตอนนี้ พวกเขาวางแผนจะใช้กลยุทธ์เดียวกันนี้และจับกุมเพื่อนร่วมรบร่วมสมรภูมิในอดีตมามากมายเพื่อสังเวยชีวิต
ครั้งหนึ่งคุณบันไดเคยกล่าวว่าบรรดาผู้บัญชาการของทวยเทพนั้นต่างหวังที่จะเพิ่มจำนวนคนที่อยู่ระดับ A ด้วยวิธีการที่รุนแรงมากขึ้น เพื่อที่จะตั้งตนให้มีที่ยืนที่มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นในเวทีสากล แต่ทว่ามันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
หรือเธอจะหมายความว่าจะทำการสังเวยต่อไปไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้เนื่องจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวของระดับ A
หลี่ว์ซู่ไม่แน่ใจ เขาพึ่งพาได้แค่การคาดการณ์ของเขาเท่านั้น
หลายๆ คนกลัวผี ทว่าในวินาทีนั้นหลี่ว์ซู่กลับรู้สึกว่าความปรารถนาของคนนั้นน่ากลัวเสียยิ่งกว่าอีก
หลังจากที่คาวาโยชิออกคำสั่งให้คนขับนำรถบรรทุกทั้งสี่คนไปจอดไว้ในห้องอันกว้างขวางของโรงงาน เขาก็บอกหลี่ว์ซู่ว่า “บางครั้งบางอย่างนั้นพูดต่อไม่ได้ เราในฐานะที่เป็นคนเดินเรื่องไม่ต้องรู้อะไรมากเกินไป เราแค่ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาก็พอ”
“แน่นอน” หลี่ว์ซู่พยักหน้ายอมรับ เขาไม่มีความสงสาร ‘สินค้า’ ที่อยู่ในรถบรรทุก เพราะไม่มีพวกลัทธิคลั่งชาติคนไหนที่ไร้ความผิด
อย่างไรก็ตามนั่นก็ไม่อาจหยุดเขาจากความเกลียดชังทวยเทพที่ฝังรากลึกยิ่งขึ้นเพราะการกระทำที่ไร้จรรยาบรรณ
คราวนี้สมาชิกทั้งหมดในทีมรักษาความปลอดภัยที่ถูกจัดสรรมาให้คาวาโยชินั้นคือคนระดับ E ซึ่งแสดงความเคารพยำเกรงต่อคนระดับ D อย่างยามาดะอย่างเต็มที่
หลี่ว์ซู่เปิดประตูรถออกและชำเลืองเข้าไปดูด้านใน มีคนอยู่ประมาณสอบคนในแต่ละคันรถนอนอยู่ตามพื้น แม้ว่าจะไม่มีโซ่พันธนาการใดๆ อยู่แต่พวกเขาก็ไม่อาจขยับตัวได้เลย
ณ ตอนนี้เองมีชายคนหนึ่งดึงเอากระเป๋าเดินทางสีขาวออกมาและเปิดให้ดูเข็มฉีดยาสี่สิบด้ามที่เรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่ข้างในให้ดู ชายอีกคนอธิบายให้เขาฟังว่า “เข็มละยี่สิบสี่ชั่วโมง มันจะรักษาพลังของพวกเขาเอาไว้และแค่ทำให้ร่างกายทั้งหมดเป็นอัมพาต”
ในขณะที่ของเหลวนั้นถูกฉีดเข้าไปในเส้นเลือดแดงใหญ่ของพวกเขา ไม่ช้าสินค้าก็เงียบเสียงลงไป และขยับได้แค่ลูกตา
ฉะนั้นจึงดูเหมือนว่าพวกเขามีความสามารถจะตะโกนออกมาได้ก็ด้วยเพราะผลจากยาที่เจือจางลงเท่านั้นเอง…
ในระหว่างนั้น ชายเหล่านั้นก็ลงมือลงไม้กับ ‘สินค้า’ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าพวกเขามาก พวกเขาจะหาโอกาสงามๆ อย่างนี้ได้เมื่อไรอีก
หลี่ว์ซู่ตกตะลึงกับด้านมืดที่ชั่วร้ายของมนุษยชาติ
แม้จะเดือดดาลแต่สินค้าเหล่านั้นก็ไม่อาจกระดิกได้กระทั่งนิ้วมือ เมื่อตระหนักดีถึงชะตากรรมสุดท้ายของพวกเขา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงไม่กลัวการตอบโต้เลยสักนิด
“หลังจากฉีดยาสามครั้ง พวกเขาจะดื้อยา ถึงตอนนั้นนายจะต้องฉีดยาพวกเขาทุกๆ สิบสองชั่วโมง ครั้งนี้รอบที่สองแล้วนะ”
หลี่ว์ซู่ตกใจสุดขีด พวกนายถึงกับค้นพบวัฏจักรการดื้อยาของพวกเขาเลยเหรอ! มีคนตกเป็นเหยื่อพวกนายมากี่คนแล้วละเนี่ย!
ตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกแง่ดีอะไรให้กับนากายะ คาวาโยชิ คุริยามะ และแม้แต่สมาชิกรักษาความปลอดภัยทั้งยี่สิบคนเลย พวกเขาทั้งหมดคือฆาตกร
ในฐานะที่คาวาโยชิและหลี่ว์ซู่อยู่ระดับ D พวกเขาจึงทำอะไรก็ได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยระดับ E ไม่กล้าทำอะไรไม่เหมาะสมแม้แต่น้อยต่อหน้าพวกเขา พวกเขานั่งรอบๆ รถบรรทุกอย่างว่าง่ายเพื่อคอยตรวจตราทุกอย่าง
สิ่งนี้ทำให้เห็นถึงการปกครองเป็นลำดับชั้นที่เข้มงวดภายในทวยเทพ ในเครือข่ายฟ้าดินนั้น คนระดับ E และ D สามารถมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ
แต่ในทวยเทพ คนระดับ E จำเป็นต้องแสดงการให้เกียรติทางวาจาเมื่อพูดคุยกับคนระดับ D
หลี่ว์ซู่ถามคาวาโยชิว่า “แล้วพวกเขาจะกินข้าวเย็นยังไงน่ะ”
คาวาโยชิโบกมือปัดใส่หน้าเขา “นายไม่ต้องห่วงพวกเขาหรอก พวกคนระดับ E คือคนงานของพวกเรา ทำไม นายกำลังจะบอกว่าเราต้องเป็นพ่อครัวให้พวกเขาเหรอ”
“แต่มันไม่ถูกนะ” หลี่ว์ซู่ตอบ “เราจะให้พวกเขาอดข้าวแบบนั้นไม่ได้”
คาวาโยชิยิ้มและคีบบุหรี่ไว้ในริมฝีปากพร้อมกับส่งสัญญาณให้หลี่ว์ซู่จุดบุหรี่ให้เขา แต่หลี่ว์ซู่ไม่ได้ทำ สุดท้ายเขาเลยต้องทำเอง “นายไม่ต้องมาจำกัดอะไรกับฉันนัก เดี๋ยวนายก็เข้าใจเองว่าเรากับพวกเขามาจากคนละระดับ พวกเขาไม่บ่นด้วยซ้ำถ้านายตบหน้าพวกเขาน่ะ เชื่อไหมล่ะ”
ตาของหลี่ว์ซู่เป็นประกายขึ้นมาด้วยความดีใจ “จริงเหรอ”
คาวาโยชิรู้สึกได้ถึงลางร้ายที่เกิดขึ้นในใจ เขาจ้องมองด้วยความตกใจเมื่อหลี่ว์ซู่เดินไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตบหน้าเขาอย่างแรงไปหนึ่งฉาด ชายผู้น่าสงสารคนนั้นแทบสลบคาที่…
เขาเซหมุนไปสองตลบด้วยแรงตบ แม้กระทั่งตอนที่เขาตั้งหลักยืนดีๆ ได้แล้ว สมองเขาก็ยังหมุนเคว้งอยู่ด้วยความเจ็บปวด…
[ได้แต้มจากเซโกะ ฮิโรนาริ +999!]
แล้วก็ตามด้วยอีกฉาด!
ยังไม่ทันที่พวกเขาจะหายช็อก หลี่ว์ซู่ก็ตบหน้าหนึ่งในพวกเขาอีกคน…
[ได้แต้มจากโมเตกิ โทชิมิทสึ +999…]
เนื่องจากผู้โชคร้ายคนนั้นอ่อนแอกว่า เขาจึงล้มลงไปแอ้งแม้งกับพื้นทันที หมดสภาพจนลุกขึ้นยืนไม่ได้
[ได้แต้มจากนากายะ คาวาโยชิ +666!]
เขาแค่พูดแหย่เล่นเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าเจ้าหลี่ว์ซู่จะเอาจริง คาวาโยชิรีบโผเข้าไปหยุดหลี่ว์ซู่ทันทีก่อนที่เขาจะเปิดฉากฟาดผู้โชคร้ายคนที่สาม “เดี๋ยวก่อน หยุด! เล่นแรงเกินไปแล้ว หยุดมือเดี๋ยวนี้”
หลี่ว์ซู่ชะงัก “นายบอกให้ฉันตบพวกเขาไม่ใช่รึไง”
เขายังไม่พอใจเลย นี่เขาอาจเก็บแต้มจากคนพวกนี้ได้ง่ายๆ ถึงสองหมื่นแต้มเลยนะ…
คาวาโยชิเริ่มอยากตั๊นหน้าตัวเองแล้วตอนนี้ เขาคิดอะไรอยู่ตอนแหย่ไอ้คนทึ่มท่อเป็นตอไม้ไม่มีอารมณ์ขันแบบมัน!
[ได้แต้มจากนากายะ คาวาโยชิ +666!]
หลี่ว์ซู่เพิ่งสังเกตว่านอกจากผู้โชคร้ายสองคนที่โดนตบแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเองก็มอบแต้มให้เขาด้วยเหมือนกัน ถึงแม้แต้มจะน้อยกว่าก็ตามที
นี่เป็นเพราะพวกเขาห่วงความปลอดภัยของตัวเอง ถึงแม้พวกเขาจะไม่เคยโดนคนระดับสูงกว่าตบมาก่อนก็เถอะ แต่ไอ้หมอนี่มันจะจัดหนักจัดเต็มเกินไปหน่อยแล้วมั้ง…
พวกเขาไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้หรือชายที่ถูกเรียกว่า “ยามาดะ อาคิระ” !
ในขณะเดียวกัน หลี่ว์ซู่ก็ตระหนักได้ว่าคาวาโยชิไม่ได้พูดโกหก คนพวกนี้ไม่กล้าแม้แต่จะปกป้องตัวเอง
และในตอนนั้นเอง คาวาโยชิก็ได้รับสายสายหนึ่ง “ครับ ท่านคุริยามะ ได้ครับ ไปเดี๋ยวนี้ครับ!”
หลังจากวางสาย คาวาโยชิก็ตะโกนลั่น “ฐานแห่งใหม่ถูกเลื่อนเปิดให้เร็วขึ้น ทุกคนเตรียมตัว! เราจะเคลื่อนย้ายสินค้าไปที่ฐานใหม่กันเดี๋ยวนี้!”
ดวงตาของหลี่ว์ซู่ส่องประกาย นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้เข้าไปในฐานรึเปล่านะ