เกิดใหม่อีกครั้ง ฉันเป็นองค์ชาย - ตอนที่ 511-512
ตอนที่ 511 ช่องว่างความต่างระหว่างคนกับคน
เดิมทีดอกสิ้นใจไม่ได้มีอันตรายอะไร แต่ถ้าหากผสมรวมกับผงโน้มจิตก็จะก่อตัวเป็นยาพิษที่ตรึงจิตให้ใหลหลงจนถึงแก่ชีวิตได้
เพียงแต่ดอกไม้ชนิดนี้ไม่ได้พบบ่อยในบริเวณที่ราบตอนกลาง คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นตัวแบบดั้งเดิมของดอกสิ้นใจที่หมู่บ้านหลิวเจียด้วยตาตัวเอง
“นี่พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่?”
ฟังจั่วฉือขมวดคิ้วอย่างไม่ค่อยเข้าใจ มองฝูงชาวบ้านที่ริมฝั่งแม่น้ำ
“ไม่ทราบ”
หลิงลั่วก็ขมวดคิ้วเช่นกัน นางรู้สึกว่าถ้าหากอาการสิ้นฝั่งนิพพานในหมู่ชาวบ้านหมู่บ้านหลิวเจีย เป็นการผสมรวมกันของดอกสิ้นใจกับผงโน้มจิต อย่างนั้นชาวบ้านเหล่านี้ก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้สักคนเสียแล้ว
อีกฝั่งหนึ่ง จวินชิงเหยียนก็ขมวดคิ้วแน่น แต่ว่าก็ไม่ได้เอ่ยปาก
ความคิดของเขาเหมือนกับหลิงลั่ว เขารู้จักอาการสิ้นฝั่งนิพพาน เช่นนั้นก็ย่อมทราบแน่นอนว่าอาการนี้ไร้ซึ่งยาแก้พิษได้ แม้ว่าเขาไม่อยากกล่าวเช่นนี้มากก็ตาม แต่ว่าความจริงก็เป็นเช่นนี้จริงๆ ชาวบ้านของหมู่บ้าน หลิวเจีย ไม่อาจอยู่รอดได้เลยสักคน
“ตอนนี้จะทำอย่างไร พวกเราจะไปดูที่อื่นหรือไม่”
ฟังจั่วฉือมองทางหลิงลั่วกับจวินชิงเหยียน และเอ่ยถาม
“ไม่จำเป็นแล้ว”
หลิงลั่วส่ายหน้า ยามนี้นางได้มีการคาดคะเนไว้แล้ว เพียงแต่ต้องพิสูจน์ยืนยัน “ข้าจะไปเอาน้ำลำธารมาหน่อย พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่”
“นี่! เดี๋ยวก่อนหลิงลั่ว!”
ฟังจั่วฉือกับจวินชิงเหยียนดึงแขนสองข้างของหลิงลั่วไว้พร้อมกัน เพียงแต่จวินชิงเหยียนไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรออกมา
“เจ้าอยากตายรึ?” เจ้าดูสิคนเหล่านั้นล้อมแม้น้ำไว้จนเป็นสภาพอย่างไรแล้ว เจ้ายังจะไปเอาน้ำลำธารอะไรอีก? แค่เจ้าออกไปก็ต้องโดนพวกเขากำราบจนราบคาบ!
“เจ้าจะคิดว่าข้ามีดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ!” หลิงลั่วกลอกตาอย่างหมดคำพูด มองฟังจั่วฉืออย่างอารมณ์เสีย “ในพวกเราสามคน มีเพียงข้าเท่านั้นที่วิชาตัวเบาดีที่สุด ข้าไม่ไป หรือว่าเจ้าจะไป?”
วิชาตัวเบาของหลิงลั่วดีที่สุด กำลังภายในของจวินชิงเหยียนดีที่สุด และวิทยายุทธ์ของฟังจั่วฉือดีที่สุด สามคนต่างมีจุดแข็งของตัวเอง
ฟังจั่วฉือขมวดคิ้ว มองจวินชิงเหยียนแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเขายังคงไม่ละทิ้ง ก็เอ่ยปากแนะว่า “หลิงลั่ว แม่น้ำสายนี้สามารถไหลไปนอกหมู่บ้านหลิวเจียได้ พวกเราไปเอาน้ำลำธารที่ข้างนอกหมู่บ้านก็เหมือนกัน”
หลิงลั่วก้มหน้าไม่พูดจา กล่าวว่าเหมือน แต่ก็ไม่ได้เหมือนกัน
ที่นี่มีดอกสิ้นใจอยู่ หากว่าผงโน้มจิตถูกคนใส่ลงไปในน้ำของแม่น้ำสายนี้จริง ก็มีแต่ที่นี่เท่านั้นที่จะแสดงประสิทธิผลของยาที่รผสมรวมกันระหว่างดอกสิ้นใจกับผงโน้มจิตได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อเห็นหลิงลั่วไม่พูด จวินชิงเหยียนก็ยิ่งทราบว่าในใจหลิงลั่วคิดอย่างไร เขาขมวดคิ้วแน่น “บนโลกใบนี้ หากมีสิ่งใดที่จะคุกคามความปลอดภัยของเจ้า ข้าจะไม่มีทางยอมให้เจ้าได้ทำต่อไป ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็ตาม”
หลิงลั่วหันหน้ากลับมามองจวินชิงเหยียน มองความจริงจังในดวงตาเขาแล้ว สุดท้ายหลิงลั่วก็ยังต้องถอนหายใจเบาๆ
ถึงแม้ปกติจวินชิงเหยียนจะไม่ได้เอ่ยปากห้ามปรามการทำคดีของนาง และก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยที่นางเอาเวลาไปใช้กับการทำคดี แต่หลิงลั่วรู้ว่าขีดจำกัดของจวินชิงเหยียน คือนาง
หากนางจะมีอันตรายใดแล้ว จวินชิงเหยียนไม่มีทางยอมให้นางได้สืบสวนต่อไปอีกแน่
“ก็ได้…”
สุดท้าย ก็ยังเป็นหลิงลั่วที่ยอมผ่อนปรน
ถึงแม้จะมีความยากลำบากอยู่บ้าง แต่ว่าถ้าหากเหยียนปินนำผงโน้มจิตใส่ลงไปในแม่น้ำสายนี้จริง ไม่ว่าจะมากจะน้อยก็ต้องสามารถหาเจอได้บ้าง
ฟังจั่วฉือ “…”
ที่เขาพูดจาหว่านล้อมจนปากเปียกปากแฉะอยู่ตรงนี้ตั้งนานล้วนไม่ได้ผล ผลคือจวินชิงเหยียนพูดแค่คำเดียวก็เรียบร้อยแล้วรึ?!
ช่องว่างความต่างระหว่างคนกับคน เหตุใดถึงได้มากขนาดนี้!
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็กลับกันก่อนแล้วกัน”
จวินชิงเหยียนกล่าวจบ ก็ไม่รอให้หลิงลั่วตอบสนอง จูงมือนางและกลับไปทางเดิมทันที
ตอนที่ 512 ลำธาร
ฟังจั่วฉือมองชาวบ้านข้างหลังที่อยู่รอบบริเวณริมแม่น้ำแวบหนึ่ง และรีบไล่ตามฝีเท้าของหลิงลั่วกับ จวินชิงเหยียนออกไป
ยามที่หลิงลั่ว จวินชิงเหยียนและฟังจั่วฉือออกมาจากหมู่บ้านหลิวเจียแล้ว เการุ่ยก็ยังคงรออยู่ที่ทางออก
เมื่อเห็นทั้งสามคนออกมาอย่างปลอดภัย เการุ่ยก็รีบก้าวเข้ามาต้อนรับ
“แม่ทัพฟัง ใต้เท้าหลิงอัน ใต้เท้าจวินเหยียน พวกท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่ขอรับ”
“ไม่เป็นไร” ฟังจั่วฉือส่ายหน้า จู่ๆ ก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามเการุ่ยว่า “เจ้าทราบหรือไม่ว่าปลายลำธารแม่น้ำในหมู่บ้านสายนั้นอยู่ที่ตรงไหน?”
“เรื่องนี้ ข้าน้อยทราบขอรับ” เการุ่ยพยักหน้า ยื่นมือออกมาชี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และกล่าวว่า “มุ่งหน้าไปทางทิศนี้ เดินไปราวสองร้อยเมตรก็ถึงแล้วขอรับ”
“ได้ ข้าทราบแล้ว”
ฟังจั่วฉือหันหน้ากลับไป พยักหน้าพร้อมกันกับหลิงลั่ว และกล่าวกับเการุ่ยว่า “ลำบากเจ้าแล้ว” และทั้งสามคนก็เดินมุ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
“หลิงลั่ว อันที่จริงข้าว่านะ ในเมื่อไม่มีทางช่วยชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ได้แล้ว ก็ทำให้พวกเขาให้ลาลับไปเลยไม่ดีกว่าหรือ ก็จะได้ไม่ต้องทนรับทุกข์มากขนาดนี้อีก”
ฟังจั่วฉือกำลังเดินและมองถนน แต่กลับเอ่ยพูดอยู่กับหลิงลั่ว
“ข้าก็เคยคิดแบบนี้ แต่ว่าไม่ได้” สีหน้าหลิงลั่วไม่เปลี่ยนแปร “ก็เหมือนที่เการุ่ยกล่าว ชาวบ้านเหล่านั้นก็ล้วนเป็นชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งพวกเขายังคงมีสติอยู่ภายในใจพวกเขา ไม่แน่ว่าพวกเขาไม่ได้อยากตาย พวกเราก็ย่อมต้องเคารพความคิดของพวกเขาเช่นกัน แต่ว่า…”
หลิงลั่วเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างฉับพลัน กล่าวว่า “ถ้าหากพวกเขาอยากออกจากวงล้อมนั้น และมาที่ข้างนอกจะเป็นภัยคุกคามชาวบ้านที่บริสุทธิ์คนอื่นได้ทุกเมื่อ เช่นนั้นจะปล่อยไว้นานไม่ได้ ไม่ว่าพวกเขาคิดอย่างไร ล้วนไม่อาจปล่อยให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เข้ามาพัวพันด้วยได้”
“อย่าพูดไปเลย เป็นรูปแบบการทำงานของเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ” ฟังจั่วฉือหัวเราะเบาๆ
ก็ไม่รู้ว่าวันเวลาที่เงียบสงบแบบนี้จะคงอยู่ได้นานเท่าไร หากไม่กำจัดแคว้นชิวหลานจริงๆ สักวัน พวกเขาก็ถูกลิขิตให้มีช่วงเวลาที่ไม่สงบสุขไปแล้ว
จวินชิงเหยียนไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ว่าในใจกลับรู้ดีเป็นพิเศษ เพียงแต่ตอนนี้ไม่ทราบในสถานที่ตั้งของแคว้นชิวหลานอย่างแน่ชัด ทราบเพียงอย่างเดียวก็คือที่ตั้งของสำนักชิวหลาน แต่ว่าชิวฝั่งเยียนที่เป็นเจ้าสำนักของสำนักชิวหลาน หรือก็คือองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นชิวหลานไม่มีทางจะนำตำแหน่งที่ตั้งของแคว้นชิวหลานตั้งไว้ในสำนักของตนเองเด็ดขาด
ระหว่างที่ครุ่นคิดอยู่นั้น ทั้งสามคนก็มาถึงที่หน้าลำธารสายหนึ่งแล้ว
ลำธารไหลเคลื่อนอย่างเอื่อยเฉื่อย ไม่ได้ไหลเชี่ยวกราก ซึ่งจุดนี้กลับช่วยหลิงลั่วได้หลายเรื่องเลย
อย่างไรเสียก็เป็นอัตราไหลที่เฉื่อยช้า หากมีผงโน้มจิตจริง ก็คงไม่มีทางสลายหายไปเร็วนัก
หลิงลั่วหยิบตลับเครื่องเคลือบใบเล็กที่พกติดตัวออกมา หลังจากใส่ธารน้ำหนึ่งตลับแล้ว ก็กลับไปที่กระโจม
หลังจากกลับมาที่กระโจมแล้ว หลิงลั่วก็เข้าไปในกระโจม หลังจากเมื่อบอกว่าไม่ให้ผู้ใดรบกวนนางแล้ว จวบจนกระทั่งดวงตะวันคล้อยลงทิศตะวันตก หลิงลั่วถึงได้เดินออกมาจากกระโจม
จวินชิงเหยียนกับฟังจั่วฉืออยู่ในกระโจมหลัก หลับตาพักฟื้นบำรุงจิต
“ชิงเหยียน…”
ฟังจั่วฉือมองจวินชิงเหยียนที่หลับตาสองข้างสนิท อยากจะกล่าวแต่ก็ยั้งไว้
“ทำอะไร?” จวินชิงเหยียนลืมตาขึ้น เอี้ยวตามองฟังจั่วฉือ
“ไม่มีอะไร ก็แค่ดูว่าเจ้าหลับหรือไม่”
ฟังจั่วฉือยักไหล่ กล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก
“เจ้าลืมทานยาหรือ”
จวินชิงเหยียนกระตุกมุมปาก ปิดดวงตา และหันหน้าไปไม่มองฟังจั่วฉืออีก
ไอ้บ้านี่ท่าจะประสาทจริงๆ!
“ไม่ใช่นะ!”
ฟังจั่วฉือเอ่ยแย้งว่า “ข้าแค่อยากพูดว่า หากหลิงลั่วยังทุ่มเททำสุดชีวิตขนาดนี้ต่อไป ร่างกายก็จะไม่หมดเรี่ยวแรงเอาหรือ?”