เกิดใหม่อีกครั้ง ฉันเป็นองค์ชาย - ตอนที่ 515-516
ตอนที่ 515 ออกไปแล้ว
“ใต้เท้าหลิงอัน ข้าน้อยกล่าวความจริงขอรับ ท่านอ๋องของข้าไม่ได้อยู่ที่จวน เขาเพิ่งจะนั่งรถม้าออกไปกับบุรุษผู้หนึ่งและสตรีนางหนึ่ง ซึ่งก็ครึ่งชั่วยามแล้วขอรับ”
ทหารยามที่เฝ้าประตูมองหลิงลั่วอย่างลำบากใจ
เขาย่อมทราบฐานะของหลิงลั่วอยู่แล้ว แต่ว่าหากเขาปล่อยให้หลิงลั่วเข้าไป เมื่อท่านอ๋องกลับมาทราบเรื่องเข้า จะต้องต่อว่าเขาแน่!
“ออกไปกับบุรุษผู้หนึ่งและสตรีนางหนึ่ง?” หลิงลั่วจับจุดสำคัญในคำพูดของทหารยามคนนี้ได้ทันใด “เจ้ารู้จักบุรุษและสตรีเหล่านั้นหรือไม่”
ทหารยามครุ่นคิด “สตรีนางนั้น ข้าน้อยไม่คุ้นเคยเท่าใดนัก ซึ่งก็เพิ่งมาที่จวนฟู่อ๋องเมื่อไม่กี่วันนี้เอง แต่ว่าบุรุษคนนั้น ข้าน้อยรู้จักขอรับ ผู้นั้นก็คือคุณชายเหยียน อยู่เคียงกายท่านอ๋องมาเกือบจะหนึ่งปีแล้วขอรับ”
คุณชายเหยียน? ดวงตาหลิงลั่วไหวเคลื่อนเล็กน้อย นั่นจะต้องเป็นเหยียนปินอย่างไม่ต้องสงสัย สตรีนางนั้น หากไม่เกิดดั่งที่คาดการณ์แล้วละก็ นางน่าจะเป็นชิวไต้เมี่ยว
เวลาเนิ่นนานขนาดนี้แล้ว เดิมทีนางคิดว่าชิวไต้เมี่ยวได้กลับไปที่กองบัญชาการย่อยของสำนักชิวหลานแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะกลับมาที่แคว้นจื้อโหยวอีก!
เพียงแต่ครั้งนี้ เหมือนว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติอยู่บ้าง…
ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ เซียวชวีฟู่จะตามเหยียนปินกับชิวไต้เมี่ยวไปที่ไหนได้?
บางทีชิวไต้เมี่ยวก็อาจจะคิดได้ว่า พวกเขาทราบว่าคดีของหมู่บ้านหลิวเจียแห่งเมืองทงโจวมีความเกี่ยวข้องกับเซียวชวีฟู่และสำนักชิวหลาน
สำหรับที่ว่าเหตุใดเซียวชวีฟู่ถึงได้ไปกับพวกเขาสองคนนั้น…
หลิงลั่วเกิดความคิดหนึ่งขึ้นภายในใจ แต่ว่าความคิดนี้จำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน
“จริงสิ ยามเมื่อท่านอ๋องไปจากจวนอ๋อง ได้ชี้ไปทางห้องตำรากับห้องนอน แต่ว่าท่านอ๋องหมายความว่าอะไรกันนะ…”
ทหารยามส่งเสียงพึมพำเบาๆ เผยสีหน้างุนงงออกมา
หลิงลั่วมองทหารยามที่เฝ้าประตูแวบหนึ่ง หันหลังกลับ และเดินมุ่งไปในซอยเล็กข้างๆ จวนฟู่อ๋อง
ไม่ให้นางเขาทางประตูหลัก และคิดว่ากำแพงเล็กๆ นี่จะสามารถกักกันนางได้หรือ?
แม้แต่กำแพงสูงของวังหลวงนางยังไม่สนใจ นับประสาอะไรกับกำแพงเตี้ยที่ความสูงไม่ถึงสองคนนี้เล่า
รวดเร็วนัก หลิงลั่วก็เข้าไปในจวนฟู่อ๋องได้แล้ว
หลิงลั่วมองไปทางประตูใหญ่ของจวนฟู่อ๋องแวบหนึ่ง เผยอริมฝีปากเบาๆ และหันกลับมาเริ่มต้นค้นหาห้องตำราของเซียวชวีฟู่ไปทีละห้องๆ
ไม่ว่าจะเป็นของสำคัญอะไร เซียวชวีฟู่จะเก็บไว้เพียงแค่สองที่นี้เท่านั้น
ที่แรกก็คือห้องนอนของเขา ส่วนอีกที่หนึ่งก็คือห้องตำราของเขา
สองที่นี้เป็นสถานที่ที่เขาไปเป็นประจำ ซึ่งก็เป็นสถานที่เขาจะไปทุกวัน นำสิ่งของที่สำคัญเก็บไว้ในสองห้องนี้ ได้เห็นอยู่ทุกวัน ก็ย่อมจะสบายใจแน่นอน
อีกทั้งที่ทหารยามคนนั้นเพิ่งจะกล่าวว่า ยามที่เซียวชวีฟู่จากไป ได้ชี้ไปทางห้องตำรากับห้องนอน อย่างนั้นก็แสดงว่าที่เซียวชวีฟู่ออกไปกับเหยียนปินและชิวไต้เมี่ยวนั้น ไม่น่าจะมาจากความตั้งใจเดิมของเขา ที่เขาทำแบบนี้ก็คือกำลังทิ้งเบาะแสไว้ให้พวกนาง
หลังจากไม่นาน หลิงลั่วก็หาห้องตำราของเซียวชวีฟู่เจอ
ห้องตำราของเซียวชวีฟู่สะอาดเรียบร้อยเป็นอย่างมาก ดูเหมือนก็ง่ายที่จะหาเจอ
หลิงลั่วรื้อค้นควานหาที่ในห้องตำราอยู่เนิ่นนาน แต่ก็ไม่ได้รื้อค้นอย่างมั่วซั่ว
สุดท้ายก็หาของที่เป็นประโยชน์ไม่เจอ คิ้วของหลิงลั่วพลันขมวดขึ้น
ไม่จริง เซียวชวีฟู่ถูกชิวไต้เมี่ยวกับเหยียนปินพาไปแบบนี้ ต้องไม่มีทางไม่ทิ้งอะไรไว้แน่ เขาต้องทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้ เพียงแต่ว่านางแค่ยังไม่เจอเท่านั้น
แต่ว่า อยู่ที่ไหนล่ะ?
หลิงลั่วขมวดคิ้ว ดูทั่วทั้งข้างบนข้างล่าง ทั่วทั้งห้องตำราอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว สุดท้ายสายตาไปหยุดอยู่ที่บนภาพวาดภูเขาลำน้ำที่งดงามวิจิตรมากที่สุดภาพหนึ่ง
นางเดินเข้าไปที่ข้างหน้าภาพวาดอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ นำภาพวาดลงมา
ตอนที่ 516 หวนคืนแคว้นจวินกั๋ว (1)
ข้างหลังภาพวาดภูเขาลำน้ำ มีช่องลับที่ซ่อนเอาไว้ลับมาก และช่องลับนี้หากไม่ดูให้ละเอียดก็จะมองไม่เห็น
หลิงลั่วพลันเม้มริมฝีปาก นำภาพวาดมาไว้ที่นี่ ก็ช่างฉลาดยิ่งนัก
หลิงลั่วเม้มริมฝีปากขึ้นช้าๆ ดึงช่องลับออกมาเบาๆ ซองจดหมายกระดาษเยื่อเหนียวปรากฏอยู่ตรงหน้าหลิงลั่ว
หลิงลั่วเอื้อมมือออกไป และหยิบซองจดหมายออกมา
บนซองจดหมายไม่มีการเขียนด้วยลายมือ ช่างเกลี้ยงเกลาเป็นอย่างมาก
หลิงลั่วหยิบกระดาษจดหมายออกมา และดูอย่างละเอียด
ที่แท้ก็คือที่อยู่ของกองบัญชาการหลักของสำนักชิวหลานนี่เอง!
ดวงตาหลิงลั่วขยับเล็กน้อย นำจดหมายใส่กลับเข้าไปในซองจดหมาย และเก็บซองจดหมายเข้าไปในปากแขนเสื้อตัวเอง
คิดไม่ถึงว่าเซียวชวีฟู่จะเก็บออมฝีมือไว้ได้ขนาดนี้!
นางเม้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย เกรงว่าครั้งนี้แม้แต่ชิวไต้เมี่ยวก็ยังไม่ล่วงรู้เลย
เมื่อนำภาพวาดกลับไปแขวนที่แล้ว หลิงลั่วก็พกซองจดหมายกลับไปที่วังหลังของแคว้นจื้อโหยว
ในห้องตำราหลวง จวินชิงเหยียนเพิ่งจะนำเหตุการณ์คร่าวๆ ของหมู่บ้านหลิวเจียแห่งเมืองทงโจวบอกให้เซียวจือเฉาทราบ เซียวจือเฉาเพิ่งจะตรึกตรองได้ชั่วครู่ หลิงลั่วก็กลับมาที่ห้องตำราหลวงแล้ว
“จือเฉา ฟู่อ๋องถูกชิวไต้เมี่ยวกับเหยียนปินพาตัวไปแล้ว”
“อะไรนะ?!” เซียวจือเฉาลุกขึ้นยืนเสียงดัง ฟึ่บ! “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“ความทะเยอทะยานของสำนักชิวหลานคงจะเผยออกมาแล้ว พวกเขาพาฟู่อ๋องไป น่าจะเพื่อราชบัลลังก์ของเจ้า หรืออาจกล่าวได้ว่าเพื่อจะดึงเจ้าลงจากราชบัลลังก์”
เซียวจือเฉานิ่วคิ้ว สำหรับสำนักชิวหลานนั้น เซียวจือเฉาเองก็รู้เรื่องแล้ว หลังจากที่จวินชิงเหยียนเจอเรื่องของแคว้นชิวหลาน ก็ได้บอกนางให้นางทราบแล้ว
“ถึงแม้ขณะนี้จะทราบที่ตั้งกองบัญชาการหลักของสำนักชิวหลาน แต่ยังไม่รู้ว่าแคว้นชิวหลานอยู่ที่แห่งไหน ที่สำคัญในตอนนี้บอกให้แคว้นจวินกั๋วกับแคว้นซีหวาทั้งสองแคว้นรู้ และให้พวกเขาได้ระวังไว้สักหน่อยดีกว่า”
จวินชิงเหยียนมองหลิงลั่วที่เพิ่งจะยื่นซองจดหมายให้เขา และกล่าวว่า
“ข้ากับลั่วลั่วต้องกลับไปยังแคว้นจวินกั๋วพอดี ทางฝั่งแคว้นจวินกั๋ว ก็มอบให้พวกข้าจัดการแล้วกัน”
หลิงลั่วกับเซียวจือเฉาพยักหน้า หลิงลั่วคิดอยู่สักพักและเอ่ยว่า “ข้าจะเขียนจดหมายให้หลีเยี่ย และส่งคนที่เชื่อถือได้ไปส่ง”
“ดี” เซียวจือเฉาพยักหน้า และกล่าวว่า “ลั่ว หลังจากที่เจ้าเขียนเสร็จแล้ว ข้าจะให้องครักษ์ลับแห่งวังหลวงแคว้นจื้อโหยวไปคุ้มกันเจ้าเอง”
เรื่องนี้เมื่อทั้งสามเห็นพ้องต้องกันแล้ว ก็เริ่มต้นปฏิบัติการทันใด
สามวันต่อมา ฟังจั่วฉือก็กลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว
“ฉือน้อย เหตุใดเจ้าถึงกลับมาเร็วขนาดนี้ เจ้าคงไม่ได้ฆ่าชาวบ้านหมู่บ้านหลิวเจียเหล่านั้นหมดแล้วหรอกนะ?”
จวินชิงเหยียนจัดเก็บสัมภาระอยู่ทางฝั่งหนึ่ง หลิงลั่วกับจวินนั่วเหยียนอุ้มกล่อมเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้ดังลั่นอยู่
“หลิงลั่ว ในความคิดของเจ้า ข้าก็ดูเป็นคนกระหายเลือดขนาดนั้นเลยรึ!” ฟังจั่วฉือกลอกตาใส่อย่างหมดคำพูด และกล่าวว่า “ตั้งแต่เมื่อสามวันก่อน ก็ไม่รู้ว่าชาวบ้านเหล่านั้นเป็นอะไรกัน แต่ละคนพุ่งใส่รั้วกั้นเหมือนไม่คิดชีวิต จนกระทั่งเมื่อวานถึงจะสามารถทำให้ทุกอย่างสงบลงได้”
“เช่นนั้นเจ้าก็ฆ่าหมดแล้วมิใช่หรือ?”
หลิงลั่วมองฟังจั่วฉืออย่างไร้คำพูด เมื่อฟังจั่วฉือสัมผัสถึงอารมณ์ของหลิงลั่วได้ ก็ถลึงตาใส่ “หลิงลั่ว สายตาเช่นนี้ของเจ้าคืออะไร! ยามนั้นเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายขนาดนั้น ข้าสามารถปกป้องคนที่ไม่ได้ติดเชื้อ สิ้นฝั่งนิพพานเหล่านั้นเอาไว้ได้ก็ยากมากแล้วมิใช่หรือ?!”
“น่าๆๆ…” หลิงลั่วส่ายหน้าอย่างจนใจ “ข้ากับสิบสี่จะกลับแคว้นจวินกั๋ว ช่วงระยะนี้ต้องระวังความปลอดภัยของแคว้นจื้อโหยวเพิ่มมากขึ้น ระวังชิวไต้เมี่ยวกับเหยียนปินหวนกลับมาอีก”
“เจ้าวางใจได้ แคว้นจื้อโหยวเป็นเขตแดนของพวกข้า”