เกิดใหม่อีกครั้ง ฉันเป็นองค์ชาย - ตอนที่ 519-520
ตอนที่ 519 กระบวนกลหมื่นอสรพิษ
ฟังจั่วฉือมองบรรดาแม่ทัพในกระโจมแวบหนึ่ง ก่อนส่งเสียงหยันอย่างเย็นชา และสาวเท้าเดินออกจากกระโจมหลัก
ยามเมื่อเดินไปถึงปากประตูกระโจมแล้วก็หยุดฝีเท้าลงครู่หนึ่ง และกล่าวขึ้นว่า “วันนี้หากคิดวิธีการรับมือไม่ได้ พวกเจ้าแต่ละคนก็อย่าได้คิดจะพักเลย!”
เมื่อกล่าวจบก็เดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะสนใจสีหน้าที่ไม่สู้ดีของกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลัง
นอกกระโจมนั้น บรรดานายทหารแคว้นจวินกั๋วได้เริ่มปักหลักตั้งค่ายกันแล้ว หลิงซื่อเฉิง หลิงลั่วและจวินชิงเหยียน รวมถึงรองแม่ทัพสองคนหลัวเว่ยกับสวี่ซื่อได้มาอยู่รวมกันที่หน้ากระโจมหลัก
“ไม่คิดเลยว่าครั้งนี้จะเชิญแม้ทัพหลิงมาด้วย”
ฟังจั่วฉือเดินมาข้างหน้า ประสานมือเคารพให้หลิงซื่อเฉิง และกล่าวอย่างนอบน้อม
อายุของฟังจั่วฉือก็ถือว่าไล่เลี่ยกับจวินชิงเหยียน หลิงซื่อเฉิงจึงเป็นผู้ที่อาวุโสกว่าเขา ประกอบกับการขนานนามในชีวิตนี้ของหลิงซื่อเฉิงว่า ‘เทพสงครามผู้ไร้พ่าย’ ยิ่งทำให้ผู้คนเลื่อมใสศรัทธา
“แม่ทัพฟังไม่ต้องเกรงใจข้าหรอก เจ้าเป็นสหายคนสนิทที่ลั่วเอ๋อร์คบหาด้วย สำหรับข้าแล้วก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นคนอื่นคนไกล”
หลิงซื่อเฉิงยิ้มเปิดกว้าง ฟังจั่วฉือเห็นเช่นนี้ก็ไม่ได้เกรงใจอีก ทำท่าเชื้อเชิญ “ได้ เช่นนั้นเชิญท่านลุงเข้ามาเลย”
หลิงซื่อเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย หลัวเว่ยกับสวี่ซื่อก็ตามหลิงซื่อเฉิงเข้าไปในกระโจมหลัก
ฟังจั่วฉือเดินมาข้างๆ หลิงลั่วกับจวินชิงเหยียน “นี่ๆ หลิงลั่ว ครั้งนี้แคว้นจวินยอดเยี่ยมเหลือเกิน! ไม่นึกเลยว่าจะเชิญจ้าวสงครามผู้ไร้พ่ายมาด้วย!”
“ท่านพ่อกล่าวว่าค่ายกลในการรบของแคว้นชิวหลานช่างร้ายกาจนัก สามารถเอาชนะได้ด้วยปริมาณที่น้อยกว่า ดังนั้นเลยอยากจะมาดูสักหน่อย”
“แค่ดูไม่ได้หรอก!” ฟังจั่วฉือเบิกตาโพลง ทำหน้าตาลำบากใจ “เจ้าคงไม่รู้ว่าเมื่อครึ่งเดือนก่อน แคว้นชิวหลานได้ทำลายกองทัพกว่าสามแสนนายของข้าให้สิ้นซากไปด้วยกำลังทหารหมื่นนาย! ทำเอาข้ากลุ้มแทบตาย!”
“เจ้าก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วล่ะ อีกประมาณสามวัน ทัพหนุนของทางแคว้นซีหวาก็จะมาถึง แม่ทัพอันก็จะนำทัพมาด้วยตัวเอง”
หลิงลั่วตบไหล่ปลอบใจฟังจั่วฉือ และกล่าวว่า
อันที่จริงหลิงลั่วก็อยากจะเจอ ‘บรรพบุรุษ’ ของนางอีกครั้ง นับตั้งแต่ที่เดินทางไปแคว้นซีหวาครั้งแรกเมื่อสามปีก่อน หลังจากลาครั้งนั้นก็ไม่เคยได้เจออันอวี้เฟยมาสามปีแล้ว
“ให้ตายสิ ครั้งนี้คงไม่ใช่มหาสงครามสี่แคว้นหรอกนะ? จ้าวแห่งการรบของแคว้นจวิน แคว้นซีหวาและแคว้นจื้อโหยวล้วนมากันพร้อมหน้าหมดแล้ว!”
ฟังจั่วฉือมองหลิงลั่วกับจวินชิงเหยียนด้วยความรู้สึกว่าตัวเองดียิ่งเสียเต็มประดา อดไม่ได้ที่จะเผยอมุมปากขึ้น
หลิงลั่วกับจวินชิงเหยียนกระตุกมุมปากอย่างระอาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เจ้าหมอนี่ช่างหน้าไม่อายเกินไปแล้วกระมัง?
“เอาล่ะ หยุดโวยวายได้แล้ว เข้าไปกันเถิด อย่าให้ท่านพ่อรอนาน” จวินชิงเหยียนส่ายหน้าอย่างค่อยข้างจนใจ โอบไหล่ของหลิงลั่วและเดินเข้าไปในกระโจมหลัก
ฟังจั่วฉือมองเงาหลังของจวินชิงเหยียนที่เดินออกไปอย่างหมดคำพูด และกลอกตาใส่อย่างแรง
หึๆ คนที่โดนภรรยากดขี่เป็นข้าทาสแบบนี้ยังจะกล้าโอหังอีกนะ?
ในกระโจมหลัก รองแม่ทัพแคว้นจื้อโหยวได้บอกค่ายกล และรูปแบบการจัดตั้งกำลังรบในหลายๆ ครั้งของอีกฝ่ายให้หลิงซื่อเฉิง หลัวเว่ยและสวี่ซื่อได้ทราบ
พวกหลิงซื่อเฉิงสามคนก็ขมวดคิ้วแน่น
ตามหลักแล้วบนสนามรบ ปกติจะไม่ใช้แบบแผนเดิมๆ ติดต่อกันสองครั้ง และที่แคว้นชิวหลานใช้ไปตั้งหลายครั้งแบบนี้ก็ยิ่งแล้วใหญ่
แต่ที่จะบ้าตายก็คือ ไม่เพียงไม่เจอวิธีการที่จะสามารถถอดรหัสได้แล้ว ยังปล่อยให้แคว้นซีหวาทำลายคนของแคว้นจื้อโหยวให้ราบคาบไปกว่าสามแสนคนอีก
“เมื่อครู่ฟังรูปแบบค่ายกลที่รองแม่ทัพกล่าว เหมือนเป็น ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ ที่เคยปรากฏบนการรบสี่แคว้นเมื่อร้อยปีก่อนอยู่บ้าง แต่ก่อนข้าก็เคยได้ยินท่านปู่ที่เป็นคนรุ่นนั้นกล่าวถึง กระบวนกลนี้อันตรายอย่างมาก อีกทั้งยังตีทะลวงได้ยากที่สุด แล้วก็ชำนาญในการรบชนะด้วยจำนวนทัพที่น้อยกว่าด้วย”
ตอนที่ 520 บุรุษและสตรีล้วนโปรดปราน
“เมื่อยามนั้น แคว้นจวินกั๋ว แคว้นซีหวาและแคว้นจื้อโหยวสามแคว้นรวมกันเป็นทัพใหญ่กว่าสามล้านนาย ออกทัพพร้อมกัน และร่วมกันต่อต้านกำลังคนหนึ่งล้านนายของอีกฝ่าย กล่าวได้ว่าเป็นการคว้าชัยชนะที่ได้มาด้วยการเหยียบย่ำศพสหาย แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ได้ทำให้คนบาดเจ็บไปเกือบสองล้านคน”
หลิงซื่อเฉิงขมวดคิ้วแน่น คาดว่าบรรดาคนรุ่นเด็กเหล่านี้คงจะไม่เคยมีใครได้ยิน ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ นี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะให้พวกเขาคิดแผนการรับมืออะไรเลย
หรือว่าครั้งนี้ยังจะต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างแสนสาหัสเหมือนเมื่อยามนั้นอีกรึ?
“หรือสิ่งที่เรียกว่า ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ นี้ จะไม่มีค่ายกลอะไรที่สามารถข่มเอาชนะได้เลยหรือ?”
หลิงลั่วเองก็ขมวดคิ้ว แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของหลิงซื่อเฉิงแล้ว ก็เข้าใจได้ทันควันว่าเรื่องนี้แท้จริงมีความยากลำบากมากเพียงใด
หลิงซื่อเฉิงล้วนไม่เคยสะทกสะท้านเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่เก่งกาจ ทว่าวันนี้กลับขมวดคิ้วแน่นเพราะรูปแบบค่ายกลอันเดียว
“ข้าก็ไม่รู้” หลิงซื่อเฉิงส่ายหน้า เขารู้เพียงว่า ร้อยปีก่อนแคว้นจวิน แคว้นซีหวาและแคว้นจื้อโหยวสามแคว้น บาดเจ็บล้มตายกันแสนสาหัส ถึงได้สามารถขับไล่แคว้นชิวหลานที่บุกรุกเข้ามาให้ออกไปได้
“ไม่มีทางที่จะไม่มีวิธีการถอดรหัส” สายตาจวินชิงเหยียนไหวเคลื่อน จับจ้องหุ่นจำลองบนผังการจัดทัพ “ไม่มีค่ายกลอะไรที่จะไร้ผู้ต่อกร เพียงแต่พวกเราแค่ยังหาจุดตายในค่ายกลไม่เจอเท่านั้น”
นัยน์ตาปานดอกท้อที่งามเลิศคู่นั้นหรี่ลงเล็กน้อย และครุ่นคิดอยู่ในขณะเดียวกัน
ในค่ายกล แปดทวารแยกได้เป็น ทวารจุติ ทวารอาสัญ ทวารป้องปิด ทวารตื่นกลัว ทวารบาดเจ็บ ทวารเปิดโล่ง ทวารเรืองเดช ทวารยุติ
เข้าพิฆาตจากทวารจุติ และออกทางทวารเรืองเดช ทัพศัตรูจะอยู่ในความวุ่นวายไปเอง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนปรากฏเพียงแค่ทวารจุติ ไม่ปรากฏทวารเรืองเดช ถึงสุดท้ายถ้าเคราะห์ดีหนีออกมาได้ ก็หนีออกได้ทางทวารบาดเจ็บหรือทวารเปิดโล่งโดยได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
หรือว่า พวกเขาสามารถสร้างค่ายกลเองได้ สร้างชุดค่ายกลพิเศษที่กำราบ ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ ได้ด้วยตัวเอง!
“ฉือน้อย เจ้ายังจำรูปแบบการแปรสภาพของ ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ อย่างเป็นรูปธรรมได้อยู่หรือไม่”
“…จำที่เปลี่ยนแปรแบบหลักใหญ่ได้ ในแบบเล็กน้อยจำได้ไม่ค่อยชัดนัก”
ฟังจั่วฉือกระตุกมุมปาก มองจวินชิงเหยียนอย่างหมดคำพูด
ต่อหน้าจ้าวสงครามผู้ไร้พ่าย เจ้าหมอนี่ช่างไม่รู้จักไว้หน้าเขาบ้างเลย!
“ไม่เป็นไร จำได้เท่าไรก็เขียนออกมาเท่านั้น”
จวินชิงเหยียนหยิบกระดาษเซวียนจื่อกับพู่กันที่อยู่บนโต๊ะยื่นให้ฟังจั่วฉือ ฟังจั่วฉือรับมาอย่างไม่ค่อยจะเต็มใจนัก
เรื่องที่เขาไม่อยากทำที่สุดคือการเขียนอักษร เจ้าจวินชิงเหยียนอยากจะให้เขาตายให้ได้เลยใช่หรือไม่!
มองไปทางหลิงลั่วด้วยสายตาเศร้าใจอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม หลิงลั่วกลับไม่มีท่าทางสงสารเขาเลยสักนิด “จะงงงันอยู่ทำไมกัน? ยังไม่รีบเขียนเล่า บนหน้าข้ามีตัวอักษรรึ”
เอาล่ะ เขาน่าจะรู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้ว หลิงลั่วกับจวินชิงเหยียนเป็นพวกเดียวกัน!
รับกระดาษกับพู่กันในจวินชิงเหยียนมาด้วยทีท่าว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ก้มลงเขียนและวาดลงบนโต๊ะอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“พวกเราไม่เคยได้สัมผัส ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ นี้อย่างซึ่งๆ หน้าเลย ก็จะปล่อยให้เหล่าทหารไปสละชีพเพื่อเรื่องนี้ไม่ได้ ดังนั้นจั่วฉือ หวังว่าเจ้าจะสามารถหวนนึกถึงรายละเอียดได้”
เมื่อฟังจั่วฉือได้ยินคำพูดของหลิงซื่อเฉิง ก็รีบพยักหน้า “อื้อๆๆ ท่านลุงวางใจได้เลย!”
หลิงลั่วมองฟังจั่วฉือที่มีสภาพเป็นแฟนคลับตัวจ้อย และกะพริบตาปริบๆ ก็รู้สึกจนใจอย่างสุดซึ่งอยู่เนืองๆ
ที่ฟังจั่วฉือแสดงออกมาแบบนี้ช่างทำให้หลิงลั่วคาดไม่ถึงเลยจริงๆ
ทางด้านจวินชิงเหยียนเองก็หมดคำพูดสุดๆ เขาให้ฟังจั่วฉือเขียน ฟังจั่วฉือก็ทำท่าเหมือนหมดอาลัยตายอยาก แต่พอหลิงซื่อเฉิงให้ฟังจั่วฉือเขียนเล่า? ไอ้เจ้านี่ก็มีทีท่าเป็นคนโง่ กล่าวอะไรก็พยักหน้าไปหมดเลยเนี่ยนะ?
คาดไม่ถึงว่าหลิงซื่อเฉิงจะเป็นที่โปรดปรานทั้งบุรุษและสตรี!