เกิดใหม่อีกครั้ง ฉันเป็นองค์ชาย - ตอนที่ 523-524
ตอนที่ 523 พบเจอสหายเก่า
จวินชิงเหยียนมองหลิงลั่วแวบหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าเล็กน้อย แล้วหยิบก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ข้างๆ มาวางไว้ที่ข้างหน้าตัวเอง
หลิงลั่วเดินไปข้างหลังจวินชิงเหยียน และกล่าวว่า
“ยังไม่มีความคืบหน้าใดเลยหรือ?”
“ไม่มี”
จวินชิงเหยียนส่ายหน้า “รูปขบวนทัพนี้ช่างประหลาดจริงๆ โดยเฉพาะยามเมื่อแปรรูประหว่างขบวน ความเร็วของพวกเขาช่างเร็วนัก และในขณะเดียวกันยังมีโล่ป้องกันอยู่ด้วย ยากมากที่จะทำให้พวกเขาบาดเจ็บได้”
“อีกทั้ง ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ นี้แข็งแกร่งยากจะโจมตีได้ยิ่งนัก แทบจะไม่มีจุดอ่อนอะไรเลย”
เมื่อหลิงลั่วได้ยิน ก็นิ่วคิ้วเล็กน้อย “ในเมื่อ ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ แข็งแกร่งมาก แล้วจะใช้วิธีการนุ่มนวลสยบความแข็งกร้าวไม่ได้หรือ?”
จวินชิงเหยียนหยุดชะงัก และก้มหน้าครุ่นคิด
สยบความแข็งกร้าวด้วยความนุ่มนวลก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ที่สำคัญในตอนนี้คือฟังจั่วฉือจำการแปรผันเล็กๆ น้อยๆ ในค่ายกลได้ไม่ชัดเจน และมีความเป็นไปได้ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นกุญแจสำคัญในการได้ชัยของพวกเขา
จวินชิงเหยียนหยุดชั่วครู่ แล้วเอ่ยอีกว่า “แต่ว่ากระบวนทัพที่ค่อนข้างนุ่มนวลพบเห็นได้ยากนัก ศึกษาพิจารณาดูก่อนก็ไม่เสียหายอะไร”
หลิงลั่วพยักหน้า “ได้ เช่นนั้นเจ้าศึกษาไปก่อน ส่วนเรื่องกระบวนทัพข้าจะไปปรึกษาท่านพ่อกับฉือน้อยดูสักหน่อย”
“อืม…”
หลิงลั่วออกจากกระโจมแล้วก็เดินไปทางกระโจมหลัก
ในกระโจมหลักมีหลิงซื่อเฉิงกับฟังจั่วฉือ และกุนซือทัพอยู่ครบกันหมด
“ท่านพ่อ ท่านจำได้หรือไม่ว่าในตำราค่ายกลโบราณเล่มใดที่มีการบันทึกรายละเอียด ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ ไว้?”
“เรื่องนี้…”
หลิงซื่อเฉิงใคร่ครวญอยู่ชั่วขณะ แต่ก็ส่ายหน้าอยู่ดี “ไม่มี ค่ายกลนี้น่าจะเป็นค่ายกลที่แคว้นชิวหลานสร้างขึ้นเอง ไม่เคยมีตำราใดได้บันทึกเอาไว้”
หลิงลั่วขมวดคิ้วแน่น หรือว่าได้แต่ต้องสละชีวิตของบรรดาทหารเหล่านั้นหรือ? แต่ว่า…
หลิงลั่วส่ายหน้า นางทำไม่ได้จริงๆ
“ถึงแม้ ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ ของแคว้นชิวหลานจะไม่มีอยู่บนตำราโบราณใดเลยก็ตาม แต่ว่าที่ข้าก็มีข้อมูลรายละเอียดบางส่วนอยู่หนึ่ง”
เสียงที่ทั้งคุ้นเคยและแปร่งๆ ดังขึ้นใกล้หูหลิงลั่ว หลิงลั่วหันหน้ากลับไปมองโดยไม่รู้ตัว ก็ได้เห็นบุรุษผู้ที่หลบหน้านางมาหกปี
เขายังคงสวมชุดแดง เวลาหกปีนี้กลับไม่ได้มีรอยแผลใดทิ้งไว้บนกายของเขาเลย
ดวงตาทรงเสน่ห์เหลือร้ายคู่นั้นมองหลิงลั่วด้วยรอยยิ้ม ซึ่งทำให้หลิงลั่วเบ้าตาคลอ
“อามั่ว…”
หลิงมั่วหัวเราะเบาๆ ยื่นมือออกมาลูบศีรษะของหลิงลั่ว “เป็นแม่ลูกสามแล้ว เจ้ายังจะชอบร้องไห้แบบนี้อยู่อีก?”
หลิงลั่วสูดจมูก และกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าไปตั้งหกปี อีกทั้งหลายครั้งที่ช่วยข้า ก็ยังไม่ยอมเจอข้าหรืออย่างไร”
หลิงมั่วมองหลิงลั่ว ยิ้มน้อยๆ ไม่พูดจา
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเจอนาง แต่ไม่กล้าเจอนางต่างหาก
ยามนั้น ยามที่ดูเหมือนว่าเขาจากไปอย่างสง่างาม แต่ในใจไม่อยากจากไปมากขนาดไหนก็มีเพียงตัวเขาเองที่รู้
แต่ว่า เพียงแค่หลิงลั่วได้มีชีวิตที่ดี เขาจะเป็นอย่างไรก็ล้วนไม่เป็นเลย
“หลิงมั่ว…”
หลิงซื่อเฉิงมองหลิงมั่ว และหัวเราะน้อยๆ
กล่าวได้ว่าหลิงมั่วเป็นคนหนึ่งที่หลิงซื่อเฉิงเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จที่สุด ยามที่หลิงมั่วจากไปนั้น หลิงซื่อเฉิงก็รู้สึกเสียดาย แต่ก็ทราบว่าฝืนไปในคราวที่ยังไม่ควรก็ย่อมไม่ได้ผลดี เขาก็ต้องเคารพการตัดสินใจของหลิงมั่ว
“ท่านแม่ทัพ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะขอรับ”
หลิงมั่วหัวเราะน้อยๆ ต่อหน้าหลิงซื่อเฉิงแล้วเขากลับไม่กังวลเลย
“หลิงมั่ว เหตุใดเจ้าจึงมีข้อมูลรายละเอียด ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ ของแคว้นชิวหลานได้? นั่นน่าจะเป็นความลับในแคว้นชิวหลาน ที่ไม่บอกให้คนนอกได้ทราบง่ายๆ”
หลิงมั่วยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ และเม้มมุมปากแผ่วเบา
ตอนที่ 524 เหตุใดถึงเบื่อกันได้ขนาดนี้
“แต่ก่อนเจ้าสำนักคนโตของสำนักชิวหลาน หรือก็คือองค์หญิงใหญ่ของแคว้นชิวหลานได้มาล้วงขโมยความลับของแคว้นจวินกั๋ว แคว้นซีหวาและแคว้นจื้อโหยวทั้งสามแคว้น ในภายหลังถูกลูกน้องข้าพบเจอเข้า ก็เลยพานางมาพบข้า”
หลิงมั่วหยุดลงชั่วครู่ ขมวดคิ้วอย่างเบื่อหน่ายเล็กน้อย “แต่ไม่รู้ว่าสตรีนางนั้นทานยาอะไรผิดสำแดง นางจึงมองข้าด้วยสายตาแปลกๆ แต่ว่าก็ไม่ใช่เจตนาสังหาร”
“ต่อมาในภายหลัง ข้าก็…เอ่อ นางชื่ออะไรเสียแล้วนะ? เหมือนว่าจะชื่อ ชิวเยียนฝั่งกระมัง?”
“เอ่อ…ชิวฝั่งเยียน”
หลิงลั่วตอบเขาอย่างเสียไม่ได้ ใครจะคิดว่าหลิงมั่วกลับโบกไม้โบกมือ “เฮ้อ ช่างนางเถิด นางจะชื่ออะไรไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า”
“ข้าปล่อยให้นางอยู่ที่หอคอยหลิงชั่วคราว แล้วก็ไปที่กองบัญชาการหลักของสำนักชิวหลาน หลังจากนั้นก็เจอข้อมูล ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ อะไรนั่นที่ในห้องลับ ก็เลยหยิบเอามันมา”
หลิงลั่ว หลิงซื่อเฉิงและฟังจั่วฉือต่างกระตุกมุมปากด้วยความเอือมระอากันหมด
ของที่พวกเขาพยายามทุ่มเทกันอย่างเต็มที่แล้วก็ยังไม่ได้มา แต่กลับอยู่ในครอบครองของหลิงมั่วมาโดยตลอด?!
หลิงมั่วหยิบกระดาษเป็นพับหนาๆ ออกมา ระดับความหนาทั้งหมดนั้นก็หนามากกว่าที่ฟังจั่วฉือวาดไว้ก่อนหน้านี้เป็นเท่าตัว!
หลิงลั่วรับกระดาษพับนั้นมาอย่างตะลึงงัน แล้วก็หันหน้ากลับมาอย่างเหม่อลอย มองฟังจั่วฉือที่ใจลอยอยู่เช่นเดียวกัน “เจ้าแน่ใจนะว่าที่เจ้าลืมเป็นเพียงแค่การแปรเปลี่ยนรูปกระบวนแค่นิดเดียวเท่านั้น?”
“…”
“คือ… คือ” ฟังจั่วฉือกระพริบตาปริบๆ พูดว่า “คือ” อยู่นานนัก และก็ไม่อาจกล่าวเหตุผลออกมาได้
“เอาเถิด ลั่วเอ๋อร์” กลับเป็นหลิงซื่อเฉิงที่ตอบสนองกลับมาก่อน “เจ้านำข้อมูลเหล่านี้ไปส่งให้ชิงเหยียนก่อน หลังจากนั้นก็รอหลังจากที่ทัพหนุนของแคว้นซีหวามาถึงแล้ว ค่อยกำหนดแผนการรับมืออย่างละเอียดอีกครั้ง”
หลิงลั่วพยักหน้า กำลังเตรียมจะลุกขึ้น กลับถูกหลิงมั่วยั้งเอาไว้ “ให้ข้าไปเถิด ข้าก็ไม่ได้เจอจวินชิงเหยียนมานานแล้ว คิดจะไปคุยเรื่องในอดีตกับเขาสักหน่อย”
กล่าวจบก็ไม่ให้เวลาหลิงลั่วได้ปฏิเสธ หยิบข้อมูลในมือของหลิงลั่วมาทันที และออกไปจากกระโจมหลัก
หลิงลั่วมองเงาหลังที่จากออกไปของหลิงมั่ว และถอนหายใจเบาๆ
เกรงว่าบนโลกนี้ ก็มีเพียงแค่หลิงมั่วเท่านั้นที่กล้าเรียกขานนามจวินชิงเหยียนตรงๆ โดยไม่ให้เกียรติเช่นนี้ได้
แต่ว่า…ให้หลิงมั่วไปเจอจวินชิงเหยียนแบบนี้จะไม่เป็นไรจริงๆ น่ะหรือ?
หลิงลั่วหันหน้ากลับมา กลับพบว่าหลิงซื่อเฉิง ฟังจั่วฉือและฟู่ฉีสามคนกำลังกระซิบกระซาบอะไรกันอย่างจริงจังอยู่มากนัก
หลิงลั่วเข้าไปใกล้อย่างอยากรู้อยากเห็นนิดหน่อย “พวกเจ้าคุยอะไรกันอยู่หรือ”
ทั้งสามคนมองทางหลิงลั่วพร้อมกันอย่างรู้กันดี ฟังจั่วฉือเป็นตัวแทนเอ่ยปากกล่าวว่า “พวกข้ากำลังพนันกันว่าชิงเหยียนจะทนหลิงมั่วยั่วโมโหได้นานเพียงใด”
หลิงลั่ว “…”
พระเจ้า! สามคนนี้จะเบื่อกันเกินไปแล้วกระมัง?!
และที่สำคัญที่สุดคือ ถึงแม้ฟังจั่วฉือจะป่วนเช่นนี้ก็ช่างเถิด อย่างไรเสียภายในใจเขาก็เป็นแค่สาวน้อยคนหนึ่ง แต่ว่าหลิงซื่อเฉิงกับฟู่ฉีเป็นคนวัยกลางคนกันหมดแล้ว! เหตุใดถึงเบื่อกันได้ขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!
หลิงลั่วกระตุกมุมปากอย่างพูดไม่ออก ดวงตาไหวเคลื่อนเล็กน้อย และหันกลับไปร่วมวงกับทั้งสามคน…
อีกด้านหนึ่งนั้น หลิงมั่วเลิกผ้าม่านกระโจมที่จวินชิงเหยียนอาศัยอยู่ออกทันที และเดินเข้าไป
จวินชิงเหยียนสัมผัสได้ถึงริ้วสีแดงก็พลันตะลึงอยู่ชั่วขณะ หลังจากเห็นคนที่มาเยือนอย่างชัดเจนแล้ว จวินชิงเหยียนก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ “เจ้ามาทำไมหรือ”
“หากข้าไม่มา เจ้าว่าเจ้าจะมีวิธีการในการแก้ไขค่ายกลของแคว้นชิวหลานที่ดีกว่านี้ได้หรือ?”
หลิงมั่วเดินไปหน้าโต๊ะ นำกระดาษเซวียนจื่อเป็นพับหนาๆ วางไว้ตรงหน้าจวินชิงเหยียนเบาๆ บนใบหน้าก็ยังมีท่าทีลอยชายไปเรื่อย ไม่เกรงกลัวสิ่งใดทั้งสิ้น
“นี่คือภาพการแปรเปลี่ยนรูปกระบวนทั้งหมดของ ‘กระบวนกลหมื่นอสรพิษ’ ข้าได้ศึกษามาก่อนแล้ว แต่ว่าบนนี้ไม่ได้แสดงตำแหน่งของทวารเรืองเดชไว้”