ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 140 ฟังหยวนมาส่งสัมภาระ
“ในเมื่อคุณยืนยันว่าจะพาเธอกลับไปด้วย ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอตัวไปเก็บของให้เธอก่อนนะคะ” ถังโจวโจวไม่อยากให้ลั่วอิงต้องผิดใจกับลั่วเซ่าเชิน ลั่วเซ่าเชินพูดกับลั่วอิงถึงขั้นนี้ หรือต้องการจะบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องการเธอแล้ว อีกทั้งแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าอย่างไรลั่วอิงก็สำคัญกับเขามากที่สุด มากกว่าถังโจวโจวด้วย
ลั่วอิงหวาดกลัวลั่วเซ่าเชินจนใบหน้าซีดเผือด ลั่วเซ่าเชินรู้ดีว่าเมื่อครู่นี้เขาทำเกินไปหน่อย แต่ถ้าเขาไม่ทำอย่างนี้ เขาจะพาแม่โจวโจวของลูกสาวกลับมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร?
ลั่วเซ่าเชินและลั่วอิงนั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นพักหนึ่ง คุณแม่ถังและถังโจวโจวเก็บเสื้อผ้าของลั่วอิงอย่างรวดเร็วและลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมา คุณแม่ถังส่งมันให้กับลั่วเซ่าเชิน
ทันทีที่ลั่วเซ่าเชินลุกขึ้นยืน ลั่วอิงเองก็รีบลุกตาม มือเล็กๆ ของเธอเกาะกุมมือของลั่วเซ่าเชินเอาไว้แน่น ราวกับกลัวว่าลั่วเซ่าเชินจะทิ้งเธอและจากไปคนเดียว
เมื่อมองดูลั่วเซ่าเชินพาลั่วอิงเดินจากไป ถังโจวโจวก็รู้สึกราวกับว่าเธอเป็นคนที่ถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง เธอรู้สึกเศร้าใจแปลกๆ
คุณแม่ถังเห็นถังโจวโจวเอาแต่ทอดสายตามองตามแผ่นหลังของพวกเขาไป เธอก็ถอนหายใจอย่างเงียบๆ นี่มันกลายมาเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน คุณแม่ถังได้แต่ส่ายหน้าและเดินกลับเข้าไปในบ้าน เธอปล่อยให้ถังโจวโจวยืนอาลัยอาวรณ์อยู่ตรงนั้นคนเดียว
ลั่วเซ่าเชินวางกระเป๋าเดินทางของลั่วอิงไว้ในท้ายรถ ลั่วอิงปีนขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังด้วยตัวเอง เธอเบ้ปากขึ้นสูง อาจเป็นเพราะว่าเธอได้ขึ้นมาบนรถแล้ว เธอจึงมั่นใจว่าลั่วเซ่าเชินจะไม่ทิ้งเธอไปอีก เธอจึงสามารถแสดงอาการแง่งอนออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน
ลั่วเซ่าเชินเห็นเธอเบือนหน้าหนี ไม่ยอมมองเขา เขาก็ไม่หันกลับไปมองและตั้งใจขับรถต่อไป ลั่วอิงข่มใจเอาไว้ได้จนถึงหน้าบ้าน เธอไม่พูดกับลั่วเซ่าเชินเลยสักคำ
แล้วเธอก็ไม่อยากให้ลั่วเซ่าเชินอุ้มเธอลงด้วย ทันทีที่เขาจอดรถ ลั่วอิงก็เปิดประตูและบ่นพึมพำอะไรบางอย่าง ก่อนจะลงจากรถไป น้ำเสียงติดตลกของลั่วเซ่าเชินดังขึ้นมาจากด้านหลังของเธอ “ลั่วอิง ลูกไม่มาเอากระเป๋าของลูกเหรอ”
ลั่วอิงชะงักเท้า เธอหันไปลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กด้วยความโมโห ลั่วเซ่าเชินหัวเราะเสียงดัง เมื่อลั่วอิงได้ยินเสียงหัวเราะของเขา ใบหน้าของเธอก็ยิ่งบิดเบี้ยว เธอหันหน้ากลับไปมองลั่วเซ่าเชินด้วยสายตาไม่พอใจ
ลั่วเซ่าเชินพยายามหยุดหัวเราะ เกรงว่าถ้าเขายังหัวเราะต่อไป เธออาจจะโกรธขึ้นมาจริงๆ ถ้าถังโจวโจวมาเห็นภาพนี้เข้า คงจะต้องมองว่าตลกมากแน่ๆ เมื่อเขาคิดถึงถังโจวโจว เขาก็หัวเราะไม่ออก
หลังจากเข้ามาในบ้าน เมื่อป้าหลิวเห็นว่าลั่วอิงกลับมาแล้ว เธอก็ออกมาต้อนรับอย่างดีใจ “กลับมาแล้วเหรอคะ คุณหนู แล้วทำไมถึงถือกระเป๋ามาเองล่ะคะ มาค่ะ เดี๋ยวป้าหลิวจะช่วยยกขึ้นไปข้างบนให้”
บนใบหน้าของลั่วอิงประหนึ่งมีคำว่า ‘ฉันอารมณ์เสีย’ เขียนเอาไว้ เมื่อป้าหลิวมองไปยังลั่วเซ่าเชินที่เดินตามหลังเธอเข้ามา เธอก็รู้ได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น คุณชายหยอกคุณหนูแรงๆ อีกแล้วล่ะสิ ป้าหลิวช่วยไม่ได้จริงๆ เธอรีบทำตัวเป็นมนุษย์ล่องหนและนำกระเป๋าของลั่วอิงขึ้นไปเก็บข้างบนทันที
“ลั่วอิง ลูกจะไม่สนใจพ่อจริงๆ เหรอ” ลั่วเซ่าเชินนั่งลงข้างๆ ลั่วอิง เธอเขยิบตัวห่างเขาออกไปอีก ริมฝีปากของเธอยกขึ้นสูง
ลั่วเซ่าเชินไม่รีบร้อน ก่อนจะพูดต่อ “ลูกไม่อยากคุยกับพ่อจริงๆ แล้วใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ พ่อกะจะบอกลูกสักหน่อยว่าพ่อจะพาแม่โจวโจวกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิมได้ยังไง แต่ในเมื่อลูกไม่อยากฟัง ก็ลืมมันไปนะ” ลั่วเซ่าเชินลุกขึ้นยืนและเดินขึ้นไปชั้นบน
ลั่วอิงร้อนใจขึ้นมา “คุณพ่อ!”
“ครับ เรียกพ่อทำไมเหรอ” ลั่วเซ่าเชินแสร้งทำเป็นสับสนและมองไปที่เธอ
ลั่วอิงย่ำเท้าน้อยๆ อย่างหงุดหงิด เพื่อให้ถังโจวโจวกลับมาเธอจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับสิ่งที่คุณพ่อเพิ่งได้ทำกับเธอไปในวันนี้ก็ได้ ลั่วอิงคิดแบบนี้ ก่อนจะอธิบายสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจของเธอออกมา
“คุณพ่อหาวิธีที่จะทำให้แม่โจวโจวกลับมาได้แล้วจริงเหรอคะ คุณพ่อขา หนูไม่อยากให้แม่โจวโจวทิ้งพวกเราไป หนูไม่อยากได้แม่ใหม่นะ!”
แม้ว่าลั่วอิงจะยังเด็ก แต่เธอก็จับใจความได้จากคำพูดที่คลุมเครือของผู้ใหญ่ เธอแค่กลัวว่าถ้าเธอปล่อยให้ถังโจวโจวคลาดสายตาอีก เธอก็อาจจะไม่ได้ถังโจวโจวกลับมาตลอดไป
เป็นเพราะเธอมีความเชื่อแบบนี้ เมื่อหวนคิดอีกครั้งก็ทำให้ลั่วอิงร้องไห้ออกมา เธอคิดเองเออเองในใจว่า ถ้าไม่ใช่เพราะแม่โจวโจว เธอก็ไม่ร้องไห้หรอก! ช่างเป็นเจ้าหญิงน้อยผู้หยิ่งผยองจริงๆ
“พ่อเคยพูดเหรอครับว่าพ่อจะหาแม่ใหม่ให้ลูก?” ลั่วเซ่าเชินไม่เข้าใจ ลั่วอิงกำลังคิดอะไรอยู่ เขาเคยบอกตอนไหนว่าถังโจวโจวจะทิ้งพวกเราไป เมื่อลั่วเซ่าเชินลองคิดไปว่าในวันข้างหน้าเขาจะไม่มีถังโจวโจวอีกแล้ว จิตใจเขาพลันรู้สึกย่ำแย่ขึ้นมาทันที
ลั่วอิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “แต่แม่โจวโจวอยู่ที่บ้านของคุณยายนี่คะ แล้วก่อนหน้านี้เธอก็เคยหนีไปแล้วด้วย คุณแม่ไม่ต้องการลั่วอิงแล้วแน่ๆ คุณแม่ก็เลยทำแบบนี้”
ลั่วเซ่าเชินยังไม่ทันได้อธิบายแผนการของเขาให้ลั่วอิงฟัง ลั่วอิงก็สรุปออกมาเป็นฉากๆ เขาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้ก่อน “ลั่วอิง ลูกนั่งลงก่อนนะ พ่อจะอธิบายอะไรให้ฟัง”
จากนั้นลั่วเซ่าเชินก็ปลูกฝังแนวคิดที่ว่า ‘แม่โจวโจวจะไม่ทิ้งเราทุกคนไปไหน’ ไว้ในหัวของลั่วอิง ในที่สุดเธอก็วางใจ แต่สุดท้ายเธอก็ถามอีกว่า “คุณพ่อรับรองได้ไหมคะว่าแม่โจวโจวจะไม่หนีไปไหนแล้วจริงๆ”
“แน่นอนครับ!” ที่จริงแล้วลั่วเซ่าเชินเองก็กังวลใจอยู่ แต่เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีเมื่ออยู่ต่อหน้าลั่วอิง เขาจึงต้องพูดอย่างหนักแน่น
ลั่วอิงมีความสุขมาก ปัญหาใหญ่ที่อยู่ในใจของเธอช่วงนี้คลี่คลายลงแล้ว แต่เธอก็ยังมีข้อสงสัยอื่นอีกว่า “แล้วทำไมคุณพ่อถึงไม่ให้หนูอยู่ที่บ้านของคุณยายล่ะคะ หนูอยากนอนกับแม่โจวโจว!”
ลั่วเซ่าเชินรู้สึกอิจฉามาก พ่อยังไม่ทันได้นอนกอดเธอเลย ลูกก็จะมาตัดหน้าไปเสียนี่ “ถ้าลูกอยู่ที่นั่น แล้วแม่โจวโจวจะกลับมาได้ยังไงล่ะครับ?”
เมื่อลั่วอิงคิดดูดีๆ ดูเหมือนว่ามันก็เหมาะสมแล้ว แต่ความคิดในส่วนลึกของหัวใจของลั่วเซ่าเชิน เธอก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้เลย ลั่วเซ่าเชินต้องคิดถึงลั่วอิงก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นเขาก็ค่อยคิดถึงตัวเอง ถ้าให้ลั่วอิงอยู่ที่นั่น แล้วเขาจะมีข้ออ้างไปหาถังโจวโจวได้อย่างไรล่ะ?
แม้ว่าถังโจวโจวจะอยู่ที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ แต่ลั่วเซ่าเชินก็พาลั่วอิงไปหาเธอได้ทุกวัน ในตอนเช้าเมื่อเขามาส่งลั่วอิงที่บ้านตระกูลถัง เขาก็จะถือโอกาสกินมื้อเช้าไปด้วยกันเลย พอตกเย็น หลังจากที่เขาเลิกงาน เขาก็จะขับรถมาที่บ้านตระกูลถัง แล้วก็จะกินมื้อค่ำที่นั่น จากนั้นก็ค่อยพาลั่วอิงกลับบ้าน
เจตนาของลั่วเซ่าเชิน สมาชิกในบ้านตระกูลถังทั้งสามคนดูออก แต่ถังโจวโจวไม่ได้เอ่ยห้ามปราม คุณพ่อกับคุณแม่ถังก็ไม่กล้าพูดอะไร พวกเขาทำได้แค่ปล่อยให้ลั่วเซ่าเชินทำหน้าที่ไปรับไปส่งลั่วอิง เพื่อให้เขาได้พบหน้าถังโจวโจวบ้าง
ต่อมา ฟังหยวนก็เอากระเป๋าสัมภาระของถังโจวโจวมาส่งคืนให้ที่บ้านตระกูลถัง เมื่อคุณแม่ถังเห็นท่าทางของเขา เธอก็รู้เลยว่าถังโจวโจวไปอยู่ที่บ้านของเขามา
ถังโจวโจวแนะนำฟังหยวนให้คุณแม่ถังได้รู้จัก คุณแม่ถังไม่ค่อยประทับใจในตัวของฟังหยวนมากนัก เพราะเขาเกี่ยวเนื่องกับเรื่องที่ถังโจวโจวหนีออกจากบ้าน แต่การแสดงออกของฟังหยวนก็ทำให้เธอประหลาดใจ
ในฐานะคนที่ผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน แน่นอนว่าคุณแม่ถังดูออกว่าฟังหยวนสนใจลูกสาวของเธอ เมื่อเธอเห็นว่าถังโจวโจวแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ คุณแม่ถังก็พอเดาได้ว่าถังโจวโจวน่าจะรู้ตัวอยู่แล้ว แต่เธอก็ไม่ต้องการตอบสนองอะไร ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่รักษาสถานะเพื่อนเอาไว้
คุณแม่ถังต้อนรับฟังหยวนอย่างดีตามสมควร แล้วเนื่องจากคุณแม่ถังเป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับถังโจวโจวที่สุด ฟังหยวนจึงประจบประแจงคุณแม่ถัง การยกยอปอปั้นของเขากลับส่งผลลัพธ์ในทางที่ดี คุณแม่ถังหลงคารมเขาไปเรียบร้อยแล้ว
ฟังหยวนมาในขณะที่ลั่วอิงและลั่วเซ่าเชินไม่อยู่พอดี ถังโจวโจวจะได้ไม่ต้องอธิบายอะไรให้ลั่วอิงฟัง แล้วก็ยังไม่ต้องเพิ่มความขัดแย้งระหว่างเธอและลั่วเซ่าเชินได้อีกด้วย
หลังจากที่ฟังหยวนมาส่งของและนั่งอยู่ได้ไม่นาน เขาก็ออกมาจากบ้านตระกูลถัง แต่ก็ไม่รู้ว่าสวรรค์ไม่อยากให้ถังโจวโจวได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขหรืออย่างไร เมื่อถังโจวโจวลงมาส่งฟังหยวนด้านล่าง ลั่วเซ่าเชินก็ขับรถเข้ามาพอดี
“อาหยวน นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ลั่วเซ่าเชินอุ้มลั่วอิงลงมาจากรถ เมื่อเขาเห็นถังโจวโจวเดินตามหลังฟังหยวนมา อารมณ์หึงหวงของเขาก็ทะลักล้น “โจวโจว คุณลงมาทำไม”
ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าตัวเองยังมีความผิดอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าถามถังโจวโจวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว เขาทำได้แค่เพียงพยายามระงับความหึงหวงที่แทบจะเก็บเอาไว้ไม่อยู่เท่านั้น
ฟังหยวนตอบอย่างตรงไปตรงมา “อาเชิน ฉันแค่มาเยี่ยมโจวโจว นี่ก็กำลังจะกลับแล้ว” ฟังหยวนดูออกว่าถังโจวโจวไม่อยากให้ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนมา ดังนั้นเขาจึงช่วยเธอปิดบัง
ถังโจวโจวยิ้มขอบคุณฟังหยวน ในขณะที่ลั่วเซ่าเชินเห็นว่าถังโจวโจวหันไปยิ้มให้กับฟังหยวน ทั้งๆ ที่หลายวันที่ผ่านมานี้เธอเอาแต่ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกใส่เขา “ที่แท้อาหยวนก็มาเยี่ยมโจวโจวนี่เอง! ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าความสัมพันธ์ของพวกนายสองคนจะดีถึงขั้นนี้?”
ลั่วเซ่าเชินรอให้ถังโจวโจวอธิบายให้เขาฟัง แต่เห็นได้ชัดว่าถังโจวโจวไม่ได้คิดเลยเถิดไปถึงขั้นนั้น “ฟังหยวน คุณยังมีธุระที่ต้องไปทำอีกไม่ใช่หรือคะ คุณรีบไปเถอะค่ะ เอาไว้ครั้งหน้าฉันจะเชิญคุณมากินข้าว”
“โอเค คุณโทรหาผมก็แล้วกัน” จากนั้นฟังหวนก็หันไปมองอีกทาง “ฉันกลับก่อนล่ะ อาเชิน บ๊ายบายจ้ะ ลั่วอิง!” ฟังหยวนโบกมือให้ลั่วอิง ลั่วอิงจำได้ว่าคุณลุงคนนี้เคยซื้อกิ๊บติดผมสวยๆ ให้เธอ เธอจึงโบกมือให้เขาอย่างเป็นมิตร
ฟังหยวนเดินจากไปด้วยความพึงพอใจ ทิ้งให้ลั่วเซ่าเชินจอมหึงหวงยืนอยู่ตรงนั้น ถังโจวโจวขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจเขา “มาค่ะ ลั่วอิง แม่โจวโจวจะพาหนูขึ้นไปข้างบน เซ่าเชิน คุณควรไปทำงานได้แล้วนะคะ คุณไม่ต้องเสียเวลาอยู่ที่นี่หรอก”
ถังโจวโจวพาลั่วอิงเดินไปที่บันได น่าเสียดายที่ตอนนี้ลั่วเซ่าเชินไม่สบอารมณ์ ในเมื่อเขาอารมณ์เสีย เธอก็ต้องอารมณ์เสียด้วยเหมือนกัน “ใครบอกว่าผมจะไปทำงาน วันนี้ผมหยุดพัก”
ถังโจวโจวมองดูท่าทางหงุดหงิดของเขาและแสร้งทำเป็นไม่สนใจ “เรื่องของคุณสิคะ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย”
ลั่วเซ่าเชินรีบก้าวเข้าไปหาถังโจวโจว ก่อนจะอุ้มลั่วอิงขึ้นมาและเดินไปพร้อมกับถังโจวโจว “เกี่ยวสิ คุณเป็นภรรยาผมนะ เกิดผมล้มละลายขึ้นมา คุณจะไม่ได้มีเวลาว่างแบบนี้”
“เซ่าเชิน อย่ามายืนหน้าด้านหน้าทนอยู่ตรงนี้ ไปทำงานได้แล้วค่ะ” ถังโจวโจวหมายจะอุ้มลั่วอิง แต่ลั่วเซ่าเชินไม่ให้ ลั่วอิงเองก็กอดคอลั่วเซ่าเชินไว้แน่น เธอจำคำของลั่วเซ่าเชินได้ขึ้นใจว่าเธอต้องอยู่ข้างเขา ถังโจวโจวถึงจะกลับมา
“โจวโจว เมื่อไรคุณจะกลับไปกับผม นี่มันก็ใกล้จะปีใหม่แล้ว ในบ้านมีแต่ความเงียบเหงา ไม่มีสีสันเลยสักนิด คุณไม่คิดถึงผมกับลั่วอิงบ้างเลยเหรอ” ลั่วเซ่าเชินยืนขวางทางอยู่หน้าถังโจวโจว ในที่สุดเขาก็ทำให้ถังโจวโจวหยุดเดินได้
ลั่วอิงและลั่วเซ่าเชินต่างก็มองตรงมาที่เธออย่างมีความหวัง ถังโจวโจวก้มหน้าและพูดพึมพำว่า “ฉันไม่อยากกลับค่ะ”
ที่จริงแล้วลั่วเซ่าเชินได้ยินประโยคนั้น แต่เพื่อกลบเกลื่อนความเศร้า เขาจึงแกล้งทำเป็นนิ่งเฉย “โจวโจว ผมรู้ดีว่าตอนนี้คุณยังไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้ ไม่ต้องรีบนะ กว่าจะถึงปีใหม่ ยังพอมีเวลาอยู่ แต่ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องกลับไปกับผมนะ ไปครับลูก เดี๋ยวพ่อพาไปส่งที่บ้านคุณยาย”
ลั่วเซ่าเชินอุ้มลั่วอิงและก้าวเดินขึ้นบันไดไป ถึงกระนั้นเขาก็ยังหันมาตะโกนเรียกถังโจวโจวที่ยืนอยู่ด้านหลัง “ช้าจังเลยคุณ! รีบขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวลั่วอิงก็หัวเราะเยาะเอาหรอก” แต่เมื่อหันหน้ากลับมา สีหน้าของลั่วเซ่าเชินนั้นก็ซีดจาง ตอนนี้เขากับถังโจวโจวไม่ได้คืบหน้าไปไหนเลย ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อย