ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ - ตอนที่ 170 แฟนใหม่ของหลินเหยา
ในตอนบ่าย จู่ๆ ลั่วเซ่าเชินก็โทรศัพท์มาหาถังโจวโจว เขาบอกให้เธอไปร่วมงานเลี้ยงเป็นเพื่อนเขาในตอนเย็น ถังโจวโจวรับปาก หลังจากนั้นลั่วเซ่าเชินก็ส่งหวังหวามารับถังโจวโจว และเมื่อเธอเสริมสวยและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็มาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยงในเวลาประมาณหกนาฬิกาห้าสิบนาที
ถังโจวโจวสวมชุดราตรีสีขาวและสวมรัดเกล้าอันเล็กๆ ไว้บนศีรษะ เธอดูดีมีสง่าราศี ในขณะ เดียวกันลั่วเซ่าเชินก็อยู่ในชุดสูทสีดำขลับ และเมื่อเขาเดินคู่กับถังโจวโจวแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาแต่งตัวมาให้เข้ากัน ดูเหมาะสมกันเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากได้เป็นคู่ควงออกงานกันมาหลายต่อหลายครั้ง แม้ว่าถังโจวโจวจะรู้สึกเบื่อหน่ายกับบรรยากาศของงานเลี้ยง แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกประหม่าเหมือนกับครั้งแรก เธอรู้แล้วว่าเธอแค่ต้องหาที่หลบซ่อนและกินของโปรดของตัวเอง แล้วเวลาในงานเลี้ยงก็จะผ่านไปอย่างง่ายดาย
บนท่อนแขนของลั่วเซ่าเชินมีแขนของถังโจวโจวควงอยู่ พวกเขาเดินเข้าไปทักทายกับเจ้าของงานเลี้ยงก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นถังโจวโจวก็กระซิบอะไรบางอย่างกับลั่วเซ่าเชิน ก่อนจะปลีกตัวเดินไปที่ซุ้มอาหาร
“โจวโจว มาแล้วเหรอ!” เมื่อได้ยินใครบางคนเรียกเธอจากด้านหลัง ถังโจวโจวก็หันหลังกลับไปมอง แล้วเธอก็พบว่าเป็นหลินเหยา เธอจึงทักทายอย่างมีความสุขว่า “เหยาเหยา เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“วันนี้ฉันมาเป็นคู่ควงของฟังหยวนน่ะ มาออกงานเป็นเพื่อนเขา งานเลี้ยงนี่น่าเบื่อชะมัด!” หลินเหยาจับมือของถังโจวโจวด้วยความดีใจ วันนี้เธอสวมชุดเดรสสีดำคอวี ชายกระโปรงยาวลากพื้นมางาน ลำคอประดับด้วยสร้อยคริสตัล นอกนั้นบนร่างกายของเธอก็ไม่มีเครื่องประดับใดๆ อีก
“เหยาเหยา ทำไมเธอถึงมากับฟังหยวนได้” ถังโจวโจวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เมื่อได้เห็นแววตาวูบไหวของหลินเหยา ถังโจวโจวก็รู้สึกแปลกๆ และเริ่มให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น พอดีกันกับที่เธอยังไม่มีที่ให้ฆ่าเวลา เหยาเหยาก็เข้ามาหาเธอพอดี
ถังโจวโจวลากเธอไปที่มุมหนึ่ง ในมือของพวกเธอสองคนมีจานอยู่คนละใบ ซึ่งในจานต่างก็มีอาหารที่พวกเธอชอบกิน “บอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ เธอไปสนิทกับเขาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร นี่ความรักของเธอเบ่งบานในตอนนี้ที่ฉันไม่รู้เหรอ เหยาเหยา?”
เมื่อหลินเหยาเห็นว่าถังโจวโจวยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่ เธอก็ตบไหล่เรียกสติเพื่อนเบาๆ “โจวโจว พูดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ? มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดสักหน่อย! เราเป็นแค่เพื่อนกัน เธอแค่เชื่อฉันก็พอ”
จากนั้นหลินเหยาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในผับให้ถังโจวโจวฟัง ถังโจวโจวพูดอย่างไม่พอใจว่า “เหยาเหยา บทเรียนที่เราเจอด้วยกันเมื่อคราวก่อนนั้นยังไม่พออีกเหรอ นี่เธอไปร้านเหล้ามาอีกแล้ว?”
ถังโจวโจวรู้สึกเศร้าไปชั่วขณะ หลินเหยายอมไปดื่มเหล้าที่ผับเพียงคนเดียว แทนที่จะมาระบายกับเธอ เธอนี่ไม่สมกับคำว่าเพื่อนสนิทเลยจริงๆ
เมื่อหลินเหยาเห็นว่าสีหน้าของถังโจวโจวสลดลง เธอก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่สบายใจ เธอจึงพูดปลอบใจว่า “ฉันเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันนี่นา! อุตส่าห์เลือกไปผับดีๆ แล้วแท้ๆ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น โจวโจว แต่เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ ต่อให้ฟังหยวนจะไม่ได้เข้ามาช่วย ฉันก็จัดการผู้ชายคนนั้นได้อยู่แล้ว” หลินเหยาตบอกและพูดอย่างมั่นใจ
ถังโจวโจวยังคงรู้สึกไม่สบายใจ เธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “เหยาเหยา นี่เธอยอมไปดื่มคนเดียว แทนที่จะชวนฉันไปเป็นเพื่อน…”
“ถังโจวโจว ถ้าเธอยังเป็นแบบนี้อยู่อีก ฉันจะไม่สนใจเธอแล้วนะ!” หลินเหยาอุตส่าห์พูดกับเธอดีๆ แต่เธอดันมาน้อยอกน้อยใจอย่างนี้ หลินเหยาอยากจะตีสมองหมูของถังโจวโจวเพื่อเตือนสติเสียเหลือเกิน เธอมองถังโจวโจวในแง่นั้นเสียเมื่อไร ไร้สาระจริงๆ!
เมื่อถังโจวโจวเห็นว่าตัวเองทำให้หลินเหยาโกรธ เธอก็รีบตัดบทในทันที “เอาละๆ เหยาเหยา เลิกพูดถึงผู้ชายคนนั้นเถอะ รีบบอกฉันมาดีกว่าว่าทำไมเธอถึงมาเป็นคู่ควงของฟังหยวนได้ เหยาเหยา ฉันขอเตือนเธอไว้อย่างนะ เธอเป็นเพื่อนกับฟังหยวนได้ แต่ถ้าจะเป็นคนรัก ต่อไปเธอจะต้องลำบากแน่ๆ!”
“คนรักอะไรล่ะ ถังโจวโจว นี่เธอคิดอะไรอยู่ ฉันกับเขา ดีที่สุดก็เป็นได้แค่… ‘เพื่อนดื่ม’ เท่านั้นแหละ” หลินเหยาหยุดคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหาคำที่เหมาะสมมาอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฟังหยวนในตอนนี้ได้
“เพื่อนดื่ม? เพื่อนดื่มเหล้าน่ะเหรอ” ถังโจวโจวเคลือบแคลงใจ
“ใช่ เพื่อนดื่มเหล้า” หลินเหยาพยักหน้าเพื่อยืนยันคำตอบนั้น
ถังโจวโจวแอบหน้าม่อยคอตก เมื่อเห็นว่าไม่มีประเด็นอะไรน่าสนใจกว่านี้หลุดออกมาจากปากของหลินเหยาเลย ไม่เห็นสนุกเลยสักนิด อีกใจหนึ่งเธอก็อยากให้หลินเหยาได้พบกับฤดูใบไม้ผลิของตัวเองเสียที เธอจะได้พบเจออะไรใหม่ๆ จากความรักในครั้งนี้ ไม่ต้องยึดติดอยู่กับผู้ชายสารเลวอย่างหลิวเหยียนอีก
แม้ว่าถังโจวโจวจะรู้สึกว่าฟังหยวนไม่ค่อยเหมาะสมกับหลินเหยา คนที่มีลูกเล่นแพรวพราวแบบฟังหยวน เธอกลัวว่าหลินเหยาจะคุมเขาไม่อยู่ และกลัวว่าเขาจะทำให้หลินเหยาเสียใจเปล่าๆ ด้วย
แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้ว อย่างน้อยฟังหยวนก็ยังดีกว่าหลิวเหยียน และด้วยคุณสมบัติของฟังหยวนก็สามารถทำให้หลิวเหยียนอึ้งจนพูดไม่ออกได้ ให้หลิวเหยียนได้รู้ว่าหลินเหยาสามารถหาผู้ชายที่ดี เพียบพร้อม และรักเธอมากๆ ได้ ปรากฏว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยสักนิด ทำเอาถังโจวโจวเดามั่วซั่วไปหมด
เมื่อเห็นว่าถังโจวโจวดูเหมือนจะเสียดายแทนเธอ หลินเหยาก็เคาะศีรษะเธอเบาๆ “เธออย่าเพิ่งคิดไปถึงไหนเลย แม้ว่าฉันอยากจะแสดงให้หลิวเหยียนเห็นว่าฉันเข้มแข็ง แต่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเสียสละความสุขของฉันหรอกนะ”
“เหยาเหยา แค่จะคบหากับฟังหยวน เธอถึงกับต้องเสียสละความสุขเลยเหรอ” มันก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นไหม? ถังโจวโจวพร่ำบ่นในใจ ถ้าฟังหยวนรู้ว่าหลินเหยาคิดกับเขาแบบนี้ เขาจะโกรธจนอาเจียนเป็นเลือดไหมนะ?
ในขณะที่หัวสมองของถังโจวโจวกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย อยู่ๆ เธอก็ตื่นเต้นจนขนลุกชัน แล้วเธอก็เร่งถามออกมาว่า “เหยาเหยา เธอรู้หรือเปล่าว่าฟังหยวนอยู่ที่ไหน เราไปหาเขากันเถอะ!”
“ไปหาเขาทำไม” หลินเหยาหรี่ตามองถังโจวโจว เธอกำลังเพลิดเพลินอยู่กับของอร่อย เธอกินเค้กแบล็กฟอเรสต์หมดไปชิ้นหนึ่งแล้ว
สายตาของถังโจวโจวตวัดไปทางด้านหลังของหลินเหยา “เหยาเหยา ไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นเข้ามาในงานแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะพาผู้หญิงคนนั้นมาด้วย เราไปหาฟังหยวนกันเถอะ ให้เขาสยบไอ้ผู้ชายสารเลวนั่น”
เมื่อหลินเหยาหันกลับไปมอง เธอก็พบว่าหลิวเหยียนยืนอยู่ไม่ไกลจริงๆ ด้วย สวีเฉินซีคนสวยก็ยืนอยู่ข้างๆ เขา ท่าทางของพวกเขาดูหวานชื่นกันมาก
แต่ถ้าเป็นคนช่างสังเกตสักหน่อยก็จะดูออกว่าหลิวเหยียนมักจะขมวดคิ้วให้กับอากัปกิริยาของสวีเฉินซีเป็นครั้งคราว ซึ่งทำให้รู้ว่าเขาดูไม่ค่อยมีความสุข ส่วนหลินเหยาก็เดาว่า แม้ว่าสวีเฉินซีจะรู้อย่างนั้น แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ
เมื่อหลิวเหยียนเห็นหลินเหยา และสวีเฉินซีเองก็เห็นหลินเหยาเหมือนกัน เธอก็ส่งยิ้มให้หลินเหยาด้วย ซึ่งหลินเหยาก็ร่วมผสมโรงด้วย เธอส่งยิ้มกลับไปให้เหมือนกัน แต่เมื่อหันหน้าไปทางอื่น รอยยิ้มนั้นก็จางหายไปทันที
หลิวเหยียนเห็นว่าหลินเหยายืนคุยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง มองทางด้านหลังนั้นแล้วค่อนข้างคุ้นตา และเมื่อเขาคิดไปคิดมา เขาก็นึกออกว่าเธอคือถังโจวโจว เพื่อนสนิทของหลินเหยาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
สวีเฉินซีเห็นว่าตั้งแต่หลิวเหยียนเห็นหลินเหยา เขาก็เอาแต่มองไปที่เธอ สวีเฉินซีจึงอารมณ์เสียเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม อยู่ในที่สาธารณะแบบนี้หลิวเหยียนควรเกรงใจเธอบ้าง เธอจึงเป็นฝ่ายแนะนำว่า “อาเหยียน เราไปหาเพื่อนเก่าที่อยู่ทางนั้นกันดีไหมคะ”
หลิวเหยียนนึกไม่ถึงเลยว่าสวีเฉินซีจะเป็นคนเอ่ยชวนเอง เขาหุบยิ้มไม่ลงไปชั่วขณะ “ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ เฉินซี!”
สวีเฉินซีก้มหน้าต่ำและลอบยิ้มเล็กน้อย ส่วนหลิวเหยียนก็ไม่ทันได้รู้สึกถึงไอเย็นจากรอยยิ้มร้ายกาจที่มุมปากของเธอ สวีเฉินซีรู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอคนนี้ชักจะหน้าด้านเกินไปแล้ว แต่เธอก็เลือกเขาเอง ซ้ำยังหมั้นกับเขาแล้วด้วย ดังนั้น เธอจึงได้แต่เดินหน้าต่อไป ไม่ยอมละทิ้งเขาไว้กลางทาง
ถังโจวโจวกระซิบที่ข้างหูของหลินเหยา “เหยาเหยา สองคนนั้นกำลังเดินมาหาเราแล้ว” หลินเหยาได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากทางด้านหลัง เธอนึกไม่ถึงเลยว่าหลิวเหยียนจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้าสวีเฉินซี หลินเหยาล่ะนับถือเขาจริงๆ
ตัวยังไม่ทันถึง แต่เสียงก็มาก่อนแล้ว “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ เหยาเหยา!”
หลินเหยาหันกลับมาพลางขยับตัวไปยืนอยู่ข้างถังโจวโจว แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ถังโจวโจวที่ยืนกลั้นลมหายใจอยู่นาน เธออยากจะตอกหน้าพวกเขาแทนหลินเหยามานานแล้ว ดังนั้น เธอจึงเป็นฝ่ายเริ่มให้เสียเลย
“อ้าว! บังเอิญจังเลยนะคะ คุณหลิว คุณสวี อ้อ! ฉันยังไม่ได้แสดงความยินดีกับงานหมั้นของพวกคุณเลย ยินดีด้วยนะคะ!”
ใบหน้ายิ้มแย้มของหลิวเหยียนเหยียดตึงขึ้นมาฉับพลัน และเมื่อเขาเห็นว่าหลินเหยาเองก็ดูสนุกสนาน เขาก็รู้สึกโมโหไปชั่วขณะ ต่างจากสวีเฉินซีโดยสิ้นเชิง เธอกลับรู้สึกประทับใจกับคำพูดของถังโจวโจว เธอจึงยิ้มและตอบกลับไปว่า “ขอบคุณสำหรับคำอวยพรค่ะ คุณผู้หญิงลั่ว”
เมื่อเห็นสีหน้าของหลิวเหยียนเปลี่ยนไป ถังโจวโจวก็พอใจเป็นอย่างมาก แล้วยิ่งได้เห็นว่าฟังหยวนมองมาทางพวกเธอพอดี ซ้ำยังเดินมาทางนี้อีก ถังโจวโจวก็ยิ่งมีความสุข อีกเดี๋ยวคงจะมีละครสนุกๆ ให้ดูแล้ว
“ช่วงนี้คุณหลินสบายดีใช่ไหมคะ เมื่อครู่นี้อาเหยียนบอกว่าอยากจะมาทักทายเพื่อนเก่า พอดีกับที่ฉันเองก็ไม่ได้เจอคุณหลินมานานแล้ว ฉันก็เลยตามเขามาด้วย คุณหลินคงจะไม่ถือสาอะไรใช่ไหมคะ” แม้ว่าคำพูดของสวีเฉินซีจะฟังดูสุภาพ แต่สีหน้าของเธอกลับไม่มีร่องรอยของความเป็นมิตรเลยสักนิด
หลิวเหยียนเห็นว่าหลินเหยาเงียบเฉยอยู่นาน และตอนนี้คู่หมั้นของเขาก็คือสวีเฉินซี แม้ว่าเขาไม่อยากจะสนใจความรู้สึกของสวีเฉินซี แต่ตอนนี้เขาอยากให้บทเรียนแก่หลินเหยา ดูสิว่าเธอยังจะหลบเขาได้อีกไหม!
“ตรงนี้คนเยอะจังเลย ดูคึกคักกันดีนะครับ!” เสียงของฟังหยวนโพล่งขึ้นมา ถังโจวโจวหันไปจ้องหน้าเขาทันที จนฟังหยวนสะดุ้งตกใจ นี่เขามาไม่ถูกเวลาอย่างนั้นหรือ?
ถังโจวโจวพูดกับหลิวเหยียนด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหลิว คุณสวี ฉันขออนุญาตแนะนำให้พวกคุณได้รู้จักกับแฟนใหม่ของหลินเหยานะคะ เขาคือฟังหยวนค่ะ!”
ถังโจวโจวรู้สึกสะใจเมื่อได้เห็นสีหน้าที่ดูไม่ได้ของหลิวเหยียน มีแต่นายเหรอที่สามารถทำร้ายเหยาเหยาได้ ตัวเองเป็นคนนอกลู่นอกทางเอง ยังจะไม่ยอมให้เหยาเหยามีแฟนใหม่อีก!
แม้ว่าฟังหยวนจะไม่เข้าใจว่าถังโจวโจวจับคู่เขากับหลินเหยาทำไม แต่เขาก็ไม่ได้หักหน้าเธอ เขาโอบเอวของหลินเหยาทันที และแสดงสีหน้าที่สงบนิ่ง เป็นธรรมชาติ “เหยาเหยา พวกเขาเป็นเพื่อนของคุณเหรอ ไม่เห็นแนะนำให้ผมรู้จักเลย”
ฟังหยวนจงใจพูดที่ข้างหูของหลินเหยา ใบหน้าของหลินเหยาพาดด้วยสีแดงระเรื่อเพราะลมหายใจของฟังหยวนที่เข้ามาใกล้อย่างกะทันหัน หลิวเหยียนยิ่งโกรธจนตาแดงก่ำไปหมดเมื่อได้เห็นท่าทีเขินอายแบบนั้นของหลินเหยา “คุณครับ คุณเป็นอะไรกับเหยาเหยา อาหารน่ะยังพอทานแบบสุ่มสี่สุ่มห้าได้ แต่คุณจะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ไม่ได้!”
หลิวเหยียนไม่เชื่อว่าหลินเหยาจะมีใครใหม่ได้จริงๆ สิ่งที่หลิวเหยียนภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตก็คือการได้รับความรักทั้งหมดจากหลินเหยามาโดยตลอด ในตอนนั้นเขาถูกบีบบังคับให้คบกับสวีเฉินซี และตอนนี้เขาก็รู้สึกเสียใจ หลังจากที่เขาได้รู้ว่าหลินเหยายังคงอยู่ตัวคนเดียว หลิวเหยียนก็พบว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว
แต่จู่ๆ กลับมีผู้ชายโผล่ขึ้นมาแบบนี้ มันหมายความว่าอย่างไร? ครั้งก่อนที่หลิวเหยียนไปหาหลินเหยา ก็ไม่เห็นเธอพูดถึงเรื่องนี้เลย เธอจะมีแฟนได้อย่างไรล่ะ หลิวเหยียนจึงเชื่อว่าหลินเหยาแค่หาคนมาตบตาเขาเท่านั้น
“แล้วคุณเป็นใครครับ ทำไมผมถึงต้องบอกคุณด้วยว่าผมเป็นอะไรกับเหยาเหยา” ฟังหยวนรีบเล่นไปตามน้ำและแสดงท่าทางว่าเขากับหลินเหยานั้นใกล้ชิดสนิทสนมกันเกินเพื่อนเป็นอย่างมาก ถังโจวโจวเห็นว่าฟังหยวนแสดงละครได้ดีสมใจเธอ หากเธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน เธอก็คงจะเชื่อไปแล้วว่าพวกเขาเป็นคู่รักกันจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะฟังหยวนแสดงได้อย่างสมบทบาท ดังนั้นจึงสามารถทำให้หลิวเหยียนและสวีเฉินซีเชื่อได้ ถังโจวโจวรู้สึกว่าความคิดของตัวเองนั้นไม่เลวเลย และเมื่อเห็นว่าหลิวเหยียนโกรธจนหน้าแดง ถังโจวโจวก็รู้สึกดีขึ้นมาก